ปี ๒๕๔๘
.....................ท่ามกลางกลางสภาวะเศรษกิจและสังคมของประเทศไทย ในยุคโลกาภิวัติ ในยุคที่ความเจริญทางวัตถุวิวัฒนาการ
สวนทางกันกับความเจริญทางศีลธรรมและจิตใจ ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ขณะที่ค่าครองชีพยังเท่าเดิม ทำให้ทุกคนต้องทำงาน
เพื่อแลกกับ " เงิน " สิ่งที่มนุษย์สมมติขึ้นมาให้มันมีค่า สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย คนในยุคนี้ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของ
ตนเองและครอบครัว พ่อแม่ต่างก็ทำงานเพื่อให้ได้เงินมาใช้จ่ายมิให้ขัดสน จึงไม่มีเวลาอยู่ดูแลลูกหลานเหมือนดังเช่นอดีตกาล
มีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะให้ได้ก็คือค่าตอบแทนจากหยาดเหงื่อแรงงานของผู้เป็นบุพการี เมื่อพ่อแม่อยู่ห่างกับลูก เงินก็เปรียบเสมือน
ผู้ปกครองของเด็กคนนั้นแทน แต่จะเกิดอะไรขึ้นเล่า ถ้าเงินอยู่ในมือของเด็กคนนั้นซึ่งยังเป็นผู้ที่มี กิเลส ตัณหา ราคะ รัก โลภ โกรธ หลง อยู่อย่างเหนียวแน่นเป็นเนืองนิจ ขาดการขัดเกลาจิตใจโดยธรรมมะ ขาดการอบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่ที่มัวแต่หาเงิน
ในยุคที่มนุษย์ไม่แตกต่างอะไรจากนาฬิกา บ้าวัตถุ ทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของตนเอง ขาดการยับยั้งชั่งใจ
พระบางรูปขาดการปฎิบัติ ขาดการศึกษาพระธรรม มีแต่จะหาเงินบริจาคเข้าวัดเพื่อสร้างวัดของตนให้ใหญ่โตหรูหราอลังงการ
เข้าใจว่าการสร้างวัดให้ใหญ่โตระโหฐานเป็นการสร้างความเจริญทางศาสนา ครูบาอาจารย์บางท่าน เห็นวิชาความรู้เป็นสินค้า
เวลาสอนกั๊กวิชาบางส่วนไว้ให้นักเรียนที่มีเงินมาเรียมเพิ่มเติมตอนเรียนพิเศษ ขาดจรรยาบรรณของความเป็นครู ขาดการยับยั้งชั่งใจ
ปล่อยให้กิเลศตัณหาครอบงำจิตใจ ใช้ความรุนแรงต่อเด็กนักเรียน ที่หนักว่านั้นคือการข่มขืนกระทำชำเราลูกศิษย์ ดังที่เห็นเป็นข่าว
หน้าหนึ่งมากมาย ข้าราชการโกงกินทุจริตคอรัปชั่น มีความสามารถพิเศษกินได้แม้กระทั่ง อิฐ หิน ดิน ทราย บางทีก็แย่งนมเด็กกิน
ข้าราชการทหารบางคนก็รับจ๊อบพิเศษเป็นมือปืน ตำรวจบางท่านรีดไถ รังแกประชาชน ทำอะไรไว้บ้างคงไม่ต้องให้ผู้เขียนอธิบาย ลืมไปว่าตนเองนั้นเข้ามาสวมเครื่องแบบอันทรงเกียรติของเพื่ออะไร ท่านมาเพื่อเป็นตำรวจ
"หรือท่านมาเพื่อเป็นผู้พิทักษ์สันติราษกร์" กันแน่ ท่านลืมไปแล้วหรือว่า เพื่อมาปฎิบัติหน้าที่ดูแล ปกป้อง หวงแหน รักษาไว้ซึ่งสันติสุขของปวงประชาราษฏร์ไว้ยิ่งชิวิต สังคมไทยในเวลานี้กำลังที่จะใกล้ถึงจุดวิกฤติ ผู้คนต่างเห็นแก่ตัวซึ่งกันและกัน
มีการแย่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันอยู่ทั่วไป คนที่มีเงินมีอำนาจได้รับการเคารพนับถือความเกรงขาม คนผู้น้อยโดนเอารัดเอาเปรียบ
ทุกสิ่งทุกอย่างมีผลพวงมาจากหลาย ๆ เหตุและหลาย ๆ ปัจจัย หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญนั่นก็คือ "ระบบทุนนิยม"
.....................วิริยะ กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ
วันนี้วิริยะมาเรียน รด.ที่ศูนย์ฝึกแถวสำโรง หลังจากเลิกแถววิริยะเดินไปล้างหน้าล้างตาและกำลังจะกลับบ้านโดยใช้ยานพาหนะที่มี
ล้อเพียงสองล้อ หรือที่ คนไทยนิยมเรียกกันว่า "มอเตอร์ไซค์" รถมอเตอร์ไซค์ของวิริยะเป็นรถสีขาว รุ่น "CRM 250 R"
เครื่องยนต์เป็นแบบสองจังหวะ สูบเดี่ยว ขนาดความจุกระบอกสูบ 250 ซีซี รถคันนี้วิริยะรักมาก เป็นรถที่พ่อของวิริยะยกให้ไว้ขับ
ไปโรงเรียนหลังจากสอบใบขับขี่ได้ รถคันนี้เป็นรถมอเตอร์ไซค์วิบากที่ตกแต่งสไตล์ "Supermotard"
ระหว่างที่กำลังจะสตาร์ทเครื่องยนต์ก็มีเสียงดนตรีทำนองที่กำลังนิยมดังเจื้อยแจ้วมาจาก ช่องเก็บสัมภาระในกล่องอเนกประสงค์
ท้ายรถ เมื่อเปิดดูจึงรู้ว่าเสียงมาจากโทรศัพท์มือถือรุ่น NOKIA N-Gage วิริยะจึงรีบรับสายทันที
"ฮัลโหล วิริยะพูดครับ" วิริยะรับโทรศัพท์
"ฮัลโหล ยะเหรอ นี่บีมนะเว้ย แจ้งเหตุว่ะ สมาชิกของเราเพิ่งโทรมาตะกี๊"
"คดีอะไรวะ แล้วที่เกิดเหตุเป็นไงบ้าง"
"ข่มขืนอีกแล้วเว้ย คนเจ็บเป็นผู้หญิงว่ะ ส่งโรงบาลไปแล้ว"
"ใครเป็นผู้ต้องหาวะ"
"พยานบอกว่าเป็นผู้ชายวัยรุ่นสามคน สงสัยว่าจะเป็นพวกขี้ยาว่ะ , ตอนนี้สมาชิกกำลังขับรถสะกดรอยตามอยู่"
"เออ ๆ แล้วนายอยู่ใหนเดี๋ยวจะตามไป"
"เราโทรอยู่ตู้หน้าปากซอยนี่เอง รีบมาล่ะ"
"เออ ๆ"
....................................สิ้นเสียงโทรศัพท์รอมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็กระโจนออกไปเยี่ยงอาชา !..........................................................
................................................................................................................................................................................................
.........................ในเวลายามอาทิตย์อัสดงเช่นนี้จะมีใครสังเกตว่าพงหญ้าซึ่งขึ้นรกสูงนั้นกำลังขยับเขื้อนเคลื่อนไหวอยู่อย่างผิดปกติ
"ที่นี่หละ"
"ทำตามแผนนะ"
"บอส โจ เดี๋ยวนายสองคนไปทางซ้าย"
"ครับผู้กอง"
"ส่วนบีม นายไปทางขวากับมอส ปิดทางหนีไว้"
"รับทราบ"
"ทุกคนตรวจเช็คอาวุธ พร้อมใช้งานใช่มั้ย ์?"
"ครับผม"
"ที่เหลือตามผมมา เอาล่ะไปได้"
เสียงกระซิบพูดเบา ๆ เล็ดลอดมาจากคนแต่งเครื่องแบบทหารประมาณเจ็ดคนเห็นจะได้ ทุกคนใส่หมวกกันน็อคแบบกระจกปรอท
ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าข้าง ๆ บ้านหลังเก่าโทรม ๆ หลังหนึ่ง เป็นบ้านสองชั้นที่ถูกดัดแปลงซ่อมแซมเล็กน้อยไว้พอนอนเล่นได้
ในบ้านมีชายวัยรุ่นสามคนกำลังนั่งดื่มสุรากันอย่างสบายใจ
"ตุบ !"
"เสียงอะไรบนบ้านวะ"
"เสียงแมวล่ะมั้ง แถวนี้แมวเยอะ"
"เหรอ แมวห่านี่ ทำเอาตูตกใจหมด เดี๋ยวเจอจะจับทำลาบซะให้เข็ด"
"เออ ๆ แดกเหล้าต่อเหอะ"
ครู่เดียวเท่านั้นประตูบ้านก็ถูกถีบจนพังลงมา มีคนในเครื่องแบบทหารไม่ติดเครื่องหมายบอกสังกัด สามคนกรูเข้ามานำทีมโดย
วิริยะ กร และเอ๊กซ์ ทุกคนมีอาวุธปืนอัดลมไฟฟ้าที่โมดิฟายมาอย่างเต็มที่ ความรุ่นแรงในระยะหวังผลโดนเข้าไปถึงขั้นหนังไหม้เลย
ทีเดียว ทั้งสามคนตั้งท่าเตรียมยิงอย่างที่เคยฝึกฝนกันมาอย่างชำนาญ
"เฮ้ย พวก***เป็นใคร มาที่นี่ได้ไงวะ" ไอ้ขี้ยาหนึ่งในสามคนตะโกนขึ้นมาพลางหยิบมีดพร้าที่ซ่อนไว้ใต้เสื่อ ส่วนอีกสองคน
ที่เหลือก็ชักมีดพกของตนขึ้นมาด้วยความตกใจเตรียมการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในอึดใจที่จะถึงนี้
"ยิง !" สิ้นคำวิริยยะสั่งนิ้วชี้ของทั้งสามคนก็เหนี่ยวไกทันที
"ปัง ๆๆๆๆ....." นศท.ทั้งสามเล็งไปที่มือขวาของเป้าหมายเพื่อที่มีดจะได้หลุดจากมือ จากนั้นก็เล็งที่ลำตัวและกระหน่ำยิงไม่ยั้ง
"ปัง ๆๆๆๆ" เสียงจากปืนไฟฟ้าดังลั่นระงมทั่วห้องนั้นไปหมดฟังอะไรไม่ได้ศัพท์เลยทีเดียว
"โอ๊ย..." เด็กขี้ยาคนหนึ่งทนความเจ็บความปวดความแสบไม่ไหวล้มลงไปหนึ่งคนพลางเอามือปัดป้องตัวเองไว้จากคมกระสุน
ส่วนที่เหลืออีกสองคนวิ่งกระเจิงไปคนละทิศคนละทาง คนหนึ่งวิ่งขึ้นกระไดไปชั้นบน แป๊บเดียวโดนถีบตกบันไดกลิ้งลงมาหัวแตก
สลบคาที่ คนที่ถีบไม่ใช่ใคร บอสซึ่งแอบปีนขึ้นไปรออยู่ชั้นบนนั่นเอง จากนั้นโจก็วิ่งไปใส่กุญแจมือและนำตัวมาไว้กลางบ้าน
ส่วนไอ้ขี้ยาอีกคนวิ่งไปทางหลังบ้านพบว่าประตูบ้านล็อกอยู่จึงรีบพังประตูออกไป
"โครม !" จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่รถของเขา แต่หารู้ไม่ว่ามีคนแต่งเครื่องแบบทหารมาดักรอเขาอยู่หลังต้นไม้สองคน
คือ บีม และมอสนั่นเอง
"เฮ้ย" ไอ้เจ้าขี้ยาอุทานด้วยความตกใจ เอ็มไม่รอช้าออกหมัดซ้ายชกเข้าไปที่ลิ้นปี่ จากนั้นก็ตามด้วยเตะเข้าก้านคออย่างจัง
"พลั่ก!!" ไอ้เจ้าขี้ยาสลบคาที่ !
"มอส ใส่กุญแจมือ" มอสรีบหยิบกุญแจมือที่เหน็บไว้มาใส่ที่มือของขี้ยาที่กำลังหมดสติคนนั้นด้วยความลุกลี้ลุกลนเนื่องด้วยเพิ่ง
จะมาปฎิบัติการเป็นครั้งแรกนั่นเอง
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
"มัดเชือกพวกมันไว้ตรงเสาบ้านเลย นั่นแหละ" วิริยะออกคำสั่ง
"เรียบร้อยแล้วครับผู้กอง"
"ดี" วิริยะพูดพลางกดโทรศัพท์
"ฮัลโหล สภ.อ.บางเมืองหรือเปล่าครับ แจ้งเหตุครับ วันนี้มีคดีข่มขืนเมื่อตอนบ่ายใช่มั้นครับ .. ครับ ทางเราพบตัวผู้ต้องสงสัยแล้ว
ครับ อยู่ที่บ้านเลขที่... ครับ รีบมาด่วนเลยครับ จากไทเสรี สวัสดีครับ"
"ตู๊ด ๆ"
"ไปชดใช้กรรมอยู่ในคุกต่อเถอะพวกเมิง รับรองตูดบานแน่"
ขี้ยาไร้อนาคตสามคนที่ถูกพันธณาการกับเสาบ้าน ซึ่งคนนึงยังไม่หมดสติ วิริยะก็ถีบอย่างแรงเข้าไปที่ใบหน้าจบสลบไปอีกคน
"เอาล่ะ อีก ๑๕ นาทีตำรวจจะมาถึงที่นี่ พวกเรา แยกย้ายกันกลับบ้านได้" สิ้นคำวิริยะสั่งทุกคนก็ต่างรีบแยกย้ายกันกลับบ้าน
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
--------------------- ไ ท เ ส รี ---------------------
ผู้ที่มาปฎิบัติการครั้งนี้มี ๗ คน ประกอบไปด้วย
ผู้กองวิริยะ หรือ ยะ เป็นหัวหน้า ( ผู้ก่อตั้ง )
ผู้หมวดบีม ( รองหัวหน้า )
กร
เอ๊กซ์
มอส
บอส
โจ
--------------------- ไ ท เ ส รี ---------------------
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
...........ครู่หนึ่งรถกระบะสี่ประตูสีขาวสลับแดงเลือดหมูติดไซเรนแดงโร่สองคันก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๘ นายรีบลงจากรถนำโดย
ร้อยตำรวจตรีสุรเดช ทุกคนอาวุธครบมือรีบวิ่งมาล้อมรอบบริเวณบ้านไว้ พบประตูบ้านเปิดอยู่หมวดเดชสั่งลูกน้องให้เข้าไป
พบชายวัยรุ่นซึ่งกำลังหมดสติ ทั้งสามคนถูกมัดเชื่อกไว้กับเสาบ้าน จึงสั่งให้ลูกน้องไปแก้เชือกออกและให้รีบนำตัวไปโรงพัก
"พวกกลุ่มไทเสรีอีกแล้วเหรอคะผู้หมวด" สิบตำรวจตรีหญิงภัสสร ถามผู้หมวดหนุ่ม
"........." หมวดสุรเดชไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่พยักหน้าเบา ๆ แบบใช้ความคิดท่านั้นเอง
-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
"กลับมาแล้วครับแม่" วิริยะพูดพลางยกมือไหว้สตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง
"ทำใมวันนี้กลับบ้านค่ำจังล่ะลูก" สตรีวัยกลางคนถามด้วยความสงสัย
"......" วิริยะยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร
"เฮ้อ... ลูกคนนี้นี่ รีบไปอาบน้ำแล้วลงมากินข้าวกันเร็ว ๆ วันนี้แม่ทำกับข้าวที่ลูกชอบทั้งนั้นเลย"
"ครับแม่"
วิริยะวิ่งขึ้นชั้นบนไปสักสิบห้านาทีเห็นจะได้ก็วิ่งลงมา แม่กำลังดูข่าวทีวี รออยู่ที่โต๊ะอาหารซึ่งมีกับข้าวหลายอย่างอยู่พอดี
"แม่แล้วพ่อไปใหนเหรอครับ"
"อ๋อ ไปช่วยงานเพื่อนพรุ่งนี้ก็กลับ"
"เหรอฮะ.."
พูดเสร็จวิริยะไม่รอช้ารีบตักข้าวกินทันที มีชะอมทอดไข่หอมกรุ่นกับน้ำพริกกะปิรสแซบที่วิริยะชอบ ในขณะที่แม่ยังไม่กินเพราะ
กำลังดูข่าว
"สวัสดีค่ะ วันนี้เวลาประมาณสิบสามนาฬิกาสามสิบห้านาที เกิดคดีข่มขืนขึ้นในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งภายหลังตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ โดยมีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งความ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ใหนกลุ่มไทเสรีนั่นเองค่ะ ในขณะนี้ทางตำรวจยังไม่ทราบ
ว่ากลุ่มไทเสรีพวกเขาเป็นใคร จากการสอบถามผู้ต้องหาที่พวกเขาจับได้ทุกคนตอบว่าเป็นคนแต่งเครื่องแบบคล้ายทหารและยังใส่
หมวกกันน็อคทุกคนด้วยค่ะ สำหรับกลุ่มไทยเสรีนั้น เคยช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายมาแล้วกว่าสิบคดี................."
"ไม่รู้พวกใหนกันเนอะลูก ไทเสรี เห็นออกข่าวประจำเลย"
วิริยะยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร ..................
/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*
....................โปรดติดตามตอนต่อไป.........................
*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/
อ่านจบแล้วอยากได้
คำติชมครับ
จากคุณ :
คนไม่สำคัญ
- [
8 ก.พ. 48 15:03:25
A:202.176.121.67 X:
]