CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    สุขสันต์วันแห่งความรัก ตอน 3

    สุขสันต์วันแห่งความรัก ตอน 3

    ผมเดินฝ่าฝูงชนเข้าไปในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งด้วยความยากลำบาก คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ คู่รักหลายคู่เลยต่างพากันมาเดินซื้อของขวัญให้กัน ทานข้าวด้วยกัน กินไอศกรีมถ้วยเดียวกัน ดูหนังโรแมนติคด้วยกันสักเรื่อง ดูแล้วกุ๊กกิ๊กหวานแหววกันดีตามประสาคนรัก
    ผมก็มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ที่ใกล้เคียงกันกับพวกเขา ผมจะมาซื้อของขวัญสำคัญชิ้นแรกให้เธอนับตั้งแต่ผมคบกับเธอมา แต่จะต่างกับคนอื่น ๆ ก็ตรงที่วันนี้ผมไม่มีเธอเดินเคียงข้างเท่านั้น
    เด็กวัยรุ่นแต่งตัวประหลาด ๆ ทั้งหญิงและชายประมาณ 6-7 คนเดินเข้ามาในห้างฯ แห่งนี้พร้อม ๆ กับผม พวกเขาแต่งตัวตามสมัยนิยม แลดูบ้าๆ บอๆ ยังไงชอบกล
    บางคนก็ย้อมผมเป็นสีต่าง ๆ บางคนก็เจาะนู่นเจาะนี่เต็มตัวไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งตรงนั้น (อย่าเข้าใจผิด ผมหมายถึง รักแร้น่ะ ผมมักจะเรียกรักแร้ว่าตรงนั้นเสมอ)
    พวกเขาจ้องมองผมด้วยสายตาแปลก ๆ ราวกับผมเป็นตัวประหลาด ทั้งๆ ที่ผมน่าจะเป็นฝ่ายมองพวกเขาด้วยสายตาแบบนั้นมากกว่า…ช่างไม่ดูตัวเองเอาเสียเลย
    ผมรู้สึกเปิ่น ๆ ที่จะเดินร่วมกลุ่มไปกับคนพวกนั้น ก็ใครจะไปทนไหวล่ะ คนแต่งตัวดีมีรสนิยมอย่างผม คงดูหมองลงไปแน่ หากผมยังขืนเดินร่วมทางไปกับคนเหล่านี้ ว่าแล้วผมก็จัดแต่งเน็คไทสีเหลืองคาดแดงลายหมีพูของผมให้เข้ารูป ก่อนจะเดินล้วงกระเป๋ากางเกงสีเขียวตองอ่อน ลายโดนัลดั๊กไปปิคนิคกับหลาน ๆ แหวกกลุ่มออกมาจนได้…
    อ้อ!เกือบลืม…ผมสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงสดที่เธอซื้อให้เป็นของขวัญเมื่อวันวาเลนไทน์แรกที่เราเป็นแฟนกันด้วยนะ ก็บอกแล้วไงว่า ผมจะสวมมันเสมอ เวลาที่ผมคิดถึงเธอ…
    ผมค่อย ๆ เดินห่างเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้นออกไปเรื่อย ๆ แต่สายตาของคนในห้างฯ ยังคงมองผมแบบแปลก ๆ เหมือนเดิม
    แย่จัง!…เจ้าเด็กพวกนั้นทำให้ผมต้องพลอยเสียภาพพจน์ไปด้วยจริง ๆ หรือนี่ มันทำให้ผมเดือดร้อนจนได้ ไม่น่าเลยเรา…แต่ช่างมันเถอะ…นี่ก็เย็นมากแล้ว
    ผมยังไม่ได้ซื้อของขวัญให้เธอเลย…

    ผมเดินเลือกซื้อของขวัญให้เธออยู่พักใหญ่ แต่ก็ยังไม่สามารถหาของที่ถูกใจผมได้สักที
    ฟังดูแล้วอาจจะงงใช่ไหมครับ ว่าตกลงผมจะซื้อของขวัญให้ใครกันแน่ เพราะต้องยอมรับว่าผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเธอชอบอะไรมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเธอไม่เห็นเคยบอกผมสักที อยู่ดีๆ จะให้ผมไปถามเธอตรง ๆ ว่าเธอชอบอะไร…ก็คงจะกระไรอยู่ ถ้าเธออยากให้ผมรู้เธอก็คงบอกผมเองน่ะแหละ…
    แต่ก็แปลกนะ…บางทีเธอกลับรู้ว่าผมชอบอะไร ทั้ง ๆ ที่เธอก็ไม่เคยถามและผมก็ไม่เคยบอกเธอสักครั้ง ส่วนที่จะเป็นเพราะว่าเธอช่างสังเกตหรือเอาใจใส่ผมนั้น ก็ไม่น่าใช่ ผมว่าเธอเดาเก่งมากกว่า…เธอยังเคยเดาถูกเลยว่าผมชอบกินข้าวกับอะไร กับเพียงแค่เธอเห็นผมสั่งอาหารซ้ำเหมือนเดิมทุกวันเท่านั้นเอง ไม่รู้เธอรู้ได้ยังไง เดาเก่งชะมัด…ผมกล้ายืนยันได้เลยว่าผมไม่เคยบอกเธอแน่นอน…ถ้าไม่เชื่อ…สาบานอีกครั้งก็ได้
    ในที่สุดผมเลยต้องแก้ปัญหานี้ โดยการเลือกซื้อของขวัญที่ถูกใจผมให้เธอแทน เพราะผมรู้ดีเสมอว่าผมชอบอะไร และน่าจะถูกใจสิ่งไหน โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก…เพราะยังไงๆ ผมก็ไม่มีวันทำเหมือนเธอหรอก…ผมไม่ได้เดาเก่งเหมือนเธอนี่
    เดินมองโน่นมองนี่ไปเพลิน ๆ ความรู้สึกเก่าก็เริ่มหวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อผมได้มายืนอยู่ที่หน้าโรงภาพยนตร์ทันสมัยที่ตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมแสงสีตระการตา
    สถานที่แห่งนี้ทำให้ผมหวนคิดได้ว่า ความจริงจะว่าไปแล้วก็มีหลายครั้งเหมือนกันนะที่ผมเดาใจเธอถูก
    “จุ๊ๆๆ พี่คะ…หยีดูหนังไม่สนุกเลย อย่าเล่าได้มั้ยคะ เนี่ยคนอื่นเค้ารู้เรื่องกันหมดแล้ว”
    เธอหันมากระซิบข้างหูผมเบา ๆ ตามมารยาทที่ดีของผู้ชมภายในโรงภาพยนตร์
    “เอ้า!…ทำไมล่ะ? หยีไม่อยากรู้เรื่องก่อนเหรอ เรื่องนี้พี่ดูแล้วนะ…ตอนหลังพระเอกตายด้วย แล้วก็” ผมหันกลับไปกระซิบข้างหูเธอเบา ๆ ตามมารยาทที่ดีของผู้ชมภายในโรงภาพยนตร์เหมือนกัน แต่พูดยังไม่ทันจบ เธอก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
    “ค่ะๆ…หยีรู้…แต่เดี๋ยวคนอื่นเค้า…” สังเกตเห็นได้ชัดว่าเธอพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับผม ท่าทางเธอดูอึดอัดและไม่สบายใจเอาเสียเลย
    ซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ
    ผมรู้จักเธอดี เธอมักเป็นอย่างนี้เสมอ เรื่องแค่นี้ก็ไม่บอกกันตรง ๆ…
    โอเค…งั้นผมจะเล่าให้เสียงเบาลงกว่าเดิมก็ได้ คนอื่นเขาจะได้ไม่ได้ยินกัน รับรองว่าทีนี้เธอจะได้รู้เรื่องแค่คนเดียวสมใจ
    แต่ความจริงเธอก็ไม่น่าใจแคบขนาดนั้นนะ แค่นี้ก็ต้องกลัวคนอื่นจะรู้เรื่องเหมือนเธอด้วย ผมว่าความจริงมันไม่เห็นจะน่าภูมิใจตรงไหนเลยกับการที่ดูหนังแล้วได้รู้เรื่องก่อนคนอื่นจากการเล่าของคนรักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
    ถ้าเป็นผม ผมจะไม่ห้ามสักคำ…คนไทยด้วยกันน่าจะมีน้ำใจให้กันบ้าง
    หลังจากที่ผมค่อยๆ ลดเสียงในการเล่าเรื่องให้เบาลง ท่าทางเธอก็ดูสบายใจขึ้นทันที ไม่น่าเชื่อ…มันได้ผลจริงๆ เธอนั่งนิ่งตั้งใจฟังผมเล่าโดยไม่มีปากเสียงอะไรอีก
    จะมีก็แค่ก่อนหน้านั้น ที่เธอถอนหายใจแรง ๆ ทีหนึ่ง ผมรู้…เธอคงจะโล่งอกล่ะสิ และที่เธอส่ายหน้าด้วยน่ะ…คงไม่อยากจะเชื่อสินะว่าผมจะเข้าใจเธอถึงขนาดนี้…ผมดูออกนะ…เป็นใครก็คงจะรู้สึกอย่างนั้นเหมือนกันแหละ
    นึกแล้วก็ยังไม่อยากเชื่อว่าผมจะเดาถูก…นี่ยังดีนะที่ผมรู้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงโกรธผมเป็นฟืนเป็นไฟแน่
    แต่ก็แปลกนะ…จากนั้นเป็นต้นมาไม่เห็นเธอชวนผมไปดูหนังด้วยกันอีกเลย
    ผมตัดสินใจหันหลังเดินออกมาจากที่นั่นอย่างปวดร้าว ถึงยังไงมันก็เป็นเพียงแค่อดีตอันแสนหวานที่ไม่มีวันหวนกลับมาได้อีก…ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผมจะไปคิดถึงมัน…ต่อจากนี้ไปเราจะเริ่มต้นกันใหม่
    และวันนี้ไง…วันนี้ผมกำลังจะไปขอคืนดีกับเธอ
    อ่านต่อ...ตอน 4

    จากคุณ : โปรโตซัว อิน เลิฟ - [ 15 ก.พ. 48 17:25:34 A:202.176.109.172 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป