บอกได้ไหมคะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่
ก็เป็นคนที่รักปูสุดหัวใจไงครับ
อย่ามาพูดเล่นสิคะ ปูถามคุณจริง ๆ นะ หญิงสาวเริ่มจะแง่งอนขึ้นมาบ้างเมื่อถามอะไรก็ดูเขาจะพยายามบ่ายเบี่ยงอยู่ตลอด
อย่าคิดมากสิครับปู โดมบอกแล้วไงครับ ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วปูก็จะรู้เอง
แล้วเมื่อไหร่หละคะ อีก 1 เดือน 1 ปี หรือ10 ปี หรือต้องรอให้ปูตายไปซะก่อน
ไม่เอาหน่าคนดี อีกไม่นานหรอก เพราะโดมก็เหลือเวลาอีกไม่มากเช่นกัน พูดจบเขาก็ยกหลังมือเธอขึ้นมาจูบและสบแววตาหวานอย่างมีความหมายและมั่นคงเพื่อที่จะให้เธอเชื่อใจในตัวเขา
ไปรณีย์มองตอบเขาด้วยแววตาสงสัย จ้องลึกลงไปในดวงตาของชายหนุ่มเพื่อค้นหาความจริง หากแต่ชายหนุ่มกลับจ้องมองที่เรียวปากอันอวบอิ่มเย้ายวนของหญิงสาวใบหน้าของเขาค่อย ๆก้มต่ำลงมาหาเธออย่างแนบชิดลมหายในรดรินอยู่แถว ๆ หน้าผากของเธอ ใกล้ซะจนเธอรับรู้ได้ถึงลมหายใจของเขาที่ค่อนข้างติดขัดตามจังหวะของหัวใจ ซึ่งไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นัก
กริ๊ง กริ๊ง เสียงระฆังช่วยชีวิตตีดังอย่างข้าง ๆ หูของเธอ ไปรณีย์เอื้อมมือไปรับเจ้าโทรศัทพ์บนหัวเตียงอย่างงัวเงียโดยที่ดวงตาทั้งสองข้างยังคงปิดสนิทอยู่
ฮัลโหล ปูพูดคะ
ปูเหรอนี่นัทนะ ออกมาหาเราหน่อยที่เดิม เดี๋ยวนี้เลยนะ ไปรณีย์ยังมิทันได้ถามใด ๆ สัญญาณจากปลายสายก็ขาดหายไปแล้ว เธอลืมตาขึ้นมาบิดขี้เกียจตามความเคยชิน น่าเสียดายแฮะ กำลังฝันหวานอยู่พอดี หญิงสาวอมยิ้มกับตัวเองและลุกขึ้นจากเตียงเพื่อเตรียมตัวไปหาเพื่อนรักอย่างอารมณ์ดี
อะไรนะ ขอยืมสร้อยหินเส้นนี้เหรอจะเอาไปทำไม ไปรณีย์ต้องร้องเสียงหลงทันทีเมื่อได้ยินถึงความต้องการของเพื่อนสาวคนสนิท
ยืมไปไม่กี่วันหรอก เพื่อพิสูทธิ์ อะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่แกว่ามันคืออะไรหละ ไปรณีย์ มองเพื่อนสาวอย่างสงสัยและใคร่รู้
ฉันยังบอกแกตอนนี้ไม่ได้หรอก ต้องให้ชัวก่อนรับรองปู ไม่นานนี้แกต้องรู้แน่นอน ว่าแต่เอาสร้อยหินเส้นนั้นมาก่อนเถอะ แกจะได้รู้ด้วยไงหละว่าเจ้าหินเส้นนี้จะเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่า ไปรณีย์มองหน้าเพื่อนอย่างชั่งใจก่อนจะปลดสร้อยเส้นสวยในมือยื่นออกไปให้นัทฐาเพื่อนของเธออย่างจำใจ รู้สึกใจหายพิลึกเหมือนกัน เมื่อสร้อยที่ใส่ถ่วงข้อมืออยู่ประจำถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งเดิม แต่เพื่อความจริงที่เธอควรจะรู้ ยังไงซะเธอก็ต้องการอยู่ในโลกความจริงมากกว่าเพ้อเจ้อกับความฝันที่ไม่มีตัวตน
ปู ปู ปูครับ ไปรณีย์รู้สึกเหมือนใครบางคนเรียกเธอหากแต่กลับได้ยินเพียงแค่เสียง เธอพยายามตามหาเจ้าของเสียงจนเหนื่อยล้าแต่รอบข้างกลับดูมืดมนไปหมด เธอเดินหาต้นตอจนเหนื่อยอ่อน และค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง ในช่วงเวลาเดียวกันร่างบางบนเตียงนอนกระสับกระส่ายไปมา เหมือนต้องการจะดึงรั้งไขว่คว้าอะไรบางอย่างไว้
ตั้งแต่วันที่หินเส้นสวยถูกพรากไปจากข้อมือเธอ ดูเหมือนว่าเขาเจ้าของหัวใจในฝันของเธอก็จากหายไปด้วยเช่นกัน ช่วงสองวันแรกนั่นเธอได้ยินเสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยร้องเรียกชื่อเธอ และเธอก็พยายามมองหาเขาเช่นกันแต่มองยังไงก็มองไม่เห็น และเขาก็ค่อยๆห่างหายไปจากความฝันของเธออย่างไร้ร่องรอย จนในที่สุดเธอก็ไม่เคยฝันถึงเขาอีกเลย เธอเพิ่งจะรู้วันนี้เองว่าเขาค่อย ๆ มามีบทบาทในความรู้สึกของเธอมากอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน ณ นาทีนี้เองที่เธอได้รู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับเขา เขาผู้ซึ่งไม่มีตัวตนในโลกเดียวกับเธอทั้ง ๆ ที่เธออยากให้เขาเหยียบยืนอยู่เคียงข้างเธอมากแค่ไหนก็ตาม
ฮัลโหล ปู แกมาหาฉันตอนนี้เลยนะ ฉันอยู่ที่โรงพยาบาล............. ไปรณีย์รีบจดลายระเอียดเกี่ยวกับโรงพยาบาลทันทีที่ได้ยินเสียงนัทฐาเพื่อนรักดังมาตามสายโทรศัพท์ ในใจก็กังวลไปต่าง ๆ นา นา ด้วยความเป็นห่วงเพื่อนของเธอ
นัทแกเป็นอะไร ทำไมอยู่โรงพยาบาล โอเค โอเคฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ ทันทีที่วางหูโทรศัพท์ไปรณีย์ก็รีบจับเจ้ารถยนต์คู่ใจทะยานไปสู่จุดหมายทันที
นัทแกเป็นยังไงบ้าง ไปรณีย์รีบร้องถามทันทีที่เดินเข้ามาเห็นหน้าเพื่อนสาว
ฉันไม่เป็นอะไรหรอก แต่แกต่างหากที่กำลังจะเป็น...
ไปรณีย์มองหน้านัทฐาอย่างงุนงงในคำพูดของเพื่อน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอันใด ก็มีบุคคลอีกสองคนเดินเข้ามาสมทบเสียก่อน ซึ่งเธอก็จำเขาได้ทันที
คะ คุณคนขายหิน อย่าบอกนะว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของพวกคุณจริงๆ ไปรณีย์หันไปมองหน้านัทฐาอย่างจะขอคำตอบ
สวัสดีครับคุณปู ผมเอกวิน กับวรัญญวิทย์ครับ แต่ก่อนจะพูดอะไรมากกว่านี้ ผมอยากให้คุณปูไปพบใครอีกคนที่กำลังรอคุณอยู่ ไปรณีย์มองหน้าทั้งสามคนสลับกันไปมาอย่างมึนงง แต่ก็ก้าวเท้าตามพวกเขาไปยังห้องผู้ป่วยด้านในด้วยความอยากรู้และกังวลอยู่ในท่วงที ไปรณีย์ก้าวเท้าเข้าห้องมาเป็นคนสุดท้าย หากแต่ทันทีที่สายตาปะทะกับรูปร่างคุ้นเคยที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงผู้ป่วยนั่น เท้าของเธอก้าวเข้าไปหาเขาผู้ซึ่งนอนนิ่งโดยอัตโนมัติ หากแต่ทันทีที่เธอมองเห็นใบหน้าหลับใหลไม่ได้สนิทนั้นอย่างชัดเจน น้ำใสๆ จากนัยน์ตาก็ร่วงหล่นลงมาทันที
โดม โดม คุณจริงๆ ด้วย ไปรณีย์มองเจ้าของใบหน้าปริศนาในฝันของเธอที่ตอนนี้รอยเซ็นเซอร์มันหายไปหมดแล้ว ภาพเหตุการณ์ต่างๆ ค่อยๆ หลั่งไหลมาอย่างชัดเจน ใช่แล้วนี่ไงใบหน้าที่แท้จริงของเขาเจ้าของหัวใจของเธอ ตอนนี้มันชัดซะยิ่งกว่าชัดซะอีก เธออยากเห็นเขามาตลอดไม่ใช่เหรอ เธอควรจะดีใจใช่ไหมที่เห็นเขามีตัวตนอยู่บนโลกใบเดียวกับเธอ แต่ขณะนี้หญิงสาวรู้สึกสมองหมุนติ๊วไปหมด ร่างกายแข็งทื่อเหมือนโดนฉีดยาชา รวมไปถึงหัวใจของเธอด้วย นี่มันหมายความว่ายังไงเขามีตัวตนจริงๆ เหรอ แล้วทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่
ปู เป็นไรรึเปล่า นัทฐามองเพื่อนอย่างห่วงใยและดึงเก้าอี้ใกล้เตียงมาให้เพื่อนของเธอนั่งลง เพราะเกรงว่าจะล้มลงไปซะก่อนที่จะรู้เรื่องราวทั้งหมด และเอกวินก็ทำหน้าที่เป็นผู้คลายความสงสัยทั้งหมด เขาเริ่มเล่า
ผู้ชายที่นอนหลับไหลไม่ได้สตินี้ มีชื่อว่าโดม ราชมา เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ธรณีย์วิทยาที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องพลังงานอันเร้นลับของหิน เหมือนพวกเราครับ มากกว่านั้นก็คือพวกเราทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักกันมาก และในที่สุดพวกเราก็ไปทำการค้นหาเพื่อพิสูทธิ์ความจริงกัน เหมือนกับที่เคยไปกันมาบ่อยๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ และมักจะได้ตัวอย่างหินที่น่าสนใจมาเสมอ ที่ถ้ำแห่งหนึ่งเราเจอหินหลายชนิดครับ แต่ดูเหมือนโดมจะให้ความสนใจกับหินที่มีชื่อว่า โรส ควอตซ์ ก้อนนั้นมากเป็นพิเศษทั้งๆ ที่พวกเราก็เจอหินชนิดนี้บ่อยครั้ง เขาจึงนำตัวอย่างหินกลับไปศึกษา หากแต่ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดขวัญขึ้นก่อน เมื่อโดมผลัดตกลงไปยังหน้าผาที่อยู่ติดกับตัวถ้ำ พร้อมกับหินก้อนนั้นด้วย กว่าพวกเราจะหาตัวเขาเจอก็พบว่าเขาสลบไปแล้ว ครับโดมไม่ตายหากแต่ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาโดมก็ไม่ฟื้นขึ้นมาได้อีกเลย เขานอนหลับกลายเป็นเจ้าชายนิททาอยู่อย่างนี้ เอกวินหยุดเล่าเล็กน้อยเพื่อกั้นก้อนสะอื้นที่วิ่งมาจุกบริเวณลำคอ วัญญวิทย์จึงเป็นผู้ช่วยเล่าต่อไป
คุณเห็นที่หัวเตียงนั่นไหมครับ หินหลากสีที่ตั้งเรียงอยู่นั่น เป็นหินบริสุทธิ์แท้ยังไม่ถูกเจีย ทุกชนิดมีพลังอำนาจในการรักษาสูง พวกเราพยายามรวบรวมหินที่ใช้เกี่ยวกับบำบัดรักษาร่างกายและหัวใจมารวมไว้ เพื่อรอครับ รอว่าสักวันหนึ่งเพื่อนที่เรารักคนนี้จะมีโอกาสฟื้นขึ้นมา ไม่ใช่พวกเราจะงมงายหรอกครับ หากแต่เมื่อแพทย์ไม่สามารถช่วยอะไรได้ พวกเราจึงต้องพึ่งตัวช่วยอย่างอื่น อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรเพื่อเขาบ้าง ไม่ใช่แค่ยืนมองวันเวลาที่ผ่านไปโดยไม่รู้ว่าจะพรากชีวิตของโดมไปเมื่อไหร่
ค่ะฉันพอจะเข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือแล้ว มันเกี่ยวอะไรกับฉัน ไปรณีย์ร้องถามไปพร้อมทั้งพยายามกลบเสียงสะอื้นที่ตามมาหลังจากได้ฟังเรื่องราวต่าง ๆ
พวกเราติดสินใจนำเจ้าโรส ควอตซ์ ที่ติดมือโดมมาครั้งนั้น ไปเจียรนัยใหม่ เพราะเราชื่อว่ามันจะสามารถรักษาความรู้สึกของจิตใจเพื่อนของพวกเราให้กลับมาได้ คุณจะว่าพวกผมประสาทก็ตามแต่ ผมก็เชื่อว่าที่เจ้าโดมไม่ฟื้นขึ้นมาก็อาจเป็นเพราะอำนาจของหินนี่ด้วย ที่กักขังจิตวิญญาณแห่งความรู้สึกเขาไว้ เราจึงนำมันมาเจียเป็นสร้อยแบ่งเป็นสองเส้นครับ เส้นแรกก็อยู่ที่ข้อมือโดมอย่างที่คุณเห็น ใช่แล้วครับเส้นที่สองเรานำไปวางไว้ที่ร้านหินแห่งนั้น เพื่อที่จะรอใครบางคนมาช่วยรักษาเพื่อนของเรา พิธีพวกนี้เป็นการนำพลังงานลึกลับมาใช้ตามแบบความเชื่อของชาวเผ่า เผ่าหนึ่งที่พวกเราได้ไปสัมผัสเรียนรู้มา สร้อยเส้นนั้นมันถูกตั้งทิ้งไว้นานมากทีเดียวครับ ตามระยะเวลาที่โดมนอนนิ่งๆ อยู่แบบนี้ รวมแล้วก็ประมาณ 5 ปีเห็นจะได้ แต่ก็ไม่มีใครใส่ใจอยากได้มัน จนกระทั่ง ...
ยายปูมาเจอ ตอนแรกฉันก็ไม่เชื่อที่พวกเขาพูดหรอก ก็มันยากที่จะเชื่อนี่นา จนกระทั่งเขานำหลักฐานต่างๆ มายืนยัน รวมทั้งบัตรเจ้าหน้าที่ด้วย เสียงนัทฐาแทรกขึ้น
ใช่ครับ พวกผมดีใจมากเลยครับ เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เราไม่ได้จะตั้งใจให้คุณกลัวเลยนะครับ หลังจากคุณนำสร้อยนั่นกลับไป พวกเราก็สืบเรื่องๆ ต่างเกี่ยวกับตัวคุณจนรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหนและทำอาชีพอะไรครับ รวมถึงเสียงโทรศัทพ์ที่โทรไปรบกวน ก็เพื่อกระตุ้นหัวใจของเจ้าโดมเท่านั้นเองครับ ตามวิธีการรักษา ส่วนดอกไม้สีชมพูที่ส่งให้คุณปูทุกวัน ก็เพียงต้องการเพิ่มพลังของหินแห่งความรักนั่นครับ พวกเราไม่รู้หรอกครับว่าทั้งหมดจะสำเร็จรึเปล่า แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
วัญญวิทย์มองหน้าไปรณีย์ที่มีรอยน้ำใสไหลรินออกมาจากนัยน์ตาคู่สวยนั้นอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเขาเชื่อว่าเธอคนนี้ต้องทำให้เพื่อนเขาฟื้นขึ้นมาได้แน่นอน
แต่เขาก็ยังไม่ฟื้น ถ้าฉันสามารถช่วยอะไรได้ก็บอกนะคะฉันเต็มใจ
เรายังเหลืออีกวิธีนึงครับ ถ้าคุณปูให้ความร่วมมือ !!!
ในที่สุดห้องทั้งห้องก็เหลือเพียงไปรณีย์และคนไข้หนุ่มซึ่งหลับไหลไม่ได้สติอยู่เพียงสองคน เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงเชื่อที่พวกเขาพูดง่ายนัก ถ้าพวกนี้เป็นมิจฉาชีพเธอคงจะแย่ แต่หัวใจเธอกลับไม่อยากไปไหนเธอรู้สึกผูกพันธ์กลับเขามาก มากเสียจนเธอไม่กลัวเหตุการณ์ใด ๆที่จะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้าทั้งนั้น
ตอนนี้เธอกำลังอยู่ในพิธีความเชื่อของสองหนุ่มนั่น รอบตัวเธอกับเขามีเทียนแท่งขาวรายล้อมไว้ พร้อมเปลวไฟที่รุกโชติช่วงอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะดับ เธอกุมมือเขาไว้ พร้อมกับเจ้าหินโรสควอตทั้งสองเส้น มันมารวมกันอยู่ในมือเขาและเธอที่ทับกันไว้เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกถึงกันและกันและหวังว่าเขาจะรับรู้ เธอต้องอยู่อย่างนี้จนกระทั่งเช้า เพื่อเรียกความรู้สึกของเจ้าชายในฝันเธอให้กลับมายังโลกความเป็นจริงเสียที และในที่สุดเธอก็เผลอหลับไป
ปู ดีใจที่สุดเลยที่ได้เจอโดมอีกครั้ง
โดม มาลาปูคงถึงเวลาที่ต้องไปสักที โดมรอปูอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว แต่สิ่งที่โดมอยากจะบอกกับปูก็คือ โดมรักปูนะ และจะรักตลอดไป ลาก่อน
ไม่โดม โดม เดี๋ยวรอปูก่อน อย่าเพิ่งไป หญิงสาวพยายามไขว่ขว้าให้เขากลับมาแต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้วเพราะร่างเขาค่อยๆเ ลือนหายไป เธอร้องเรียกเขาสักเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล รอบข้างมีแค่ความมืดอันว่างเปล่าเท่านั้น
อย่า โดมอย่าเพิ่งไป หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวรอยน้ำตายังคงเปอะเปื้อนอยู่บริเวณใบหน้าอันซีดเซียวของเธอ ในที่สุดเธอก็ฝันถึงเขาอีกครั้ง และคิดว่าคงเป็นครั้งสุดท้ายจริง ๆ เพราะเมื่อเธอลืมตามองหินในมือ ตอนนี้หินทั้งสองเส้นแตกออกเป็นสองท่อน ใช่แล้วเธอยู่ที่โรงพยาบาลนี่นาแล้ว โดมหละ เขาเป็นอะไรไปรึเปล่า เธอรีบหันไปมองชายหนุ่มบนเตียงด้วยความเป็นห่วงทันที
หากกลายเป็นว่า เขากลับเป็นฝ่ายมองเธออยู่ก่อนแล้วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักความผูกพันธ์
สวัสดีครับ ผู้รักษาหัวใจ ในที่สุดเราก็พบกันในโลกของความจริงสักที
สิ้นเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวก็ลุกขึ้นกอดเขาอย่างเต็มหัวใจพร้อมกลับสะอื้นโยนตัว เมื่อ ในที่สุดความฝันเธอก็เป็นความจริงซักที และไม่ว่าจะเกี่ยวกับพลังหินนั่นหรือไม่ก็ตามแต่ เธอคงต้องขอบคุณที่ทำให้เธอได้มาเจอเขา เธอและเขาก็สัญญาว่าจะรักษาหัวใจของกันและกันอย่างดีที่สุด จากนี้และตลอดไป
จากคุณ :
dokyaka
- [
15 ก.พ. 48 13:55:37
A:203.150.87.231 X:
]