CafeTech-ExchangePantip MarketChatTrendyMobilePantown


    ฟ้าหลังฝน ไม่เห็นสดใสเลย (เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ "หมา" ตัวหนึ่ง"

    ฟ้าหลังฝน ไม่เห็นสดใสเลย

    บทความทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ “หมา” ตัวหนึ่ง

    แม้จะหลายสัปดาห์แล้วกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์ “สึมามิ” ถล่ม 6 จังหวัดภาคใต้ ความสลดหดหู่ในใจก็ยังไม่จางหาย จนตัวเองไม่อยากจะดูโทรทัศน์ แต่เช้าวันนี้ก่อนขึ้นรถไปทำงานก็อดไม่ได้ที่จะแวะดูหน้าหนังสือพิมพ์บนแผงหนังสือ แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้เมื่อเห็นภาพทีมกู้ภัยนำเจ้าสุนัข 2-3 ตัวนั่งหน้าแฉล้มอยู่บนเรือ มันรอดตายและติดเกาะอยู่ จนมีคนไปช่วย แม้จะมองผ่านๆ แต่ก็ดูว่าพวกมันไม่ได้อิดโรยเท่าไหร่นัก แต่ที่คิดต่อไปคือว่า “แล้วมันจะไปอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร” ไม่อยากจะคิดแล้ว คนไทยใจดีคงมีใครอุปการะพวกมัน
    เห็นเจ้าพวกนี้แล้ว ก็ทำให้คิดย้อนกลับไปถึงเรื่องของ “พี่ทอง” ที่แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่เรื่องของพี่ทองก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวของฉันมาตลอด เรื่องของพี่ทอง เคยเล่าให้เพื่อนๆ ที่โต๊ะสินธรฟังไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่เรื่องมันไม่ได้จบเพียงแค่นั้น ครั้งแรกที่มาเล่าพี่ทองเป็นหมาที่น่าสงสารมากจนเพื่อนๆ โต๊ะห้องสมุดพาบทความบทนี้ไปโพทยังโต๊ะจตุจักร ในวันนั้นที่เขียนขึ้นเพียงเพื่อต้องการบอกเล่า แต่สิ่งที่ได้รับเหนือความคาดหมาย มีเพื่อนๆ ที่รักสุนัขและสัตว์เลี้ยงเข้ามาอ่านและสอบถามกันมากมาย บางคนถามว่าเรื่องนี้จริงหรือ มันจึงกลายเป็นมิตรภาพแรกใน Pantip
    พี่ทอง เป็นสุนัขไม่มีเจ้าของ มันอาศัยอยู่ที่บ้านพักเจ้าหน้าที่เรือนจำคลองเปรม แต่ก็คงมีคนใจดีคอยให้ข้าวให้น้ำ เพราะพี่ทองในครั้งแรกที่เจอหน้ากัน รูปร่างล่ำสัน ขนสีน้ำตาลอ่อนสวยเป็นเงา หน้าตาหล่อดี (ในความคิดของเรานะ) และนั่นเป็นที่มาของชื่อ “พี่ทอง” แม้ตาทั้งสองข้างจะบอด ซึ่งหากมันตาบอดมาตั้งแต่เกิดเรื่องนี้คงไม่ถูกถ่ายทอดมาให้กับเพื่อนๆ ได้อ่าน
    วันนั้นพี่ที่ทำงาน และอาศัยอยู่ที่บ้านพักนั้นเล่าให้ฟังพร้อมทั้งขอคำแนะนำว่า มีหมาถูกคนยิงตาบอดทั้งสองข้าง ด้วยสาเหตุที่มันชอบไปนอนบนรถของคนที่บ้านพักนั่นแหล่ะ เข้าใจนะว่าถ้าคนรักรถ และอาจจะบอกว่าสมควร แต่ชีวิตหนึ่งถึงจะเป็นหมาไม่มีเจ้าของ แต่มันก็มีชีวิต มีหัวใจ ที่สำคัญมันมีความรู้สึก สภาพที่ไปพบมันในวันนั้น มันแอบไปนอนใต้ถุน ตาทั้งสองข้างน้ำหนองไหลเยิ้ม มันคงเจ็บแต่ไม่ได้ร้องคร่ำครวญอะไร มันยังดูแข็งแรง และกับเราที่เพิ่งเจอกัน มันนอบน้อมเหมือนจะรู้ว่าพวกเรามาช่วยนะ
    เช็คไปที่คลีนิค เพราะคงพาไปโรงพยาบาลรัฐบาลไม่ได้ เนื่องจากทุกคนต้องทำงาน ราคาค่าผ่าตัดตาทั้งสองข้างคือ 2,600 บาท พี่ที่ทำงานบอกว่า พี่คงจ่ายได้แค่บางส่วนเพราะตอนนั้นเป็นช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนโดนลดเงินเดือนในขณะที่ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม ตอนนั้นคิด คิด ทำไงดี ตัวเองก็ไม่มีเงิน ก็ช่วยได้นิดหน่อยเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่พอค่าผ่าตัด โทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนรุ่นน้องฟัง คือแก๊งคนรักหมาเหมือนกัน โชคดีแฟนน้องเขาช่วยมาประกอบกับเรี่ยไรกันที่บริษัทฯ ได้มาประมาณ 3,000 บาท คุณหมอบอกว่าต้องควักตาออกอย่างเดียว เพราะมันเน่าแล้ว และดูเหมือนว่าแก้วตาคงถูกทำลายไปแล้วด้วย ลักษณะเหมือนกับว่าถูกจับมาจ่อยิง เราถามคุณหมอกลับไปว่า มันเจ็บหรือเปล่า หมอบอกว่าก็ต้องเจ็บสิ
    ในที่สุดพี่ทองก็ได้ผ่าตัด คุณหมอบอกว่า มันน่ารักมาก ไม่ดุ เชื่อฟังทุกอย่าง จะจับจะทำอะไรมันก็ยอมมันรู้ว่าทุกคนช่วยมัน ส่วนเงินที่เหลือจากค่ารักษา ก็ให้พี่เขาไว้เป็นค่าอาหาร และพี่เขาก็ยังอาสาพามันไปล้างแผล รวมทั้งรับให้มันมานอนที่บริเวณบ้านพักได้ (จะมีที่นิดหน่อยหน้าบ้าน มีรั้วด้วย) เรื่องน่าจะจบอย่างแฮปปี้แอนดิ้ง เหมือนกับที่เคยเขียนไว้ใน Pantip
    แต่สิ่งที่เราได้ข่าวหลังจากนั้น 2 สัปดาห์ คือ “มันหายไป” หายไปแบบไร้ร่องรอย พี่เขาตามหาขนาดว่าไปถามวินมอเตอร์ไซด์ว่าเห็นมันหรือเปล่า หรือชนมัน เพราะมันก็ออกไปถ่าย ไปเดินเล่นได้ ตามหาจนทั่ว หลายวันแล้ว ไม่เจอแม้ร่องรอย
    ฟ้าหลังฝนมันไม่ได้สดใสเหมือนที่คิดเลยนะ นานาจิตตังจะถกกัน พี่เขาคิดว่า คนที่ทำมันคงหมั่นไส้ เลยจับไปทิ้งซะที่ไหน หรือทำร้ายมัน ส่วนตัวเองก็เข้าข้างว่า ใครเดินมาเห็นสงสารอาจจะเอาไปเลี้ยง แต่ลึกๆ ในใจ แม้พี่ทองจะหล่อบาดใจ แต่ก็ไม่ใช่ลูกหมาที่น่ารัก ใสซื่อ ใครจะอยากได้ไปเป็นภาระ
    บทความของพี่ทองในวันนี้ได้ถ่ายทอดออกมาอย่างสมบูรณ์สักที จบสมบูรณ์แบบหนังชีวิต หรือทิ้งปมไว้ให้แก้กันหนอ และจวบจนทุกวันนี้ ตัวเองก็เชื่อว่าพี่ทองคงไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว ก็ดี มันจะได้ไม่ต้องผจญกับโลกมืด มันคงทรมาน แต่ยอมรับว่า “หมา” มันปรับตัวเก่ง มันยอมรับสภาพตาบอดของมัน
    ของใครใครก็รัก รถฉันฉันก็รัก แต่ก็คงไม่คิดทำเรื่องแบบนี้ เพราะยังเชื่อในเวรกรรม ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น ส่วนตัวเองไม่ได้คิดว่าเป็นคนดี แต่บังเอิญพี่ที่มาขอความช่วยเหลือรวมทั้งเพื่อนๆ ที่ช่วยบริจาคเงินในวันนั้นมีอุดมการณ์เดียวกัน คือ สงสาร และเป็นเรื่องที่ทำเกินกว่าเหตุ ชีวิตของพี่ทอง ตัวฉันคงไม่กล้าไปเปรียบกับราคารถของคุณ แต่สิ่งหนึ่งที่มันทำให้เราประทับใจในครั้งแรกที่เจอกัน มันไม่เห่า ไม่ขู่ มันรู้ตัวเสมอว่ามันเป็นอะไร ใครหรือคนไหนต่างหากที่มาช่วยเหลือมัน
    วันนี้ฉันเขียนเรื่องนี้อีกครั้ง ยอมรับขี้แย น้ำตาพาลจะไหล แต่ลึกๆ ในใจก็อวยพรให้พี่ทองไปสู่สุขติ ชาติหน้าอย่าเกิดมาเป็นหมาเลยนะ “พี่ทอง”

    จากคุณ : ชิโร่หมูหยอง - [ 12 ม.ค. 48 11:35:46 A:203.118.80.150 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป