หลังจากเหตุการณ์ธรณีพิบัติ คลื่นยักษ์ถล่มที่เกาะพีพี จนกระทั่งทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย ผู้คนปลอดภัย ทางดิฉันได้สืบเสาะตามหา แมวตัวอ้วน ชื่อโอเล่ โดยเริ่มจากโทรศัพท์สอบถามไปตามหมู่เพื่อน ๆ ในกลุ่มคนพีพีด้วยกัน และเริ่มโพสข้อความที่เวบไซต์ต่าง ๆ เช่น เวบจังหวัดกระบี่, เวบพันทิป
หลังจากที่โพสเสร็จแล้ว ก็มีคนอ่านหนังสือพิมพ์เจอ แล้วบอกว่านายโรเจอร์ โลหะนันท์ นายกสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยและทีมงาน ได้ลงพื้นที่ (เกาะพีพี) เพื่อไปเก็บแมว สุนัข และสัตว์อื่น ๆ ที่ติดค้างอยู่บนเกาะ จึงได้ติดตาม สอบถาม จนได้เบอร์โทรมือถือมา 3 เบอร์ จึงได้โทรไป นายโรเจอร์ เป็นผู้รับสายเอง ในครั้งแรก (8 ม.ค. 48) แจ้งว่ากำลังดำเนินการ จึงไม่สามารถให้ความกระจ่างได้มากนัก จะให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับโดยจะบันทึกชื่อ และเบอร์ที่เราโทรเข้าไปไว้ วันต่อมา (9 ม.ค.48) โทรไปอีก มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงรับสาย ได้ความเพิ่มว่า มีแมวลักษณะคล้ายโอเล่ จึงได้ขอไปยังสถานที่เก็บสัตว์ เพื่อจะรับคืนแต่ได้รับคำตอบว่า ไม่สะดวก ในการให้ไปดู ให้ใจเย็น ๆ รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
แล้วก็ไม่เคยได้รับการติดต่อกลับมาเลย วันนี้ 10 ม.ค. 48 ได้ดูข่าวจากโทรทัศน์ ว่านายโรเจอร์ นำแมวทั้งหมด 110 ตัว ไปเก็บไว้ที่บ้านอุ่นรักในกรุงเทพฯ
มีความข้องใจ ที่จะเรียนถามดังต่อไปนี้
1. ทำไมถึงบ่ายเบี่ยงข้อมูล ไม่แจ้งสถานที่เก็บสัตว์ที่แน่นอนให้เจ้าของรับรู้ เพื่อเขาจะได้ไปตรวจสอบได้ว่าใช่ของตนหรือไม่ ทั้ง ๆ ที่มีการติดตาม สอบถาม รายละเอียด ความเป็นไป อย่างต่อเนื่อง
2. ทำไมไม่ให้เจ้าของสัตว์ไปดูก่อนที่จะนำไปเก็บไว้ที่กรุงเทพฯ เพราะทางเจ้าของได้พยายามติดต่อขอดู (แค่ดู, แค่อยากทราบว่าใช่แมวของตนหรือไม่ เท่านั้นเอง)
3. ทำไม มีข้อมูลให้สื่อ ทั้งโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ แต่กับเจ้าของสัตว์ ถูกปิดบังข้อมูล ไม่ยอมแจ้งข้อมูลที่เป็นจริงใด ๆ ทั้งสิ้น (กว่าจะทราบอีกครั้งเมื่อข่าวโทรทัศน์ออกแล้ว)
4. การนำสัตว์ไปเก็บที่กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายย่อมสูงกว่าการเรียกเจ้าของมารับในพื้นที่ ที่เกิดเหตุ แล้วถ้าหากว่าในสัตว์จำนวนหนึ่งร้อยกว่าตัวที่อยู่กรุงเทพฯ เวลานี้ มีแมวของเรา และเราต้องการเลี้ยงดูกันต่อไป ทางสมาคมจะนำมาคืนให้เราทันทีไหม ต้องรออีกกี่วัน กี่เดือน
หรือคำตอบเดิม.. ที่แสนไพเราะว่า รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับไปนะครับ
หรือจะให้เราจ่ายค่าบำรุงสมาคมฯ ก่อนจึงจะได้รับแมวของเรากลับคืน
การกระทำนี้ ไม่เข้าใจว่า ทางสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย จะได้คำนึงถึงความรู้สึก และความเดือดร้อน ของเจ้าของสัตว์ ที่ต้องพลัดพรากจากสัตว์ที่ตนรัก สักเพียงใด
แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 48 18:53:46
จากคุณ :
สีน้ำฟ้า
- [
10 ม.ค. 48 18:49:21
]