บทที่ 5
ยามสนธยา อากาศยังคงหนาวเย็น
โอ้วฮูหยินนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่ในบ้าน นางก่อเตาไฟเล็กๆ ในห้องขับไล่ความหนาวเย็น
ที่หน้าบ้านได้ยินเสียงร้องเรียก โอ้วฮูหยินชะโงกหน้าไปมอง เห็นมีเงาร่างคนสองคนยืนอยู่ โอ้วฮูหยินจึงรุกขึ้นเดินไปหา ที่แท้เป็นซุ่นเจียวที่พบกันที่วัดกวงไท้ยี่เมื่อสองวันก่อน ที่ด้านข้างยังมีหญิงสาวอีกนางหนึ่ง สตรีนางนั้นอายุแรกรุ่น สวยสะคราญบริสุทธิ์ผุดผ่อง ดวงตาคมเข้มมีอำนาจ ผิวกายขาวเป็นยองใย สวมใส่อาภรณ์เลิศหรู คลุมด้วยผ้าคลุมขนสัตว์ราคาแพง บุคลิกสง่าสูงส่ง ซุ่นเจียวกางร่มให้แก่นางป้องกันหิมะที่กำลังพลิ้วร่วงหล่น
ซุ่นเจียวทักทายว่า ชิวเจ้เจ๊ บ้านของท่านช่างหายากนัก
เจียวม่วย ท่านมาได้อย่างไรกัน?
ย่อมมาตามหนทางที่ท่านบอกไว้
วันนี้ข้าพเจ้าพาบุคคลพิเศษมาเยี่ยมเยียนท่าน
โอ้วฮูหยินหันไปจับจ้องใบหน้าของหญิงสาวนั้นเนิ่นนาน ค่อยกล่าว ท่านคือ
คือ..คุณหนู
โอ้วฮูหยินรู้สึกลำคอตีบตันไม่อาจกล่าววาจาออกมาอีกได้
หญิงสาวนางนั้นผงกศีรษะ กล่าวว่า
ข้าพเจ้าคือฟู่เจิ้นอิง
ที่แท้นางคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฟู่
ฟู่เจิ้นอิงก็มองโอ้วฮูหยินแนบแน่น
ซุ่นเจียวบอกว่าท่านเคยเป็นแม่นมของข้าพเจ้า?
โอ้วฮูหยินดวงตาแดงก่ำ รู้สึกปลาบปลื้มยิ่ง รับคำแล้วกล่าว
ท่านเติบโตถึงเพียงนี้
งดงามถึงเพียงนี้
ซุ่นเจียวร้องว่า
พวกท่านหากยืนสนทนาที่นี้ต่อไป เกรงว่าจะถูกหิมะสุมจนถึงศีรษะแล้ว
โอ้วฮูหยินค่อยเรียกสติกลับคืน เชื้อเชิญคนทั้งสองเข้ามาในบ้าน
.
เมื่อยี่สิบปีก่อน ฟู่ต่งเฟิงรับราชการเป็นขุนนางในราชสำนัก ถูกส่งมาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการที่เมืองอู้หยางแห่งนี้ ตำแหน่งแม้ไม่ใหญ่โต แต่ผู้ตรวจราชการให้ความสำคัญมอบหมายให้ดูแลด้านการคลัง การเบิกจ่ายงบประมาณทั้งเมือง เจ้าเมืองอู้หยางยังให้ความเกรงใจอยู่หลายส่วน
ฟู่ต่งเฟิงมาอยู่ที่เมืองอู้หยางได้ปีเศษ ฟู่ฮูหยินก็ให้กำเนิดฟู่เจิ้นอิง ตระกูลฟู่มีฐานะมาตั้งแต่ดั้งเดิม ความเป็นอยู่ค่อนข้างสุขสบาย มีบ้านช่องใหญ่โต บ่าวไพร่บริวารพรั่งพร้อม ฟู่เจิ้นอิงจึงได้รับการทะนุถนอมมาตั้งแต่เกิด
แต่ฟู่ฮูหยินร่างกายอ่อนแอ หลังคลอดกลับไม่มีน้ำนมป้อนให้บุตรี ทั้งได้รับคำแนะนำจากหมอให้พักรักษาตัวต่อเนื่อง ไม่อาจดูแลบุตรีได้ ฟู่ต่งเฟิงจึงต้องเสาะหาแม่นมให้แก่ฟู่เจิ้นอิง สุดท้ายพบพานโอ้วฮูหยินที่เพิ่งคลอดโอ้วชังลิ้วได้สองเดือน ฐานะของโอ้วฮูหยินกับสามีในตอนนั้นยากจน บิดาของโอ้วชังลิ้วเพิ่งเข้าทำงานกับร้านของเถ้าแก่แซ่อุ้ยได้ไม่นานนัก เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว นางจึงเข้ามาทำงานในตระกูลฟู่ เป็นแม่นมให้กับฟู่เจิ้นอิง โอ้วฮูหยินยังพาโอ้วชังลิ้วเข้ามาในตระกูลฟู่ด้วย ฟู่ต่งเฟิงก็ให้ความเมตตาปราณีต้อนรับส องแม่ลูกเป็นอย่างดี นางเลี้ยงดูเด็กทั้งสองไปพร้อมๆ กัน โดยมีซุ่นเจียวซึ่งเป็นหญิงรับใช้ในตระกูลคอยช่วยเหลือ โอ้วฮูหยินจึงสนิทสนมกับซุ่นเจียวเรียกหากันเป็นเจ๊ม่วย
โอ้วฮูหยินอยู่ในตระกูลฟู่ด้วยความสุขสบาย เด็กทั้งสองก็น่ารักเป็นเพื่อนเล่นกันตลอดเวลา
เมื่อโอ้วฮูหยินทำงานอยู่ในตระกูลฟู่ได้สามปีเศษ ฟู่ต่งเฟิงเกิดความขัดแย้งกับเจ้าเมืองอู้หยางเกี่ยวกับการเบิกเงินค่าใช้จ่ายของทางการ ฟู่ต่งเฟิงเป็นขุนนางตงฉินนิสัยซื่อตรงไม่เห็นแก่หน้าผู้ใด ทำความเห็นคัดค้านการเบิกจ่ายเงินหลวงในกิจการที่ฟุ่มเฟือยหลายครั้งหลายครา เจ้าเมืองอู้หยางไม่พอใจอย่างยิ่ง เนื่องจากสูญเสียผลประโยชน์มหาศาล สุดท้ายทั้งวิ่งเต้น ทั้งใส่ความไปยังวังหลวง จนกระทั่งทางราชสำนักมีคำสั่งโยกย้ายฟู่ต่งเฟิงไปยังเมืองชายแดนที่ห่างไกล ฟู่ต่งเฟิงจึงต้องอพยพย้ายออกจากเมืองอู้หยางไปตามคำสั่ง
โอ้วฮูหยินไม่ได้ย้ายตามไปด้วย เนื่องจากสามียังทำงานอยู่ที่เมืองอู้หยางนี้ นางเลี้ยงดูฟู่เจิ้นอิงหลายปี ให้ความรักดั่งบุตรของตนเอง มีความผูกพันลึกซึ้งยิ่ง ยามต้องพรากจากกันบังเกิดความอาลัยเศร้าโศกใหญ่หลวง หลังจากนั้นไม่ได้รับข่าวคราวของตระกูลฟู่อีกเลย โอ้วชังลิ้วค่อยเติบโตขึ้น แต่จดจำความเมื่อวัยเด็กไม่ได้ ผ่านมาหลายปีโอ้วฮูหยินก็คร้านที่จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคนตระกูลฟู่ให้บุตรฟัง
วันที่โอ้วชังลิ้วบอกเล่าเรื่องที่เข้าไปในตึกตระกูลฟู่กับเถ้าแก่แซ่อุ้ย ให้โอ้วฮูหยินฟัง นางยังนึกสงสัย แต่เนื่องจากบุตรชายไม่ได้เอ่ยนามของฟู่ต่งเฟิง และฟู่เจิ้นอิง อีกทั้งตามความเข้าใจของโอ้วฮูหยิน ฟู่ต่งเฟิงเป็นขุนนางในราชสำนัก หาใช่พ่อค้าคหบดีไม่ จึงไม่ได้สนใจคาดคั้นเอาความจริง
เมื่อโอ้วฮูหยินได้พบซุ่นเจียวอีกครั้งที่วัดกวงไท้ยี่ เมื่อสองวันก่อน นั่นเป็นเวลาอีกสิบห้าปีให้หลังนับจากที่ตระกูลฟู่ย้ายออกจากเมืองอู้หยางไป วันนั้นซุ่นเจียวก็ไปไหว้พระที่วัด ขณะจะกลับบังเอิญสวนทางกับโอ้วฮูหยินที่เดินเข้าไปในโบสถ์ เนื่องจากไม่ได้พบหน้ากันเป็นเวลาเนิ่นนาน เมื่อครั้งกระโน้นที่อยู่ด้วยกันซุ่นเจียวยังเป็นสาวแรกรุ่น ยามนี้เข้าสู่วัยกลางคน ยามกระทันหันได้พบกันอีกครั้งนางจึงจดจำไม่ได้ แต่โอ้วฮูหยินรูปร่างหน้าตายังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก ซุ่นเจียวกลับจดจำออกจึงเข้าไปทักทาย ทั้งสองสนทนาสอบถามเรื่องราวระหว่างกัน ต่างปลาบปลื้มยินดีที่ได้มีโอกาสพบหน้ากันอีก
จากคุณ :
sub-zero
- [
13 ก.พ. 48 21:12:41
A:203.118.121.51 X:
]