กลางเดือนตุลาคม พ่อซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่ให้ฉันกับน้องคนละเครื่อง
อย่างเคย...ของใช้ของเราถ้าไม่เหมือนกันก็คล้ายๆกัน ของพี่สีเขียวอ่อนๆ
...ของมุกสีเงินๆขาวๆ
สามสัปดาห์ :
เจ้าของโทรศัพท์สีเงินขาวป่วยลงกะทันหัน หลังจากโทรหาฉันครั้งสุดท้าย
เพียงครึ่งชั่วโมง หลังจากทานข้าวมื้อสุดท้ายไปสี่ห้าคำ หลังจากอ่านหนังสือ
เล่มสุดท้ายได้ครึ่งเล่ม หลังจากถ่ายรูปเล่นเพียงห้านาที...
เธอเจ็บหนัก เธอเกร็งไปทั้งตัว ตาเธอลอย เธอไม่รับรู้ว่าฉันกอดเธออยู่
เธอไม่รับรู้ที่ฉันเรียก
"มุก มุกอยู่กับพี่นะ"
ใครจะรู้ว่าฉันหมายความมากไปกว่าการปลอบประโลมคนเจ็บให้เธอรู้
ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ฉันหมายความว่า
"มุก อย่าทิ้งพี่ไปนะ อยู่ด้วยกันก่อน มุกต้องอยู่กับพี่..."
คืนวันนั้นฉันร้องไห้ ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น...หลังจากคืนนั้น ฉันร้องไห้
อีกครั้ง แล้วไม่มีน้ำตาอีก...
สี่สัปดาห์ :
โทรศัพท์อายุหนึ่งเดือนของฉันถูกรถพ่อเหยียบ ฉันทำมันตกตอนลงจากรถ
มันโดนรถเหยียบ ข้างในมันแตก ...มองข้างนอกไม่รู้ แต่ว่าข้างในมันใช้
ไม่ได้แล้ว
โทรศัพท์ใหม่ที่คู่กันของเรา จากไปหนึ่งเครื่อง ...มันเหมือนเป็นลางร้าย
ในวันที่เราได้รับข่าวดี
สี่สัปดาห์ครึ่ง :
วันพุธต่อมา ฝนตกจากฟ้าเหมือนเทวดาร้องไห้ มันพร่างพรูลงมา
ราวกับฟ้ารั่ว
"มันเหมือนกับเราแพ้"
สิ้นเสียงหมอ ฉันกำมือตัวเองแน่น
...แพ้...
ห้าสัปดาห์ครึ่ง :
วันพุธปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาว วันที่ฟ้าร้องไห้อีกครั้ง เธอก็จากเราไป
หกสัปดาห์ :
ที่งานลอยกระทง ฉันซื้อกำไลเรืองแสงสีส้มมาหนึ่งอัน สีส้มเป็นสีที่เธอชอบ
หลังคืนวันลอยกระทง ฉันยังคงคล้องมันไว้ที่กระเป๋าสะพาย เพื่อนในกลุ่ม
สังเกตเห็น ก็เลยยื่นกำไลเรืองแสงแบบเดียวกันให้
"คล้องคู่กันสิ อันนี้สีเขียว"
สีเขียวหมายถึงฉัน สีส้มหมายถึงน้อง ...กำไลอันละสิบบาท ปฏิกิริยาเคมี
ภายในท่อกำไลหมดไปแล้ว มันไม่เรืองแสงอีกต่อไป แต่ยังคงมีสีสันสดใส
ฉันเลือกที่จะคล้องมันไว้อย่างภูมิใจ อย่างหวงแหน...
แปดสัปดาห์ :
พ่อซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ให้ฉัน เครื่องเก่าของน้องนั้นแม่เอาไปใช้...
พ่อจัดการไปยกเลิกเบอร์โทรศัพท์น้อง เบอร์โทรแสนสวยที่ลงตัวถูกใจน้อง
เพราะลงท้ายด้วยเลขห้องตอนมอสี่
"ทำไมถึงจะยกเิลิกเบอร์ซะล่ะคะ"
พนักงานถามเมื่อพ่อไม่เขียนเหตุผลลงไปด้วย
"ซื้อให้ลูกสาวใช้ แล้วตอนนี้เค้าเสียชีวิตแล้วน่ะครับ"
"เสียใจด้วยนะคะ"
หลังจากอึ้งไปครู่ พนักงานก็เอ่ยประโยคนี้ออกมา และในที่สุด หมายเลข
ของออร์เรนจ์หมายเลขเดียวในบ้านเราก็จากไป
วันหนึ่ง ฉันกลับมาบ้าน วางกระเป๋าบนโต๊ะ หยิบกล่องดินสอออกมาค้น จะเอา
ปากกาเคมีสีส้มอันโปรด เอามาขีดเส้นใต้เน้นคำเวลาอ่านหนังสือ
...มันหายไป สีอื่นอยู่ครบ แต่สีส้มหายไป
ฉันหันไปหากล่องดินสอของน้อง อย่างที่บอก...เราใช้ของเหมือนกัน ฉันเลย
ลองค้นดู
สีอื่นยังอยู่ แต่สีส้มหายไป...
ฉันเลิกค้นหา ฉันวางกล่องดินสอลงบนโต๊ะ หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน มองผ่าน
กระเป๋าตรงที่คล้องกำไลเขียวส้มคู่กันไว้
สีส้มหายไป...
ฉันเคว้ง แต่ยังได้ยินเสียงพี่แว่วๆมาจากที่ไหนซักแห่งในบ้าน
"พลอยบอกพ่อรึยัง ฝักบัวชำระในห้องน้ำข้างบนมันเสียอะ"
แล้วเสียงในความคิดของฉันก็แว่วๆมาจากที่ไหนอีกซักแห่ง ...จำได้ล่ะ มันเป็น
เสียงภูมิอกภูมิใจ มันดังอยู่ในโทรศัพท์ ตอนนั้นฉันอยู่บุรีรัมย์ คนพูดอยู่กรุงเทพ
"พี่พลอย เนี่ย วันนี้หนูเปลี่ยนฝักบัวชำระในห้องน้ำข้างบนด้วย เปลี่ยนเองน้าา
ไปซื้อมากจากโฮมเวิร์คที่เซ็นทรัล แล้วก็ใช้เทปพันสายไฟสีดำๆในลิ้นชักข้างล่าง
ของพ่อ ...อันเก่ามันเสีย น้าแอ๊วบอกหนู หนูเลยจัดการเปลี่ยนใหม่เรียบร้อยแล้ว
บอกพ่อด้วยนะ"
เสียแล้วเหรอ...
ฝักบัวมันเสียอีกแล้วนะมุก...
เก้าสัปดาห์กับหนึ่งวัน :
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปสำหรับโทรศัพท์เครื่องใหม่ ...วันนี้ฉันกลับมาบ้านหลังจาก
สอบวิชาแรกของฤดูกาลเสร็จ
โทรหาพี่ ให้ออกมาทานข้าวด้วยกันหน้าปากซอย ...ปากก็พูดไป ขาก็ค่อยก้าว
ลงจากรถเมล์
ประตูรถเมล์เปิดวืดออก แต่ด้วยผลจากแรงรถเบรค มันปิดกลับเข้ามาใหม่
ครึ่งหนึ่ง ฉันยืนอยู่ที่นั่น ที่ช่องประตู ...บานประตูกระแทกมือขวา โทรศัพท์
อายุไม่ถึงสองสัปดาห์หล่นลงบนพื้นถนน
ฝาครอบด้านหลังหลุดกระจายออกจากตัวเครื่อง ฉันตะลึงมอง ก้าวลงไปบรรจง
เก็บมันขึ้นมาประกอบกันใหม่ ทุกอย่างยังดีอยู่ ถ้าไม่นับรอยขูดลึกสองรอยสั้นๆ
ทว่าโดดเด่นเห็นชัดเจนที่ข้างๆหน้าจอ
ฉันออกเดิน แต่แล้วกลับหยุดนิ่ง
แล้วน้ำตาก็ไหล
แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 47 16:18:16
จากคุณ :
Balalaika
- [
22 ธ.ค. 47 16:16:53
]