* * * * _ _ _ _ _ปี ศ า จ ว สั น ต์_ _ _ _ _ * * * * (ช่วงแรก) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3099880/W3099880.html
(มีลิงก์ต่อให้ทุกตอนแล้วนะคะ)
*********************ปิศาจวสันต์ ช่วงที่ ๘
๓๔.
ฉันกำลังเรียงขวดน้ำอัดลมใส่ลัง ตอนที่เธอเดินเข้ามายืนรอเงียบๆ อยู่ด้านหลัง แค่ปรายหางตาไปมองก็รู้แล้วว่าเธอซ่อนท่าทางไม่เป็นมิตรไว้ไม่สำเร็จ ฉันจึงก้มหน้าก้มตาเก็บร้านต่อไป จากการนับจำนวนขวดเปล่า ก็หันมาจัดเรียงลังกระดาษแล้วมัดรวมกันไว้เพื่อรอคนมารับซื้อ
เขามาหาเธอหรือเปล่า เธอคงช่างใจอยู่นานกว่าจะหลุดคำถามนี้ออกมาจากปาก เสียงสั่นระริกเหมือนกำลังสะกัดกั้นอารมณ์อะไรสักด้วยแรงใจทั้งหมดที่มี
.. ฉันเริ่มนับจำนวนสินค้าจิปาถะที่เหลือจากการขายประจำวัน
ได้ยินที่ถามไหม!!
. เธอตวาดแหว
!!!อย่ามาตีหน้าเซ่อนะ! แล้วก็ถีบลังน้ำอัดลมล้มลง จนขวดกลิ้งกระจัดกระจาย ฉันได้ยินเสียงสูดหายใจแรงๆ เกือบได้ยินกระทั่งการขบกรามดังกรอดๆ หรือเสียงหัวใจที่เต้นระส่ำด้วยเพลิงแค้นแรงริษยา
ฉันรู้ว่าเธอเจอเขา! คนอะไร..หน้าด้านที่สุด!!
.ผู้ชายเขาไม่เอาด้วยแล้ว ยังมีหน้ามาตามตื้ออยู่ได้!!!
ที่จริงฉันนั้นไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วยเลยสักนิด หากเธอไม่มาทำลายข้าวของซึ่งนับเป็นเงินได้ทุกชิ้น
พูดพอหรือยัง
ฉันถามเรียบๆ
เขาไม่เอาเธอแล้ว ก็กลับบ้านไปร้องไห้สิ มาบอกฉันทำไม
.ฉันไม่อยากเสียเวลาฟังว่าเขาร้ายกับฉัน หรือดีกับเธอ
. เมื่อไปสบตากันตรงๆ เธอก็คงจะรับรู้ได้ว่าความหมายในคำพูดนั้นตรงกับสิ่งที่อยู่ในหัวใจของฉันเป็นที่สุด
เธอถึงกับนิ่งอึ้ง หากไม่ใช่เพราะเสียงเย็นๆ เนือยๆ ของฉันก็คงเป็นเพราะสิ่งที่ฉันพูดออกไปมันเป็นความจริงเสียยิ่งกว่าจริง คนที่ตั้งท่าจะมาระรานเต็มที่เริ่มสะอึกสะอื้น จนฉันรู้สึกเห็นใจผู้หญิงด้วยกันขึ้นมาบ้าง
เขาทำกับผู้หญิงทุกคนเหมือนกันนั่นแหละ
. แตะที่แขนของเธอเบาๆ อย่างพยายามที่จะปลอบใจคนที่กำลังหลงเพ้อ
เธอปัดมือฉันออก ตัดไมตรีที่กำลังจะเริ่มผลิใบได้เพียงนิดเดียว อย่ามาถูกตัวฉันนะ!! พร้อมคำรามก้าวร้าว
เอาเถอะ เรื่องอะไรฉันจะต้องพูดอะไรมากมายไปกว่านี้ เธอจะเจ็บแค่ไหนมันก็เรื่องของเธอ
เสียงร้องไห้ฟูมฟายที่เริ่มดังขึ้นๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉันเริ่มรำคาญ แต่ฉันก็เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ทำไมฉันจะไม่เข้าใจล่ะว่าความรู้สึกตอนนี้มันเป็นอย่างไร ฉันได้แต่หันไปบอกเบาๆ
อย่านานนักล่ะ จะปิดร้านแล้ว แล้วฉันก็กลับมานั่งรอที่เก้าอี้ เพราะเชื่อว่าการระบายความอัดอั้นตันใจ ทุกข์ใจ ไม่สบายใจออกมาด้วยการร้องไห้ฟูมฟายอะไรนี่ น่าจะเป็นทางออกที่ดี อยากร้องก็ร้องเสียให้พอ ร้องเสียให้สมองโล่งโปร่ง จะได้มีที่เหลือไว้สำหรับคิดหาเรื่องราวดีๆ เรื่องราวที่มีความสุขมาเติมให้เต็มต่อไป
เธอคงร้องจนพอใจแล้วจึงค่อยซับน้ำตาให้แห้ง เครื่องสำอางที่เขรอะแก้มถูกเช็ดออกแล้วตบแต่งใหม่ด้วยแป้งสี เมื่อเสร็จสรรพ เธอก็เดินเชิดๆ ตรงมาที่ฉันอีกครั้ง
ฉันไม่น่ามาที่นี่ ไม่น่าเปิดโอกาสให้เธอดูถูกฉันได้
..แต่ยังไงเค้าก็รักฉันมากกว่าใช่ไหมล่ะ พอเค้าเจอกับฉัน เขาก็ทิ้งเธอไปเลย เธอทำท่าทำทางประกอบ เหมือนกับลำพองเต็มที่กับคำรักและสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอมาจนถึงขณะนี้
ฉันได้แต่มองอย่างเหยียดๆ ไม่ได้ตั้งใจจะหยามหมิ่นเกียรติของลูกผู้หญิงด้วยกัน ดูเหมือนจะรู้สึกสมเพชด้วยซ้ำ ลุกขึ้นมาทำท่าจะปิดประตู ส่งสัญญาณเชิญแขกให้เธอรับรู้ บอกกับเธอด้วยน้ำเสียงช้าชัดเป็นครั้งสุดท้าย
เธอก็น่าจะรู้นะ ว่าก่อนดีกว่าหลัง ตอนนี้เธอร้องไห้ไม่ใช่ฉัน
ฉันทำใจได้ตั้งนานแล้ว
๓๕.
เสียงกริ่งดังที่ประตู คุณลักษมีเป็นคนออกไปเปิดรับ ผู้หญิงคนหนึ่งแต่งดำทั้งชุด หน้าตาชอกช้ำเหมือนร้องไห้มาอย่างหนัก ยืนนิ่งอยู่เหมือนคนหลงทางมาขอแบ่งปันเศษน้ำใจ คุณท่านส่งสายตามาห้ามไว้ก่อนที่ฉันจะเดินออกไปสมทบ จึงได้แต่ยืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ
เอ่อ
ลูกชายคุณอยู่ไหมคะ
เพียงคำแรกเธอก็รินน้ำตาออกมาเสียแล้ว คุณชัชนะคุณชัช ไม่รู้ว่าจะทำร้ายทำลายผู้หญิงอีกสักกี่คนถึงจะพอใจ
ไม่อยู่ คุณลักษมี คุณท่านของฉันตอบสั้นๆ ตามตรง เพราะเราไม่เห็นคุณชัชตั้งแต่วันที่คุณท่านเอาจดหมายอะไรมากมายให้อ่าน เขาสั่งให้ฉันเผาจดหมายทิ้งทั้งหมด รู้สึกว่าจะเก็บไว้เพียงฉบับเดียวก่อนจะหายตัวไปอย่างเคย
รู้ไหมคะ
ว่าฉันจะเจอเขาได้ที่ไหน แม่สาวนั่นคงกล้ำกลืนก้อนสะอื้นไว้เต็มหัวอก
เขาไม่เคยบอกอะไรฉันเลยน่ะ
ถ้า
คุณเจอเขา บอกเขานะคะว่า แพรวรพีตามหา เขามีเบอร์ฉันอยู่แล้ว แต่เสียงก็ยังสั่นเครือจนน่าสงสาร
ไม่รู้ว่าจะได้เจอกับเขาไหมนะ พรุ่งนี้ฉันก็จะไปอเมริกาแล้ว เหมือนกับคุณท่านจะตัดบทการสนทนาอย่างไร้เยื่อใยเกินไปสักหน่อย ก่อนจะปิดประตู เธอก็ถามขึ้นอีกคำถาม
.ซึ่งเสียงอันสั่นและคราบน้ำตาแห้งเหือดหายไปได้ไวอย่างน่าประหลาด
เขาจะไปกับคุณหรือเปล่าล่ะคะ
คุณลักษมีส่ายหน้าแทนคำตอบ ตั้งใจจะปิดประตูอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอยื่นมือมาดันมันเอาไว้ก่อนจะก้าวเข้ามาช้าๆ
.ขอดูบ้านคุณหน่อยได้ไหมคะ
ฉันรีบเดินมาช่วยกั้นไว้อีกคน แต่คุณลักษมีก็พยักหน้าให้เดินผ่านเข้าไปได้ เธอเดินเข้าไปชะโงกหน้าดูห้องโน้นห้องนี้อย่างเนือยๆ พึมพำเหมือนคุยกับตัวเองเบาๆ
ทุกครั้งที่มาที่นี่กับเค้า เขาจะให้ฉันรออยู่ข้างล่าง
.ฉันอยากรู้ว่าข้างในบ้านมันเป็นยังไงบ้าง เห็นแล้วก็
งั้นๆ
เธอใช้เวลาในบ้านไม่นานอย่างที่คิด ตอนเดินกลับไปที่ประตูหน้า ยังหันมาถามคุณท่านด้วยสีหน้าที่ดีขึ้นเล็กน้อย
ฉันทำตัวโง่มากใช่ไหมคะ
..
ไม่หรอก
.ฉันก็เคยเป็นแบบนี้ จะให้ช่วยเรียกแท็กซี่ให้ไหม
.
ส่วนน้ำเสียงของคุณลักษมีก็มีแววปรานีผุดขึ้นมาจนสังเกตได้
ไม่เป็นไรค่ะ
ขอบคุณ
.
แล้วเธอก็เป็นฝ่ายดึงประตูปิดกลับไปเอง
๓๖.
ปิงมาหาแพรวรพีที่ร้าน รู้สึกเป็นห่วงและสงสารเธอจับใจ เพราะชัชคงจากไปโดยไม่ล่ำลาใครๆ เขามักเป็นเช่นนี้เสมอ ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ได้รู้สึกพิเศษด้วย ปิงก็คงจะไม่คิดเจอหน้าเธอคนนั้นอีกเลยเหมือนกัน
คุณเองเหรอ
.นึกว่าชัชเสียอีก เสียงนั้นแสดงความผิดหวังอย่างชัดแจ้ง แม้เครื่องสำอางนั่นจะเกลี่ยกลบให้ใบหน้าดูหมดจดสดใส แต่แววตาที่ฉายออกมากลับสลดหดหู่จนน่าใจหาย
เขาไปออสเตรเลียแล้ว
ไปซิดนี่ย์
.ไปตามหาแม่ที่แท้จริงของเขา ปิงไม่คิดจะปกปิดความเอื้ออาทรระคนสงสารที่ส่งผ่านออกมาพร้อมกับคำบอกกล่าว
หญิงสาวเดินผ่านหน้าปิงไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ยืนนิ่งจ้องหน้าตัวเองในกระจกสักพัก เมื่อค้นหาคำตอบอะไรไม่ได้จากรูปร่างหน้าตาตรงหน้า ก็กวาดกราดทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะนั้นให้ลงมาแตกกระจายเกลื่อนพื้น
.ที่จริงเธอคงคิดจะทำร้ายตัวเองด้วยซ้ำ หากไม่ติดว่าด้วยความสวยงามผุดผ่องผุดผาดขนาดนี้คือเครื่องมือชิ้นเดียวสำหรับทำมาหากินให้กับคนอีกหลายปากหลายท้อง
๓๗.
แพรวไม่ยอมรับคำชวนของผม แต่ผมก็เข้าใจดี เพราะเธอไม่เคยคิดจะเหลือบแลผมเลยสักนิดมาแต่ไหนแต่ไร ที่ผมเป็นห่วงก็คือ ฝนที่ตกหนักอยู่ขณะนี้จะทำให้เธอเจ็บป่วยไปเสียก่อนที่จะทำใจได้กับการหายตัวไปของคนที่เธอรักสุดหัวใจ
ผมจึงขับรถที่ชัชยกให้ตามมาช้าๆ ทิ้งระยะห่างพอให้เธอไม่สามารถจะขว้างปาอะไรมาได้ถึง แล้วเธอก็หยุดเดิน แสดงท่าเหมือนว่ารอให้ผมเคลื่อนรถเข้าไปเทียบ แน่นอนผมไม่รีรอเลยสักนิด
ตามมาทำไมล่ะ!
แต่แล้วเสียงที่ตะเบ็งสู้กับฟ้าหม่นซึ่งคำรามอยู่ครึนๆ ก็ทำให้ผมผิดหวังอย่างแรง
เลิกตามซะที ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ไปให้พ้นเลยไป๊!!
เธอตะเพิดลั่นโลก ถีบประตูรถเพื่อเป็นการระบายอารมณ์อีกทาง
ขึ้นรถมาก่อนเถอะครับ ผมไม่อยากให้อะไรเกิดขึ้นกับคุณน่ะ การแต่งตัวตามปกติของเธอนี่แหละที่นำพาอันตรายมาสู่ตัวเอง
ฉันไม่ต้องการ!
ฉันไม่ต้องการความรักจากคุณ เคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่ามารักฉัน!
นี่อะไร คิดจะรับช่วงต่อหรือไง! รถก่อน
แล้วก็ผู้หญิง คิดเหรอว่าคนอย่างคุณจะแทนเขาได้ ยังไงฉันก็ไม่มีทางรักคุณหรอกโว้ย!!!
เธอเอ็ดตะโร จนผมต้องเปิดประตูรถลงมาจับไว้นิ่งๆ ดูเหมือนว่าความเสียใจจะปะทุกลายเป็นความโกรธเกลียดแรงร้าย ทั้งตัวที่ได้สัมผัสสั่นเทิ้มทั้งจากความเย็นของเม็ดฝนข้างนอก และจากความร้อนจากไฟรักที่เผาผลาญอยู่ในหัวใจ
เธอผลักอกผมเต้มแรง เตะผมที่หน้าแข้งด้วยรองเท้าปลายแหลม เรายื้อยุดฉุดกระชากกันอยู่กลายสายฝนและฟ้าคะนอง เธอไม่มีทีท่าจะยอมรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งจิกทึ้งหยิกข่วนราวกับว่าผมกำลังจะขืนใจเธอ
เมื่อไม่มีทางเลือก ผมเลยฟาดด้วยฝ่ามือไปฉาดหนึ่ง เธอถึงกับเซถลาล้มลมบนถนนเจิ่งน้ำ ของใช้ในกระเป๋ากลิ้งกระจายไปคนละทิศละทาง แต่ก็ดูเหมือนว่าสติของเธอจะกลับคืนมาได้อีกครั้ง
ฉันอยากไปออสเตรเลีย
.อยากจะไปซิดนี่ย์จริงๆ
แล้วเธอก็เริ่มฟูมฟายตีโพยตีพายซ้ำไปซ้ำมา ภาพของผู้หญิงที่มืดบอดอยู่ในความรักจนหักห้ามใจตัวเองไม่ได้ ช่างน่าเวทนาเหลือเกิน นี่ขนาดโดนฟาดไปแรงๆ ขนาดนั้นยังไม่คิดถึงความเจ็บปวดของตัวเอง
ทำไมหนอ
หัวใจของเธอถึงได้มีแต่เขา
.
ถ้าเป็นชัช เขาคงไม่ขับรถหนีห่างออกมาอย่างผมกระมัง
๓๘.
ปิงยืนยันให้ฉันออกมาพบกับเขาให้ได้ในวันนี้ ที่จริงมันน่ารำคาญมากนะ ที่มีผู้ชายท่าทางอ่อนแออย่างนั้นมาตามตื้อ ถึงเขาจะรักฉันจริงจังขนาดไหน มันก็เป็นแค่ความรักจากผู้ชายแหยๆ คนหนึ่ง ถ้าจะให้ฉันเอาชีวิตไปผูกติดกับผู้ชายอย่างนี้ ฉันยินดีจะทนทรมานกับการรอคอยให้ชัชกลับมาหาอยู่อย่างนี้ดีกว่า
เขามาทรุดตัวลงนั่งตรงหน้า เอาเงินปึกใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะ มันเป็นใบละพันใหม่ๆ ที่กลิ่นหมึกพิมพ์ยังฟุ้ง
เอาเงินนี่ไปนะ
เงินมากขนาดนี้คุณไปเอามาจากไหน ฉันถามอย่างลังเล และเดาใจของเขาไม่ถูกเลย
ก็อย่างที่คุณว่า ผมคงแทนเขาไม่ได้
รถนั่นเขาขับคงดูเท่ระเบิด แต่ผมขับคงดูตลกมาก
ขายมันซะดีกว่า
แล้วปิงก็เอาเงินทั้งหมดยัดใส่มือฉันอย่างง่ายๆ
คุณอยากจะไปซิดนี่ย์ก็ไปเถอะ แล้วก็ขอโทษชัชให้ด้วย บอกว่ารถเขาดีเกินไปสำหรับผม
บางครั้งฉันก็แยกไม่ออกเหมือนกันว่า ผู้ชายดีๆ กับผู้ชายโง่ๆ นั้นมีวิธีการแสดงออกต่อผู้หญิงที่เขารักแตกต่างกันอย่างไร
.แต่
.ถ้าคุณไม่เจอเขาหละก็
เอ่อ!
คุณกลับมาหาผมนะ แล้วเขาก็ผลุนผลันลุกหนีไปโดยไม่หันมองมาอีกเลย
เถิดนะปิง
เวลานี้หัวใจของฉันอาจจะยังมืดบอด ความรักของฉันอาจจะกำลังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่ก็ได้ สักวันหนึ่งหรอกนะปิง สักวันหนึ่งเธออาจจะเป็นคนที่มาจุดไฟในหัวใจฉันให้สว่างไสว เธออาจจะเป็นคนมาปลุกฉันให้ตื่นความฝันอันเลวร้าย
.สักวันหนึ่งปิง
.คงจะมีสักวัน
.
น้ำตาฉันไหลออกมาอีกแล้ว ทั้งที่มันน่าจะเหือดแห้ง
..ผู้ชายสองคน ที่มีความรักต่างกันสองแบบ ที่มีวิธีแสดงความรักต่างกันสิ้นเชิง คนหนึ่งเห็นแก่ตัวอย่างเหลือร้ายกับอีกคนที่เสียสละอย่างเหลือเกิน
เวลานี้ เขาทั้งคู่
..ต่างทำให้ฉันระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา
มันคงเป็นเสียงหัวเราะที่แห้งโหยที่สุดเท่าที่ใครสักคนจะเคยได้ยิน
******จบช่วงที่ ๘******
บันทึกท้ายช่วง
..ช่วงนี้อาจจะดูสั้นไปนิดหนึ่งนะคะ แต่ก็จำเป็นต้องตัดตอนลงตรงนี้จริงๆ เพื่ออรรถรสในการอ่านและการติดตามแบบตอนต่อตอน ทั้งนี้โพสต์อีกสองช่วง ปีศาจวสันต์ ก็จะจบภาคแล้ว
.เพื่อนที่ยังแอบๆ อ่านอยู่ ก็ช่วยๆ กันลงชื่อเป็นกำลังใจเฮือกสุดท้ายให้กับคนเขียนสักนิดแระกันนะคะ
.นะคะ
นะคะ
พลีสสสสสสส์
จากคุณ :
เพียงคำ
- [
31 ม.ค. 48 07:32:48
]