CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ชัยชนะของ...

    ถึงเวลาอีกแล้ว...

    ช่วงเวลาแห่งการสัปยุทธ์รายวันที่ต่างฝ่ายต่างก็มีวิถีที่จะเอาชนะกันอย่างมุ่งมั่นและจริงจังกำลังจะเริ่มขึ้น...

    ฉันหรี่ไฟหลอดแบบเผาไส้ให้มืดลง กดรีโมทแอร์คอนดิชั่นตั้งอุณหภูมิห้องไปที่ 27 องศาเซลเซียล แล้วเฝ้าสังเกตอาการขยี้หูขยี้ตาและการเกาหลังใบหูอย่างไม่กลัวผิวหนังถลอกปอกเปิกของเขาอย่างคนที่รู้ทัน รอยแผลสีน้ำตาลอ่อนใต้ติ่งหูข้างซ้ายอันเป็นผลตกค้างจากวันก่อน เริ่มแห้งแข็งเป็นสะเก็ด เขาพลาดที่สัปหงกให้ฉันเห็นอย่างจะแจ้ง และออกอาการโดยเอาฝ่ามือถูระหว่างซอกจมูกกับแก้มขึ้นๆลงๆจนฉันแน่ใจว่า เขากำลังถูกความง่วงเข้าจู่โจมเข้าแล้ว มือไวเท่าความคิด ฉันฉกอุ้มเขาขึ้นมาแล้วเริ่มเขย่าตัวขึ้นลงเบาๆและแอบมองด้วยหางตาเพื่อเฝ้าสังเกตอากัปกิริยาอย่างใกล้ชิด

    เขาเริ่มไม่ใส่ใจกับสภาวะรอบๆตัว เปลือกตาซ้อนขึ้นมาเป็นสองชั้นอย่างเห็นได้ชัด เขาเพิ่มความถี่และความรุนแรงในการขยี้หูขยี้ตาจนฉันต้องเอามือรั้งแขนเขาไว้ไม่ให้เล็บน้อยคอยจิกเกี่ยวอวัยวะอ่อนนุ่มของเขา

    ดูสิดู มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ผลักไสธาตุทรนงของเขาให้ฝืนสู้ไม่ยอมศิโรราบง่ายๆแม้หนังตาจะเริ่มหรุบหรู่ลงอย่างน่าสงสาร

    ฉันกระหยิ่มใจนัก...โอกาสทองกำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้ และจากนี้ไปอีกไม่เกินสองสามนาที ฉันมั่นใจว่าฉันจะพิชิตเขาได้อย่างราบคาบแน่นอน...

    เวลาผ่านไป ส่วนหลังของหัวทุยกลมที่มีเส้นผมนุ่มหอมละมุนของเขาเหวี่ยงหงายวืดจนเขาตกใจผงะดึงตัวกลับมาตั้งตรงตาเบิกโตขึ้นอีก นั่นเป็นสิ่งนอกเหนือการคาดการณ์ของฉันจริงๆ อาการตกใจนั้นคงไปกระตุ้นให้ร่างกายของเขาขับดันอะดรีนาลีนออกมาจนตาสว่าง และมันทำให้เขากลับแข็งแกร่งกว่าที่คิด เขาส่งเสียงอ้อแอ้ขึ้นมาอีกเหมือนกับจะขอหยอกกับฉันเล่น...มือไม้ไกวกวักชูขึ้นฟ้าราวกับการฉลองชัย แต่ธรรมชาติของร่างกายที่ต้องการการพักผ่อน ดัดอารมณ์ของเขาให้เกิดหงุดหงิดขึ้นมาดื้อๆ เขาเอามือทั้งสองข้างจับหัวบริเวณท้ายทอยแล้วลูบมาข้างหน้าแรงๆแล้วส่งเสียงร้องไห้แฮะๆแต่ยังไม่ปล่อยโฮ

    ฉันฉกฉวยด้วยคิดว่าโอกาสทองมาถึงอีกครั้งแล้ว จึงพยายามกดท้ายทอยของเขาลงเบาๆให้พวงแก้มของเขาแนบลงบนไหล่ของฉัน แรงฝืนต้านส่งสัญญาณว่า ฉันได้แหย่ต่อมโมโหของเขาเข้าแล้ว

    เขาดันหัวขึ้นสู้และสะบัดหัวไปมาอย่างฉุนเฉียวพร้อมกับทำหน้าเหยเกส่งเสียงร้องแฮะๆดังขึ้นๆ แต่ไม่มีน้ำตาสักหยด

    ไม่สำเร็จ วิธีรุนแรงนี้ทำให้ฉันเปลี่ยนใจเลิกข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า ตอนนี้เขากลับมาแกร่งกล้าอีกครั้ง ลำคอชูตั้งตรง มือขวาตบไหล่ของฉันเบาๆจะว่าปลอบรึก็ไม่ใช่ ฉันต่างหากที่ต้องปลอบเขา หรือว่าจะเป็นการตบตักเตือนก็ยิ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ เด็กตัวแค่นี้จะรู้จักตักเตือนด้วยหรือ...?

    อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่เคยละความพยายาม สิ่งที่ฉันยังทำอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน ก็คือการโยกตัวไปข้างๆสลับกับกับเขย่าตัวเขาขึ้นลงเบาๆสลับกับการตบไหล่และตบหลังแผ่นน้อยของเขา พอเมื่อยแขนก็ลดมือลงไปตบก้นแต่เพิ่มความแรงขึ้น เพราะมีผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่หนาปึ้กคอยรองรับน้ำหนักตบอยู่แล้ว

    ฉันหาตัวช่วยด้วยการเปลี่ยนยุทธวิธีขอแรงบรรดาคีตกวีชื่อก้องของโลกมาขับกล่อมท่วงทำนองของบทเพลงคลาสสิก อย่าง Moment Musical No.3 in F minor ของ Schubert ตามด้วย Minuet in G (A Lover’s Concerto) ของ Bach …. ล่วงเลยมาจนถึง Rhapsody on A Theme of Paganini ของ Rachmaninoff เรียงรายกันมาอย่างต่อเนื่องขนาดนี้ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสยบเขาลงได้ กลับกลายเป็นว่าตัวฉันเองที่เริ่มหาวหวอดๆจนปากจะฉีกถึงหูด้วยเสียงเพลงชวนหลับที่ซาบซึ้ง มากที่สุดที่เขายอมในระหว่างที่บทเพลงบรรเลงไป ก็คือซบหน้าลงกับไหล่ทำนิ่งงันจนฉันตายใจคิดว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว ในใจหวั่นๆไม่กล้าขยับใบหน้าของเขาดูว่าหลับแล้วจริงหรือเปล่า แต่รู้สึกได้ว่าเขานิ่ง มือไม้อ่อน และเริ่มทิ้งน้ำหนักลงบนตัวฉัน

    เอาล่ะ ไหนดูคนเก่งหน่อยซิ ฉันเดินผ่านกระจกเงาชำเลืองมองใบหน้าในเงาสลัวก็มองเห็นดวงตาคู่ใสสะท้อนแสงไฟหรี่ๆ เงาของสายตาเขาจ้องมองประสานกับสายตาของฉันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในโลกใบนี้

    ฉันเดินไปเดินมาอยู่หน้าเครื่องเล่นสเตอริโอให้เสียงเพลงกล่อมเกลาโสตประสาทของเขาใกล้ๆ คราวนี้ ฉันส่งเสียงฮัมไปด้วย เพื่อให้แรงสั่นสะเทือนจากเส้นเสียงในลำคอส่งผ่านถึงทรวงอกที่แนบชิดกับเขา และฉันเปลี่ยนจากการเขย่ามาเป็นโยกลึกๆช้าๆ ตามจังหวะเพลง แล้วใช้กระบวนท่าโยกไวกิ้งส์แกว่งตัวเองยาวๆให้ตัวเขาขึ้นไปสุดวงโยกแล้วบิดตัวต่ออีกครึ่งฟุต เพื่อให้ใบหน้าของเขาค้างสูงอยู่อย่างนั้นสักครู่แล้วก็ปล่อยโยกวืดลงมา ปกติ วิธีนี้จะได้ผลกับพี่สาวของเขามาโดยตลอด เพราะเป็นการจัดท่าทางให้ใบหน้าของเขาอยู่ในลักษณะที่ตั้งสูงสุดจนเกือบเงย อันจะทำให้เปลือกตาบนปิดทับลงมาใกล้ชิดกับเปลือกตาล่างมากที่สุด ถ้าไม่เบิกตาขึ้นให้มากกว่าปกติ ก็จะเหมือนกับถูกบังคับให้ปิดเปลือกตาอย่างจงใจ

    ฉันทำอย่างนี้อีกสี่ห้าครั้งจนตัวเองชักเมื่อยเอวและปวดหลัง เหงื่อเม็ดโป้งๆผุดซึมออกมาตามรูขุมขนที่จมูกและแผ่นหลังของฉัน

    โอ...น่าจะได้การแล้วสิเนี่ย เขาเริ่มนิ่งและหนัก ฉันย้ำความมั่นใจอีกครั้งด้วยการเดินโฉบมองเงาสะท้อนจากกระจก ว้าว...เขาหลับตาแล้ว แต่ยังเผยอปากส่งเสียงเออ...อ....อ...วา...วา...กล่อมตัวเองอยู่อย่างนั้น จนฉันอดขำไม่ได้

    ฉันเดินช้าๆไปนั่งลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบาและนิ่มนวลที่สุดในชีวิต โดยที่ยังพยายามโยกตัวอยู่เบาๆให้มีความต่อเนื่อง เสียงกล่อมตัวเองของเขาเริ่มทิ้งช่วงห่าง และเบาลง...เบาลง...เบาลง...ฉันจึงก็เริ่มเอนกายลง เกรงหน้าท้องรับน้ำหนักตัวเขาเพื่อรักษาอากัปกิริยาการเอนนอนอย่างช้าๆ หน้าท้องของฉันเต้นระริกโดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ฉันต้องเกร็งกล้ามท้องที่ไม่ค่อยจะมีอย่างเต็มที่ก่อนจะส่งตัวเองลงไปนอนราบอยู่บนเตียงโดยที่มีเขาอยู่ในอ้อมกอดอย่างนิ่มนวล

    ทันทีที่แผ่นหลังของฉันแตะที่นอน...

    แง!...

    คุณพระช่วย ความพยายามอันเหนื่อยยากของฉัน ยังไม่บรรลุผลหรือนี่ ฉันรีบส่งเสียงโอ๋...โอ๋ อยู่ไม่ขาดสายพร้อมๆกับตบก้นเบาๆ และสลับด้วยเสียงครางต่ำ ฮืมมม...ฮืมมม...อยู่อย่างไม่ย่อท้อ แต่ก็ไม่สามารถสะกดเสียงร้องดังลั่นของเขาได้เลย และในที่สุด ฉันก็ต้องสอดมือเข้ารักแร้อุ้มเขาขึ้นและลุกออกมาจากเตียงจนได้ ในใจส่งเสียงจิ๊จ๊ะให้กับความล้มเหลวของตัวเอง เขายังไม่ยอมหยุดร้อง และฉันก็ต้องลุกออกมาจากเตียงยืดตัวขึ้นแล้วโยกเพื่อให้เขารู้ว่า ฉันยืนขึ้นแล้วนะ

    เขาหยุดนิ่งเงียบเหมือนกับปิดสวิทช์ แล้ววางแก้มซบลงบนไหล่ของฉัน ไรผมอ่อนนุ่มหอมละมุนบริเวณท้ายทอยของหัวทุยมนระเรี่ยอยู่กับจมูกของฉันเหมือนเป็นการตอบแทนความพยายามของฉัน

    โถ...ลูกรัก นี่จะทรมานกันไปถึงไหนล่ะเนี่ย จะให้ฉันเดินทั้งคืนหรืออย่างไร...

    เสียงเพลงเงียบไปแล้ว ซีดีเพลงยาวเกือบสี่สิบนาทีจบบริบูรณ์ทุกแทรค เป็นการยืนยันการต่อสู้อันยาวนาน บริเวณบั้นเอวด้านหลังฉันเริ่มปวดขัดขึ้นเรื่อยๆ

    ฉันเดินไปปิดไฟ ใช้ความมืดเป็นแรงเสริม คราวนี้ ได้ผล
    ฉันได้ยินเสียงกรนเบาๆสลับกับเสียงหายใจเข้าลึกๆช้าๆ เสียงกรนเบาๆลึกเหมือนเสียงสวรรค์ที่ฉันได้ยินหลังการต่อสู้ที่ไม่สามารถคาดคิดได้ว่าจะจบลงเมื่อใด...ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณสวรรค์ ฉันหาวหวอดให้กับตัวเองเป็นการฉลองชัย

    เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ ฉันจึงลองปล่อยตัวเขาที่เกาะอยู่กับอก ซบอยู่กับไหล่มาให้เขานอนหงายอยู่ในอ้อมกอด มือไม้เขาตกอย่างสมบูรณ์แบบ ฉันลองก้มลงสูดความหอมจากพวงแก้มหนุ่มน้อยฟอดใหญ่ในความมืดอย่างท้าทาย...
    เงียบ ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้านอีกแล้ว ฉันค่อยๆเดินดุ่มในความมืดตรงไปที่เตียงนอน

    กึก!

    อูย...ฉันสูดปากกลั้นความเจ็บปวดเมื่อหน้าแข้งปะทะกับขาตั่งไม้สักเนื้อแน่นและหนักอึ้งสำหรับนั่งแต่งหน้า มันกระทบแรงพอที่จะทำให้ฉันต้องเดินกระเผลกเลยทีเดียว...อูย

    ...ถึงที่นอนแล้ว คราวนี้ ฉันกล้าพอที่จะอุ้มเขาวางลงในที่นอนของเขา โดยไม่ต้องให้พักอยู่บนตัวฉันอีก ดูสิจะมีอีกกี่ยกกัน...

    สำเร็จ...เขาเหวี่ยงตัวฟาดเตียงไปมาเล็กน้อยดังปึกปัก ก่อนที่ฉันจะจับเอาตุ๊กตาทิกเกอร์เสือโคร่งลายส้มตัวโปรดเข้าไปไว้ในอ้อมกอดของเขา แล้วเอาผ้าห่มคลุมตัวเขาให้ร่างกายอบอุ่น

    ฉันย่ามใจก้มลงหอมพ่อลูกชายจอมอึดแรงๆทดลองอีกครั้ง...

    เงียบ…ฮะฮ้า...สำเร็จ...

    เฮ้อ...หมดไปอีกคืนหนึ่งแล้ว นี่จนป่านนี้ตัวช่วยของฉันก็ยังไม่ขึ้นมาบนบ้านเลย สงสัยติดทำงานอยู่ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ข้างล่าง เจ้าปุ้ยหมาเจ้ากรรมเห่าโฮ่งๆๆๆก่อนส่งเสียงหอนโจ๋วน่ารำคาญเรียกให้หมาตัวอื่นๆในซอยพร้อมใจกันประสานเสียงดังลั่นซอย...ฉันระทึกใจด้วยความหวั่น จ้องมองดูปฏิกิริยาของเขาต่อเสียงอุปรากรหมา แต่ก็ไม่มีผลแล้วโดยสิ้นเชิง

    ฉันปิดเครื่องสเตอริโอ แล้วเอนกายนอนปล่อยใจปล่อยกายให้ผ่อนคลาย ยิ้มให้กับชัยชนะของตัวเองอีกครั้ง กำลังเคลิ้มๆจะหลับมิหลับแหล่
    ผ่อนคลาย...ผ่อนคลาย...ผ่อนคลาย

    พรึ่บ! ไฟสว่างแยงตาจนฉันต้องยกมือปิดหน้าแล้วขมวดคิ้วมอง

    ตัวช่วยของฉันเปิดประตูเข้ามา สงสัยจะลืมตัวเปิดไฟสว่างจ้า และก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ลมพัดกระโชกให้ประตูปิดกระแทกไล่หลังเข้ามา

    ปัง!...

    แง!...


    เรื่องโดย คนรักลูก

    จากคุณ : คนรักลูก - [ 3 ก.พ. 48 11:02:57 A:203.150.106.127 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป