CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    และแล้ววันหนึ่ง...ความรักก็เดินทางมาถึง (ตอนที่4 -5)

    ตอนที่สี่ แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

    หลักจากพาชายหนุ่มต่างชาติไปส่งที่ห้องพักเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รีบไปคว้าโทรศัพท์กะจะโทรรายงานตัวกับต้นเองที่ทำให้เธอต้องเดินทางกลับอย่างเร่งด่วน

    “สวัสดีคะ ขอสายไลล่าคะ” ทิชารีบพูดทันทีที่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายรับโทรศัพท์โดยไม่ได้ทันฟังว่าใครเป็นคนรับสาย

    “ไลล่า…. ” คนรับสายปลายทางหยุดไปขณะหนึ่ง

    “คุณหมายถึง ลลนา ใช่ไหม”

    “ใช่…ค่ะ นา อยู่ไหมคะ”

    “นาออกไปซื้อของกับพี่ดา กว่าจะกลับคงค่ำ คุณลองโทรมาใหม่ตอนค่ำแล้วกัน แค่นี้นะครับ สวัสดี”

    พอได้ยินอีกฝ่ายพูดจบประโยค ไอ้การพูดจาน้ำเสียงไม่ลื่นหูอย่างนี้มันเหมือนเคยได้ยินเลยแฮะ แล้วเธอก็จำได้ว่าเป็นเสียงเดียวกับที่บันดาลอารมณ์โมโหครั้งก่อนที่เคยโทรมา และยังพาลไปถึงว่าใครเอาอีตานี้ไปทำงานเป็นเลขา สงสัยเจ้านายคงได้กินยาตายวันละสามรอบได้มั้ง ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเอาเสียเลย นึกแล้วก็อยากจะเอากระบอกโทรศัพท์ฟาดปากคนพูดสักทีหนึ่ง (อารมณ์มันขึ้นนะ จริงๆเราเป็นคนดีนะ กริยาก้าวร้าวไม่เคยเกิด ทำไมตอนนี้มันโผล่ได้ฟะ)

    “นี่คุณ! ไม่คิดจะให้ฉันฝากข้อความถึงไลล่าเลยรึไง พอบอกไม่อยู่ก็จะวางหูใส่เลย เวลาคนอื่นเขาก็สำคัญเหมือนกันนะ ไม่ใช่ของคุณคนเดียว”

    ฝ่ายโน้นชะงักไปแป็บหนึ่ง ด้วยไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะพูดจาโผงผางแบบนี้

    “ถ้าคุณจะฝากอะไรก็รีบพูดมา หรือคุณอยากจะฝากไอ้ประโยคยาวๆไร้สาระเมื่อกี้ถึงลลนา ผมจะได้บอกให้ มีอะไรอีกไหม”

    “มี” หญิงสาวลงเสียงหนัก

    “ช่วยบอกด้วยว่า ทิชาเพื่อนรักมัน มาถึงแล้ว ให้โทรกลับมาหาที่บ้านด้วย เพราะฉันไม่อยากจะกัดกับใครอีกถ้าโทรมาอีกครั้งหน้า แค่นี้แหละ”

    ว่าแล้วหญิงสาวก็กระแทกหูโทรศัพท์ดังโครม ราวจะให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าโมโหนะ



    “ว่างั้นแกมาถึงเหนื่อยไหม ฉันละคิดถึงแกจังเลย” ลลนาโทรหารทิชาทันทีที่ได้รับโน้ตจากคนที่บ้าน

    “แหมแกปากหวานเชียวน่า คิดถึงจริงหรือ ฉันว่าตอนนี้คนที่แกคิดถึงคงมีแต่คุณรุตคนเดียวละมั้ง เพื่อนอย่างฉันมันตกกระป๋องไปแล้ว “

    “เฮ้ย! ใครบอกแกวะให้คิดอย่างนั้น ฉันคิดถึงแกจริงๆนะโว้ย”

    “แหมล้อเล่นนะ ทำเสียงตกอกตกใจหมด” เพราะทิชารู้อยู่เสมอว่าความเป็นเพื่อนระหว่างเธอกับไลล่ายังไงก็ไม่มีวันจางหายไป ถึงแม้อีกฝ่ายจะกำลังแต่งงานไป เกือบเจ็ดปีที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันมาสายใยความเป็นเพื่อนมันเหนียวแน่นยิ่งกว่าใยแมงมุมที่บ้านอีก ทิชายังจำได้ดีวันแรกที่เธอต้องไปโรงเรียน เธอมองรอบตัวมีแต่นักเรียนผมทอง พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นรู้เรื่องเลย และก่อนที่เธอจะเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดไอ้น้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา เธอก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งมาจากข้างหลัง พร้อมทั้งเซย์ฮัลโหลและแนะนำตัวเอง พอเธอหันไป เหมือนพระเจ้าคงเห็นใจเด็กน้อยที่ต้องเดินทางมาไกลคนนี้ เพราะตรงหน้าเป็นเด็กหญิงคนหนึ่งผมดำถักเปียสองข้าง พอเห็นเท่านั้นแหละ ไม่พูดพร่ำทำเพลงทิชาก็พูดภาษาไทยออกมาเป็นชุด โดยยังที่ไม่รู้ว่าเด็กหญิงตรงหน้ามาจากชาติไหน ลลนามองเด็กสาวตรงหน้าและปล่อยก๊าก ลั่น จนในที่สุดทิชาจึงหยุดพูดและมองหน้าเด็กผมเปียหัวดำคนนั้นอีกครั้ง พร้อมทั้งยังตั้งคำถามเป็นภาษาไทยอีกว่า

    “เธอขำอะไร หรือเธอไม่ใช่คนไทย เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม”

    “ฉันเป็นคนไทย แต่ที่ขำนะขำเธอนะสิ อยู่บ้านไม่ได้พูดไทยงั้นสิ ถึงพูดเป็นชุดเลย”

    และตั้งแต่นั้น ทั้งโรงเรียนก็จะเห็นเด็กสองคนชาวเอเซีย คนหนึ่งถักเปียสองข้างส่วนอีกคนไว้ผมหน้าม้าติดกิ๊บหน้าเด๋อเดินคู่กันไปไหนมาไหนทั่วโรงเรียน จนเรียนจบชั้นมัธยม ไลล่าเลือกที่จะเรียนการเงินต่อ เธอบอกว่าเรียนที่มันใกล้ตัวไว้แหละดี เรื่องเงินๆทองๆ คนเรามันต้องแตะต้องใช้ทุกวัน รู้ทันมันไว้ไม่เสียหาย และปัจจุบันหญิงสาวก็ได้งานในบริษัทสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในสำนักงานใหญ่ ส่วนทิชาเองนะหรอ เกลียดตัวเลขอย่างกับอะไร สอบแต่ละครั้งผ่านได้ก็บุญแล้ว เธอจึงเลือกเรียกภาษาแทน เพราะเธอถือคติว่ารู้ไว้หลายภาษาก็ไม่ขาดทุนอะไร แต่ถึงตอนเรียนจริงๆถ้าเรียนประเภทภาษาอังกฤษสมัยใหม่มันก็โอเคนะสิ แต่เธอต้องเรียนวรรคดีโบราณอังกฤษ ฝรั่งเศส โรม กรีก ขอย้ำว่าโบราณ เพราะภาษาและประโยคที่ใช้ในการประพันธ์เล่นเอาเธออึ้งไปเลยในครั้งแรกที่เห็น ขนาดเธอได้ท็อปวิชาภาษาอังกฤษมา ยังต้องนั่งเกาหัวไปนานเพราะมันหมายความว่าอย่างไงในแต่ละประโยค



    “แล้วพรุ่งนี้ วันอาทิตย์ แกจะไปไหนหรือเปล่า เอ๊ะ! แกมีเพื่อนมาด้วยใช่ไหม หรือแกจะพาเพื่อนแกไปเที่ยวละพรุ่งนี้” หญิงสาวที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวเร็วๆนี้เอ่ยถามอีกฝ่าย

    “ก็เนี่ยแหละที่ฉันจะถามแก แล้วแกละ จะให้ฉันช่วยอะไรหรือเปล่าละ บอกได้เลยนะเฟ้ย อุทิศเวลาเพื่อแกเต็มที ส่วนเพื่อนฉันนะไม่ต้องห่วงรายนั้นอยู่เมืองไทยอีกนานรองานแต่งงานแกเสร็จค่อยพาเขาไปเที่ยวก็ได้”

    “พรุ่งนี้บ้านฉันจะมีทำบุญเพล วันเกิดเตี๋ย แกมานะ มาสักสิบโมงก็ได้ มีแต่ญาติๆฉันเอง คนกันเอง แกก็รู้จักหลายคน”

    “ไม่รบกวนแกหรือวะ นั้นวันเกิดเตี๋ยแกนะ

    “ก็เตี๋ยเขาให้ฉันชวนแกเองนี่นา จะรบกวนอะไรละ”

    “โอเคงั้นพรุ่งนี้ฉันไปถึงบ้านแกประมาณเก้าโมงแล้วกันเพื่อจะได้ช่วยทำนู้ดทำนี่บ้าง จะได้ไม่ดูเป็นแขกนะ แต่ฉันขอหนีบเพื่อนฉันไปด้วยนะ”

    “จะเป็นไรแก ดีซิ ฉันจะบอกสาวๆที่นี่ ให้เตรียมต้อนรับพรุ่งนี้จะมีหนุ่มต่างชาติ มาเป็นแขกไม่สิมาเป็นตี๋ถึงจะถูก โอเคนะพรุ่งนี้เจอกันนะ”

    “เออ เดี๋ยวๆ ฉันมีเรื่องถามอีกเรื่อง ใครนะที่รับโทรศัพท์ฉันเมื่อตอนเช้าที่โทรไปหาแกนะ แกน่าจะแนะนำให้ตาคนนั้นซื้อหนังสือประเภทสมบัติหรือมารยาทที่ดีในการพูดจาภาษาไพเราะมาอ่านสักเล่มนะ แต่ฉันว่าแค่นี่คงไม่พอช่วยได้ต้องส่งอบรมเข้าคอร์สคุณสมบัติผู้ดีสักสามสี่คอร์สอาจจะได้ผลมากกว่า”

    “แหมแกเบาๆหน่อยก็ได้ นั้นญาติฉันนะแก พี่คิมนะ เอ๊ะครั้งนั้นพี่คิมเขาก็รับโทรศัพท์แกนี่หว่า ที่แกโว้ยว้ายครั้งก่อน แกนี่แจ็คพอตมากเลย โทรมาสองครั้งพี่คิมรับสองครั้ง ฮาฮา”

    “แจ็ตพอตไงวะ แจ็ตพอตแล้วได้ทองได้บ้านพร้อมที่ดินหรือเปล่าละ” หญิงสาวอีกฝ่ายถามด้วยความหมั่นไส้

    “ก็ปรติพี่คิมเขาไม่ค่อยได้มาบ้านที่บ่อยเท่าไร แล้วอีกอย่างคนรับโทรศัพท์ที่บ้านนี้ส่วนมากก็เป็นคนที่บ้านนี้ แต่นี่พี่คิมเป็นคนรับโทรศัพท์แกเองทั้งสองครั้ง เหมือนรู้เลยว่าแกจะโทรมา เลยมาที่บ้านฉันเพื่อรับโทรศัพท์แก ”

    “พอเลย พอเลยแก ยิ่งพูดถึงชื่อนี่อารมณ์ฉันมันยิ่งขึ้น เอาไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ บายจ๊ะ”

    จากคุณ : พระจันทร์เต็มดวง - [ 27 ธ.ค. 47 10:30:02 A:203.84.64.226 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป