เหมือนรักที่ (ไม่) แตกต่าง
ผมกำลังจะแต่งงานกับเธอครับ
อีกไม่กี่กันข้างหน้างานแต่งงานของเราสองคนจะจัดขึ้นที่โบถส์แห่งหนึ่งแถบชานเมือง เป็นงานเล็กๆ ที่จัดแบบเรียบง่ายไม่หรูหรา พิธีการแบบคริสต์ ตอนกลางคืนผมกับเธอตกลงกันว่าจะจัดงานขึ้นในสถานที่แรกที่ผมกับเธอได้มาพบกัน หลังจากวันแต่งงานรุ่งขึ้นเราก็จะไปฮันนีมูนกันต่อที่ภูเก็ตทันที
ช่วงนี้ผมกำลังยุ่งมากครับ เนื่องจากต้องเตรียมงาน ไม่ว่าจะเป็นการแจกการ์ดเชิญแขกมาร่วมงาน การติดต่อสถานที่ และอื่นๆ อีกมากมายที่ผมจะต้องทำเพื่องานที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม แม้จะยุ่งวุ่นวายเพียงใด แต่ผมกลับไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแม้แต่น้อย
ทำไมผมจึงไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย เหตุผลคงจะเป็นอื่นใดไปไม่ได้ นอกจาก---เธอ
ความรักในชีวิตของผมเกิดขึ้นมาหลายครั้งหลายครา แต่ทุกครั้งมันก็มักจะจบลงด้วยร่องรอยน้ำตาที่ทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเสมอ
ผมผิดหวังในเรื่องความรักบ่อยครั้ง จนทำให้ผมปลงตกคิดว่าชีวิตนี้ผมคงต้องอยู่เป็นโสด
เพราะอะไรความรักหลายๆ ครั้งของผมต้องจบลงแบบเดิมๆ เสมอ
ความแตกต่างหรือ?
มีคนเคยบอกผมว่าคนที่เป็นคู่กันมักจะมีอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มีความแตกต่างกันน้อยที่สุด หากยิ่งแตกต่างกันมากเท่าไร โอกาสที่จะคบกันไปไม่ตลอดรอดฝั่งก็สูงขึ้นเท่านั้น
เป็นหลักง่ายๆ ในการอยู่ร่วมกันในสังคม---ก็แค่เพียงทำตัวให้เหมือนคนอื่น
ก่อนนั้นผมไม่เคยเชื่อและไม่เคยยอมรับความคิดนี้
ผมคิดว่าการที่คนสองคนมีอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกัน คิดอะไรเหมือนกัน และอื่นๆ อีกมากมายที่เหมือนหรือพยายามจะทำให้เหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นชีวิตจะไม่ราบเรียบจนเกินไปหรือและมันจะเป็นผลดีต่อชีวิตคู่จริงหรือ
จากความผิดหวังที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ผมกลับมามองเรื่องนี้อีกครั้ง
ความแตกต่าง
มันมีผลต่อความรักจริงหรือ
เกือบทุกคนที่ผมเคยรักและคบหามักมีนิสัยที่แตกต่างจากผมโดยสิ้นเชิง
อันที่จริงพวกเธออาจจะไม่ได้มีนิสัยแตกต่างจากผมนัก แต่เป็นเพราะผมที่พยายามทำตัวให้ผิดแพลกแตกต่างจากพวกเธอ ด้วยความคิดที่ว่าทำไมคนเราจะต้องเหมือนกัน
2 เดือน---ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น นั่นคือเวลาที่ผมคบหากับคนรักของผมแต่ละคน
ผมอยากซ้าย ผมก็จะซ้าย เธออยากขวา ก็ให้เธอขวา ไม่จำเป็นที่ผมจะต้องไปทางขวากับเธอ เช่นกันผมไม่คิดที่จะดึงเธอมาทางซ้ายกับผม
คนเราควรคบกันด้วยความเข้าใจ ยอมรับในความแตกต่าง---ผมให้เหตุผล
เธอบอก---หากคบกันควรปรับตัวเข้าหากัน แล้วเดินไปบนเส้นทางเส้นเดียวกัน
แต่เส้นทางนั้นเป็นเส้นทางที่ผมไม่ต้องการจะเดินนี่
ผมอาจจะดื้อดึงในความคิดของตนเองมากเกินไป
สุดท้าย คนที่ไม่เคยเข้าใจ และไม่เคยยอมรับความแตกต่าง
อาจจะคือตัวผมเอง
ผมกำลังจะแต่งงานกับเธอครับ
แม้ว่าผมจะรู้จักกับเธอไม่ถึงปี แค่เราสองคนเข้ากันได้ดี
เธอเข้าใจตัวผมราวกับว่ารู้จักผมมานานนับสิบปี
ก่อนหน้าที่จะพบเธอ ผมเพิ่งผิดหวังในความรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง ความผิดหวังในเรื่องความรักที่สะสมมานานบวกกับความเศร้าที่รุนแรงทำให้ผมตัดสินใจว่าผมจะไม่รักผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว
คงเป็นโชคชะตากระมังที่ทำให้ผมมาพบกับเธอที่บาร์แห่งหนึ่ง จากการแนะนำของเพื่อน
เธอเป็นคนสุดท้ายที่ผมจะรักและใช้ชีวิตคู่ด้วย ครั้งนี้ผมเชื่อและมั่นใจว่ามันไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
ผมยอมรับได้แล้วหรือว่าความแตกต่างมีผลต่อความรัก
ไม่---ผมยังไม่ยอมรับ
ทำไมผมต้องยอมรับ?
เพราะเธอเองก็คิดเช่นเดียงกันกับผม ว่าความแตกต่างต่างหากที่จะทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น เราจะทำตัวให้เหมือนกันไปเพื่ออะไร
ใช่---ผมเจอคนที่คิดเหมือนผมแล้ว
ในที่สุดก็มีคนคิดเหมือนผม
บรรยากาศภายในบาร์เต็มไปด้วยแสงสี ผู้คนมากมายกำลังสนุกสนานครื้นเครงไปกับแอลกอฮอลล์และเสียงดนตรี
เวทีขนาดย่อมที่ตั้งอยู่ตรงกลางร้าน กับภาพของเธอที่กำลังแสดงอยู่บนเวที
ภาพความทรงจำวันนั้นผมยังไม่เคยลืม
ความทรงจำครั้งแรกที่ผมได้พบกับเธอ
ที่บาร์เกย์
จากคุณ :
เรื่องของผม
- [
29 ม.ค. 48 22:20:12
]