3)
แว่บแรกที่ผมได้เห็นหน้าคนที่คงจะเป็นพ่อใหม่ ผมแปลกใจเป็นยิ่งนัก
เป็นเจ้าหมอคนที่แย่งเบียร์ผมดื่มได้อย่างไร??
หรือจะหมายความว่า ในจังหวะที่ผมล้มลงหัวน๊อกพื้น
ก็คงเป็นเวลาเดียวกับลูกของเขาคลอดออกมาพอดี
ด้วยความผิดพลาดทางเทคกะนิคอะไรสักอย่าง
ทำให้ผมไปเกิดใหม่ในร่างของเด็กคนนั้นในทันที
โดยที่สวรรค์และนรกยังไม่ทันรับรู้ว่าผมตาย และเด็กคนนั้นได้เกิดใหม่
ตัวเลขทางบัญชีของการเกิดและการตาย
จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ยมทูตจึงไม่รู้ ยมบาลจึงไม่ทราบ
ไม่ก็คอมพ์ฯ ของท่านยมบาลเสียแน่ ๆ เลย
จะว่าผมโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่เนี่ย????
แง๊...
........
ในสภาพที่เป็นทารก แต่ความรู้สึกนึกคิดยังเป็นของผมอย่างบริบูรณ์
ใครไม่เคยตกอยู่ในสภาพนี้คงไม่รู้ว่ามันน่าอึดอัดสักแค่ไหน?
และเป็นเรื่องน่าละอายเพียงใด? นี่จึงเป็นสาเหตุที่ผมบอกว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากจะเล่าเอาเสียเลย
ลองคิดดูสิครับ
ทุกวันจะถูกแก้ผ้า พลิกคว่ำคะมำหงายโดยใครก็ไม่รู้
บางวันก็ถูกหอมที่ตรงนั้นจนเจ็บไปหมด
(ก็อีตาคนที่เป็นพ่อผมน่ะแหละ ชอบทำนัก)
บ้างก็ถูกเอามือเขี่ยไปเขี่ยมาจนผมหน้าแดง
ยังดีที่ยังมีที่ดี ๆ อยู่บ้าง
ก็ที่ได้กินนมเนี่ยแหละ
อิอิ...
แต่ใช่ว่าผมจะม้ามกนะครับ ผมเป็นคนดีนะครับจะบอกให้
วันแรกที่ผมต้องกินนมจากเต้า(นับจากวันที่รู้สึกตัวเต็มที่) เชื่อไหมล่ะว่าผมไม่กล้า
เหม่..แม้ผมจะเป็นคนเสน่ห์แรงซักแค่ไหน แต่เมียของคนอื่นนี่ผมถือนะครับ ผมไม่ยุ่งเด็ดขาด
ขนาดทนหิวจนตาลายก็ยังยอมเล้ย
แต่ที่ทำให้ผมต้องกินนม ก็เพราะว่าการไม่กินนมของผม
ได้สร้างความเป็นห่วงให้เกิดขึ้นแก่ผู้ที่เป็นแม่คนใหม่ของผมมาก
ใบหน้าที่สวยซึ้งนั้น ในดวงตามีน้ำตาปริ่มจนผมสงสาร
หัวอกแม่ที่ลูกไม่ยอมกินนมคงเหมือนใจใกล้แตกสลาย
สิ่งที่ผมทำได้ ก็คือหลับหูหลับตางับแล้วดูด ๆ ให้อิ่ม ๆ ไปเสีย
พอลืมตาขึ้นอีกที เห็นใบหน้าเธอยิ้มแย้มสดชื่น ผมเองก็อดน้ำตารื้นไม่ได้.
แล้วก็รีบรีบงับนมอีกครั้ง..
อิอิ
ความอบอุ่นของแม่กับลูกอย่างนี้ ผมไม่เคยได้รับมานานแล้ว
ผมโชคดีเหลือเกินที่ได้มันกลับมาอีกครั้งโดยไม่คาดหมาย
แต่ด้วยการเป็นทารก การทำเป็นน้ำตาซึมกลับทำไม่ได้
ทำได้อย่างเดียวคือร้องไห้ ผมก็เลยร้องซะเลย
แต่เมื่อร้องหลังดื่มนมคราวใด แม่คนใหม่ของผมมักจะหน้าซีด
พะวักพะวงจนทำอะไรไม่ถูก
แล้วคิดว่าผมรีบดูดนมเกินไปเลยทำให้ปวดท้อง
เธอก็เลยหามหาหิงค์มาทาท้องให้ผม
ผมต้องรีบเงียบ เพราะกลิ่นอันเหลือร้ายนั้น
มิน่า..เด็กทุกคนเจอกลิ่นมหาหิงค์เข้าไปจึงต้องรีบเงียบ
เพราะยิ่งร้องก็จะยิ่งสูดกลิ่นพิลึกนั้นเข้าไปมากขึ้น
มิน่า...อย่างนี้นี่เอง
.........
วันหนึ่ง แม่คนใหม่ของผมต้องพาผมไปหาหมอ
คงจะต้องฉีดวัคซีนตามกำหนดระยะเวลาตามประสาทารกทั่วไป
ผมดีใจมากเพราะจะได้ออกสู่โลกภายนอกซะที
หลังจากที่ทนอดอู้มาไม่น้อยกว่าสามเดือน
พอเธออุ้มออกมา ผมก็ต้องแปลกใจ
เพราะสภาพภายนอกนั้นเป็นที่ที่ผมคาดไม่ถึง
แทนที่จะมีรถราขวักไขว่ บ้านช่องใหญ่โตเต็มไปด้วยตึกรามคอนโดฯ
ที่ไหนได้ กลายเป็นเรือกสวนไร่นาสุดลูกหูลูกตา
บ้านที่ผมมาเกิดใหม่นี้ เป็นบ้านที่ดูจะดีกว่าบ้านของคนอื่น ๆที่ปลูกอยู่ห่าง ๆ นั้น
แต่ละหลัง เป็นเรือนสูงโย้ไปมาบ้าง เป็นกระต๊อบบ้าง
บ้างก็มีหน้าตาคล้ายยุ้งฉางเก็บข้าวเปลือก
โถ่เอ๊ย..จะเกิดทั้งที่จะไปเกิดใหม่ในตระกูล"ชินเหวย" หน่อยก็ไม่ได้
มาเกิดเป็นลูกชาวนาชาวสวนซะแล้ว
กร่อยเลยเรา...
.........
ยายคนหนึ่งพอเห็นผมถูกอุ้มออกมา ก็รี่เข้ามาอย่างดีอกดีใจ
"โอย..น่ารักจังเลย..จะพากันไปไหนกันจ๊ะแม่ลูก..
ไหน ๆ ขอยายอุ้มหน่อยซิ.."
ใบหน้าที่ยับย่นนั้นมาลอยอยู่ตรงหน้า
ปากแดงด้วยหมากซึมออกมาจับตามรอยยับของมุมปาก
ซึ่งลอยอยู่เต็มโฟกัสของลูกตาของผม เล่นเอาผมตกใจ
กลิ่นหมากจากลมหายใจทำให้ผมกลั้นใจและหลับตาปี๋
แกอุ้มผมไปฟัดซะจนผมร้องจ๊าก ด้วยความจั๊กกะจี้
แล้วผมก็ถูกเปลี่ยนมือไปหาอีกคนหนึ่ง
คนนี้ดีหน่อย เป็นสาว ๆ ซึ่งก็คงจะเป็นเพื่อนบ้านแถวนั้น
เธอใส่เสื้อคอกระเช้า ใส่ผ้าถุงตามปกติของคนในชนบท แต่มองแล้วเซ็กซี่ชะมัด
อุอุ ผมชอบให้คนนี้หอมจังเลย..กลิ่นตัวเธอฮ้อมหอม
อ้อมกอดของเธอก็นุ้มนุ่ม
ตอนจากกันผมยังโบกมือหยอย ๆ ให้เธอ เธอหัวเราะกิ๊กชอบอกชอบใจ
อุทานว่าไม่น่าเชื่อว่าอายุได้แค่สามเดือนเอง
ผมหัวเราะเอิ๊กส์
แล้วฉี่ก็พุ่งออกมา จนแม่คนใหม่ของผมต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้อีกครั้ง
"ฉี่บ่อยจังเลยนะลูก.."
อิอิ....
เป็นเด็กมันก็ดีอย่างนี้นี่เอง...
....
ในโรงพยาบาลมีคนเยอะแยะ
เป็นโรงพยาบาลในตัวอำเภอ..ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอำเภออะไร
อำเภอนี้ผู้คนสามัคคีกันดีมาก
ป่วยพร้อมกันนับร้อยเลย ทั้งผู้ใหญ่ผู้เด็กเต็มไปหมด
แม่คนใหม่ของผมพาผมไปหาแผนกเด็ก
ซึ่งก็ติดกับแผนกผู้ใหญ่นั่นแหละ
เธออุ้มผมไว้แนบอก พาไปยื่นบัตรแล้วพาไปนั่งรอ
โต๊ะข้าง ๆ บังเอิญเป็นผู้หญิงคนหนึ่งพาลูกมาหาหมอเหมือนกัน
เธอกับหญิงคนนั้นก็เลยคุยกันเอิ๊กอ๊ากถูกคอ
ส่วนผมก็หลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่อยากหลับ
แต่ร่างกายทารกนั้นบังคับให้ต้องหลับบ่อย ๆ
ตอนนั้นผมก็หลับอยู่ มาสะดุ้งตกใจตื่นก็เพราะมีอะไรอย่างหนึ่งคล้ายน้ำลาย
หยดแหมะมาถูกที่ริมฝีปาก
รีบลืมตาขึ้นดูก็เห็นใบหน้าหนึ่งลอยสลอนรออยู่แล้ว
น้ำลายหยดที่สองกำลังตามมา
ผมตกใจแหกปากร้องลั่น
แหมะ..
เอิ๊ก..อ๊อก..แง๊........
แม่ใหม่ผมหัวเราะลั่น แล้วโอ๋ผมไปมา บอกว่า
"ตกใจเหรอลูก พี่เขาแค่อยากดูหน้าหนูใกล้ๆ
เงียบซ้า ๆ คนดี.."
ผมเงียบกริบ พยายามจะถุยสิ่งที่เข้าปากนั้นออกมาให้ได้
แต่ผมบังคับปากบังคับลิ้นไม่ได้
ทำได้ก็แต่เพียงปล่อยน้ำลายของผมเองให้ยืดไหลออกมาเอง..
และก็คงจะทำท่าผะอืดผะอมออกไปสักอย่าง
ก็เลยได้ยินหัวเราะจากผู้หญิงคนที่เป็นแม่เด็กคนนั้น
ผมสังเกตเด็กคนนั้นเต็มตา
เธอไว้ผมม้า อายุคงจะแก่กว่าผมสักเดือนหรือสองเดือน
ตาหวานกลมแป๋ว ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนปากแฉะ
จมูกนิดนึง อ้วนจนเห็นเนื้อเป็นปล้องเหมือนอย่างผม
กำลังน่ารักเชียว
"เอ้า..จ้องใหญ่เลย พี่เขาสวยใช้ม้า..ชื่ออะไรนะค้า.." แม่ผมถาม
"ชะอ้อนจ้ะ..เด็กหญิงชะอ้อน..อายุเพิ่งจะห้าเดือนเมื่อวานนี้เอง.."
"หวัดดีฮะ.." ผมทักทายเธอ ด้วยเสียง อือ..
"อออา.." เธอทักทายผมตอบ
มอง ๆ ไปเธอก็สวยดีเหมือนกันนะ..
"คนสวยทานข้าวยัง?"
"ออออ.."
"อื้อ..สบายดีล่ะสิ ยิ้มแก้มย้วยเชียว..โตขึ้นจะสวยแบบนี้หรือเปล่าล่ะ.."
เธอไม่ตอบ กลับเบะปาก แล้วก็ร้องแง๊ออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย
ผมก็ต๊กกะใจ..ก็ผมไม่ได้ทำอะไรเธอนี่นา แค่ชวนคุยเฉย ๆ เอง
"เปียกหรือลูก..มา แม่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้..เงียบลูก ๆ "
แม่ของเธอปลอบเธอไปมา
แล้วสิ่งที่ทำให้ผมหน้าแดงก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น
แม่ของเธอแก้กางเกงเธอออก แล้วก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้เธอ
ผมหลับตาปี๋ ยกมือขึ้นปิดตาด้วยนะ
แต่มือมันเล็กไป ปิดไม่มิดซักเท่าไหร่..
หวา..
****
ผมนำดวงตาใสแจ๋วคู่นั้นติดเข้าไปด้วยขณะแม่ใหม่พาเข้าไปหาหมอ
หมอเป็นผู้ชาย จับผมอ้าปากดูลิ้นดูคอ แหกหูแหกตาดูแป๊บ ๆ
แล้วก็เขียนอะไรยุกยิกลงในกระดาษบนโต๊ะ จากนั้นก็บอกให้แม่พาผมไปวางไว้บนเตียง
กลิ่นแอกอฮอล์ลอยฟุ้งไปทั่ว ผมใจเต้นตึก ๆ เพราะกลัวเข็ม
สักพักหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
วาว..เป็นนางพยาบาลสาวสวย ใส่กระโปรงสั้นจุ๊ด
เสื้อก็คับติ่วจนน่าอึดอัดแทน
ที่สำคัญ ปากสีแดงสดนั้นกำลังยิ้มระรื่นราวจะเชิญชวนผู้ชายทั้งโลกมาคุยกับเธอ
ดวงตาใสแจ๋วของเด็กหญิงชะอ้อน
มลายหายวับไปทันที
กึ๊ยส์..ตอนผมเป็นหนุ่มเวลาไปหาหมอ
ทำไมไม่เจอพยาบาลสาวพราวเสน่ห์อย่างนี้บ้างน้อ..??
เธอก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ตรงหน้า ปากก็คุยเจื้อยแจ้วไปเรื่อยแต่ผมไม่สนใจว่าเธอพูดอะไร
จากนั้นก็หันไปดูดยาจากขวดเข้าเข็มแหลมเปี๊ยบ
ผมจ้องมองไม่วางตา แล้วเธอก็ก้มลงหยิบสำลี
แต่พอเธอหันมา แทนที่จะยิ้มเหมือนเดิม เธอกับทำตาโตด้วยความตกใจ
"คุณหมอคะ..เด็กเลือดกำเดาไหลค่ะ.."
............
ขากลับออกมาผมก็เจอพี่ชะอ้อนเข้าอีกจนได้
เธอร้องไห้ขี้มูกโป่ง คงจะโดนเหมือนผมเข้าสิท่า
นางพยาบาลคนนี้สวยซะเปล่าแต่มือหนักชะมัด
ผมโบกมือลาเด็กน้อยคนนั้น แม่ใหม่ของผมไม่เห็นหรอก เพราะเธออุ้มผมคว่ำหน้ากับบ่า
ผมโบกมือหยอย ๆ อยู่ข้างหลังเธอ
ถ้าให้เธอเห็นเข้า..เธอคงตกอกตกใจในพฤติกรรมผิดเด็กของผมแน่ ๆ
ผมหันไปมองโรงพยาบาลอีกครั้ง
ในใจก็คิดว่าเดือนหน้าค่อยเจอกันใหม่นะจ๊ะ
พยาบาลคนสวยจ๋า..
แต่แล้วก็ใจหายวาบ ไม่เอาดีกว่า
ร่างกายที่เป็นเด็กกับเข็มฉีดยานี่
เจ็บจนรับไม่ไหวจริง ๆ
ตอนเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ค่อยเจ็บ จะเจ็บก็แค่เหมือนมดกัด
แต่ตอนเป็นเด็กนี่โค-ตรเจ็บเลย..
ผมเลยร้องซะลั่นห้อง
ไม่อาวดีกว่า..นาน ๆ เจอกันก็แล้วกันนะจ๊ะ
อิอิ..
"หัวเราะอะไรลูก? เมื่อกี้เห็นร้องไห้อยู่แหมบ ๆ
รมณ์ดีจังนะเรา.."
ผมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก..ใจยังคิดถึงภาพหยิบสำลีของนางพยาบาลไม่หาย...
แล้วรถสองแถวประจำหมู่บ้านก็มาถึง..
++++
จากคุณ :
ปิ๊วปิ้ว
- [
11 ก.พ. 48 20:10:36
A:202.5.82.210 X:
]