ความคิดเห็นที่ 1
บานประตูห้องถูกผลักปิดลงเหลือเพียงสองต่อสอง พักตร์สวยเข้มของสายเลือด เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงทำให้รูปหน้านั้นยิ่งน่ามอง
"คิดแล้วว่ายังไม่หลับ จึงอยากมาคุยเรื่องวันนี้"
ทรงตรัสถาม ขณะเดินไปประทับนั่งบนเตียงตัวใหญ่ สายเนตรจ้องดูหน้าอ่อนใส ของนายทหารหนุ่มแทบจะไม่กระพริบตา แผ่นอกกว้างใหญ่เปล่าเปลือยเช่นนี้ แลดูน่าเกรงขามเสียยิ่งกว่าเวลาใส่ชุดเครื่องแบบนายทหารราชองครักษ์
"เจอสองสาวนั้นแล้วใช่ไหม"
"เอ่อ..เจอพะยะคะ" อย่างไรเสียเขาก็จำเป็นต้องกราบทูลตามความจริง
"ทั้งเจ้าหญิงซามีร่าและเจ้าหญิงไนม่าห์" อาเหม็ดแม้ในใจยังคั่งแค้นไม่วาย แต่อดนึกถึงเจ้าของนัยน์ตาคู่อมเศร้านั้นไม่ได้ ที่ต้องถูกบังคับเข้าพิธี แต่งงานกับเจ้าชายที่อยู่เบื้องหน้าเขาเวลานี้
"แล้ว..ซาเลมละ"
"เจอเช่นกันพะยะคะ" เขาตอบตามตรง
"...ไม่อยากเชื่อ....แล้วมันไม่ได้ทำอะไรเธอหรือ"
"ไม่พะยะคะ"
เจ้าชายฮัสซาเนนครุ่นคิด "ประหลาดนัก...ที่ซาเลมมันปล่อยเธอออกมาอย่างนี้ ตามปกติมันไม่เคยปล่อยคนที่เคยพบตัวมันนอกประเทศให้ลอยนวล ออกมาถึงนี่ได้ การ์ดมันน่ากลัวมากนี่"
"พะยะคะ" อาเหม็ดเห็นด้วยอย่างเต็มที่ ท่าทางของทาเรค มูจอดีน ที่เขาเจอะเจอมันไม่ใช่คนที่น่าคบหาหรือแม้แต่เลี้ยงไว้เป็นคนใกล้ชิด บุคคลที่ท่าทางเป็นอสรพิษมีแต่จะแว้งกัดทำร้ายแม้ผู้เป็นนายของตน
"การ์ดแต่ละคนของเจ้าชายซาเลมไม่ใช่เบาๆ ลักษณะเหมือน...เหมือนจิฮัด กระหม่อมเห็นทีแรกยังประหลาดใจว่าคนพวกนี้ยอมลดตัวมาเป็นการ์ด ได้อย่างไร"
"จิฮัด...." เจ้าชายฮัสซาเนนทวนคำนักรบเพื่อศาสนา
อาเหม็ดพยักหน้ายืนยัน
"ลักษณะเหมือนออกศึกมาอย่างหนัก แต่สิ่งหนึ่งที่กระหม่อมไม่เข้าใจ ทำไมเจ้าชายซาเลมไปพัวพันกับคนกลุ่มนี้ได้"
เจ้าชายฮัสซาเนนมองดูแววตาสงสัยใคร่รู้ของอาเหม็ดอย่างเอ็นดู ความอยากรู้อยากเข้าใจของอาเหม็ดนี่ทำให้นายทหารหนุ่มคนนี้ดูมีเสน่ห์น่ารักนัก
"เจ้าคงรู้จักผู้นำของกลุ่มจิฮัดกลุ่มหนึ่งที่ชื่อ บินลาเดน มีเหตุการณ์ค่อนข้าง สับสนขององค์กรเพื่อศาสนานี้เมื่อสองปีก่อน ช่วงนั้นตระกูลบินลาดินได้ประกาศตัด ขาดอุซาห์มะออกจากตระกูล เขาจึงเปลี่ยนนามสกุลจาก "บินลาดิน" มาเป็น "บินลาเดน" แล้วหอบหนีครอบครัวจากซาอุดิไปที่อัฟกานิสถาน อยู่กับกองกำลังทาลิบัน ครอบครัวของบินลาดินเป็นครอบครัวที่มีเงิน จำนวนมหาศาล เพราะเงินเหล่านี้ที่เขาใช้ "ซักกาต" บริจาคให้แก่องค์กร ที่ทำงานเพื่อศาสนาเงินจำนวนมหาศาลของอุซาห์มะจึงถูกอายัดมากกว่า สามพันล้านดอลล่าห์ไม่ให้นำติดตัวมาด้วย กลุ่มจิฮัดของอุซาห์มะจึง ประสบปัญหาวิกฤตเรื่องการเงินอย่างรุนแรง ถึงต้องใช้วิธีจับตัวมหา เศรษฐีคนอื่นๆมาเรียกร้องเงินบริจาค"
"เป็นการเรียกค่าไถ่เช่นนั้นหรือพะยะคะ"
"พวกมันเรียกว่าการขอ "ซักกาต" บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนองค์กรทาง ศาสนา โดยอ้างหลักการบริจาค "ซักกาต" เดียวกันตามพระคัมภีร์กุรอ่าน ฉันรู้มาว่า...ครั้งนั้นชีคอัล-จูนายดิได้ซาเลมเป็นคนถือเงินเข้าไปของไถ่ตัว ถึงอัฟกานิสถานด้วยเงินเป็นพันล้านดอลล่าห์หลังจากชีคถูกปล่อยตัวออกมา แล้วมีข้อสัญญาผูกพันว่าชีคอัล ต้องทำการบริจาคเงินให้กลุ่มจิฮัดกลุ่มนี้ตลอด เพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวชีคอัลเป็นหลัก และพวกมันเอาตัวซาเลมไปอยู่ ด้วยนานหลายเดือนเอาฝึกเป็นเซลส์ก่อนจะมีการต่อรองปล่อยตัวออกมา"
"เจ้าชายซาเลมนะหรือพะยะคะ"
"ว่าไปชีวิตมันก็น่าเวทนา....ทางฮิลมิชาลรู้ข่าวก็ไม่ได้ส่งคนไปช่วย เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของทางกลุ่มจิฮัดกลุ่มนี้ซาเลมมันก็เก่งเอาตัวรอดออก จากกลุ่มนั้นมาได้ด้วยตัวมันเอง แต่เพราะการที่มันไปเป็นเซลส์มาแล้ว และชีคอัล-จูนายดิเป็นคนของกลุ่มจิฮัดไป เขาถึงต้องส่งคนมาคุม เพื่อป้องกันความลับที่จะรั่วไหลและอารักขาซาเลมไปในตัว ยิ่งซาเลม ได้เป็นคนที่ทำงานติดต่อประสานงานทั่วคาบสมุทรนี้ ตัวแทนระดับชาติ จนถึงหน่วยองค์กรใต้ดินจิฮัดทุกกลุ่ม ทั่วคาบสมุทรอาหรับและโซนยุโรป ยอมเจรจากับซาเลมทั้งนั้น จึงต้องได้รับการคุ้มกันอย่างดี ในฐานะตัว ประสานงานผลประโยชน์ที่มีมูลค่าของชีคอัลและองค์การระหว่างประเทศ"
"ฝ่าบาทตรัสราวกับว่า......เจ้าชายซาเลมไม่ใช่แค่ที่ปรึกษาองค์การธรรมดา"
"องค์การสหประชาชาติเขากลัวอิทธิพลของจิฮัดพวกนั้นถึงต้องหาคนที่มีฐานะ เป็นกลางเป็นตัวประสานไกล่เกลี่ยผลประโยชน์เบื้องต้นกับตัวแทนชาติต่างๆ กับกลุ่มพวกนี้แบบไม่เป็นทางการ ซาเลมมีชาติกำเนิดเป็นเจ้าชายของอัคไบยาห์ และได้รับการยอมรับจากพวกจิฮัดหลายกลุ่ม และตัวแทนระดับประเทศต่างๆ แต่สิ่งที่ทุกกลุ่มและทุกประเทศเหมือนกันคือให้ความเคารพต่อฐานันดรศักดิ์ เชื้อพระวงศ์ ซาเลมจึงเหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนั้น
จากคุณ :
โตมิโต กูโชว์ดะ
- [
14 ก.พ. 48 10:41:15
]
|
|
|