ผมไม่ค่อยแน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีกับเรื่องราวความรักของผม ซึ่งจุดเริ่มต้นของมันอาจไม่ค่อยจะดีนักเท่าไร ถ้าจะบอกว่าผู้หญิงที่ผมรักเป็นอะไรที่แปลกใหม่ในชีวิตที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน
ผมขอเริ่มต้นตั้งแต่แรกเมื่อครั้งผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ผมไม่ได้แตกต่างอะไรจากผู้ชายทั่วไปมากนัก
ถึงผมจะรู้สึกว่าตัวเองมีผู้หญิงมาห้อมล้อมมากจนเกินไปนิดหน่อยก็ตาม ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะการแต่งตัว
ของผมที่ผมใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ ผมคิดว่าสมัยนี้ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็ควรดูแลตัวเองเหมือนกันเพื่อให้ตัวเองดูดี
ผมมีรถขับ ส่วนหนึ่งเพราะฐานะทางบ้านก็จัดว่าดีใช้ได้ เนื่องด้วยพ่อของผมเป็นนักการเมือง ส่วนแม่ก็แค่เปิดกิจการร้านเพชรเล็กๆ เท่านั้น
ผมเป็นคุยสนุก(คิดว่านะ) เพราะผมมีเพื่อนมาก ทั้งหญิงและชาย แล้วก็ไม่แปลกอีกเช่นกัน
ถ้าผมจะมีคนที่ชอบมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป หรือสมัยนี้เขาเรียกว่า กิ๊ก
ในความรู้สึกของผม ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเจ้าชู้นะ เพราะลักษณะของผมถ้าไม่สนใจผู้หญิงที่เข้ามาเลย
ก็อาจจะมีบางคนหาว่าผมเป็นพวกเกย์ซะอีก ชีวิตของผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มเข้ามหาลัยปีหนึ่ง
จนลุล่วงผ่านมาเรื่อยๆ ผมได้รับเสียงกรี๊ดกราดจากบรรดาน้องใหม่เสมอ จนเพื่อนๆบางคนมันแอบหมั่นไส้
และทุกปีก็ย่อมมีคนที่ผมถูกตาต้องใจเสมอ แล้วส่วนมากเราก็จะคิดตรงกัน จนมาถึงปีนี้ มันก็ยังคงเป็นเหมือนทุกๆ ปีที่ผ่านมา ยกเว้นผู้หญิงคนหนึ่ง
ให้ตายซิ! ผมไม่แน่ใจนะว่าเธอจะเลือกเพศไหนแน่ระหว่างชายกับหญิง เพราะเธอดูก่ำกึ่งเหลือเกิน ดูท่าทางของเธอซิ แต่เหตุที่ผมยังคงรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงก็คงจะเพราะกระโปรงที่เธอใส่ และหน้าหวานๆของเธอ นี่ถ้าไว้ผมยาวคงจะดูน่ารักไม่น้อย ผมยังแอบคิดอยู่ในใจ เมื่อแอบมองไปทางน้องๆนักศึกษาใหม่
ธรรมดาของทุกปีเราก็ต้องมีการรับน้องกันเกิดขึ้น ซึ่งปีนี้พวกผมก็มีโอกาศได้ทำหน้าที่นี้ หลายคนอาจจะกลัวกับการรับน้อง เพราะจากที่มีข่าวออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้มากมาย แต่ถ้าเราเล่นอยู่ในขอบเขตที่พอควรมันก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งช่วยสร้างสีสัน และเป็นการกระชับมิตรที่ดีทีเดียว
แล้วเรื่องวุ่นวายก็เกิดขึ้นขณะรับน้องนั้นเอง เมื่อบางคนในกลุ่มผมอาจจะเล่นแรงไปนิดจนตวาดน้องคนหนึ่งร้องไห้ เหตุผลของเรื่องเพราะเธอทำตามที่รุ่นพี่กำหนดไม่ได้ ผมเดินเข้าไปหาทั้งสองเพื่อจะยุติเหตุการณ์ แต่ก็ช้ากว่าใครบางคน
น้องทอมหน้าหวาน ที่ผมแอบตั้งสมญาให้ในใจ (ซึ่งตอนหลังผมสืบรู้ว่าเธอชื่อโอปอ) ลุกพรวดขึ้น ตรงเข้าไปผลักอกเพื่อนผมจนล้มลงไปไม่เป็นท่า
ผมเองไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบนั้นแรงจะเยอะเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลาที่ผมจะมายืนชื่นชมความสามารถของเธอ เพราะตอนนี้เพื่อนของผมมันลุกขึ้นมาได้ แล้วกำลังตรงไปที่น้องทอมหน้าหวานทันที
ใจเย็นโว้ยไอ้ทิง ผมร้องบอกเพื่อนขณะพยามฉุดรั้งมันไม่ให้มันวิ่งไปหาน้องเขา
ปล่อยซิวะไอ้ตรัย นายไม่เห็นเหรอว่าไอ้ทอมนี้มันผลักอกฉัน เพื่อนผมบอกอย่างไม่ยอม พยามยามจะดิ้นให้หลุดไห้ได้ น้องๆรอบข้างนิ่งสนิทแทบจะหยุดหายใจกันเป็นแถว
พูดงี้ก็สวยซิพี่ เห็นอยู่ว่าพี่ตวาดเพื่อนหนูจนร้องไห้ไปแล้ว เธอกล่าวสวนกลับมาทันทีแบบไม่ยอม
คนทำไม่ได้มันก็ต้องโดนเอ็ดโดนลงโทษเป็นธรรมดาซิน้อง เพื่อนผมที่ช่วยยึดไอ้ทิงบอกออกไป ขณะที่ไอ้ทิงมันตาขวางสุดฤทธิ์
แหกตาดูหรือเปล่าพี่ว่าเขาทำไม่ได้นะ หัดใช้รอยหยักในสมองคิดบ้างซิ ถือว่าเป็นรุ่นพี่แล้วไง จะสั่งไปตายก็ต้องไปงั้นซิ
ผมเห็นเธอเถียงอย่างไม่ลดละ จนผมรู้สึกว่าเพื่อนผมมันเดือดจนปรอทแทบแตกอยู่แล้ว
ผมจึงต้องยื่นปากเข้าไปพูดบ้าง
น้องครับ พี่ว่าน้องขอโทษพวกพี่ซะ เรื่องมันจะได้จบ ผมบอกอย่างใจเย็น แล้วยิ้มแบบที่ผมใช้กับสาวๆได้ผล
แต่ผมก็คิดผิด
หุบปากไอ้ตุ๊ด เธอหันมาตวาดผม ทำไม เข้าข้างกันงั้นซิ... รุ่นน้องผิด?... ฝันไปเถอะว่าฉันจะขอโทษ เธอบอกพร้อมกับเดินออกไปจากกลุ่มแล้วจูงมือเพื่อนของเธอไปด้วย ยังมีหน้าหันมายกนิ้วกลางทักทายพวกผมอีก จากที่ผมเย็นที่สุดในกลุ่มกลายเป็นว่าอยากจะเข้าไปบีบคอเธอให้ตายคาที่ กับไอ้การที่ผมพูดจาสุภาพ ดูแลตัวเองให้ดีอยู่เสมอเมื่อมองดูจากภายนอก เธอกับมาเรียกผมว่าไอ้ตุ๊ด
หลังจากเหตุการณ์รับน้องครั้งนั้น ดูพวกผมจะตั้งตัวเป็นศัตรูกับน้องทอมหน้าหวานอย่างถาวร
ไม่ว่าจะพบหรือจะเจอกันที่ไหน ก็ต้องมีเหตุให้ต้องประทะคารมกันอยู่ร่ำไป โดยเฉพาะไอ้ทิงที่มันจ้องหาเรื่องตลอด
แต่ดูเธอก็จะตอกพวกผมกับมาหน้าหงายทุกทีเหมือนกัน บางครั้งผมก็รู้สึกหมั่นไส้เธอนะ ทั้งที่พวกเราเป็นรุ่นพี่เธอแท้ๆ
แต่กับไม่ค่อยเคารพกันเท่าใดนัก แทบยังตั้งตัวเป็นศัตรูตอบกับพวกผมอย่างไม่มียอม
แต่ผมก็ยอมรับว่าเธอดึงดูดความสนใจของผมไม่น้อย จากที่ผ่านมาในชีวิตผู้หญิงที่ผมรู้จักมีแต่หวานน่ารัก ไม่งั้นก็ออกเปรี้ยวพองาม แต่แบบเธอ ผมบอกตรงๆ ไม่เคยเจอ มันจึงทำให้ผมอยากจะรองทำอะไรสักอย่าง แต่ผมยังคิดไม่ออกตอนนี้
เหมือนพระเจ้าช่วย ชมรมที่เธอกับเพื่อนนั้นเลือกเต็ม จึงทำให้ต้องระเห็ดมาอยู่ชมรมอื่น และแน่นอน ชมรมที่เหลือพวกผมเป็นหัวหน้าอย่างแน้แท้ แต่ที่จริงผมรับคนเข้าชมรมไม่ง่ายเท่าไรนัก แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเธอ ต่อให้คนเต็มจนล้นผมก็คงจะรับอยู่ดี ผมแอบยิ้มอย่างชอบใจเมื่อเห็นเธอทำหน้าไม่สบอารมณ์ ยิ่งไอ้ทิงด้วยแล้วเห็นจากรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันแล้วก็อาจจะทำให้ใครหลายคนขนลุกได้
ครั้งแรกของกิจกรรม เราได้ออกค่ายอาสาไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี
หมู่บ้านแห่งนี้เป็นของชาวกระเหรี่ยงซึ่งอยู่ไม่ห่างจากชายแดนไทยพม่ามากนัก สภาพหมู่บ้านไม่ค่อยเจริญเท่าใด
แต่ก็คงยังมีรถเมล์วิ่งผ่าน ถึงจะแค่วันละครั้งเท่านั้นเพื่อเข้าไปที่ตัวอำเภอ
สิ่งที่เราจะมาช่วยพัฒนาก็คือโรงเรียนซึ่งเก่ามากแล้วตามที่เราได้รับข้อมูลมา
แน่นอนครั้งนี้เรามากันหมดไม่ว่าจะรุ่นพี่หรือรุ่นน้องรวมทั้งน้องทอมหน้าหวาน และก็เป็นโชคดีของน้องเขามากที่ไอ้ทิงเพื่อนผมคู่แค้นของเธอมันดันป่วยจนมาไม่ได้
ที่จริงแม่ของผมออกไม่เห็นด้วยกับการที่ผมจะมาออกค่ายอาสา แต่พ่อของผมกับไม่ว่าอะไรเลยแถมยังสนับสนุนซะอีก ผมเองก็ไม่อยากถูกมองเป็นลูกคุณหนู แล้วงานนี้ผมก็ชอบจึงไม่อยากที่ผมจะตัดสินใจทำ
วันแรกของการเริ่มต้น ผมกับเธอถูกจับมาอยู่กลุ่มเดียวกัน คือช่วยกันเคลียบริเวณพื้นที่โดยรอบ
ให้ดูเรียบร้อยขึ้น เช่นตัดหญ้าออกหรือเก็บขยะไปทิ้ง ผมพยายามจะเข้าไปไกล้ๆ เธอแล้วชวนคุย แต่เห็นเธอคอยมองมาตาขวางก็เลยไม่ค่อยจะอยากเข้าไปยุ่งเท่าไร จนมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ
เธอหายไป! ไม่ใช่ว่าผมจะคอยสังเกตุเธอตลอดหรอกนะ แต่เมื่อถึงเวลาอาหารเที่ยงผมไม่เห็นเธอ ผมยอมรับว่าเป็นห่วงเธอนิดหน่อย จึงทำให้ผมต้องออกตามหาเธอ โดยถามชาวบ้าน เมื่อบอกลักษณะและท่าทางของเธอไป ก็ได้รู้ว่าเธอเดินหายไปทางหลังหมู่บ้าน
ผมเดินมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังไกล้ขึ้นเรื่อย แล้วมีเสียงตีน้ำเหมือนคนกำลังเล่นอยู่
ผมแอบย่องไปตามทางของเสียง แล้วก็ได้พบกับคนที่ผมตามหา
เธอกำลังว่ายน้ำอยู่ ท่าทางสบายใจสุดๆ ทั้งดำผุดดำว่าย ผมก้าวเท้าเพื่อจะไปข้างหน้าแต่ก็ดันเผลอไปเหยียบกิ่งไม้เข้า
มีต่อ
จากคุณ :
edward
- [
30 ธ.ค. 47 04:41:05
A:80.212.22.40 X:
]