ยอดรัก
ผมโชคดีมาก
คงไม่มีใครโชคดีเหมือนผมอีกแล้ว . . . ที่ได้เจอคุณ ได้รักคุณ
คุณเป็นเสมือนดวงตะวันส่องนำทางแก่ผมตลอดช่วงเวลาแสนมีค่าที่ผ่านมา
คงไม่จำต้องบอกว่าผมช่างเป็นผู้ชายที่โชึดีมีคุณเป็นเจ้าหัวใจ ...ถึงจะเป็นเวลาช่วงสั้น ๆ บนทางชีวิตเรา
แต่กระนั้นยังยาวนานพอให้เรามีช่วงเวลาแห่งความทรงจำอันแสนสุขให้รำลึกถึง ยามที่เราได้อยู่เคียงกัน
ที่รัก . . .ไม่ว่าคุณจะพ่ายต่อโรคร้ายที่รุมเร้าคุณ แต่สำหรับผมแล้วคุณหาใช่ผู้แพ้เลยในสมรภูมินี้
เมื่อเริ่มแรกคุณก็มีอาการทั่ว ๆ ไปตามประสานักศึกษาที่ต้องคร่ำเคร่งอยู่แต่ในแล็บ มีโอกาสประสบพบพานกัน . . . เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า น้ำหนักลด รวมทั้งมีผื่นตามผิวหนังมาได้สักสี่ห้าเดือนที่คุณคิดว่ามาจากอาการภูมิแพ้
ต่อมาคุณก็บ่นเจ็บหน้าอกซ้อน ๆ กันสองครั้งสองคราจนต้องไปหาหมอ
แต่ก็ไม่เจอะเจออะไรเลย
จนเมื่อคุณปวดท้องน้อยหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาล . . . ต้องนอนพักอยู่ในนั้นตลอดสัปดาห์
เมื่อผลตรวจออกมา
เวลานั้นเหมือนดั่งโลกภินท์พังทะลายลงต่อหน้าเรา
ความฝันสวยสดที่เราเคยวาดไว้ร่วมกันว่าเมื่อจบการศึกษาแล้ว
เราเริ่มเรียนรู้ว่าโรคนี้รักษาได้
ผมไม่ทัดมานห้ามปรามเมื่อคุณตัดสินใจกลับไปรักษาโรคที่บ้าน
คุณส่งข่าวมาสม่ำเสมอ
มันเหมือนว่าโลกนี้มีปาฏิหาริย์
อาการคุณดีขึ้นหลังจากฉายรังสีครบหกรอบ
การบำบัดเหมือนให้ผลดี คุณกลับมาเรียนต่อด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข วาดหวังว่าจะหายขาดและใช้ชีวิตปรกติดังเดิม ดพื่อจะได้ร่ำเรียนอย่างเต็มที่ให้จบการศึกษาแล้วกลับไปรับใช้ประเทศชาติ
กลับมาคราวนี้คุณได้ไปหาอีกหมอปรึกษาเพื่อขอความเห็นที่สอง
คุณพบว่าโรคร้ายนั้นอาจกลับมาอีก
หมอแนะว่าทางที่ดีควรจะบำบัดด้วยอีกวิธีที่เร็วกว่า
ทว่ายังไม่ทันทีจะครบกระบวนการรักษา
เจ้ามะเร็งร้ายนั้นกลับมาคุกคามคุณอีก
คุณจำต้องรับการฉายรังสี
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนท่แล้วมา มันเหมือนฝันร้ายของคุณ . . . ของเรา และของทุกคนที่รักใคร่เอ็นดูคุณ
สารรูปคุณเสื่อมโทรมอย่างเห็นชัด ผมเผ้าหลุดร่วง น้ำหนักลดฮวบฮาบจนรูปผิดร่างจนน่าใจหาย
ผมแทบกลั้นน้ำตาสงสารคุณไว้ไม่อยู่
บางครั้งคุณก็พาลหมดสติไปง่ายๆ
ผมจำได้ดีถึงจดหมายลงวันที่ 03/24/00ที่คุณตั้งใจเรียบเรียงขึ้นอย่างยากเย็น
"ฉันเหนื่อย . . .เหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน เหนื่อยและท้อแท้ไปหมดเมื่อคิดว่าจะไม่มีคุณอยู่
เมื่อคิดว่าต่อแต่นี้ไปจะไม่ได้เห็นหน้าที่คุ้นเคย ไม่แม้แต่จะได้เห็นรอยยิ้มของคุณอีก
ฉันรู้นะว่าไม่ควรทำตัวอ่อนแอเสียแต่ตอนนี้ เพราะฉันมีคนที่หวังดีเช่นคุณและเพื่อน ๆ คอยให้กำลังใจมหาศาลอยู่ข้างหลัง
ขอบคุณค่ะ
ฉันซาบซึ้งใจในน้ำใจไมตรีที่ทุกคนหยิบยื่นกำลังใจให้ฉันสู้ฝ่าฟันไข้ร้ายนี้ไป
ฉันรู้ว่าคุณและเพื่อน ๆ คงต้องเสียลละกำละงแรงงานและทรัพย์เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลฉัน...
ขอบคุณนะคะ ขอบคุณยิ่งนัก "
นั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่คุณขอให้ผมช่วยส่งถึงเพื่อน ๆ และทุกคนที่ห่วงใย
ยอดรัก...คุณดูอ่อนแอ ปวกเปียกหมดเรี่ยวหมดแรง ที่จะแข็งขืนสู้เจ้าโรคร้ายนี้อีกต่อไป
ถึงวินาทีนี้ ร่างกายคุณไม่อาจทนรับมือต่อการติดเชื้อ อาการโรคที่ลุกลามรวมทั้งนิวมอเนียได้อีกต่อไปแล้ว
คุณได้แสดงให้เห็นถึงใจเด็ดเดี่ยว ไม่ย่นย่อต่อโรคร้ายนี้ นับแต่คุณได้ตัดสินใจสู้กับมันนับแค่วันแรกที่ล่วงรู้สมุหฐานของโรคแล้ว
คุณต้องผ่านการบำบัดต่างๆ นานาที่ทุกข์ทรมานเกินกว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ จะรับมือไหว
แต่ก็ไม่อาจกำหราบโรคนั้นได้เลยหากปราศจากการถ่ายเปลี่ยนไขกระดูก
โอกาสรอดของคุณก็มีรางเลือน
แม้การถ่ายเปลี่ยนไขกระดูกจะมีความเสี่ยงแต่ก็จะช่วยยืดอายุคุณออกไปได้
เราต่างก็รู้กันดีว่าลำพังนักศึกษาพลัดถิ่นอย่างเรา ๆ คงยากที่จะมีกำลังทรัพย์มาจุนเจือ
แม้ปัญหาทางการเงินจะแก้ไขไปได้บ้างจากกำลังทรัยบ์กำลังกายที่เพื่อนๆ เราช่วยกันเสียสละและเรี่ยไรมาช่วย
อาการติดเชื้อและlymphoma นั้นหนักหนาสาหัสสากรรจ์กว่าคุณจะทานทนไหวในที่สุด
ใคร ๆ ที่รู้จักคุณคงยังคิดถึงคุณอยู่ คุณจะอยู่ในความทรงจำของทุก ๆ คน
คงไม่มีใครลืมความละมุนละม่อมของคุณ ดวงตาเป็นประกายและยิ้มละไมที่ส่งกำลังใจกลั่นตรงจากใจให้แก่ทุกคนที่พานพบ
ภาพเหล่านั้นยังตราตรึงอยู่ในใจผมและเพื่อน ๆ เสมอจนผมไม่เชื่อเลยว่าคุณได้จากไปแล้ว
หลับให้สบายเถิดนะครับ ดวงตะวันของผม . . .ตะวันดวงเดียวที่จะไม่เคยเลยลับไปจากดวงใจผม
ขอให้ฝันแต่สิ่งดี ๆ นะครับ ยอดรัก . . . จนกว่าเราเราจะพบกันใหม่
*******************************************************************************************************************
In Memory of Ann
จากคุณ :
สาวิตร
- [
7 ม.ค. 48 06:41:25
A:202.57.171.105 X:
]