CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ความรู้สึกดี ๆ ที่(บางทีก็)ไม่ใช่รัก

    พี่แทนคะ..
    สบายดีหรือเปล่าคะ..ทำไมเดี๋ยวนี้เงียบหายไป
    ฟ้าเมล์มาหลายทีแล้ว..พี่ก็ไม่เห็นตอบ พี่คงงานแยะจริง ๆ อย่างที่พี่ว่า
    แต่ก็น่าแปลกนะคะ ฟ้ายังเห็นพี่เขียนอะไร ๆ ตั้งหลายเรื่องในนามของลุงปิ๊วมั่ง
    คุณทดมั่ง คุณทันมั่ง คุณครรชิตมั่ง และคุณร้อยแปดพันชื่อมั่ง
    พี่ไม่มีเวลาประสาอะไรของพี่คะ?..
    อิอิ..แกล้งว่าค่ะ แกล้งว่า
    ฟ้ารู้ค่ะ..ว่าพี่ไม่มีเวลาให้ฟ้าจริง ๆ
    แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถึงแม้พี่แทนจะไม่มีเวลาตอบ แต่ฟ้าก็จะขออนุญาตเขียนถึงพี่แทนต่อไปนะคะ
    หวังว่าพี่แทนคงได้อ่าน และหากมีเวลาเหลืออยู่บ้าง ก็จะเจียดเวลานั้นมาตอบฟ้า
    ฟ้ายังจำได้ดี สำหรับข้อความปลอบใจที่ฟ้าได้รับจากพี่แทน
    พี่คงไม่รู้ ว่าเมล์ฉบับนั้น ฟ้าถือเป็นเมล์ที่สำคัญมากต่อชีวิตของฟ้า
    ในยามที่ฟ้ากลับไปคิดถึงเรื่องเก่า ความเจ็บปวดจากอดีตเก่า ๆ ฟ้าก็เอาเมล์ของพี่มาอ่าน
    อ่านแล้วก็ทำให้ฟ้ามีกำลังใจ ที่จะต่อสู้ต่อไปในหนทางของชีวิต
    อย่างที่พี่บอกไงคะว่า “หากตื่นขึ้นมาวันใด หากรู้สึกว่าลมหายใจยังผ่านจมูกอยู่ล่ะก็ ขอให้ลุกขึ้น แล้วทำอะไร ๆ ไปเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อย ก็เพื่อเป็นการตอบแทนอากาศที่ยังรักเราและอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด…”
    วันนี้ฟ้าตอบแทนบุญคุณของอากาศได้เยอะเลยค่ะ
    พี่แทนคะ..
    ทุกวันนี้ฟ้าสบายใจเป็นอย่างมาก สิ่งดี ๆ เริ่มเกิดขึ้นในชีวิตของฟ้าแล้ว
    คุณพ่อเข้าใจฟ้ามากขึ้น วันนี้ท่านถึงกับยกมือขึ้นลูบหัวฟ้า แล้วบอกฟ้าเบา ๆ ว่า
    “พ่อรักฟ้านะลูก..”
    ฟ้าร้องไห้โฮเลยค่ะ
    เพราะคำนี้ ฟ้ารอมานานแล้ว ในที่สุดฟ้าก็ได้ยินอีกครั้ง
    ฟ้าดีใจจนน้ำตาไหลเลยค่ะ
    แล้วฟ้าก็คิดถึงพี่แทน
    เพราะพี่แทนนั่นเองที่ทำให้ฟ้ามีวันนี้
    ขอบคุณพี่แทนมาก ๆ นะคะ
    พี่แทนคะ
    ฟ้าขอให้พี่แทนเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่งของฟ้านะคะ
    ฟ้ารักพี่แทนที่สุดเลยค่ะ
    ฟ้า…
    ……………….

    เมล์ฉบับนี้ มาถึงผมเมื่อเช้าวาน แต่ผมเพิ่งมีโอกาสได้เช็คเมล์เมื่อครู่นี้เอง
    อ่านดูแล้วก็รู้สึกหน่วง ๆ หัวใจอย่างไรบอกไม่ถูก เลยขออนุญาตยกมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน
    คงทราบนะครับว่า “ฟ้า” นั้น เป็นชื่อสมมติ
    เด็กสาวคนนี้ เรียนอยู่ชั้นปีที่สาม ในมหาวิทยาลัยของจังหวัดหนึ่งในภาคอิสาน
    ผมก็จำไม่ค่อยได้ว่า เธอรู้จักแอดเดรสเมล์ของผมได้อย่างไร เพราะผมก็แจกเขาไปทั่ว ตามนิสัยคนใจกว้าง(อิอิ)
    เธอเมล์มาหาผม เล่าให้ฟังว่า เธอกำลังมีปัญหาเรื่องความรัก
    เธอมีความรักกับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งเธอเรียกเขาคนนั้นว่าพี่ทุกคำ
    ทั้งสองรักกันมาก และมีแผนการจะครองรักกันหลังจากเรียนจบและได้งานทำ
    แต่แล้วความรักของเธอก็มีปัญหา เมื่อมารู้กันในภายหลังว่าครอบครัวของเขาและเธอนั้นเป็นครอบครัวเดียวกัน
    พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นญาติกันนั่นเอง
    จำได้ไหมครับที่ผมเอาประเด็นนี้มาเขียนถึงถึงสองเรื่องด้วยกัน เป็นเรื่องผีทางโทรศัพท์เรื่องหนึ่ง และเรื่องรักหวานแหววอะไรอีกเรื่องหนึ่งนี่แหละ
    ผมมักจะเอาเรื่องจริงใกล้ตัวมาแต่งเป็นนิยายหรือเรื่องสั้นเสมอล่ะครับ
    พอเธอรู้ความจริงดังนั้น เธอเล่าว่าเขาและเธอตัดสินใจที่จะไปครองรักกันในชาติอื่น
    ทั้งสองไปเปิดห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง แสดงความรักต่อกันและกันเป็นครั้งสุดท้าย
    จากนั้นก็พร้อมใจกันกินยาฆ่าแมลง ที่ซื้อติดเข้าไปด้วย
    ปรากฏว่าเธอทนความทรมานไม่ไหว ดิ้นรนจนมือไปกระทบโทรศัพท์ที่หัวเตียง โอเปอเรเตอร์ได้ยินเสียงผิดปกติจึงแจ้งพนักงานให้ไขประตูเข้ามาดู
    ปรากฏว่าฝ่ายชายไม่รอด ส่วนเธอรอด หมอล้างท้องได้ทัน
    แต่เรื่องแทนที่จะจบแค่นั้น จากนั้นอีกสองสามเดือนต่อมาเธอก็มีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
    หมอบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ เธอถึงกับล้มตึงลงไปทันทีที่หมอบอก
    ช่วงเวลานั้น เธอเล่าว่าเธอเหมือนตกอยู่ในนรก
    เรื่องเธอตั้งท้อง เป็นเรื่องที่เธอไม่สามารถจะบอกใครได้อย่างแน่นอน
    โดยเฉพาะคุณพ่อของเธอ ซึ่งดุด่าเธออย่างไร้เหตุผลมาตั้งแต่เธอเป็นวัยรุ่น
    เมื่อเธอนึกถึงการทำแท้ง เธอก็สุดที่จะทำได้ เพราะความรักที่เธอมีต่อแฟนของเธอ ซึ่งเป็นพ่อเด็กนั้น มีมากมายเกินกว่าที่เธอจะฆ่าเด็กได้ลง
    เธออยากจะให้เด็กคนนั้นเกิดขึ้นมา เพื่อเธอจะได้มอบความรักทั้งหมดที่มีแทนชายคนนั้น
    แต่ก็อีกนั่นแหละ การสืบสายพันธุ์ระหว่างยีนส์พันธุ์เดียวกัน อาจจะทำให้เด็กที่เกิดขึ้นมานั้นผิดปกติก็เป็นได้
    จึงเป็นเรื่องที่เธอคิดไม่ตก ตัดสินใจไม่ได้
    เธอเมล์มาถามผมว่าควรทำอย่างไรดี
    ถ้าคุณผู้อ่านถูกถามอย่างนี้ คุณผู้อ่านจะตอบว่าอย่างไรครับ?
    ………….

    ผมทิ้งจดหมายอิเลคทรอนิคฉบับนั้นไว้หลายวัน เพราะผมยังหาคำตอบให้เธอไม่ได้
    แต่ด้วยความเป็นห่วง ว่าเธออาจจะตัดสินใจอะไรผิด ๆ โดยทำลายตัวเองไปพร้อมกับลูกของเธอไปเสียก่อน
    ผมจึงได้ตัดสินใจตอบเธอไปในวันหนึ่ง
    ความว่า

    “เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในชีวิตของฟ้า พี่มองแล้วเหมือนนิยายสามเล่มสิบ
    เรื่องมันบังเอิญจนเกินไป เรื่องมันโหดร้ายจนเกินไป จนยากที่พี่จะเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริง
    พี่ไม่ได้ว่าฟ้าโกหก แต่พี่กำลังบอกว่าเรื่องที่ฟ้าเล่าให้พี่ฟังนั้นเหมือนเรื่องโกหก
    เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาเราก็ควรจะต้องแก้ด้วยวิธีการโกหก
    เป็นการเอาหนามบ่งหนาม เอาเชื้อโรคฆ่าเชื้อโรค เอากรรมมาสู้กับเวร ซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้
    ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาจากความรัก น้องก็ควรเอาความรักนั้นมาแก้
    น้องลองถามตัวเองอีกครั้ง ว่ารักลูกตัวเองที่อยู่ในท้องนั้นมากแค่ไหน?
    และยอมรับได้หรือไม่หากเด็กเกิดมาแล้วเกิดพิการหูหนวกเป็นใบ้เพดานโหว่ขึ้นมา
    หากน้องรับได้และยืนยันว่าน้องจะเลี้ยงเขาได้
    ก็ขอให้น้องเก็บเขาไว้ ดูแลเขาอย่างดี ฝากท้องกับหมอให้ดูแลอย่างใกล้ชิด อาหารการกินและหยูกยาบำรุงก็อย่าได้ให้ขาดไปได้
    หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดชี้ไปในทางที่ผิดปกติ ซึ่งทุกวันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็เจริญก้าวหน้าไปไกลถึงขนาดสามารถตรวจพบความผิดปกติของเด็กในครรภ์ได้ว่าเกิดมาแล้วจะพิการหรือไม่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่น้องจะทราบล่วงหน้าและตัดสินใจอีกครั้งว่าจะเอาลูกไว้หรือไม่เมื่อถึงเวลานั้น
    ช่วงเวลานั้นก็ควรจะไปบอกความจริงกับคุณพ่อ คุณพ่อซึ่งได้ลูกกลับคืนมาจากความสูญเสียมาครั้งหนึ่งแล้ว คงไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายไปกว่าช่วงเวลาที่อยู่ระหว่างการคาบเกี่ยวว่าลูกของตนจะรอดหรือไม่รอดอีกแล้ว
    พี่ว่าท่านคงจะรับได้ อาจจะมีอาการเกรี้ยวโกรธ แต่เชื่อว่าไม่นานก็จะหายไป
    นี่คือคำแนะนำของพี่
    ส่วนน้องจะทำหรือไม่พี่ก็สุดจะรู้ จำไว้ว่าชีวิตของเราเลือกที่จะทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
    และอีกข้อหนึ่งที่อยากจะย้ำไว้ ว่าชีวิตคนเรานั้น หากเกิดมาแล้วไม่เห็นคุณค่าของชีวิตของตนเอง โดยแค่สาเหตุของอารมณ์รัก ใคร่ หลง โกรธ น้อยใจ ซึ่งเป็นแค่เศษเสี้ยวของชีวิตมาเป็นเหตุเพื่อทำลายชีวิตตัวเองแล้ว ชีวิตนั้นก็ไม่ควรจะได้เกิดมา
    อย่างน้อย ถ้าไม่คิดจะทำอะไรเลย เช้าขึ้นมาหากลมหายใจยังผ่านจมูกอยู่ ขอให้ลุกขึ้น แล้วทำอะไร ๆ ไปเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อย ก็เพื่อเป็นการตอบแทนอากาศที่ยังรักเราและอยู่กับเรามาตั้งแต่เกิด
    ขอให้น้องโชคดี
    พี่แทน
    …………
    จากนั้นไม่นาน ผมก็ได้รับเมล์อีกฉบับจากเธอ
    เธอบอกว่าเธอเชื่อผม เธอเลือกที่จะเอาลูกไว้
    เธอนำเรื่องนี้ไปปรึกษาคุณพ่อของเธอ เธอบอกว่าเหมือนเรื่องโกหก
    คุณพ่อของเธอรับฟังด้วยอาการสงบ และท่านนั่นเองที่พาเธอไปหาฝากท้อง
    ทุกวันนี้ เธอออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว..เธอมีชีวิตอยู่กับลูกน้อยในท้องของเธอ และรอวันที่สายโลหิตของคนที่เธอรัก จะลืมตาออกมาดูโลก ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
    และเมื่อถึงวันนั้น เธอจะเลี้ยงดูเขาอย่างดี ให้สมกับความรักที่เธอมีให้กับพ่อของเขา และที่พ่อของเขามีให้กับเธอ
    ผมก็ได้แต่อนุโมทนาสาธุ
    ……….
    ส่วนสาเหตุที่เมื่อผมได้รับจดหมายฉบับข้างต้น แล้วทำให้ผมต้องนำเรื่องนี้มาเล่าให้เพื่อน ๆ ได้อ่านนั้น ก็เพราะ ประโยคสุดท้ายของเธอ ที่เธอบอกว่า “พี่แทนคะ ฟ้าขอให้พี่แทนเป็นพี่ชายอีกคนหนึ่งของฟ้านะคะ..”นั่นแหละครับ
    คุณผู้อ่านคงยังไม่รู้ ว่าแฟนของเธอ ที่ฆ่าตัวตายพร้อมเธอแล้วเธอไม่ตายแต่เขาตายนั้น มีชื่อว่า “แทน”
    ซึ่งเธอเรียกว่า “พี่แทน” ทุกคำ
    ผมยังงง ๆ อยู่ว่า ผมเป็น “พี่แทน” ของเธอในนัยที่ซ่อนไว้ในใจเธอว่า เธอกำลังเขียนจดหมายถึงชายคนรักของเธอจริง ๆ หรือเธอหมายถึง “แทน” คนนี้
    แทนคนนี้ที่ไม่น่าจะเป็น “พี่ชายที่แสนดี” ของใครได้เลย
    ผมจึงรู้สึก “หน่วง ๆ หัวใจ” อย่างไงชอบกล
    อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้นไงครับ
    แล้วผมจะอนุญาตให้เธอเป็นน้องสาวของผมดีหรือเปล่าครับ?
    ช่วยผมคิดหน่อยเถอะ..
    ………..

    นั่นคือประการที่หนึ่ง อีกประการหนึ่งที่ผมนำเรื่องนี้มาบอกเล่าก็เพราะว่าอยากจะให้เป็นกรณีตัวอย่างให้กับใครอีกหลาย ๆ คนที่กำลังมีความรัก และกำลังรู้สึกทุกข์อยู่กับความรัก

    ลองเปรียบเทียบสิครับว่า ความทุกข์ของคุณกับความทุกข์ของ "ฟ้า" นั้น ใครจะทุกข์มากกว่ากัน

    ฟ้ายังเห็นบุญคุณของลมหายใจ แล้วคุณล่ะ?

    ขยันหายใจไว้เถิดครับ

    จากคุณ : แทน*-* - [ 6 ก.พ. 48 23:26:28 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป