ค่ำนี้..มันยังไม่หายไป..
ความเหนื่อยล้าอ่อนแรง ระทดท้อระทวยถอย..ยังครองใจอย่างเหนียวแน่น
มันเป็นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะนี่?!!
ฝ่าฟันจราจรจนถึงบ้าน ยิ้มทักทายพระอาทิตย์ยามอัสดง ก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปสู่ห้องแคบ ๆ ของตนเอง
เปิดประตูห้องได้ก็เหวี่ยงตัวเองลงบนที่นอนที่ยู่ยี่..อับ..และรกรุงรัง..ถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็สุดจะนับ
นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นนับชั่วโมง
"กลับบ้านเย็นนี้..อยากมีคนซับเหงื่อให้..
ถามว่าเหนื่อยไหม..ฯลฯ.."
เพลงนี้ดังขึ้นมาจากห้องข้าง ๆ..สร้างรอยยิ้มเล็ก ๆ ให้ที่มุมปาก
จริงสินะ..ใครนะช่างเปิดเพลงได้ตรงใจ
กี่ปีมาแล้ว..ที่ไม่เคยมีใครรออยู่ที่บ้าน..
ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีแววตา ไม่มีเสียงอ่อนหวานให้ได้เห็น ให้ได้ยินอีกแล้ว
นับไปนับมา..ไม่แน่ใจว่าจะนับถ้วนหรือไม่ ความง่วงงุนกำลังเข้าครอบงำ ต้องแข็งใจลุกขึ้นเพื่อจะอาบน้ำ
ผ่านสายน้ำที่ฉ่ำเย็นมาได้ หูตาสว่างขึ้นมากมาย
แต่สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ ยังไม่ถูกล้างหายไปไหน
ช่างมัน..ไม่เป็นไร ไม่คิดถึงมันก็สิ้นเรื่อง
นำอาหารออกจากถุงพลาสติก..วางไว้บนชามกลมทรงสูง
แกะหนังสะติ๊กออกจากปากถุงข้าวสวย..จ้วงช้อนตักลงไปในถุงแกงนั้น พยายามไม่ให้หก เพื่อชามนั้นจะได้ใช้ในวันต่อไปไม่ต้องล้าง
เทลงในถุงข้าว ใช้ช้อนคน ๆ แล้วตักเข้าปาก
เหยาะน้ำปลาเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติ..
เคี้ยวช้า ๆ ..ไม่จำเป็นต้องรีบ..เพราะไม่มีใครแย่งกิน..
หันมองโทรทัศน์..ไม่ได้เปิด..มองเครื่องคอมพ์ฯ ตรงหน้า..ตัดสินใจว่าจะเปิดอะไรดูดีขณะกินข้าว
คอมพ์ฯ อยู่ใกล้กว่า..มันจึงถูกเปิดขึ้น..
เข้าไปในเวปบอร์ดที่คุ้นเคย..อ่านเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเคยคุ้น
อ่านไปอ่านมา..อยู่ ๆ ก็สรุปกับตัวเองว่า น่าจะเขียนเรื่องสั้นสักเรื่องหนึ่ง..
ให้หายเบื่อเล่นจะดีกว่า
เรื่องสั้นเรื่องนี้..ต้องเป็นเรื่องรักที่หวานแหวว
พระเอกแสนน่ารัก สุภาพ หล่อ..และเป็นคนดี๊ดี
ส่วนนางเอก..สวยสุดโสภา..เต็มไปด้วยอารมณ์งอนเพื่อให้ง้ออย่างสุดฤทธิ์
เพราะถ้าไม่เขียนเรื่องแบบนี้..ต้องไม่มีคนอ่านแน่ ๆ
ยังไม่ทันลงมือ..โทรศัพท์ก็ดังขึ้น..
ย่นคิ้วอย่างแปลกใจ เบอร์ที่ห้องไม่เคยให้ใครมานานนักหนาแล้ว
วางช้อน..ลุกขึ้นจากโต๊ะทานข้าว..ก้าวเข้าหาตูเย็น..
ดื่มน้ำเย็นเจี๊ยบ..ให้หายเผ็ดกับแกงปลาดุกก้างเยอะ...ฟังเสียงกริ่งโทรฯ ไปพลาง
เพื่อตัดสินใจว่าจะรับดีหรือไม่
แล้วก็รับ..
"ครับ.."
พูดได้แค่คำเดียว..ก็นิ่งงันฟังเสียงตามสาย
สิ่งที่ถ่ายทอดสู่โสตประสาท..ล้วนกระตุ้นความรู้สึกที่ถูกกดไว้จากคืนวานให้ถั่งโถมออกมา..
หูโทรฯ ตกลงสู่พื้น..ขาอ่อนล้าหมดแรง..ค่อยทรุดตามลงไป
กว่าจะรู้ตัวว่ามานั่นหน้าคอมพ์ฯ อีกครั้ง..เวลาก็ผ่านล่วง กับข้าวก็เย็นชืด
จรดปลายนิ้วขยับไล่ไปตามอักษรของแป้นพิมพ์
"ไม่น่าเลย.."
ตั้งใจจะกล่าวถึงพระเอกรูปหล่อคนนั้น
"ถ้าเมื่อวาน..เราพูดดีกับเธอสักหน่อย.."
ตอนนี้ก็ให้พระเอกคิดคำนึงกับตัวเองเสียก่อน
"เธอคงไม่ตัดสินใจทำอย่างนั้น.."
นี่คือวิธีวางโครงเรื่องล่วงหน้า..ตั้งเงื่อนไขให้ผู้อ่านอยากรู้..ซึ่งเป็นกลเม็ดอีกอย่างหนึ่งที่นักเขียนหลายคนเลือกใช้..
"เธอพูดได้อย่างไร..ว่าเธอจะขอกลับมา.."
ขบกรามจนรู้สึกเจ็บ..พยายามใส่อารมณ์กับงานเขียนของตัวเองเต็มที่
"เรื่องราวมันผ่านพ้นไปนานแล้ว..ตอไม้ที่ถูกโค่นจนตายซาก..มีหรือจะงอกรากแตกใบขึ้นมาได้อีก.."
ข้อความนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่คิดไว้ว่าจะหวานแหววแต่ต้น..แต่เสียดายบางคำที่เลือกมาใช้ได้เหมาะเจาะดี จึงขอละไว้ก่อนค่อยลบทีหลัง
"เธอน่าสงสารก็จริง..แต่เราไม่เหลือหัวใจไปสงสารใครอีกแล้ว.."
อือม์..พระเอกคนนี้พูดตรงใจดีจัง..
"เราจึงปฏิเสธไป..เธอก็น่าจะเข้าใจ..แล้วทำไมเธอจึงทำอย่างนี้??"
จอคอมพ์ฯ พร่ามัว..ยกมือขยี้ลูกตา
"ทำไมเธอต้องฆ่าตัวตาย???..."
ศีรษะที่ถูกคอนมาเนิ่นนานฟุบหมอบติดแป้นพิมพ์
ลำตัวสั่นสะท้านจากการแค่นก้อนสะอื้นที่ติดลำคอนั้นให้ออกมา
แล้ว
"เธอตายแล้ว..."
ก็หลุดรอดออกมาจากคลื่นไห้ที่ร่ำครวญนั้นจนได้..
เรื่องรักว๊านหวานจึงไม่เคยถูกเขียนขึ้นมาได้สักทีเลย
โปรดช่วยที
ใครเขียนได้ยกมือขึ้น!!
จากคุณ :
คนคุ้นเคย
- [
22 ธ.ค. 47 20:58:56
A:61.90.13.98 X:
]