เพลงรักแสงจันทร์
อิ๋น หายไปไหนมา
คนพูดโวยวายเมื่อเห็นหญิงสาวหน้ากลมเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมที่ประดับประดาตกแต่งไว้อย่างเต็มที่เพื่อใช้ในพิธีหมั้นที่เพิ่งเสร็จสิ้นพิธีการและบัดนี้แขกที่มาร่วมเป็นเกียรติต่างออกไปร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องจัดเลี้ยงอีกห้องหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
ก็ไปเดินเล่นมา เธอตอบด้วยสีหน้าแบบที่เรียกว่าทองไม่รู้ร้อน ก่อนจะอธิบายขยายความ อิ๋นไม่ได้มีหน้าที่อะไรนี่คะ
ทำไมจะไม่มี คนพูดออกจะเหนื่อยที่ต้องมาเจอกับความเฉยของตรงหน้า เราเป็นน้องสาวของพี่นะ
ก็คนหมั้นคือพี่จอมไม่ใช่อิ๋นนี่คะ อิ๋นจะต้องอยู่ด้วยหรือไงพี่จอมถึงจะยอมหมั้น
ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พี่ก็แค่อยากให้มีครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันเท่านั้นเอง
อ้าว ตอนแรกอิ๋นก็อยู่นะคะ เห็นพี่จอมมองแต่พี่วีเลยคิดว่าคงไม่มีอะไร อิ๋นก็ออกไปเดินเล่นข้างนอก อากาศดีทีเดียวเลยค่ะ
เฮ้อ พี่ชายถอนหายใจ ช่างเถอะ ตามใจอิ๋นก็แล้วกัน ไปกินข้าวกันได้แล้ว
ค่ะ
ที่ห้องจัดเลี้ยง ผู้คนมากมายแต่งกายอย่างสวยงามด้วยเสื้อผ้าหลากสีสัน หญิงสาวคนเดิมเดินเคียงคู่ไปกับพี่ชาย ใบหน้ารูปกลมนั้นเฉยเมย หากรอยละมุนที่ริมฝีปากอิ่มช่วยลดความมึนตึงบนใบหน้าลงไปได้โข เจ้าหล่อนในชุดกระโปรงบานสีม่วงอ่อนค่อนไปทางสีชมพูกับผมยาวสยายนั้นไม่ได้เป็นที่จับตามองมากนักหากว่าเดินอยู่ตามลำพัง แต่ในเมื่อเดินอยู่กับพระเอกของงานก็ช่วยไม่ได้ที่จะเป็นจุดสังเกตให้ใครต่อใครเหลียวมองด้วยสนใจ ค่าที่ใบหน้าของทั้งคู่นั้นละม้ายกันจนกระทั่งอาจจะบอกได้ว่าเป็นพิมพ์เดียวกัน จะต่างกันก็ตรงที่คนตัวสูงนั้นมีรอยยิ้มแย้มประดับอยู่เป็นนิจ
หนึ่งในบรรดาคนที่มองมา อิงอร รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่จับจ้องมาที่เธอด้วยอาการที่แตกต่าง นั่นคือการจับจ้องอย่างสนใจและพินิจพิจารณาจนกระทั่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพยายามไม่ใส่ใจกับความรู้สึกนั้น เธอเดินไปยังที่นั่งท่ามกลางครอบครัวของเธอ ทว่ารู้สึกได้ว่าสายตาคู่นั้นยังติดตามเธอมาอย่างไม่ลดละ
ในที่สุดความอดทนของอิงอรก็หมดลง เธอขอตัวไปห้องน้ำและลุกขึ้นยืน แสร้งหมุนตัวอย่างไม่ตั้งใจเพื่อมองหาเจ้าของสายตานั้นและนั่นทำให้เธอพบกับเขา เจ้าของดวงตาดำจัดภายใต้เปลือกตาเรียวได้รูปอย่างคนที่มีเชื้อสายจีน หญิงสาวปรับโฟกัสการมองของตัวเองให้กว้างขึ้นและพบว่าคนที่จ้องมองมานั้นเป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอเคยพบและรู้จักชื่อเสียงของเขาดี
ธนาคาร หยกรักษ์ ผู้ชายที่เธอจะไม่เข้าใกล้ในระยะห้าสิบเมตร
ทำไมน่ะหรือ
เพราะเขาเป็นเพลย์บอยไง แล้วคนแบบนั้นก็คือคนประเภทที่อิงอรเกลียดที่สุดในโลก
หญิงสาวสบตาคู่นั้นด้วยความเฉยเมย บอกให้เขารู้ด้วยวิธีการของเธอ ความเย็นชาเหมือนน้ำแข็งแห้งที่แผดเผามือที่จับต้องด้วยความเย็นจัด ให้รู้ว่าเธอไม่แยแสกับการจ้องมองแบบนั้นและนั่นทำให้อีกฝ่ายต้องหลบตาไปทุกคน
แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ชายคนนี้ ดวงตาดำจัดยังคงจ้องมองมาอย่างค้นคว้า ท้าทาย จนกระทั่งคนที่เป็นฝ่ายหลบสายตาคืออิงอร เธอเมินหน้าหนีและเดินออกไปจากห้องจัดเลี้ยง
บ้าชะมัด
ในห้องน้ำ หญิงสาวจ้องตัวเองในกระจกเงา ดวงตาสีน้ำผึ้งของเธอขยายกว้างด้วยความโมโหตัวเองที่ต้องเป็นฝ่ายหลบตา แม้จะรู้ดีว่าหากจ้องตากันนานกว่านี้จะทำให้คนอื่นสนใจและนั่นจะทำให้เธอวุ่นวายภายหลัง
แต่ทำไมชั้นต้องเป็นคนหลบตาด้วย ทำไมไม่เป็นตานั่นที่ต้องหลบตาฉัน
เธอถามตัวเองแต่ไม่มีคำตอบใดๆเป็นที่น่าพอใจ หญิงสาวถอนหายใจแรงๆเพื่อขับไล่ความโกรธออกไปแล้วให้ความเยือกเย็นกลับมา เธอไม่ชอบอารมณ์ร้อนเพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าไม่อาจควบคุมตนเองได้ อิงอรเกลียดการตกอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนอลเวง เธอชอบจัดการให้เรื่องทุกเรื่องเป็นไปตามแผนการที่ได้วางเอาไว้อย่างดีไม่ให้มีอะไรเข้ามาแทรก
เอาล่ะ เย็นลงแล้วใช่ไหม
หญิงสาวถามตัวเอง เมื่อสำรวจอารมณ์แล้วพบคำตอบที่ต้องการเธอจึงค่อยยิ้มออกมาได้ น้อยคนนักจะได้เห็นรอยยิ้มนี้ ด้วยว่าอิงอรมักจะทำสีหน้าเรียบเฉยที่ไม่อาจระบุอารมณ์ได้และนั่นทำให้เธอเป็นต่อในทุกสถานการณ์เพราะจะไม่มีใครรู้ได้ว่าเธอคิดอะไร รู้สึกอย่างไร ไม่มีใครเดาได้ถูกว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นอย่างไร
ทีนี้ก็ออกไปหาพวกพี่ๆได้แล้ว
เธอสั่งตนเอง แล้วพาตัวเองออกไปจากห้องน้ำหญิง ทว่าเมื่อเปิดประตูออกมาเธอก็พบว่าที่โซฟาตัวนุ่มไม่ห่างไปจากห้องน้ำสักเท่าไร ใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอเลยสักนิดนั่งอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าเขาออกมานั่งตรงนี้ทำไม ไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมที่จะตอบคำถาม บางทีเขาอาจจะเบื่อกับงานเลี้ยง บางทีเขาอาจจะออกมาคุยโทรศัพท์ บางทีเขาอาจจะ...
ไม่เอาน่า ไม่ว่าจะด้วยเหตุอะไรก็ตาม เขาจะต้องไม่ได้มานั่งรอเธอแน่ๆ
อิงอรทำเป็นไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น เธอจ้องไปยังด้านหน้า มองทางที่จะนำไปสู่ห้องจัดเลี้ยงด้วยความตั้งใจ บอกตัวเองให้รีบเดินไปให้พ้นจากผู้ชายคนนี้เสียที เอาล่ะเธอกำลังจะเดินผ่านเขาแล้ว อย่าไปสนใจเชียวนะ มองตรงไป ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น
อิ๋น
เสียงนั้นเรียกเธอจากเบื้องหลัง หญิงสาวชะงักกึก พยายามทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่เอาเด็ดขาด อย่าให้เขารู้เชียวว่าเธอสนใจ
จะไม่ทักทายพี่เลยหรือครับ เสียงนั้นบอกให้รู้ว่าคนพูดอารมณ์ดี หางเสียงเหมือนหัวเราะนิดๆด้วยซ้ำ แย่จัง พี่โดนตัดออกจากรายชื่อคนรู้จักชอบพอกันแล้วหรอนี่
หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะหันมามองด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
สวัสดีค่ะ วันนี้อากาศดีนะคะ ท่าทางคุณสบายดี ฉันทักทายแล้วขอตัวเลยแล้วกันนะคะ
เขาหัวเราะเบาๆอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาคนที่ยืนตัวแข็งอยู่ตรงหน้า
ยังครับ ยังไปไม่ได้ มือใหญ่ๆเอื้อมออกไปข้างหน้าแล้วจับข้อมือเล็กๆนั้นไว้แน่น อย่างที่เธอไม่อาจจะสะบัดให้หลุดไปได้อย่างแน่นอน พี่ยังไม่ได้ทักอิ๋นเลย
ก็ทักสิคะ
พี่คิดถึงอิ๋นนะครับ
วูบหนึ่งในดวงตาสีน้ำผึ้งนั้นเหมือนมีพายุหมุนวน แต่แล้วก็กลับเป็นปกติ หากคนตรงหน้ามองเห็นแล้วว่าเจ้าหญิงน้ำแข็งเองก็วูบไหว
ค่ะ ปล่อยมือได้แล้วค่ะ
เขายิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะยกมือขาวนั้นขึ้นมาจูบ แล้วปล่อยเธอให้เป็นอิสระ
เป็นจูบที่ริมฝีปากนั้นปัดผ่านผิวเนื้อขาวผ่องเพียงผิวเผินถูกต้องตามรูปแบบและมารยาท หากทำให้ใบหน้าของคนถูกจูบร้อนฉ่า เพราะดวงตาดำจัดที่จ้องมองเข้ามาในดวงตาของเธอนั้นบ่งบอกถึงความคิดของตนเองอย่างไม่ปิดบัง
แล้วเจอกันนะครับ
เขาย้ำก่อนเดินจากไปอีกทางปล่อยให้อีกฝ่ายยังคงยืนอยู่กับที่ หญิงสาวนิ่งก่อนจะเอามือสองข้างตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมาอีกครั้ง เธอได้แต่ร้องบอกตัวเอง
ไม่เอาไม่อยากเจอ บ้าที่สุด
ท้องฟ้าคืนนี้มีดวงจันทร์แจ่มกระจ่าง ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงไม้ริมสระว่ายน้ำกว้างที่ผิวหน้าของน้ำสะท้อนแสงจันทร์และแสงไฟระยับ ดวงตาดำจัดนั้นทอดไปยังดวงจันทร์บนฟ้า บนริมฝีปากมีรอยยิ้มอบอุ่นประดับทำให้ดวงหน้านั้นลดความดุดันลง
ดวงจันทร์ในแต่ละค่ำคืนอาจจะแตกต่างเพราะคนที่มองดูมีอารมณ์ที่ไม่เหมือนกัน แต่นั่นก็ยังคงเป็นดวงจันทร์ดวงเดียวกันเสมอ เพราะฉะนั้นดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ย่อมสามารถทำให้นึกย้อนไปถึงดวงจันทร์ในค่ำคืนที่เหน็บหนาวนั้นได้เช่นกัน
อิ๋น หลายปีแล้ว ยังจำได้ไหมนะ
มีต่อ
แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 48 15:14:23
จากคุณ :
แมวเหมียวอ้วนกลมสีชมพู
- [
30 ม.ค. 48 10:38:31
]