ความคิดเห็นที่ 87
เข้ามาอ่านความคิดเห็น กระทู้สนุกจัง ได้สาระ ได้แง่คิดเยอะมาก โดยเฉพาะ คห.75,76,77,80 คห.77 เป็นปรัชญาดีแท้ ส่วน คห.75 กับ 76 และ 80 ถือว่ามองต่างมุม ในจุดยืนคนละจุด ขอบคุณน้านัทที่ชมครับ อย่างที่คุณเพลงเกือบพัน อาจารย์(นอกห้องเรียน) กับน้านัท (ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ) บอกไว้ ถามว่าคนวิจารณ์ได้อะไรบ้างจากตรงนี้ แสดงความอวดภูมิรึ? ซึ่งก็เปล่า เพราะผมแทบไม่มีภูมิให้อวด นอกจาก ความคิดเห็นส่วนตัว ด้วยมุมมองของเรา ที่พอมีความรู้จากประสบการณ์ในเรื่องตรงนั้นบ้าง เพียงแต่ เมื่อผมอ่านจบไป ผมมีความรู้สึกอยากจะถ่ายทอดอะไรแก่คนเขียน อยากแนะ อยากพูดคุย แต่จะส่งเป็นเมล์? ก็คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นทางเดียวก็คือ แสดงความคิดเห็นผ่านกระทู้ ซึ่งแน่นอนว่า มันเลี่ยงไม่ได้กับที่ข้อความเราเผยแพร่สู่สาธารณะ แน่นอนว่า ผมอยากจะสื่อถึงคนเขียนโดยตรงมากกว่า
การวิจารณ์ในเน็ต เป็นอะไรที่ต้องเสียสละมาก อย่างน้อยก็ 1. สายตาเรา 2. อาการปวดหัวเพิ่มขึ้น 3. อาจถูกด่ากลับ แต่สิ่งที่ได้กลับมานั้น คือความรู้ความสามารถในการอ่าน ภาษา การตีความเพื่อ วิเคราะห์ วิจารณ์ เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า ไม่มีอคติ
การวิจารณ์คือ การเรียนรู้และฝึกฝนอย่างหนึ่ง อย่ากลัวการวิจารณ์ให้คนอื่น อย่ากลัวว่าวิจารณ์ไปจะทำให้คนอื่นจับได้ว่าตัวเราโง่ วิจารณ์ไปผิดๆ เพราะถึงเราวิจารณ์ไปด้วยความเข้าใจผิดจริง ผู้รู้จริงย่อมออกมาบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ แล้วเราก็จะได้ความรู้ตรงนั้นไปด้วย และคราวหน้าความเข้าใจผิดซ้ำเดิมจะไม่เกิดขึ้นอีก
ตัวผมเองย่อมสนับสนุน การวิจารณ์สำหรับ คนวิจารณ์ครับ เพราะคนวิจารณ์เองก็ใจกว้าง ยอมรับคำวิจารณ์อยู่แล้ว ผิดเป็นครู และ อายครูไม่รู้วิชา
สุดท้าย ขออนุญาตแก้ คำผิด ของคุณอัญชานิดหนึ่งนะ (อย่าหาว่าอวดภูมิอะไรเลยนะ แต่มันอดไม่ได้ เพราะผมอยู่ชมรมร่วมด้วยช่วยกัน แก้คำผิดในถนนฯ ของ อาจารย์GTW เขาน่ะครับ)
--ใครวิจารณ์มาก็ฟังไว้เถิดค่ะ แต่ถ้าตะขวิดตะขวงใจที่จะยอมรับ
ขอแก้เป็น ตะขิดตะขวงใจ ครับ
--คุณยอมรับได้โดยดุษฎี
แก้เป็น โดยดุษณี ครับ ถ้าต้องการสื่อถึง ความนิ่งซึ่งแสดงถึงการยอมรับ ควรใช้คำนี้มากกว่า ดุษฎี
งานนี้จะโดนไหมเนี่ยเรา --.--!
จากคุณ :
ณัฐกร
- [
12 ม.ค. 48 18:31:55
]
|
|
|