เรื่องทั้งหมดที่ข้ากล่าว นำมาจากจดหมายสุดท้ายของเกี่ยมฮุ้นเอง ฮั่นตงพูดเรียบๆ และก่อนที่ข้าพเจ้าจะแจกแจงรายละเอียดต่างๆ ต่อไป ก็ขอให้ท่านยังคงทนฟังนิทานของข้าพเจ้าต่อไปอีกสักหน่อยเถิด
หลังจากที่ จูมาห์ อาอิซ และหลี่เทียนเล้งเข้าสู่จงหยวน พวกมันทั้งสามก็ได้เริ่มลงหลักปักฐาน พวกมันเริ่มจากสภาพว่างเปล่า ก่อตั้งโรงเตี๊ยมแห่งแรกขึ้นมา และพร้อมๆ กับการกำเนิดของโรงเตี๊ยมแห่งนั้น 'จูมาห์' กับ 'อาอิซ' ก็ได้ทำการแพร่ตัวยา 'จื้อวี่เย่า' เข้าสู่ร่างกายของผู้ดื่มกินทั้งหลายตั้งแต่ตอนนั้น
"เหล่าชาวบ้านทั้งหลายที่มาใช้บริการเห็นร้านของมันงดงามเพียบพร้อม เหล่าเสี้ยวเอ้อเล่าก็ล้วนแต่มากไปด้วยมารยาท ก็พากันแห่เข้ามาให้การสนับสนุน ดื่มกินโรงเตี๊ยมนี้กันมิหยุดยั้ง ทรัยพ์สินเงินทองจากผู้คนเหล่านั้นก็ล้วนถ่ายเทเข้าสู่กระเป๋าของทั้งสาม พร้อมๆ กับตัวยา 'จีอวี้เย่า' ที่เหล่าชาวบ้านได้รับเข้าไปในปริมาณที่แตกต่างกัน แล้วแต่ผู้ใดพึงพอใจในสุราดังกล่าวมากน้อยเพียงใด??!!!
ด้วยวิธีการเช่นนี้ พวกมันดำเนินกิจการเพียงแค่ปีเดียว ก็ร่ำรวย ระดับคหบดี เพียงสามปี พวกมันก็ขยายสาขาถึง สามสิบหกแห่ง ทั่วมณฑลเจียงสู ประการสำคัญ พวกมันจงใจใช้ชื่อ ฉิกจับอิด เหมือนกันหมด เพื่อให้ผู้คนจดจำได้โดยง่าย
และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี พรรคฉิกจับอิด ก็ขยายตัวครอบคลุม ทุกมณฑล ทั้งยังเปิด หอคณิกา โรงรับจำนำ สำนักประกันภัย ขึ้นมา อิทธิพลด้านการค้านับว่า ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มิเพียงทำกิจการโดยใช้ จีอวี่เย่า เท่านั้น หากยัง ใช้เล่ห์กล สกปรก ทุกชนิด เพื่อทำลายคู่แข่ง และ บีบชาวบ้านร้านตลาดรายย่อยให้ต้องล้มเลิกกิจการ
"ผู้ใดที่ยังสามารถรอดพ้นมาได้ พวกมันก็กดดัน บีบคั้น จนแทบจะอยู่ไม่ได้ บางรายต้องขายกิจการให้มัน บางรายจำต้องขายเคล็ดลับต่างๆ ให้แก่พวกมัน ที่เลวร้ายที่สุดยังเป็นพวกที่สามารถรอดพ้นจากวิธีการต่างๆ ของพวกมัน ต่างก็มีอันเป็นไปล้มหายตากจากจนสิ้น พวกที่สามารถเล็ดรอดหลบหนีก็มีน้อยยิ่งกว่าน้อย และพวกมันต่างมีอนาคตที่อเนจอนาถ หากมิสิ้นเนื้อประดาตัว ก็ต่างกลายเป็นคนพเนจรไร้หลักแหล่ง ต้องหลบๆ ซ่อนๆ หนีตายไปวันๆ
และเมื่อมันทำเช่นนี้จนมากขึ้นๆ ในที่สุดเรื่องก็แดงออกมาจนได้ มีผู้ที่พูกพวกมันข่มเหงเข้าร้องเรียนกับทางการ ดังนั้นทางการจึงส่งเหล่ามือปราบออกสืบสวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทว่าก็เปล่าประโยชน์ เพราะเมื่อมีปัญหาถูกร้องเรียน มันก็ติดสินบน ขุนนางน้อยใหญ่ ให้ตัดสินผิดเป็นถูก ขาวเป็นดำ นี่คือ บัญชีรายชื่อ ขุนนางที่ถูกติดสินบนทั้งหมด มันเองกลับเก็บหลังฐานเหล่านี้ไว้เองเพื่อใช้ข่มขู่ขุนนางเหล่านั้น"
ฮั่นตงกล่าวพร้อมกับแสดงสมุดบันทึกรายชื่อเหล่าขุนนางที่รับสินบน ซึ่งฉิกจับอิดใช้ต่อรองกับฝ่ายทางการเวลามีเรื่องราว เว้นนิดหนึ่งจึงกล่าวต่อ
"ทว่าหลังจากนั้นหากยังมีคู่แข่ง หลงเหลือ รอดอยู่ได้ มันก็ใช้อิทธิพลมืด ทำลาย ดังเช่น ร้านบะหมี่สี่นึ้ง ที่เซียวสี่นึ้ง เถ้าแก่ร้านนี้ไม่ยินยามขายกิจการ และ สูตรลับการทำบะหมี่ให้กับมัน ไม่ว่าพวกมันจะใช้เล่ห์กลอันใด ก็มิสามารถขจัดไปได้ ในที่สุดมันจึงส่งคนไปเผาร้านบะหมี่แห่งนี้จนสิ้น"
"และในที่สุดมันก็แทบจะควบคุมกิจการ การค้าทั้งหมดไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว ถึงเวลานี้ ทั่วแผ่นดิน น้อยคนนักที่ไม่เคยไปใช้บริการของ ฉิกจับอิด และแน่นอนว่า น้อยคนนักที่จะไม่ตกเป็นทาสของ จีอวี้เย่า ผู้คนเมื่อตกเป็นทาสของมัน ก็จะถูกกิเลสเข้าครอบงำ ทำให้เป็นกลายเป็นคนฟุ้งเฟ้อ รักสบาย รักสนุก ทอดทิ้งการงาน มีบ้างบางผู้คนที่ กลับ สามารถ นำผลจาก จีอวี้เย่า มาเป็นแรงผลักดัน ให้ตัวเองก้าวหน้า และ มีความสามารถเหนือผู้อื่น ซึ่งคนเหล่านี้ มันก็จะรับเข้าพรรคฉิกจับอิด เพื่อ ไว้ใช้สอย จนกว่า มันจะบรรลุแผนการ
ที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือ จีอวี้เย่า ยังมีผลอีกประการคือ ถ้าได้รับในปริมาณมากๆ ก็จะกลายเป็นโรคผีตายซาก หมู่บ้านชนบท ในมณฑลหูหนาน ได้รับ จีอวี้เย่า ในปริมาณมากผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความผิดพลาด หรือ เป็นการทดลองของพรรคมัน แต่ ผลคือคนทั้งหมู่บ้าน ล้มป่วยเป็นโรคผีตายซาก กันทั้งหมู่บ้าน ในที่สุดก็ถูกพวกมันสั่งสังหารทั้งหมู่บ้าน
และ นี่เป็นเหตุผลว่า บรรดาปีศาจสุราทั้งหลาย จึงเริ่มป่วยเป็นโรคผีตายซากกันมากขึ้นเรื่อยๆ มันพยายามปกปิดเรื่องนี้ โดยส่งคนไปจับ คนเหล่านั้น มาทำงานอย่างลับๆ ในคลังอาวุธ ที่มันสร้างขึ้นเพื่อ สะสมอาวุธ คิดการใหญ่บางประการ
หลี่เฉินเชียงฟังถึงตรงนี้ก็แย้มยิ้ม กล่าวตอบเสียงเรียบ "เรื่องที่ท่านกล่าวมามิใช่นิทานหรอกหรือ? เรายังจำเป็นต้องกล่าวอันใดด้วยหรือ? หึ หึ ตลอดเวลาท่านเพียงพูดอยู่ฝ่ายเดียว เดี๋ยวก็ว่าข้าเป็นชาวหู เดี๋ยวก็ว่าพวกเราก่อกรรมทำเข็ญ มิทราบมีหลักฐานอันใด? หากเพียงกล่าววาจาเลื่อนลอยเช่นนี้ อย่าว่าแต่ข้าพเจ้ามิเชื่อ ต่อให้คนของหอห้ากระบี่เองก็ยากยิ่งที่จะเชื่อแล้ว!!!"
ทันทีที่มันกล่าวจบก็เรียกเสียงโห่ร้องฮือฮาจากคนของฉิกจับอิด เวลานี้ผู้คนนับร้อยนับพัน กลับมีมิถึงสิบคนที่เชื่อถือเรื่องราวที่ฮั่นตงกล่าวออกมา!!!!
หลักฐานหรือ? ฮั่นตงปรายตามองพวกคนของฉิกจับอิดทั้งปวง ใครว่าข้าไม่มีหลักฐาน
คำของเขาจริงจัง แม้หลี่เฉินเชียงยังขมวดคิ้วนิ่วหน้าบ้าง หลักฐานของเจ้าคืออะไร? ประมุขฉิกจับอิดพูด
ฮั่นตงหยิบหยกขึ้นมาชิ้นหนึ่ง ถามว่า ท่านจำหยกชิ้นนี้ได้หรือไม่? และโดยไม่รอคำตอบก็กล่าวสืบต่อ หยกชิ้นนี้ข้าเก็บได้ตอนที่เกี่ยมฮุ้นต่อสู้กับเซียนแพทย์เทวะ หลังจากนั้นเมื่อนำไปให้หน่วยสืบสวนตรวจสอบจึงทราบว่าเป็นหยกประจำตัวของแม่ทัพใหญ่ชาวหูซึ่งหายไปตัวไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน
เมื่อสิบปีก่อน พอดีองค์ชายเล็กของราชวงศ์เผ่าหูได้หายสาปสูญไปเช่นกัน เวลานั้นพอดีตรงกับการปรากฏตัวของจูมาห์กับอาอิซ
ท่านคิดว่านี่ไม่แปลกประหลาดหรือ?
หลี่เฉินเชียงแค่นเสียง เฮอะ แปลกประหลาดหรือไม่เจ้าก็ไร้หลักฐานปรักปรำข้า เขาหัวเราะดังๆ เมื่อแรกเจ้าเพียงอาศัยจดหมายของคนตายอย่างเกี่ยมฮุ้นกล่าวหาข้าเป็นชาวหู ตอนนี้ถึงกับพยายามบอกว่าข้าคือเจ้าชายชาวหูที่ปลอมตัวมาอีกสินะ ฮาฮา ไม่คิดว่ามันตลกหรือ เจ้าชายที่ไหนจะยอมลงทุนลงทุนลงแรงมาเปิดโรงเตี้ยมขายของในภาคกลาง หรือเป็นเจ้าชายสบายเกินไป?
ส่วนเรื่องการแก่งแย่งชิงดีนั้นในยุทธจักรนั้น ข้าไม่ปฏิเสธ แต่นับแต่โบราณกาล ผู้ทะเยอทะยานต่างแย่งชิงตำแหน่งเจ้ายุทธภพกันเรื่อยมา คนเหล่านี้ล้วนเคยใช้วิธีสกปรกไม่มากก็น้อย ต่อให้ฉิกจับอิดทำผิดจริง ก็ใช่ทำแต่ฝ่ายเดียวเมื่อไร
เขาหันไปทางเหล่าลูกน้อง สบสายตาคนส่วนใหญ่เพื่อเรียกความเชื่อถือ ดูก่อนท่านทั้งหลาย ในปัจจุบันที่หอห้ากระบี่ปกครองยุทธภพอยู่ ก็ใช่จะทำตนบริสุทธิ์ประเสริฐนัก ยังมีสำนักคุนหลุนที่เจ้าสำนักคือตั๋วล่ายสุกประพฤติการณ์ต่ำช้า หากสามารถเชิดหน้าอยู่ได้เพราะพึ่งบารมีอิทธิพลของหอห้ากระบี่ การกระทำของมันมีที่ใดดีกว่าฉิกจับอิดอันเปิดเผย!
คนเรามันก็เลวและโลภเหมือนๆ กันนั่นแหละ และเมื่อทุกคนต่างต้องการอำนาจ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจึงควรเป็นคนได้มันมา! สำคัญว่าต้องเป็นใคร! ท่านฮั่น
ท่านอย่าพักเจรจาให้ผู้อื่นไขว้เขวเลย หลี่เฉินเชียงสรุปอย่างรวบรัด หักล้างคำพูดของฮั่นตงทุกประโยค
หากฮั่นตงไม่มีปฏิกิริยา
นั่นเพราะเขายังมิได้ใช้ไพ่ตาย
การที่เจ้าชายมาเปิดโรงเตี้ยมในภาคกลาง ดูผิวเผินอาจเป็นการกระทำโง่เขลา แต่นั่นก็เป็นราคาที่คุ้มค่า ถ้าเป็นเพื่อการใหญ่ ถึงขนาดสูญสิ้นบ้านเมืองแล้วล่ะก็ มินับว่าเกินเลยดอก!! ฮั่นตงกล่าวเรียบๆ ท่านคงเคยได้ยินข่าวทัพหูยกมาประชิดชายแดนสินะ มันจะมิบังเอิญเกินไปหรือ? เหตุการณ์เหล่านี้กลับประจวบเหมาะเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับการต่อสู้ระหว่างฉิกจับอิดกับหอห้ากระบี่ในดินแดนภาคกลาง!!!
พอยอดมือปราบพูดถึงตรงนี้ คนของฉิกจับอิดซึ่งรายล้อมอยู่โดยรอบก็เริ่มหวั่นไหว
มีบ้างบางคนคิดลังเล
ถ้าฮั่นตงสามารถยืนยันคำกล่าวได้เล่า? เท่ากับว่าฉิกจับอิดมิเพียงเป็นมารร้ายของยุทธภพ ยังเป็นคนขายชาติอีกด้วยหรือ!!!?
หากไม่นับสามมารตลบเมฆ เหล่าพลพรรคของฉิกจับอิดต่างก็เป็นชนชาวฮั่น พวกมันตระหนักดีว่าที่ผ่านมาต่อให้เคยฆ่าคน วางเพลิง ก็ยังพอมีสถานที่ให้ยืนหยัดอยู่ ยังมีหนทางให้ถอยกลับแก้ตัวบ้าง หากเมื่อขึ้นชื่อเป็นคนขายชาติแล้ว อย่าว่าแต่แผ่นดินจะยืนหยัดอยู่เลย กระทั่งชื่อก็ต้องถูกสาปแช่งไปชั่วลูกหลาน
หลี่เฉินเชียงทราบความคิดของบริวาร แต่ เขาย่อมทราบด้วยว่าทุกคนกำลังจับจ้องมาทางเขาอยู่จึงไม่ยอมแสดงอาการวิตก กลับหัวเราะโต้กลับดังๆ ฮั่นตงเอย! เพียงคำพูดประดิษฐ์ของเจ้ายังมิอาจยืนยันอันใดดอก เพราะในที่สุดเจ้าก็ยังคงไม่มีหลักฐานอยู่ดี!!!
"หากพูดถึงหลักฐาน แม้นข้าพเจ้ามิมีหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนลงไปว่าท่านเป็นผู้ก่อการทั้งหลาย แต่หลักฐานที่พออ้างอิงอยู่นั้นก็พอหาได้บ้างชิ้นสองชิ้น" ฮั่นตงยิ้มน้อยๆ
แต่ไม่ได้อยู่ที่ข้า
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 47 01:49:34
แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 47 01:09:26
จากคุณ :
ทีมแต่งนิยาย
- [
25 ธ.ค. 47 01:00:59
]