CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    WHAT IS YOUR NAME?

    ผู้แต่ง : นันนพิน*

    พี่ชายของฉันขี้บ่น ขี้งก ขี้เกียจ ขี้โมโห ใจร้อน ชอบโวยวาย!! มีข้อเสียมากมาย
    แต่มีข้อดีหนึ่งข้อก็คือ ทำอาหารอร่อยมาก~!!
    พี่เลยยึดการทำอาหารเป็นอาชีพหลัก เราสองพี่น้องเปิดบ้านให้เป็นร้านอาหารเล็กๆ พี่เป็นพ่อครัว ส่วนฉันเป็นเด็กเสิร์ฟ~

    นอกจากการเป็นเด็กเสิร์ฟ ฉันยังมีอีกหนึ่งงานที่ต้องทำ คือ การขี่จักรยานส่งกับข้าว
    ทุกเช้าฉันจะต้องปั่นจักรยานไปส่งกับกับข้าวให้คุณยายท่านหนึ่ง
    ตอนแรกฉันเบื่อกับงานนี้ แต่ว่า..

           “คุณยายคะ กับข้าวมาส่งค่ะ”

    คุณยายเดินมาเปิดประตูบ้าน ชวนให้เข้าไปนั่งกินขนมด้วยกัน แต่ฉันปฏิเสธไป เพราะว่าต้องส่งกับข้าวต่อ
    คุณยายเลยบอกให้รอก่อน จะไปเอาขนมมาให้ แหม~คุณยายนี่น่ารักจริงๆ ^^

           “คุณยายอยู่บ้านคนเดียว ไม่เหงาหรอคะ?”
           “เหงาสิ.. แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเหงาแล้ว เพราะข้างบ้านยายมีคนย้ายมาอยู่แล้วนะ ตอนกลางคืนมีเสียงเปียโนด้วย  ที่นี่ก็เลยไม่เงียบวังเวงเหมือนแต่ก่อน”

    ใครกัน? ที่ย้ายเข้ามาอยู่ข้างบ้านคุณยาย เล่นเปียโนด้วยหรอ..
    คืนนี้ไปแอบดูดีกว่า ^^
     
    ฉันปั่นจักรยานออกมาตอนหนึ่งทุ่ม อากาศเย็นสบาย~
    จอดจักรยานแล้วแอบมองเป้าหมาย~  ^o^  
    เปิดไฟอยู่ แสดงว่ามีคนอยู่สินะ..
    ฉันนั่งรออยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าตัวเองมาทำบ้าอะไร!? กลับดีกว่า..
                   
    ฉันกำลังใช้เท้าเตะขาตั้งจักรยาน เสียงเปียโนก็ดังขึ้น..
                   
    ฉันตั้งใจฟัง
    เสียงเปียโน.. ทำไมฟังแล้วสบายใจจัง~
    เสียงเพลงนี้เหมือนเป็นเพลงที่กล่อมให้คืนนี้นอนหลับฝันดี ^^
     
    เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันปั่นจักรยานส่งกับข้าวให้คุณยาย
    เห็นผู้ชายคนหนึ่งแต่งตัวสะอาดสะอ้าน ดูดีเป็นสุภาพชน เดินออกมาจากบ้านที่ฉันไปแอบดูเมื่อคืน เค้าคงเป็นคนเล่นเปียโนเมื่อคืนนี้สินะ..
             
    ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลายาวนานเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่าความรัก
    ฉันรู้แต่ว่า ฉันรักเค้าตั้งแต่แรกเห็น..
    อยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับเค้า อยากรู้จักเค้า เค้าชื่ออะไรนะ?

    และตั้งแต่วันนั้นมา..ทุกเช้า ฉันจะเห็นเค้าออกจากบ้านไปทำงาน และตอนกลางคืน ฉันจะแอบไปฟังเสียงเปียโน..

    สำหรับฉัน เค้าคือบุคคลที่ฉันจดจำได้อย่างแม่นยำ
    แต่ว่าสำหรับเค้า ฉันก็เป็นเพียงคนนึงที่ไม่ถูกบันทึกในความจำของเค้า..
    เราสองคนเป็นเพียงคนที่เดินผ่านสวนกันไปมา แค่นั้นเอง
     
    แต่ว่าการที่ได้เห็นหน้าเค้าทุกวัน ฟังเสียงเปียโนที่เค้าเล่นทุกคืน.. แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ^^
     
           “นี่~ เดี๋ยวแกเอาไอ้นี่ไปแจกทุกบ้านในละแวกนี้เลยนะ”
           “อะไร?...บริการส่งกับข้าว สนใจติดต่อ..โฆษณาร้านเรานี่”
           “ใช่ ช่วงนี้ร้านเรามีแต่ลูกค้าเก่าๆ หน้าเดิมๆ พี่ว่าจะหาลูกค้าใหม่ๆเพิ่มหน่อย”
           “โห..แล้วนี่ตั้งกี่แผ่น ละแวกนี้มีบ้านตั้งกี่หลัง พี่จะให้ฉันไปแจกคนเดียวหรอ ไม่เอาอ่ะ” ฉันส่งคืนใบปลิวโฆษณาร้านให้พี่ชาย..

    เอ..........ถ้าเกิดเอาใบปลิวนี่ไปให้เค้า เค้าอาจจะมาใช้บริการ Delivery ของฉันก็ได้นี่
    ฉันหยิบใบปลิวคืนกลับมาจากมือพี่ชาย

           “เปลี่ยนใจแล้ว ^^”
     
    ฉันขี่จักรยานแจกใบปลิวอย่างอารมณ์ดี~ ^^
    ถึงบ้านเค้าแล้ว.. เอ๊ะ มีคนอยู่หรอ ได้ยินเสียงTVด้วย จะกดออดเรียกดีมั้ยน้า~
    ช่างเหอะ~ ทิ้งใบปลิวไว้ตรงประตูบ้านนี่ละกัน เค้ากลับมาก็คงเห็นเองแหละ            
     
    ตอนนี้ทุ่มครึ่ง ฉันขี่จักรยานมาแอบฟังเสียงเปียโนเหมือนทุกวัน
    อ้ะ! ใบปลิวไม่อยู่แล้วนี่ แสดงว่าเค้าคงเห็นมันแล้ว ^^ ดีใจจัง~

    ฉันนั่งรอฟังเสียงเปียโน.
                   
    ทุ่มสี่สิบ ทุ่มสี่สิบห้า ทุ่มห้าสิบ~ สองทุ่ม..สองทุ่มครึ่ง~ สามทุ่ม~สามทุ่มครึ่ง......สี่ทุ่ม~
    แปลกจัง ทุกทีทุ่มสองทุ่มเค้าก็เล่นแล้วนี่หน่า แล้วทำไมวันนี้?

    หนึ่งวัน สองวัน~ สามวันต่อมา ฉันไม่ได้ยินเสียงเปียโนอีกเลย
     
    จนกระทั่งวันนึง เค้าโทรมา!! โทรมาสั่งกับข้าวที่ร้าน!!!~
    ฉันปั่นจักรยานด้วยหัวใจที่เต้นแรง ตื่นเต้น ตื่นเต้น ตื่นเต้นจังเลย!! ทำไงดี มือก็สั่น..
                   
    ฉันจอดจักรยานที่หน้าบ้านเค้า แล้วก็กล้าๆกลัวๆที่จะกดออด แต่แล้วนิ้วมันก็กดไปโดนจนได้
    เค้าเดินออกมาแล้ว..!!!
    ท่าทางของเค้าทำไมมันดูโทรมจัง~! ดูอ่อนเพลียอย่างกับคนอดนอน
    เค้าเดินเข้ามา เข้ามา..เข้ามา..ใกล้....ใกล้
    สามก้าว สองก้าว หนึ่งก้าว..เรายืนห่างกันแค่ก้าวเดียวเอง!!
    หัวใจฉันเต้นแรงมาก! ฉันก้มหน้าก้มตา ไม่กล้าสบตาเค้า แล้วส่งถุงกับข้าวให้เค้า แล้วขี่จักรยานกลับบ้าน ไม่พูดไม่จา~
     
    กลับมาถึงร้าน ฉันช่วยงานที่ร้านด้วยอาการใจลอย เสิร์ฟผิดโต๊ะบ้างหละ ทำเครื่องดื่มผิดบ้างหละ
    วันนี้เป็นวันเป๋อของฉันเลยหละ
    แล้วฉันก็ค้นพบความเป๋ออีกข้อนึง! เมื่อเค้ามาที่ร้าน และยื่นค่ากับข้าวให้ฉัน
    นี่ฉันลืมเก็บตังค์หรอเนี่ย ToT เป๋อชะมัด น่าอายที่สุด!!
     
    ฉันรับเงินค่าข้าวจากเค้า.. เค้าเดินกลับออกไป แล้วหันกลับเข้ามาอีก!! >_<
                   
           “เอ่อ พอจะทราบมั้ยครับ ว่าที่ไหนรับซื้อเปียโนเก่าบ้าง”
           “พี่จะขายเปียโนหรอคะ!!!”
           “ครับ”
           “ทำไมหละคะ?”
           “ของบางอย่าง เก็บไว้มันก็ทำให้เจ็บปวด..” น้ำเสียงเค้าเรียบนิ่งปกติ แต่ท่าทางของเค้าดูเศร้ามาก..
           “พี่จะเลิกเล่นเปียโนหรอคะ”
           “ครับ”
           “ทำไมไม่คิดถึงคนฟังบ้างหละคะ ว่าเค้ายังอยากฟังอยู่รึป่าว”
                   
    โฮ้ยยย..ย~ น้ำตามันจะไหลแล้ว.. กลั้นไม่อยู่แล้ว ฉันก้มหน้าก้มตาเก็บจานหนีไปล้างหลังบ้าน

    ฉันเสียใจมาก ที่เค้าพูดว่า จะเลิกเล่นเปียโน แต่ฉันก็ยังคงปั่นจักรยานออกมาที่เก่าเวลาเดิม
    ตอนนี้ทุ่มกว่าๆ..บ้านของเค้าปิดไฟมืด สงสัยจะไม่มีใครอยู่บ้าน
    ฉันปั่นจักรยานกลับบ้าน...
     
    วันรุ่งขึ้น เค้าโทรมาสั่งกับข้าว >o<
    หัวใจฉันทำงานหนักขึ้น เมื่อเค้าบอกว่า ช่วยเอากับข้าวไปวางบนโต๊ะในบ้านให้หน่อย มือเค้ากำลังสกปรกมาก เค้ากำลังทำสวนอยู่ ^^
     
    ฉันเดินเข้าไปในบ้านด้วยเสียงหัวใจที่เต้นตูมตาม
    สิ่งแรกที่ฉันเห็น คือภาพถ่ายหญิงสาวหน้าตาน่ารักแขวนอยู่บนหิ้ง มีกระถางธูปวางไว้..
               
    มองไปรอบๆ ฉันเห็นเปียโน.. เปียโนที่ฉันมาฟังทุกคืน
    บนเปียโนมีรูปถ่ายด้วย เป็นรูปคู่ของเค้าและหญิงสาวหน้าตาน่ารักในรูปนั้น
    เธอคนนี้คงเป็นคนสำคัญของเค้า คงเป็นคนที่เค้าเล่นเปียโนให้ฟังทุกคืน..

           “เท่าไหร่ครับ?”
           “25บาทค่ะ” มือของเค้าที่ถูกล้างจนสะอาดแล้ว ล้วงหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์

    ไม่ใช่แค่เค้าที่เศร้ากับการจากไปของเธอหรอก ฉันก็เศร้าเหมือนกัน ก็ฉันอกหักแล้วนี่..
    อ้ะ! แย่แล้ว น้ำตาฉันไหล.. เค้าเห็นน้ำตาของฉันแล้ว.. ไม่อยากให้เค้าเห็นเลย~

           “พี่อย่าเลิกเล่นเปียโนนะคะ ถึงคนรักของพี่จะไม่อยู่แล้ว แต่ฉันเชื่อว่าเค้าก็ยังรอฟังเสียงเปียโนจากพี่อยู่ทุกคืนนะคะ”
     
    ฉันรับเงินค่ากับข้าวจากเค้า แล้วเดินเข็นจักรยานกลับบ้าน ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ขี่จักรยานเลย..
     
    ตอนนี้ทุ่มกว่าๆ..บ้านของเค้าเปิดไฟสว่าง ฉันไม่เข้าใจตัวเองว่า กำลังทำอะไรอยู่ รอคอยสิ่งที่ไม่ใช่ของเราอย่างกับคนบ้า!
    แต่ว่าฉันยังไม่อยากกลับบ้าน เลยเล่นกับลูกหมาข้างถนนแถวนั้นแก้เซ็ง..
     
                   จู่ๆ..เสียงเปียโน ก็ดังขึ้น....
                   เค้า..เค้าเล่นเปียโน!!
                   เค้าไม่ได้เลิกเล่นเปียโน!! ^o^
     
     
     
    *********************************************************************
     
     
     
    น้องสาวของผม เธอตัวเล็ก ผมยาว ผิวขาว หน้าตาน่ารัก เหมือนตุ๊กตา
    แต่ร่างกายของเธออ่อนแอมาก
    เธอบอกว่าอยากอยู่บ้าน ไม่อยากนอนโรงพยาบาล ผมก็ตามใจเธอ
    เลยเลือกย้ายมาอยู่บ้านเช่าที่อยู่ใกล้ๆโรงพยาบาล
    ตอนที่ผมออกไปทำงานข้างนอก เธอจะนั่งดูTV
    และเมื่อเลิกงาน กลับมาบ้าน เธอจะทำกับข้าวให้ผมทานทุกวัน
    และทุกคืนเธอจะขอให้ผมเล่นเปียโนให้ฟังก่อนนอน ไม่งั้นเธอจะไม่ยอมทานยา

    วันหนึ่ง เธอโทรหาผมในเวลางาน ซึ่งมันผิดปกติ เธอโทรมาแล้วไม่พูด..
    ผมรู้สึกกังวลมาก เลยขอลางานกลับบ้าน เมื่อกลับไปถึงบ้าน ผมเห็นTVเปิดทิ้งไว้ เธอนอนอยู่บนพื้น!!
    ผมรีบอุ้มเธอพาไปโรงพยาบาล
               
    น้องสาวของผม..เธอไม่หายใจแล้ว..
                   
    ผมกลับบ้าน สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ ใบปลิวโฆษณาอะไรซักอย่าง ผมหยิบมันเข้าไปในบ้าน ไม่ได้สนใจที่จะอ่านอะไรทั้งนั้น
    ผมไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย  
    ผมมองไปที่เปียโน เปียโนที่ไม่มีคนฟัง..

    ผมนั่งอยู่ตรงนั้นทั้งคืน..
     
                   
    ผ่านไปหลายวัน ที่ผมไม่ได้กินอะไรเลย..
    ผมเดินไปเปิดตู้เย็นที่ว่างเปล่า เท้าเหยียบไปโดนกระดาษอะไรซักอย่าง
    ผมหยิบมันขึ้นมาอ่าน
    เป็นใบปลิวโฆษณา บริการส่งกับข้าว
    ผมกดโทรสั่งทันที
                   
    สภาพของผมในตอนนี้มันแย่มาก ผมยุ่งไม่ได้หวี เสื้อผ้าที่ใส่ก็ยับยู่ยี่  น้ำก็ไม่ได้อาบ
                   
    เสียงออดดังขึ้น คงเป็นกับข้าวมาส่ง
    ผมเดินไปเปิดประตู เห็นเด็กผู้หญิงคนนึงก้มหน้าก้มตา ไม่พูดไม่จา ยื่นถุงกับข้าวให้ผม แล้วขี่จักรยานกลับไปด้วยความรวดเร็ว
    ผมยังไม่ได้จ่ายตังค์เลย
                   
    เมื่อผมกินข้าวเสร็จแล้ว ผมอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ผมดูแผนที่ร้านในใบปลิว แล้วเดินไปพร้อมกระเป๋าสตางค์หนึ่งใบ
                   
    เมื่อผมไปถึงร้าน เจอเด็กผู้หญิงคนเมื่อกี้ ทำไมเธอต้องทำหน้าตาตื่นตกใจขนาดนั้นด้วยนะ
    ผมจ่ายเงินค่ากับข้าวให้เธอ แล้วเดินออกจากร้าน แล้วผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ผมถามเธอถึงร้านที่รับซื้อเปียโนเก่า
    เธอกลับถามผมที่ตั้งใจจะเลิกเล่นเปียโนว่า

           “ทำไมไม่คิดถึงคนฟังบ้างหละคะ ว่าเค้ายังอยากฟังอยู่รึป่าว”
               
    แล้วเธอก็เก็บจานบนโต๊ะ เดินไปหลังร้าน

    คำพูดของเธอทำให้ผมกลับไปคิดอะไรได้หลายอย่าง
    ผมเลยยังไม่กลับบ้าน ไปหาหัวหน้าที่บริษัท เพื่อบอกยกเลิกการลาออก
                   
    ผมจะเริ่มต้นใหม่..
                   
    เช้าวันต่อมา ผมโทรสั่งกับข้าวจากร้านเดิม
    มือของผมเปื้อนดินไปหมด เพราะผมกำลังจัดสวนอยู่
    ผมอยากสร้างบรรยากาศใหม่ๆให้กับชีวิต ไม่อยากจมอยู่กับความเศร้าในอดีต
                   
    เธอมาแล้ว ผมบอกให้เธอช่วยเอากับข้าวไปวางบนโต๊ะในบ้านให้หน่อย เพราะมือของผมสกปรกมาก
    แล้วผมก็เดินไปล้างมือให้สะอาด แล้วเดินตามเธอเข้าไปในบ้าน เพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์
    ผมเห็นเธอยืนมองเปียโน ท่าทางเหม่อลอย

           “เท่าไหร่ครับ?”
           “25บาทค่ะ” เธอตอบผม
               
    ผมล้วงหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ เมื่อผมเงยหน้าขึ้น ผมเห็นเธอร้องไห้...

           “พี่อย่าเลิกเล่นเปียโนนะคะ ถึงคนรักของพี่จะไม่อยู่แล้ว แต่ฉันเชื่อว่าเค้าก็ยังรอฟังเสียงเปียโนจากพี่อยู่ทุกคืนนะคะ”
               
    เธอหยิบเงินค่ากับข้าวจากมือผม แล้วเดินออกไป..
                   
    ตอนนี้ทุ่มกว่าๆ ผมมองไปที่เปียโน คิดถึงคำพูดของเธอ
    แล้วผมก็เล่นเปียโน..

    ถึงแม้ว่าผมจะเพิ่งพบเธอได้ไม่กี่ครั้ง และรู้สึกประหลาดใจกับท่าทางของเธอที่มีต่อผม
    แต่ก็เป็นเพราะเธอ ผมถึงกลับมาเล่นเปียโน..
    ผมชักอยากจะรู้จักกับเธอให้มากขึ้นแล้ว เธอชื่ออะไรนะ?
     

    จบแล้วค่ะ
    ชอบกันรึป่าว?
    จัดเรียงตัวหนังสือในนี้ไม่ค่อยเป็นค่ะ
    ต้องขอโทษด้วยค่ะ..

     
     

    จากคุณ : nannapin - [ 8 ม.ค. 48 14:17:58 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป