แม่ดวงที่แสนดี บินกลับไปแล้ว
ฝัดเดินหน้าเศร้า ๆ ขึ้นรถกลับบ้านมาพร้อม จูเลีย เพื่อนข้างบ้านที่เป็นทั้งเพื่อนซี้ปึกของแม่คนเดียวในต่างแดนนี้
จู๋เลียทำลายความเงียบว่า
"คิดถึงแม่หรือ"
"ครับ" ฝัดตอบ
"นี่แม่เขาดีใจนะ ที่ได้หลาน มันก็ธรรมดาอย่างนี้แหละ อย่าไปอิจฉาเลย
ยังไง ๆ หลานสาวแม่ก็ลูกสาวคุณไม่ใช่เหรอ "
จูเลียหยุดกลืนน้ำลาย ก่อนที่จะพูดเจี้อยแจ้วต่อไปว่า "ฉันก็เป็นนะ ไอ้ลูกน่ะเราก็รัก
แต่ว่าพอลูกมีหลานคนแรกให้เท่านั้น ความรู้สึกของคนเป็นย่ายายเนี่ย
มันบอกไม่ถูกนะ ว่าความรักทั้งหมดเอามากองให้หลานหมด
เนี่ยลูกฉันยังต่อว่าฉันว่ารักลูกเธอมากกว่าเธอเสียอีก
ฉันเข้าใจน่ะว่า หล่อนล้อเล่น
แต่ว่าในคำพูดนั้น มันเหมือนกับอิจฉาน่ะ คุณว่าไหม?" จูเลียเล่าเพลิน ๆ ก็เลี้ยวปั๋บเป็นคำถามถามฝัดทันที
"ครับ นี่ผมก็อิจฉาเหมือนกันแหละ"ฝัดรับสารภาพเอาดื้อ ๆ
"อ้าว นี่ยังไม่ทันได้เห็นลูกเลย เริ่มอิจฉาแล้วหรือ?" จูเลียล้อเลียน พลางหัวเราะ
"ครับ ก็ผมเองน้อยใจนะ ใคร ๆ ก็รู้กันหมด มีแต่ผมคนเดียวเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่องกับใครเขาเลย
จนในวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ ถึงได้รับรู้อย่างที่แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วด้วย" ฝัดพ่นความในใจออกมา
"อืม เรื่องนี้ฉันก็รับรู้นะ ฉันยังบอกแม่คุณว่า มันพิกล น่าจะเล่าให้คุณรับรู้บ้างแต่ไอ้ที่ว่าแก้ไขไม่ได้นั่นน่ะ ไม่จริงหรอก" จูเลียต่อ
"ครับนั่นสิ " ฝัดรับคำ
"ฉันว่านะว่า มันเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า
คือว่า แฟนสาวของคุณเนี่ย ติดต่อกับดวงตลอด
แต่เธอบอกดวงว่า ไม่ให้บอกคุณ
เพราะว่าเธอไม่อยากให้คุณพะว้าพะวง อยากให้คุณตั้งใจเรียน ตั้งใจทำงาน เธอเลี้ยงลูกเองได้" จูเลียไกล่เกลี่ย
"นั่นไง ๆ เธอคิดจะฮุบลูกผมไว้คนเดียว " ฝัดร้องขึ้นเหมือนเด็กเกเร นั่นเพราะแม่ดวงกรอกหูเขาไว้ก่อนไปนั่นเอง
"เฮ้ย เอาอะไรมาพูด ไม่จริงหรอก" จูเลียเถียง
"จริงสิ แม่พูดเป็นนัย ๆ ก่อนไป" ฝัดโต้ตอบ
"เอางี้ แม่คุณน่ะ ขี้เล่นจะตาย เธอแหย่คุณเล่นแน่ ๆ เชื่อสิ
หรือไม่อีกที ถ้าแม่คุณพูดจริง
แสดงว่า แม่แฟนสาวคุณเนี่ยโดนฮอร์โมนเล่นงานแล้ว
ผู้หญิงหลังออกลูกเนี่ย บางคนเกิดอาการลืมเป็นพัก ๆ อาจมีการน้อยใจชั่ววูบที่สามีไมได้อยู่เคียงข้าง หรืออาจจะยังรับสถานภาพใหม่ไม่ได้
เรื่องพวกนี้นะ อยากให้คุณเข้าใจเธอสักหน่อย ว่างเมื่อไหร่ก็บินไปดูลูก ไปเอาใจเธอ ขี้คร้านจะดีขึ้น" จูเลียให้เหตุผลอย่างคนที่ผ่านโลกมาก่อน
รถมาจอดหน้าตึก เขาและจูเลียลงจากรถคันที่เช่ามา
เขาจ่ายเงินตามมิเตอร์ และ เดินขึ้นตึกไปพร้อมกับจูเลีย ต่างเดินตามกันไปอย่างเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกสักคำเดียว
ไขกุญแจเข้าบ้านมา มันเงียบ วังเวง ดีจัง ไม่มีใครเลย เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก
ความสงสารตัวเอง เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
เขาล้มตัวลงนอนยาวตามโซฟา ที่เป็นทั้งที่นั่งเล่น และ ที่นอนของเขา
ฝัดคิดแค้นคุณแจ๋วในใจ เขาควรทำอย่างไรดี?
เขาคิด ๆ ๆ อยู่พักหนึ่งก็ดีดตัวขึ้น หันไปคว้าเอาโทรศัพท์ หยิบเอาเบอร์โทรศัพท์ของออฟฟิศที่เขาซื้อตั๋วของแม่มาดูในมือ ชั่งใจอยู่สักครู่ เขาก็กดตัวเลขลงไปตามนั้น
"ทุย(ชื่อบริษัทท่องเที่ยว) สมิท รับสายค่ะ"
"บรรลือศักดิ์(นามสกุลนายฝัด) ครับ"
"มีอะไรที่เราพอช่วยได้ไหมคะ"
"ครับ อยากถามว่า คุณมีตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทยเที่ยวหน้าเมื่อไหร่ครับ พอมีที่ว่างไหมครับ" ฝัดถาม
"อ๋อ มีค่ะเที่ยวบินต่อไปอีกสองวัน แต่ตอนนี้ยังมีคนขึ้นชื่อจองอยู่สองคน" ทางโน้นตอบมา
"เอางี้ครับ ผมจองไว้ด้วยดีกว่า ถ้ายังไงก็ช่วยโทรมาบอกยืนยันอีกครั้ง จะได้ไหมครับ ถ้าเผื่อมีคนสละสิทธิ์"
"อ๋อ ได้ค่ะ เย็นนี้คุณช่วยโทรมาอีกทีได้ไหม ดิฉันจะขึ้นชื่อไว้ก่อนแล้วกัน" หล่อนบอก
"ได้ครับ ผมจะโทรไปอีกที ขอบคุณมาก" ฝัดบอกพร้อมกับวางสายลง
เอ นี่เขาทำอะไรลงไปกันนี่ อารมณ์ชั่ววูบหรือเปล่า ? ไม่นะ เขาอยากไปถึงโน่นจัดการอะไรที่มันคาใจให้เร็วที่สุด งานการล่ะ นั่นสิ เขาไม่สนแล้ว
อืม ไม่ได้สิ เราจะทำอย่างนี้ไม่ได้ ทำไงดีหว่า?
เขาลุกขึ้น ปัดเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง เปิดประตูบ้านออกไป ตั้งใจว่า จะไปทำงานดีกว่า ทั้ง ๆ ที่เขาลาแล้วทั้งวัน
อยู่คนเดียวก็ปวดใจ
เขาเดินมองโน่นมองนี่ไปอย่างใจลอย หัวเขาไม่ได้ว่างอย่างท่าที มันคิด ๆ ๆ ว่าจะทำอย่างไรดี ถึงจะลงตัวได้อย่างนิ่มนวลระหว่างเขากับคุณแจ๋ว
เด็ก ๆ เล่นกันให้เจี๊ยวจ๊าวไปหมดที่สนามเด็กเล่น วันนี้อากาศดี
ละแวกที่เขาอยู่มีแต่บ้านคน รถราไม่ค่อยมีวิ่งเท่าไหร่นัก มันเป็นโซนที่บ้านเรือนคนตั้งอยู่มาก
ข้าง ๆ ทางจะมีป้ายเตือนให้ขับรถอย่างช้า ๆ อยู่ตลอด
ถนนสายนี้
เด็ก ๆ ก็เยอะ พ่อแม่ฝรั่งเขาเลี้ยงลูกแบบให้ช่วยเหลือตัวเอง
เด็ก ๆ ละแวกนี้ ก็ระวังตัวเองได้ดี ยังไม่เคยปรากฏว่ามีรถชนเด็กสักราย
เขาเดินทอดน่องไปจนสุดหัวถนนเมนที่รถวิ่ง
จะมีแยกเล็ก ๆ ที่เป็นถนนทอดไปด้านในที่มีบ้านคนตั้งอยู่อีก
จากถนนเล็กแยกเข้าไปนี้ จะเดินไปทะลุกันได้ทั้งหมด และจะมาโผล่ออกอีกทีกับถนนใหญ่เช่นกันเหมือนรูปตัวยู
ตรงหัวถนนที่ฝัดเดินไปนั่นเอง บ้านสุดท้ายจะมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นบังระดับสายตา
เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร กำลังจะก้าวเท้าผ่านซอยเล็กนั่นไป ไม่ทันได้คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เท้าก้าวเหยียบเข้ามาในถนนซอยนั้นได้แค่สองก้าว ทันใดเขาก็ล้มทั้งยืน
นอนร้องโอย ๆ อยู่กลางถนนซอยนั้น
จะไม่ให้ร้องได้ยังไง ในเมื่อเขาถูกเด็ก ๆ ที่เล่นกันในซอยนั่นซิ่งใส่ด้วย โทติเนท (รถถีบที่มีสองล้อเล็ก ๆ ใช้มือจับ และเท้าถีบพื้นให้แล่นไป)
ความเร็วของโทติเนท ที่เด็ก ๆ หลาย ๆ คนกำลังแข่งกันเข้าเส้นชัยนั้นมีอยู่สี่ห้าคัน
ถึงคนเล่นจะเป็นเด็กก็ตาม แต่ด้วยความเร็วที่พุ่งเข้ามาชนนั้น
มันมีแรงกระแทกที่หนักพอสมควรทีเดียว
เด็กคนที่ชนนั้น ล้มก้นกระแทกไม่เป็นท่า เด็กที่ร่วมแข่งขันไปรุมล้อมบ้าง ซิ่งกลับบ้านบ้าง
ฝัดพูดอะไรไม่ออก ได้แต่นอนคลำแข้งขาของเขาอยู่อย่างนั้น
บ้านตรงหัวมุมที่มีต้นไม้ใหญ่นั้น ออกมาดูกันทั้งผัวเมีย
ลูกชายของเขานั่นเองที่ชนกับฝัด
แม่เด็กไปดูลูก พ่อเด็กเดินตรงมาถามอาการเขา
คนเป็นพ่อเอารถออก เขาสองคนผัวเมียขอโทษขอโพยฝัด และ ช่วยกันประคองพาขึ้นรถส่งโรงพยาบาล
ยังดีที่ลูกชายเขานั้นไม่ได้รับอันตรายอย่างไร นอกจากเป็นบาดแผลเปิดเล็กน้อย ที่ใต้ฝ่ามือและขีดข่วนตามแข้งขา
โชคยังเป็นของฝัดอยู่ที่ หมอเอ็กเรย์ออกมาว่า เขาแค่กระดูกข้อเท้าร้าวเท่านั้นเอง หมอใส่เฝือกให้
สองคนผัวเมียนั้นนั่งรอ และ พาเขากลับไปส่งบ้านในที่สุด
ฝัดได้รับการประคองกลับมาส่งบ้าน จูเลียมองเด็ก ๆ เล่นอยู่ที่ระเบียง หันมาเห็นเข้าก็ร้องโวยวายว่า "อะไร ๆ เป็นอะไรไป"
"อุบัติเหตุ" คนที่เป็นพ่อของเด็กที่ชนตอบแทน พร้อมกับที่แม่เด็กไขกุญแจให้ฝัดเข้าห้องได้
แม่เด็กยื่นกุญแจบ้านส่งคืนให้ฝัด สองคนผัวเมียประคองฝัดเข้าไปนั่งตรงโซฟา จูเลียตามเข้าไปด้วย ก็กระวีกระวาดเอาโซฟาเล็กสี่เหลี่ยม มารองวางขาให้
"เราขอโทษคุณมากเหลือเกิน ที่ลูกเราทำให้คุณต้องบาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาลไม่ต้องห่วงครับ และมีอะไรที่จะให้ผมทำให้บอกกันได้เลยนะ" คนเป็นพ่อเด็กบอกกับฝัด
"ครับ แค่นี้ก็ขอบคุณมากแล้ว ลูกคุณคงไม่ได้เจตนาด้วย"ฝัดตอบ
"ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยดูแลให้เอง ห้องเราอยู่ติดกัน เราสนิทกันดี" จูเลียเจ้ากี้เจ้าการรับอาสา
"ครับ งั้นก็ขอบคุณมาก ผมไปล่ะ ไว้พรุ่งนี้ผมจะแวะมาอีกที" คนเป็นพ่อแม่เด็กขอตัวกลับ
สองคนผัวเมียออกไปแล้ว จูเลียถามเขาว่า เอาน้ำชาไหม ?กินข้าวหรือยัง ? จะเปลี่ยนเสื้อไหม?
ฝัดตื้นตันใจ หล่อนน่ารัก หล่อนทำหน้าที่แม่แทนแม่เขาได้อย่างไม่ขัดเขิน
ฝัดเริ่มอารมณ์ดีขึ้น ทั้ง ๆ ที่เจ็บตัวปานนั้น เขาบอกจูเลียว่า "เอางี้ ถ้าคุณอยากช่วยก็ช่วยหยิบโทรศัพท์ตรงนั้นให้ผมหน่อยได้ไหมครับ" ฝัดบอก จูเลียกระวีกระวาดไปหยิบให้
เขาบอกจูเลียว่า ให้จูเลียช่วยบอกกับแฟนสาวเขาหน่อยว่า เขาบาดเจ็บหนัก เพราะโดนรถชน เท่านี้จะได้ไหม?
จูเลียยิ้มอย่างร่าเริงเหมือนกลับเป็นเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจอีกครั้งหนึ่ง หล่อนพยักหน้า
ฝัดกดเบอร์โทรศัพท์บ้านคุณแจ๋ว ยื่นโทรศัพท์ให้จูเลียทันทีที่ฟังแล้วว่า สัญญาณสายว่าง
"ฮัลโล" มีเสียงจากปลายสายที่ฝัดได้ยินว่า เป็นเสียงครูปรานี จูเลียตอบไปเป็นภาษาของหล่อน
สักครู่ได้ยินเสียงมาว่า "โมเม้น พรีส" พร้อมกับเสียงครูปรานีโวยวาย ๆ เรียกคุณแจ๋วให้ลั่นไป
เสียงเด็กอ่อน ๆ ร้องดังใกล้มา
จูเลียจับโทรศัพท์มาแนบหูฝัด เขายิ้ม รู้สึกเหมือนได้ยินเหมือนเสียงสวรรค์ จากเสียงร้องแว้ ๆ อย่างโมโหนั้น
โอ๋ ลูกพ่อ เขาน้ำตาคลอด้วยความปลื้มปิติ
"ฮัลโล" เสียงคุณแจ๋วดังมาตามสาย ฝัดปัดโทรศัพท์ออกจากหู จูเลียรับมาทันควันและกรอกเสียงลงไป
หล่อนโต้ตอบกับคุณแจ๋วนานพอดู เสียงที่เธอตอบแว่ว ๆ มา ดูเธอตกอกตกใจมาก
อืม แค่นี้เขาก็พอใจแล้วคิดอีกแล้ว่า นั่นแสดงว่า เธอยังสนใจเขาอยู่เหมือนกัน
จูเลียวางหูโทรศัพท์ หันมาบอกฝัดว่า "ไงสบายใจหรือยัง เนี่ยเธอทุรนทุรายมากเลยนะ" จูเลียบอกอีกครั้งย้ำให้เขาสบายใจ
"ขอบคุณมากครับจูเลีย ที่ช่วยผม แค่ได้ยินเสียงลูกร้องผมก็ดีใจแล้วล่ะ ขอบคุณอีกครั้งครับ" ฝัดบอกอย่างตื้นตันใจ เสียงร้องของลูกทำให้เขาดีใจ แกมกระวนกระวาย
ปลุกความอยากรู้อยากเห็นในตัวเขา ให้มีชีวิตชีวาได้อย่างประหลาด
เขาอยากเห็นหน้าลูก ตัวจะเล็กเท่าไหนหนอ? เหมือนใครหนอ ?
แค่การร้องแว๊ด ๆ ของเจ้าตัวเล็กนั้น คงได้มาจากแม่เธอนั่นแหละ จากเขาคงไม่ใช่หรอก ฝัดคิดไปในอากาศตามเรื่องตามราว
แต่ถึงอย่างไร เขาก็ไม่ลืมโทรบอกระงับการสั่งจองตั๋ว ดีเหมือนกัน เขาอยากจะดูใจคน
กระวนกระวายมากไปนัก กระตือรือร้นมากไปนักมันไม่ดี หล่อนจะได้ใจมากไป วัดใจกันดีกว่า
แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 48 23:47:49
แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 48 17:28:35
จากคุณ :
NATTI นัทตี้
- [
11 ม.ค. 48 17:18:45
]