แตงกวาตื่นเถอะ แอมเขย่าตัวแตงกวาให้ตื่น
อะไร ยังเช้าอยู่เลย ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ หญิงสาวพูดด้วยความเคยชินก่อนจะซุกหน้าลงกับเบาะที่นั่งเพื่อลบแสงแดดที่ส่องเข้ามา
แตงกวาไม่ได้อยู่ที่บ้านนะ ตื่นเร็วเขาจะลงไปกินข้าวกันแล้วนะ ไม่หิวเหรอ แตงกวารู้สึกตัวทันที พลางหันมายิ้มให้กับคนที่ปลุก
แหะ แหะ...ขอโทษทีนึกว่าอยู่ที่บ้าน คนฟังได้แต่ส่ายศีรษะ ก่อนจะชวนกันลงจากรถเพื่อไปทานอาหารเช้าก่อนที่จะออกเดินทางต่อ
หลังจากที่ทุกคนรับประทานอาหารพร้อมกับจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็พากันขึ้นรถ และเมื่อขึ้นรถกันหมดแล้วกิจกรรมต่างๆบนรถก็เกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาเที่ยงทุกคนก็ลงจากรถไปทานอาหารอย่างเร่งรีบเล็กน้อยเนื่องจากเลยกำหนดการที่วางกันเอาไว้แล้ว และในที่สุดรถก็ได้มาจอดที่ทางเข้าหมู่บ้านซึ่งเป็นถนนดินลูกรัง รถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้ ทุกคนจะต้องเดินเข้าไปพร้อมด้วยสัมภาระต่างๆที่เอามาด้วยอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ทางที่จะเดินก็ไม่ใช่ทางพื้นราบปกติแต่เป็นทางขึ้นเขาที่ชันเล็กน้อย ทำให้แตงกวาอดห่วงวิศวกรกิตติมศักดิ์ของค่ายนี้ไม่ได้ เธอเลยผ่อนฝีเท้าให้ช้าลงเพื่อที่จะได้เดินข้างๆเขา
พี่หม่อนไหวมั้ยคะ เธอถามเขา ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวข้างตัวก่อนจะตอบว่า แล้วแตงกวาไหวมั้ยล่ะครับ ถ้าแตงกวาไหวพี่ก็ไหว
มันไม่เหมือนกันค่ะ แตงกวาไหวพี่หม่อนอาจจะไม่ไหวก็ได้ เพราะพี่หม่อนไม่เคยมาออกค่ายแบบนี้นี่ค่ะ หญิงสาวแย้ง
แตงกวาครับถึงพี่จะไม่เคยมาออกค่ายแบบนี้ แต่พี่ก็เคยเดินป่ากับเพื่อนๆนะครับ ทางแย่กว่านี้อีก ฉะนั้นแค่นี้สบายมาก ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างๆ
งั้นถ้าพี่หม่อนไหวก็โอเคค่ะ งั้นแตงกวาขอกลับไปเดินกับแอมต่อละกันนะค่ะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าแตงกวาทิ้งเขา พูดจบหญิงสาวก็เดินขึ้นไปหาเพื่อนของเธอ
กว่าทุกคนจะเดินมาถึงหมู่บ้านก็บ่ายมากแล้ว เมื่อมาถึงวัฒนาประธานการออกค่ายครั้งนี้ก็ไปติดต่อกับผู้ใหญ่บ้านอย่างรู้หน้าที่ดี พอติดต่อเสร็จผู้ใหญ่บ้านก็พาทุกคนไปฝากเอาไว้ตามบ้านของชาวบ้านหลังละคนสองคน เพราะจำนวนของนักศึกษาที่มาค่ายครั้งนี้มีประมาณ 20 คน แต่บ้านของชาวบ้านที่พักได้นั้นมีแค่ 15 หลังเท่านั้น และในจำนวน 20 คนนี้ มีนักศึกษาหญิงแค่ 4 คน เมื่อทุกคนเอาสัมภาระเข้าเก็บที่บ้านพักแล้วก็ออกมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านเพื่อมาเตรียมรับประมารอาหารเย็นที่ชาวบ้านนำมาเลี้ยงต้อนรับ เมื่อทานกันเสร็จแล้วต่างก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำเพราะผู้ใหญ่บ้านเตือนเอาไว้ว่าอากาศที่นี่ช่วงนี้เย็นมากถ้าจะอาบน้ำก็รีบอาบแต่หัววันจะได้ไม่เป็นไข้ อาบน้ำเสร็จแล้วทุกคนก็ออกมารวมตัวกันที่ลานกลางหมู่บ้านที่เดิมเพื่อที่จะประชุมเตรียมงานสำหรับวันพรุ่งนี้
มีใครไม่เข้าใจตรงไหนบ้างมั้ย วัฒนาถามขึ้นเมื่ออธิบายงานสำหรับพรุ่งนี้จบ นายกอล์ฟชายหนุ่มหน้าทะเล้นยกมือขึ้น และเมื่อวัฒนาพยักหน้าเป็นคำอนุญาตเขาก็พูดว่า พี่วัฒน์...ผมขอเสนอว่าเราควรจะแบ่งงานกันตอนนี้เลยครับ พรุ่งนี้จะได้เริ่มลงมือทำงานกันเลย ทุกคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
งั้นก็ 4 สาว อยู่ฝ่ายเตรียมเสบียงละกันนะ แล้วก็ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานนะ แล้วก็... วัฒนาแจกจ่ายงานให้กับทุกคนอย่างเสมอภาคกัน
มีใครจะแย้งอะไรมั้ย วัฒนาถามขึ้นเมื่อแจกจ่ายงานจนหมด และเมื่อไม่มีใครถามต่อเขาจึงพูดต่อว่า พี่ขอเตือนนะว่าค่ายนี้ปราศจากของมึนเมานะ แล้วก็อย่าทำอะไรที่เป็นการรบกวนชาวบ้านเขานะ เรามาอยู่แบบนี้เราก็ต้องทำตามเขา แล้วถ้ามีอะไรไม่สบายใจหรือว่ามีใครเป็นอะไรก็บอกพี่ได้นะ อ้อ! อีกอย่างนึงนะ อย่าปากเสียพูดอะไรพล่อยๆออกไปนะ เข้าใจมั้ย ทุกคนพยักหน้ารับคำเมื่อวัฒนาพูดจบ
งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปแยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก
ทุกคนแยกย้ายกันไปตามบ้านของชาวบ้านที่ตนพักอยู่ แตงกวายังไม่เดินไปทันที หญิงสาวเดินเข้าไปหาพี่ชายของเพื่อนเธอที่กำลังเดินออกมากับวัฒนา แล้วก็พูดกับเขาว่า พี่หม่อนถ้าไม่ไหวหรือเป็นอะไรก็บอกแตงกวาได้นะค่ะ
ครับผม ไม่ต้องเป็นห่วงพี่หรอกครับ ชายหนุ่มตอบรับพร้อมส่งรอยยิ้มให้กับเธอ
ไม่ห่วงได้ไงค่ะ ยัยเหมียวฝากเอาไว้ ถ้าพี่หม่อนเป็นไรไปละก็ แตงกวาแย่แน่เลยค่ะ ฉะนั้นรักษาตัวเองดีๆนะค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พูดจบหญิงสาวก็เดินไปหาแอมที่ยืนรออยู่ไม่ไกล ทิ้งให้ชายหนุ่มรู้สึกน้อยใจนิดๆอยู่ในใจคนเดียว โธ่! เราก็นึกว่าเป็นห่วงเราที่แท้ก็ยัยเหมียวฝากมา นี่ถ้ายัยเหมียวไม่ฝากเอาไว้ก็คงไม่มาสนใจเราล่ะสิ ชายหนุ่มสะบัดศีรษะไล่ความคิดแปลกๆนี้ออกไป วัฒนาหันมาเห็นเข้าพอดีเลยถามว่า พี่หม่อนไม่สบายรึเปล่าครับ
ชายหนุ่มปฏิเสธแล้วก็ชวนเดินกลับบ้านพัก
อรุณสวัสดิ์ทุกคน เป็นไงเมื่อคืนนอนหลับสบายดีรึเปล่า วัฒนาทักทายทุกคนที่มารวมตัวกันที่ลานของหมู่บ้านเพื่อที่จะรับประทานอาหารเช้า ทุกคนพยักหน้ารับพร้อมกันว่าหลับสบายดี แต่ก็บ่นพร้อมกันเช่นเดียวกันว่าอากาศหนาวมากในตอนกลางคืน
อากาศอย่างนี้แหละดี สูดเข้าไปลึกๆเพราะที่กรุงเทพฯน่ะหาแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ
เอาล่ะมากินข้าวซะ จะได้มีแรงไปทำงาน เมื่อทุกคนทานข้าวกันเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาตั้งแต่เมื่อคืน
พี่วัฒน์ระวังตัวด้วยนะค่ะ แอมพูดกับวัฒนาก่อนที่เขาจะแยกไปหาผู้ใหญ่บ้าน
จ้า ไม่ต้องห่วงหรอก วัฒนาตอบรับก่อนจะเดินแยกไป
แหม...เป็นห่วงแต่พี่วัฒน์นะ แล้วคนอื่นๆล่ะไม่ห่วงเหรอไง แตงกวาเอ่ยออกมาเมื่ออยู่กันตามลำพังสองคน
บ้า...เราก็เป็นห่วงทุกคนนั่นแหละ แอมพูดก่อนที่จะเดินหนีไปทางอื่น
จ้า...เราจะพยายามเชื่อละกันว่าแอมห่วงทุกคนเท่ากัน พูดพร้อมกับเสียงหัวเราะทำให้แอมเขินหนักเข้าไปใหญ่
ใครจะเอาผ้าเย็นบ้างคะ แตงกวากับแอมถามชายหนุ่มทั้งหลายที่กำลังง่วนอยู่กับการผสมปูนในมือของทั้งสองคนถือตระกร้าที่ใส่ผ้าชุบน้ำเย็นเอาไว้
เอาคร้าบ นายกอล์ฟตะโกนออกมาเป็นคนแรก
เอ้า แอมยื่นผ้าให้กอล์ฟ แต่กอล์ฟกลับยื่นหน้ามาหาแอมแทนที่จะเอามือรับ
เช็ดให้หน่อยดิ มือเลอะอยู่อ่ะ
เรื่องมากจัง แอมบ่นแต่ก็ยอมเช็ดหน้าให้นายกอล์ฟแต่โดยดี
พี่ภัทร์เอามั้ยคะ แตงกวาถามชายที่มีใจเป็นหญิงที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
เอาแต่มือพี่เลอะอ่ะ แตงกวาเช็ดให้พี่หน่อยสิ อีกฝ่ายดัดเสียงตอบ
ได้ค่ะ
เช็ดเบาๆนะจ้ะ เดี่ยวหน้าพี่เป็นรอยหมด
ค่ะ แตงกวาตอบรับ
เมื่อเช็ดให้ทั้งสองคนเสร็จหญิงสาวสองคนก็ต้องเช็ดหน้าให้กับคนอื่นๆที่เหลือในฝ่ายผสมปูนนี้จนกระทั่งมาถึงวัฒนากับท่านวิศวกรกิตติมศักดิ์
พี่วัฒน์เอาผ้าเย็นมั้ยคะ แอมถามวัฒนาที่กำลังยืนคุยอยู่กับชายหนุ่มอีกคน
เอาก็ได้ พูดพลางยื่นมือที่มีฝุ่นปูนเกาะติดอยู่ออกมา
มือพี่วัฒน์เลอะ เดี๋ยวแอมเช็ดให้เอามั้ยคะ หญิงสาวถามเขา
ไม่เป็นไรพี่เช็ดได้ พูดจบเขาก็เอาผ้าจากมือของแอมไปเช็ดที่หน้าอย่างรวดเร็วก่อนส่งคืนให้เธอ
แล้วพี่หม่อนล่ะจะเอาผ้ามั้ย แตงกวาถามชายหนุ่มอีกคน
ก็ดีครับ
มาเดี๋ยวแตงกวาเช็ดให้ มือพี่เลอะปูนอย่างนี้เช็ดหน้าเดี๋ยวก็สิวขึ้นหรอก เกิดหน้าพี่หม่อนพังขึ้นมายัยเหมียวเอาแตงกวาตายเลย หญิงสาวพูดไปพร้อมกับเช็ดไปด้วย
แล้วอีกสองสาวล่ะ วัฒนาถามขึ้นมา
อ๋อ ไปฝั่งงานไม้น่ะพี่วัฒน์ แหม...พี่ไม่ต้องกลัวพวกหนูอู้หรอก แตงกวาย้อนกลับไป
ไปกันเหอะแตงกวา เดี๋ยวต้องเอาผ้าไปซักอีก แอมบอกก่อนที่จะเดินออกมา
ไปก่อนนะพี่ เที่ยงแล้วก็อย่าลืมไปกินข้าวล่ะ พูดจบก็เดินตามแอมออกไป
เป็นไรไปรึเปล่าแอม แตงกวาถามขึ้นระหว่างนั่งล้างจานเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนนั่งเงียบตั้งแต่กลับจากเอาผ้าไปให้ช่างปูนทั้งหลาย
เปล่าจ้า เราแค่กำลังคิดว่าเย็นนี้ชาวบ้านเขาจะทำอะไรมาให้กินน่ะ
อะไร เพิ่งกินข้าวเที่ยงไปเองนะ คิดเรื่องมื้อเย็นแล้วเหรอ แตงกวาแซว
ก็อาหารที่นี่อร่อย แล้วก็แปลกแบบที่กรุงเทพฯไม่มีให้กินน่ะสิ ก็เลยอยากรู้ว่าเย็นนี้จะได้กินอะไร
อืมใช่ อาหารที่นี่อร่อยแบบธรรมชาติดีเนอะ หากินไม่ได้เลยในกรุงเทพฯน่ะ แตงกวาเห็นด้วยกับเพื่อน
สงสัยต้องขอสูตรเขากลับไปทำที่บ้านแล้วล่ะ
ใช่ แต่กลัวว่ากลับไปทำที่บ้านแล้วจะไม่อร่อยเท่าที่นี่น่ะสิ หญิงสาวทั้งสองคนคุยกันไปเรื่อยๆจนล้างจานเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินไปช่วยงานเล็กๆน้อยที่พอจะทำได้ในฝั่งช่างปูน
โอ๊ย! เสียงของวิศวกรกิตติมศักดิ์ดังขึ้นมา ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนที่ทำงานอยู่แถวนั้นรีบวิ่งมาดู
พี่หม่อนเป็นอะไรไป แตงกวาถามเขา
ก้อนอิฐตกใส่เท้าน่ะ ชายหนุ่มบอกพร้อมกับค่อยๆนั่งลงกับพื้น
ตายแล้ว! เลือดไหลด้วย ภัทร์ร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมองไปที่แผลของชายหนุ่ม พี่หม่อนเจ็บมากมั้ยฮะ
ไม่มากหรอกครับ ภัทร์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ คนเจ็บบอกกับภัทร์
พี่วัฒน์พาพี่หม่อนไปล้างแผลก่อนเถอะค่ะ แตงกวาบอกกับวัฒนาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
ได้ๆ ที่เหลือทำกันไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา พูดจบก็เข้าพยุงชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆให้ลุกขึ้นยืนแล้วพาไปที่บ้านของช้าวบ้านที่ใกล้ที่สุด
เดี๋ยวที่เหลือแตงกวาจัดการต่อเองได้ พี่วัฒน์ไปทำงานต่อเถอะ หญิงสาวบอกกับวัฒนาเมื่อเขาพาคนเจ็บนั่งลงแล้ว
ได้แน่นะ ไม่ใช่แกจะทำให้พี่หม่อนเขาเจ็บมากกว่าเดิมนะ วัฒนาถามอย่างไม่แน่ใจ
แน่สิพี่ก็
งั้นก็ตามใจ พี่หม่อนระวังตัวเองไว้หน่อยก็ดีนะครับ ยัยนี่ยิ่งเอ๋อๆอยู่ พูดจบเขาก็เดินกลับไป
แตงกวาทำได้แน่นะ คนเจ็บถามอย่างไม่แน่ใจ
ได้สิพี่หม่อน แค่นี้เอง อย่าไปเชื่ออะไรพี่วัฒน์มากเลย แตงกวาบอกกับคนเจ็บ
โอ๊ย! เสียงคนเจ็บร้องออกมา
อดทนหน่อยสิพี่หม่อน พยาบาลจำเป็นบอกกับคนเจ็บ
ก็มือเบาๆหน่อยสิครับ พี่เจ็บนะ คนเจ็บโอดครวญ
นี่ก็เบามือที่สุดแล้วนะ
เสร็จซักที คนเจ็บบอกเสียงอ่อยๆ
พี่หม่อนรู้ป่ะว่าพี่หม่อนเป็นคนแรกเลยนะที่แตงกวาทำแผลให้น่ะ พยาบาลจำเป็นพูดออกมาอย่างภูมิใจ แต่คนเจ็บไม่รู้สึกภูมิใจด้วยเลย
โชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ย คนเจ็บพึมพำเบาๆ
แล้วนี่พี่หม่อนเดินไหวมั้ยเนี่ย หญิงสาวถาม
ไหวสิ แต่อาจจะเดินช้าหน่อยก็แค่นั้น
แล้วพี่หม่อนจะไปทำงานต่อหรือว่าจะไปพักที่บ้านเลยหญิงสาวถามต่อ
แค่นี้จิ๊บๆ ไม่ต้องไปพักหรอก คนฟังได้แต่ส่ายหัวในความอวดเก่งของคนเจ็บ
แล้วแตงกวาจะคอยดูว่าจะเก่งไปได้สักกี่น้ำ
จากคุณ :
@หนูเอ๋อ@
- [
13 ม.ค. 48 15:51:20
A:168.120.26.80 X:
]