CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ข้าพเจ้าขอไว้อาลัยแด่ …..... มหาวิทยาลัย

    ข้าพเจ้าและเพื่อนรุ่นเดียวกับข้าพเจ้าได้มอง “ มหาวิทยาลัย” ด้วยความหวัง ความศรัทธา เสมือนหนึ่งที่พึ่งทางปัญญาที่เจิดจรัสอยู่ท่างกลางฝูงชนและสังคมที่วุ่นวาย  ดุจดั่งภูผาที่ต้านลมแรงของกระแสสังคมที่ฟ่อนเฟะ ไร้แก่นสาน และและความหมาย  ข้าพเจ้าจ้องมองมหาวิทยาอย่างมีความหวัง  เหมือนกับเพื่อนของข้าพเจ้าอีกหลายคนที่อยากเข้าไปอยู่ใน”มหาวิทยาลัย”


    “ถนนหลายสายของเด็กหลายคนกำลังมุ่งสู่มหาวิทยาลัย”


    และต่อไปนี้ข้าพเจ้าจะเล่าเรื่องราวของ “ชาวมหาวิทยาลัย” ที่ข้าพเจ้าได้เห็น ได้อยู่ ได้ยิน และรับรู้  นี่คือความจริงที่ถูกปิดบังภายใต้เงามายาที่มหาวิทยาลัยได้สร้างขึ้นในนามของที่พึ่งทางปัญญา


    ในที่สุดก็ได้เข้ามาที่นี่แล้วซินะ ความปิติ ยินดี ปลื้มใจ ดีใจ ได้เกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเหมือนกับคนรุ่นเดียวกันอีกนับแสนคน  ความรู้สึกเหล่านี้ได้เกิดขึ้นพร้อมกับความกลัว  

    ใช่แล้ว “ความกลัว”  กลัวการจากลา กลัวการจากไกล รวมกระทั่งกลัวในอนาคต ความกลัวนี้เองได้ทำให้ความตื่นเต้นของข้าพเจ้าเกิดขึ้นมาอย่างฉับพลัน พลางจินตนาการถึงการแสวงหาปัญญา และหวังที่จะได้เจอผู้ร่วมแสวงหาเช่นเดียวกัน  ภาพความฝัน  ความหวัง กำลังจะถูกทำให้เป็นความจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มันจะเป็นเช่นไรหนอ


    ภายในห้องประชุมโอ่โถงแสดงความยิ่งใหญ่  อากาศเย็นเฉียบจากเครื่องปรับอากาศในโถมเข้าใจตัวข้าพเจ้า  ว่าที่เพื่อนใหม่ได้เข้ามานั่งรวมกันหลายร้อยคนภายในห้องแห่งนี้  ดูเขาร่าเริงเสียยิ่งกระไรนัก  เบื้องหน้ามีหญิงสูงอายุผู้หนึ่งกำลังกล่าวถ้อยคำที่ผ่านการเรียงร้อยมาอย่างดี ด้วยท่าทางขึงขัง และถ่อยคำที่สะกดคนทั้งมวลให้นิ่งเงียบ  เขากำลังแสดงความยิ่งใหญ่และยาวนานของสถานบันแห่งนี้  ดูเหมือนหลายคนกำลังต้องมนต์สะกดนี้


    “แล้วมันจะเป็นเช่นไรเล่า ในเมื่อมันคืออดีตที่ยิ่งใหญ่ แต่นี่คือปัจจุบัน และต่อไปนี้คืออนาคตที่ไม่แน่นอน  เราควรระลึกถึงอดีตแต่มิใช่ลุ่มหลงมิใช่หรือ” ข้าพเจ้าคิดและอยากที่จะลุกออกไปจากห้องประชุมให้ต้องมนต์ในให้จงได้


    หลังจากวันนั้นหลายสิ่งหลายอย่างได้ผ่านเข้ามาในชีวิตของข้าพเจ้า เพลงสถาบันจำนวนมากที่แต่งด้วยถ้อยคำฮึกเหิม และถ้อยคำที่นำมาเรียงร้อยกัน ว่าข้าแน่  ข้าเก่ง  ได้ผ่านเข้ามาทำหน้าที่ขัดเกลาเพื่อนของข้าพเจ้าหลายคนให้คล้อยตาม ศรัทธา ต่อความยิ่งใหญ่ โดยปราศจากการต้องคำถามใดๆ “พวกเขากำลังต้องมนต์”


    เพื่อนได้เปลี่ยนไปแล้ว จากวันแรกที่ได้พบ เปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันกลับ หลายคนคล้อยตามสังคมที่เน่าเฟะเหมือนขยะที่ลอยอยู่บนคลองน้ำเน่า อย่างโงหัวไม่ขึ้น  หลายสิ่งเปลี่ยนไปแล้ว  ข้าพเจ้าพอเข้าใจพวกเขาอยู่บ้าง  สิ่งเหล่านี้มันอาจเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องยอมคล้อยตามสังคมเพื่อความอยู่รอด  มนุษย์ทุกคนต่างมีความกลัวที่แฝงอยู่ในจิตใต้สำนึกอันเร้นลับ และพวกเขาก็กำลังกลัว “มนุษย์กลัวที่จะไม่เหมือนคนอื่น” หลายคนพยายามที่จะฝืนกระแสนี้ พวกเขาต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งในการต่อต้านความกลัวที่เชียวกรากนี้ แต่น้อยคนนักที่ทำได้


    ความศรัทธา ความหวัง และความฝัน ที่ข้าพเจ้ามีต่อ”มหาวิทยาลัย” ได้หดหายลงอย่างรวดเร็ว เหมือนดั่งน้ำที่ถูกดูดลงไปในชักโครก มันไม่เหลืออะไรแล้ว บางทีความหวัง และศรัทธาของข้าพเจ้าอาจมากเกินควร แต่ความดีงามและสังคมแห่งปัญญาควรเป็นสิ่งที่เราควรพบได้ในมหาวิทยาลัยมิใช่หรือ?


    แต่แสงสว่างยังคงไม่มอดดับไปสักทีเดียว เบื้องหน้าบุคคลสูงอายุกำลังถ่ายทอดปัญญา ดูท่าทางเขาเชื่อมั่นต่อสิ่งที่กำลังถ่ายทอด  การถ่ายทอดของเขาคล้ายการยัดเยียดอาหารที่ผ่านการบดเคี้ยวโดยละเอียดแล้ว เข้าไปยังปากของคนที่กลังจ้องมองและฟังเขาอย่างตั้งใจ  


    “นี่ใช่การแสวงหาปัญญาหรือ?  ในเมื่อมันคือการจำยัด ปราศจากการวิพากษ์และตั้งคำถาม” ข้าพเจ้าคิดพลางได้ยินเสียงพูดคุยกันจากเบื้องหลังของข้าพเจ้า  
    ข้าพเจ้าเหนื่อยเหลือเกินกับสิ่งที่ได้พบ  น้อยครั้งนักที่ได้พบกับคนที่กำลังค้นหาบางสิ่งเหมือนข้าพเจ้า  น้อยนักที่จะพบผู้ถ่ายทอดปัญญาที่เต็มไปด้วยการสร้างสรรค์สิ่งใหม่  ตั้งคำถามต่อสิ่งเก่าที่ตนถ่ายทอด


    มหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ หรือ ข้าพเจ้าไม่อยากคิดเข่นนั้นจริงๆ ป้อมปราการและภูผาทางปัญญา กำลังทำลายตนเองอย่างรวดเร็ว แล้วเราจะเหลือสิ่งใดเป็นที่พึ่งต่อไปในสังคมที่เน่าเฟะ และกำลังหาทางออก  แสงสว่างในตะเกียงกำลังมอดดับ ดวงตาของเรากำลังมืดบอดไม่เห็นสิ่งใดอีกเลย


    ชาวมหาวิทยาลัยจะรู้ตัวไหมเกี่ยวกับสิ่งนี้  ข้าพเจ้าขอเดาว่าพวกเขาไม่รู้  พวกเขายังคงครื้นเครง เริงร่าอย่างสนุกสนาน  เต้นรำกันอย่างคนเมามายไร้สติ  แล้วเราจะเหลืออะไรในเมื่อเราไม่มีอะไรให้เหลือแล้ว

    ข้าพเจ้ายังคงอยู่ที่นี่ต่อไป ด้วยความสิ้นหวัง และศรัทธา ที่มีต่อ “มหาวิทยาลัย” ต้องใช้ความอดทน และจิตใจที่เข้มแข็งมากทีเดียวในการอยู่ เพื่อทำความเข้าใจในด้านมืด ด้านมืดจะทำให้ข้าพเจ้าพบแสงสว่าง


    “แสงสว่างทำให้ทุกอย่างกระจ่างชัดขึ้น แต่เราก็จำเป็นอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่  หากปราศจากความมืดแล้วไซร้ความสว่างก็คงไม่สามารถปรากฏให้เราเห็น”

    แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 48 20:02:15

    แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 48 19:59:27

    แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 48 16:10:00

    แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 48 15:27:23

    จากคุณ : Anthro Man - [ 3 ม.ค. 48 09:53:17 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป