บทที่ 7 บนรถม้ากับบทเรียนศิลาเวทย์
เดเมี่ยนกำลังชื่นชมผลงานเอกของตัวเอง......
คนเป็นเจ้าหญิงกลั้นหัวเราะจนตัวโยน ลืมสถานะของตัวเองจนหมดสิ้นเมื่อตอนนี้มีสิ่งที่จำเป็นต้องทำมากกว่า... คือการพยายามบังคับตัวเองเต็มที่ไม่ให้ปล่อยก๊ากอย่างที่จะทำให้คนทั้งปราสาทสะดุ้งโหยง และเปลี่ยนแผนเป็นการขังเธอยาวไม่มีกำหนดเพราะสงสัยว่าเจ้าหญิงแห่งซาทาเรียจะเริ่มมีอาการจิตไม่ปรกติ....
ชุดกระโปรงสีน้ำตาลอ่อนยาวกรอมเท้าจับจีบและทิ้งระบายลูกไม้รอบตัวตัดเย็บอย่างสวยงามประณีตสำหรับเจ้าหญิงแห่งอาณาจักร เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกหวีเรียบปล่อยสยายลงคลอเคลียบ่า ประดับด้วยอัญมณีและหินสีเป็นประกายวิบวับแวววาว ถัดมาคือลำคอที่ชุดเปิดไหล่นั้นเผยออกให้เห็นผิวที่แม้จะไม่ได้ขาวละมุนดุจหิมะแต่ก็เป็นสีแทนละเอียดอย่างชนชั้นสูง พร้อมประดับด้วยสร้อยคอที่ตกแต่งอย่างเรียบแต่ดูงดงามมีเสน่ห์ ...
ทั้งหมดนี้ประกอบอยู่บนเรือนร่างของผู้ที่งดงามและเหมาะสมอย่างที่สุด....
เจ้าชายเอลริคแห่งซาทาเรีย....
ดวงหน้าเข้มของเจ้าชายแห่งเมืองอาชาบัดนี้เค้าโครงของความเข้มแข็งสมชายโดนลบออกไปหมดไม่เหลือด้วยฝีมือการแต่งแต้มอย่างมีศิลป์สุดๆของน้องสาวกับหนึ่งองครักษ์ที่ไม่รู้ว่าไอ้เรื่องพวกนี้มันไปเก่งกันมาจากไหน และแม้ว่าเอลริคจะมีโครงร่างสูงอย่างบุรุษนักรบแต่ก็เป็นร่างสูงโปร่งเสียมากกว่าจะกำยำล้ำสันอย่างนายทหารชั้นขุนศึก ชุดที่สวมจึงเพียงพอที่กลบให้เห็นเป็นเพียงหญิงสาวร่างสูงเพรียว พร้อมกับเครื่องประดับที่สวมก็ขับผิวที่ละเอียดอันเป็นจุดเด่นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น....
สวยอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ.....
ความคิดในหัวของเดเมี่ยนที่ทำให้เจ้าตัวหลุดหัวเราะกึกก่อนปล่อยฮาอีกรอบอย่างอดไม่ได้...
ในความเป็นจริงแล้วแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดจะชำเลืองดูชุดที่รุ่มร่ามน่ารำคาญพวกนี้เสียด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเรอองกำชับให้เธอต้องสวมชุดพวกนี้ไปยังที่ประทับฤดูร้อนแลกกับการที่นักปราชญ์หญิงจะไม่ตามไปด้วย เอลริคก็คงได้มีตัวเลือกเสื้อผ้าที่ดีกว่านี้.....
"หยุดหัวเราะสักทีมันจะตายไหมหา เดเมี่ยน!! " คนเป็นพี่ชักจะเริ่มปรอทแตกเมื่อยัยน้องสาวตัวดียังคงหัวเราะได้หัวเราะดีไม่รู้จักหยุดหย่อน พร้อมๆกับไอ้เพื่อนอีกสองคนที่บัดนี้แม้แต่คนที่มักจะเฉยๆชาๆก็เริ่มจะลืมนิสัยปรกติของตัวเองพลอยผสมโรงเข้าไปอีกซะอย่างงั้น ให้คนถูกทำลายภาพพจน์ป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีมองดูบุคคลรอบข้างด้วยแววตาขุ่นๆ ก่อนจะหันกลับมามองเงาสะท้อนของตัวเองแล้วก็ให้นึกอยากวิ่งไปหาค้อนอันใหญ่ๆมาทุบกระจกให้แตกนัก ....
ผู้ที่ได้ชื่อว่างามสง่าสมเป็นชาตินักรบ พร้อมฉายาจอมกะล่อนและเสือผู้หญิงหาตัวจับยากอย่างเขา.....
นี่มันหายนะชัดๆ.....
"สวยอย่างนี้ท่านเอลริคแลกตำแหน่งกับท่านเดเมี่ยนก็ดีน่ะครับ" ไรเจลพูดไปพลางก็กุมท้องหัวเราะไปพลาง ให้เอลริคหันกลับไปมองผู้เป็นน้องสาวในชุดเสื้อผ้าที่เขาจำได้ดีว่าเป็นของเขา แล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ว่าอย่างน้อยมันก็ไม่แย่ขนาดที่ต้องมาแต่งชุดที่แค่เดินสามก้าวก็น่าจะสะดุดล้มที่แม้แต่เจ้าของมันยังไม่เคยคิดจะใส่ด้วยซ้ำ เสื้อปิดคอสีดำกับเสื้อทับสีน้ำเงินเข้มทำให้ร่างบางของหญิงสาวดูกำยำขึ้น ผมยาวของเธอถูกรวบไว้ที่ด้านหลังดูเรียบร้อยเหมือนชายหนุ่มจากตระกูลผู้ดี(แม้เจ้าตัวมักจะลืม...) กริยาท่าทางที่ใช้เวลาทั้งหัดทั้งโขกสับกันมาหลายวันพอดูก็เข้ารูปเข้ารอยดี....เท่าที่เขาเห็นยัยตัวยุ่งก็คงตีบทแตกได้สบายๆ....
อย่างน้อยถ้ามันไม่ปล่อยก๊ากออกมาด้วยเสียงแหลมๆนั่น......
เมื่อเห็นว่าต่อให้พูดให้ตายกันไปข้างตอนนี้คนเป็นน้องก็คงไม่ฟัง เอลริคก็คิดได้ว่าควรช่างหัวเธอซะ แล้วหันไปหาเฟเรียสที่บัดนี้ดูจะควบคุมอารมณ์ได้แล้วแทน
"เรื่องหีบสัมภาระเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?"
นัยน์ตาสีดำนั้นจ้องกลับก่อนพยักหน้า "จัดชุดกระโปรงกับชุดบางชุดของท่านเดเมี่ยนลงไปวางหลอกที่ด้านบนเรียบร้อยแล้ว"
"ของชั้นก็เรียบร้อยแล้ว พร้อมเต็มที่เลยล่ะ" คำตอบจากเจ้าหญิงที่บัดนี้เริ่มกลับสู่สภาพสติครบถ้วนสมบูรณ์.... เจ้าตัวยิ้มร่าก่อนที่ไรเจลจะขัดขึ้น....
"ถ้าบอกว่าเรียบร้อยก็แสดงว่าทรงลืม" ว่าพลางคนเป็นองครักษ์ก็ตอบสายตาสงสัยจากเดเมี่ยนด้วยการล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของตนก่อนบรรจงหยิบสร้อยยาวเส้นหนึ่งออกมา จี้ห้อยคอขนาดเท่าไข่นกกระทาประดับด้วยอัญมณีสีดำและขาวเล็กๆสลักลายอย่างประณีตถูกส่งไปวางนิ่งสนิทอยู่บนมือของเจ้าของ...
คนถูกกล่าวหาว่าลืมตีหน้าเบ้ก่อนแก้ตัวงุด
"ไม่ได้ลืม แค่ฝากเอาไว้.... "
อัญมณีสีขาวส่องกระทบแสงแดดขณะที่อัญมณีสีดำก็ทอประกายเจิดจ้า เดเมี่ยนยืนมองของมีค่าในมือของเธออย่างพิจารณาก่อนจะหันไปทางผู้เป็นพี่ เอ่ยปากถามคำถามที่ตั้งใจ
"พี่ต้องเอามันไปรึเปล่า? " น้ำเสียงมีแววอาลัยให้คนเป็นพี่ใจอ่อนก่อนว่า....
"ของต่างหน้าท่านแม่....เธอก็เอาไปด้วยเถอะ" เอลริคมองสิ่งที่เป็นตัวแทนมารดาของตนก่อนหันไปสบตาของน้องสาวที่พยักหน้าให้เขาอย่างยินดีและเก็บมันกลับเข้ากระเป๋าเสื้อของตนอย่างทะนุถนอม....
ไรเจลหยิบกล่องกำมะหยี่สีเทาออกมาส่งให้กับเจ้าหญิงของเขาพร้อมกับที่เอลริคเองก็ตวัดมือขึ้นรับก้อนหินสีดำเหลือบแดงจากเฟเรียส....
"ถึงเวลาแสดงแล้ว"
+ + + + + + + + + + + +
(มีต่อ)
จากคุณ :
A.A the wolf
- [
24 ม.ค. 48 15:36:09
]