มาแล้วครับตอน 3 เปิดตัวพวกกระผม 3 คน 3 สไตล์ แต่เจ้าชูมือไวเหมือนกัน โอ้ จะถูกตบวันละกี่รอบล่ะเนี่ย
คิดแล้วเสียวหน้าวูบๆ มาอ่านกันต่อดีกว่าครับว่าพวกผมมีนิสัยยังไง ไหนๆก็เปิดตัวนางเอก3 คนแล้ว
ปริยาพาน้องชายขึ้นไปหาคนรักบนห้องทำงานซึ่งเป็นบริษัทที่รับทำเกี่ยวกับโฆษณา และถ่ายแฟชั่น อาคารอยู่ถัดเข้าไปด้านในจากถนนไม่มาก เป็นตัวตึกที่สูงประมาณ 4 ชั้นกรุด้วยกระจกใสและป้ายชื่อที่ทำจากตัวอักษรป้ายพลาสติก สีสดใสเป็นป้ายนีออนไลท์ เขียนว่า RA แฟชั่น แอสเวอร์ทิสเม้นต์ ยามค่ำคืนจะมีแสงไฟกระพริบรอบๆเพื่อเพิ่มความสะดุดตา ด้านในประดับไปด้วยภาพของเหล่านายแบบและนางแบบที่เป็นพรีเซนต์เตอร์ให้กับสินค้า รังสรรค์ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้จัดการได้บอกเลขาไว้แล้วว่าถ้าเป็นปริยามาก็ให้เข้าพบได้เลย เพียงเธอก้าวไปถึงหน้าห้อง เลขาหน้าตาเรียบร้อยก็ลุกขึ้นมาถามทันที
"คุณปริยารึเปล่าคะ"
"ใช่ค่ะ"
"เชิญเลยค่ะ ผู้จัดการกำลังรออยู่"
บอกเสร็จก็ไม่วายสำรวจผู้ชายที่ยืนข้างๆ ทำไมผู้หญิงหน้าตาดีถึงมากับผู้ชายที่ท่าทางเหมือนพวกแนวนี้ได้นะ ดูไม่ค่อยเข้ากันเลย แต่ช่างเถอะเขาจะมาทำไมก็ไม่เกี่ยวกับเรานี่มีหน้าที่หาน้ำไปเสริฟก็พอ และปริยาก็รู้ว่าที่วันนี้ตนเองถูกมองเป็นตัวประหลาดก็เพราะเจ้าคนข้างกายนี่เอง
เธอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นชายหนุ่มคนรักกำลังนั่งทำคอมอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของเขา เป็นห้องที่ทาผนังสีครีมซึ่งเป็นสีโปรดที่รังสรรค์ชอบเป็นพิเศษ รวมถึงภาพแนวศิลปะยามเมื่อเขาได้ไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้ถูกซื้อกลับมาประดับที่นี่และที่บ้านของชายหนุ่ม ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่เมื่อภายในก็ทาสีผนังแบบเดียวกัน ร่างของรังสรรค์ยังคงสนใจกับรูปแบบที่พนักงานในบริษัทส่งกราฟฟิคดีไซน์โฆษณาที่ทำเสร็จแล้วส่งเข้ามาให้เขาดู โดยที่ชายหนุ่มไม่ได้สังเกตความผิดปกติอะไรที่มากับคนรักสาว มีเพียงแค่คำพูดทักทายแต่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่กำลังพิมพ์ข้อความอยู่
"ดีจ๊ะกิ๊ฟ หวัดดีก้อง รอเดี๋ยวนะขอพี่ส่งไฟล์กลับไปให้ลูกน้องแก้ไขก่อน "
แล้วชายหนุ่มก็คลิ๊กเมนู send เพื่อส่งกลับไปยังเจ้าของผลงาน จากนั้นก็หันกลับมาทางแฟนสาว ซึ่งนั่งรออยู่บนโซฟาสีกรมท่าในห้อง แต่พอเห็นหน้าคนข้างกายของปริยาก็ทำท่าแปลกใจ
"กิ๊ฟ พี่บอกให้พาก้องมาถ่ายแบบไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ไปพายิปปี้ที่ไหนมาเนี่ยพี่ไม่ได้เน้นรูปลักษณ์แนวนี้นะ"
"คือ
..พี่ปิงคะ จำตาก้องไม่ได้เหรอคะ"หญิงสาวถามคนรักอย่างตะกุกตะกัก
"ไหนก้อง"ถามและก็สบตากับหนุ่มผมยาวใส่แว่นตาดำ ในใจคิดว่า ต้องไม่ใช่ แต่ที่คนรักจะพามาเป็นน้องชายนี่นาถ้างั้นคนที่นั่งก็ต้องไม่ใช่ใครอื่นนอกจากน้องของเธอ
"กิ๊ฟ ทำไมก้องแต่งตัวแบบนี้ล่ะ"
ชายหนุ่มถามคนรักและเธอก็ตอบกลับมาอย่างเร็วพลันอาจจะเพราะความหมั่นไส้เขาก็ได้ที่ทำในสิ่งซึ่งเธอไม่ชอบ
"ก็นี่ล่ะค่ะพี่ปิง ตาก้องนึกบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ใส่ชุดนี้มาหาพี่ปิง"พี่สาวหันไปต่อว่าและทำหน้ามุ่ยใส่ชายหนุ่ม
รังสรรค์หันไปสบตากับน้องชายของปริยาก็เห็นเขาแอบทำหน้าอมยิ้ม เพียงเท่านี้ชายหนุ่มก็รู้แล้วว่าน้องชายของคนรักทำแบบนี้เพราะอะไร เขาเคยเห็นรูปลักษณ์แนวธรรมดาๆสบายๆของปริทัศน์แล้ว ว่าปกติจะไม่แต่งตัวแนวนี้ แต่ถ้ามาแบบแปลกๆล่ะก็นั่นย่อมแสดงว่าน้องของคนรักต้องไม่ยินดีกับอะไรซักอย่าง ไม่อย่างนั้นคงไม่มีอาการต่อต้าน
นิสัยของปริทัศน์ก็ไม่ได้ต่างจากเขาเลย คนที่เคยทำแบบนี้ย่อมเข้าใจกันดี รังสรรค์แอบอมยิ้มไม่ให้ปริยาเห็น ก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่ของปริทัศน์เหมือนว่าพี่เข้าใจว่าทำเพราะอะไร
และชายหนุ่มก็ยิ่งยินดีมากขึ้นที่พี่เขยในอนาคตของเขาไม่ได้ต่อว่าอะไรมากมายเหมือนพี่สาวที่นั่งหน้าง้ำแทบจะขย้ำตนเองมาตลอดทาง
"กิ๊ฟไปบังคับให้น้องมาถ่ายแบบเหรอ"เขาถามเธอ
"อะไรกันคะ กิ๊ฟเปล่านะพี่ปิง ก็ตาก้องบอกจะยอมถ่ายแบบให้ครั้งเดียว เมื่อเช้าพุดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอก้อง"เธอหันไปถามน้องชายตัวดี แต่แทนที่เขาจะตอบอย่างที่พุดกันไว้ ชายหนุ่มกลับไพล่ไปพูดอย่างอื่นแทน
"ผมพูดเมื่อไหร่ว่าผมอยากถ่ายน่ะ พี่กิ๊ฟนั่นล่ะ ทั้งหยิก ทั้งตี ทั้งฉุด ทั้งดึง จะลากผมมาถ่ายแบบที่บริษัทพี่ปิงให้ได้ พี่ปิงระวังนะครับ เวลาพี่กิ๊ฟปลุกผมน่ะ เนื้อแทบฉีก ผมว่าพี่ตัดสินใจใหม่ดีกว่านะครับเรื่องเจ้าสาวน่ะ"
พอจบคำพูดของน้องชาย ปริยารีบหันมาโวยวายพร้อมกับหยิกชายหนุ่มโทษฐานกะล่อน และแถมยังยุให้คนรักคิดเรื่องเธออีกรอบ มันน่าหาอะไรอุดปากนัก
"นี่ นายก้องทำไมพูดอย่างนี้เนี่ย โตขนาดนี้ละยังโกหกอีก"
"เห็นมั้ยครับพี่ปิง ดูสิครับ ขนาดอยู่ต่อหน้าพี่ยังทำร้ายผมขนาดนี้เลย คิดดูสิครับว่าดุขนาดไหน"
หนุ่มเจ้าของบริษัทยืนหัวเราะร่า และแกล้งทำเป็นเห็นด้วยกับน้องชายของเธอ
"อืมที่ก้องพูดเนี่ย พี่ก็ชักเริ่มเห็นด้วยละนะ"
"อะไรคะพี่ปิง เห็นด้วยเรื่องกิ๊ฟน่ะเหรอ ถ้าพี่ปิงเชื่อนายนี่ได้ออกลูกเป็นลิงแน่"หญิงสาวอยากจะซัดปากน้องชายจริงๆ หนอยมายุให้เธอมีปัญหากับแฟน
"ฮะ ฮะ ฮะ"
"หัวเราะทำไมนายก้อง"
"ก็ขำพี่กิ๊ฟน่ะ จะแช่งให้พี่ปิงออกลูกเป็นลิง แล้วลูกใครล่ะ แช่งลูกตัวเองก็ได้ด้วย อย่างนี้ไม่ให้ขำได้ยังไงครับ"ไม่พุดเปล่าดันหงายหลังลงไปนอนหัวเราะที่โซฟาอีกต่างหาก และรังสรรค์ก็มองหน้าคนรัก
"อะไรอีกล่ะคะพี่ปิง กิ๊ฟไม่ได้แช่งลูกพี่ซะหน่อย"
"ก็เมื่อกี้ไงกิ๊ฟบอกว่าถ้าเชื่อก้อง ขอให้ออกลูกเป็นลิง และยังบอกไม่ได้พูดอีก"ชายหนุ่มนำคำพูดของเธอมาย้อนอีกครั้ง และพี่สาวก็หยิบหมอนอิงใกล้มือฟาดใส่น้องชายอีกครั้ง
"นายก้อง นี่ชั้นไม่น่าพานายมาที่นี่เลย เจ้าบ่างช่างยุ ไม่อยากถ่ายก็ไม่ต้องถ่าย พี่ปิงก็เหมือนกัน จะเชื่ออย่างที่น้องชายกิ๊ฟบอกก็ตามใจ จะกลับไปคิดเรื่องงานแต่งอีกครั้งก็ได้ ดี กิ๊ฟจะได้ไปหาแฟนใหม่ซะเลย"
เอ่ยจบก็สะพายกระเป๋าเตรียมตัวเดินออกจากห้อง คราวนี้รังสรรค์ตาโตแทน เขารีบเดินไปจับมือของคนรักทันที ตายๆ ไม่น่าไปเชื่อเจ้าก้องเลย ดูสิเจ้าสาวงอนซะแล้ว แค่แหย่เล่นเฉยๆ ดันจะทำจริงๆ
"กิ๊ฟ พี่ล้อเล่นน่ะ ไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้นจริงๆซักหน่อย"
"กิ๊ฟโกรธพี่ปิงแล้ว จ้างให้ก็ไม่ยอมดีด้วยหรอก"
เธอบอกกับเขาและทำท่าสะบัดหน้าไปทางอื่น พ่อหนุ่มรังสรรค์หันมามองน้องชายของปริยา ก็เห็นคนก่อเรื่องทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนบอกว่า ช่วยไม่ได้นะพี่อยากทำให้งอนเอง ก็ต้องง้อเอง
"กิ๊ฟจ๋า อย่าโกรธพี่นะ พี่ไม่น่าเชื่อนายก้องเลย ดุสิกิ๊ฟเลยโกรธพี่ ถ้ากิ๊ฟจะโมโหก็ต้องเป็นนายก้องต่างหาก นะ คนดี เลิกงอนนะ"
"ไม่รู้ไม่ชี้ กิ๊ฟโกรธจริงไม่ได้โกรธเล่น"หญิงสาวก็ยังยืนยันเหมือนเดิม
และคนที่เป็นต้นเหตุก็หัวเราะขำ พร้อมกับลุกขึ้นบอกกับพี่เขยในอนาคต
"ง้อกันไปก่อนนะพี่ เดี๋ยวผมจะออกไปเดินเล่นข้างนอก ไม่อยากเห็นภาพคนเสียฟอร์มน่ะ"พูดจบก็รีบก้าวออกไปจากห้องทันทีก่อนที่พี่เขยในอนาคตจะตามมาเตะ
พอเห็นเลขาหน้าห้องทำท่าแปลกใจที่เห็นเขาออกมาคนเดียว ชายหนุ่มก็ยกนิ้วขึ้นมาตรงริมฝีปากของตัวเองและบอกอย่างเบาๆ
"จุ๊ จุ๊ จุ๊ อย่าเพิ่งเข้าไปตอนนี้นะครับ เพราะพี่ปิงกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ ถ้าไม่อยากเป็นตากุ้งยิง"เพียงได้ฟังคุณเลขาก็ยืนตาค้าง คงจะนึกจินตนาการไปถึงไหนๆ
"ต๊าย กลางวันแสกๆ ผู้จัดการก็ไม่เว้นเหรอเนี่ย"
นี่ถ้าหนุ่มในห้องรู้ว่าเจ้าน้องชายคนรักสร้างภาพพจน์ให้เขาเปลี่ยนไปจะทำหน้ายังไงนะ
++++++++++++++++++
จากคุณ :
tonkho-w
- [
10 ม.ค. 48 09:46:05
]