เมืองแม่พระ
..โดย song982
*****************************************************************
ถามจริงๆ เถิดพี่ชาย บ้านเมืองพี่เค้านับถือผีหรือนับถือพระกันแน่
น้องชายของเธอถามขึ้นขณะรับอาสานั่งจ้องเขาอย่างไม่กระพริบตา แถมยังบังคับให้มองแต่หน้ามัน ห้ามหันไปทางอื่น เพราะพี่สาวและแม่ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ก็บอกแล้วไงว่านับถือพระ นับถือพระพุทธศาสนากันทั้งนั้น
เมื่อเห็นเด็กชายทำท่าไม่เชื่อ จึงจับเหรียญที่คล้องอยู่มาพลิกให้ดู
นี่ไง
ถ้านับถือศาสนาอื่น ใครเขาจะให้เอาพระเครื่องมาห้อยคอ
นี่พระปางเลย์ไลย์เข้าป่าเข้าดงดีทางเมตตาเขี้ยวงาไม่ขบกัด แล้วก็พลิกอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นด้านที่ใช้แขวนออกหน้าให้ดู นี่รูปหลวงพ่อแคล้ว ดีนักทางแคล้วคลาดรอดพ้นภยันตราย
ไม่งั้นคงไม่รอดตายมาให้เอ็งนั่งซักนั่งถามอยู่นี่หรอก
คนตั้งใจฟังส่ายหัวดิก แถมยังแสดงสีหน้าเหมือนกำลังปลงสังเวชอะไรบางอย่าง
แล้วท่องนะโมได้ไหม
ธัมมจักกัปปวัตนสูตรล่ะ
ท่องได้แปลได้ไหม มันยิ่งถามเหมือนคาดคั้น
เฮ่ย!
อย่ามาลองภูมิกันหน่อยเลย นะโมน่ะใครๆ ก็ท่องได้..ธรรมจักรอะไรนั่นเอ็งไปเอามาจากไหนเรื่องของพระของเจ้าเขา อย่างเราๆ มันต้องชินบัญชร
คาถาสารพัดนึก
คนถามเลยยิ่งเกาหัวแกรก แล้วย้ำคำถาม
แล้ว
แปลได้ไหม
แค่ท่องได้ก็แทบแย่
ยังจะให้แปลอีกหรือ เขาแย้ง
ก็พี่ชายบอกนับถือพระนับถือพุทธแล้วทำไมแปลนะโมไม่ได้ เอารูปใครก็ไม่รู้มาแขวนคอบอกว่าช่วยคุ้มครองต่างต่างนานา มันยื่นนิ้วมาเขี่ยๆ พระเครื่องที่ห้อยคอ เลี่ยมทองซะด้วยนะ
.
เอ๊ะ!
ไอ้นี่ ไม่เคยเห็นพระหรือไงวะ ก็ไหนบอกว่าเมืองนี้เป็นเมืองแม่พระ
ที่นี่เค้าไม่ยกเอาอิฐหินดินทรายแร่โลหะอะไรมายึดถือบูชาเป็นที่พึ่งหรอก
เค้ายึดพระธรรมเป็นสรณะกันทั้งนั้น
พี่ชายนี่สงสัยจะงมงายมาจากบ้านป่าเมืองเถื่อนซะหละมั้ง
ก็ไหนว่าอยู่กรุงเทพๆ
ชิ
น้ำเสียงนั้นแกล้งทำเป็นโมโหมากกว่าจะจริงจัง จนเหลือบไปเห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาใกล้ หางเสียงจึงอ่อนลงอีกมาก
อย่าไปถือสามันเลยจ๊ะ เจ้าศีลมันล้นอย่างนี้เอง
มีอย่างที่ไหนมานั่งสงสัยในพระธรรมคำสอน
วินัยสงฆ์ต่างหาก
เจ้าศีลรีบแก้
นั่นแหละ
หาข้ออ้างไปเรื่อย..นี่ก็อิดๆ ออดๆ ว่ายังไม่อยากจะบวชเลยรอบนักษัตรมาจะชนปีอยู่รอมร่อ เขาว่ายังไม่เข้าใจหัวข้อธรรมที่ทรงแสดงปฐมเทศนาไว้ที่ป่าอิสิฯ กลัวจะอายเพื่อนๆ ถ้ายังขบมรรคแปดไม่แตก
ผู้พูดเป็นสตรีวัยใกล้ชรา แม้ริ้วรอยแห่งวัยจะบอกชัดว่าผ่านการตรากตรำมาหนักหนาขนาดไหน แต่สีหน้าและแววตาที่ทอทอดออกมานั้นช่างแจ่มใส จนทำให้พลอยรู้สึกอิ่มใจไปด้วยทุกครั้งที่สบสายตา แต่สิ่งที่เธอพูดออกมานั้นเขาเข้าใจได้เพียงบางส่วน อาการมองหน้าเจ้าเด็กน้อยสลับไปมากับหน้าผู้เป็นแม่จึงถูกตัดบทด้วยเสียงนุ่มกังวานอีกครั้ง
ถ้าพ่อหนุ่มพอลุกไหวแล้ว ป้าว่าออกไปใส่บาตรกันดีกว่าจ้ะ วันนี้วันสุดท้ายก่อนท่านจะเข้ากรรมทำพิธีนวกสมโภช
ป้าไม่มีเสื้อผ้าผู้ชายตัวใหญ่ๆ เสียด้วย เสื้อตัวในสีขาวนั่นแก้วเขาซักแล้วก็อังไฟไว้จนแห้ง เหลือแต่กางเกง
.ป้าว่าเธอนุ่งผ้าโจงนี่ก็แล้วกันนะ
หญิงเจ้าของเรือนยังคงไว้ด้วยอัธยาศัยไมตรีเหมือนน้ำคำตั้งแต่แรกที่เขาฟื้นตื่น ยื่นผ้าขาวพับหนึ่งพร้อมกับเสื้อยืดสีขาวที่เขาสวมติดตัวมาให้
ศีลพาพี่ชายเขาไปอาบน้ำเสียก่อน..เราก็อาบพร้อมเขาด้วยเลยนะ ผลัดเสื้อผลัดผ้าเสร็จก็ตามออกไปที่ถนน คำบอกกล่าวรวบรัดชัดเจน
ไอ้ศีลต้องคุมเขาไปถึงที่อาบน้ำ
แค่ใส่บาตรทำไมต้องทำเป็นพิธีการใหญ่โตด้วยล่ะศีล
เราก็ทำอย่างนี้กันทุกวัน จะทำบุญตักบาตรก็ต้องชำระกายชำระใจให้บริสุทธิ์เสียก่อน
หรือว่าคนบ้านพี่ชายเขาไม่ทำกันอย่างนี้
. เด็กชายพูดเรื่อยๆ คำย้อนถามก็ไม่เชิงกระทบกระเทียบกระไรนัก
แล้วพ่อของศีลล่ะ
เอ่อ
ไม่มาตักบาตรด้วยกันหรอกหรือ เขาเคยขยับจะถามหลายครั้งว่าผู้ที่ควรจะเป็นนายบ้านหายไปไหน
พ่อคืออะไร
.พวกเราเป็นพุทธบุตร เกิดมาใต้ร่มพระพุทธศาสนา มีพระธรรมเป็นที่พึ่ง มีพระสงฆ์เป็นที่ปรึกษา น้ำเสียงนั้นไม่ได้เจือแววโป้ปดอะไรไว้เลย
อ้าว
ไม่มีพ่อจะเกิดมาได้ยังไง ถึงเขาจะสงสัยขนาดไหน ว่าคนบ้านนี้เลี้ยงดูกันมายังไง ก็ยังได้แต่เพียงตั้งคำถามเรียบๆ โดยทำลืมความกระหายใคร่รู้นั้นไว้ชั่วคราว
ก็พิธีนวกสมโภชไงเล่า
นี่พี่ชายไม่รู้อะไรเลยหรือ
ถามจริงๆ พี่ชายนับถือพระแน่หรือ
เอาเถอะๆ
แค่อาบน้ำผลัดผ้าใช่ไหม
เอ็งออกไปรอข้างนอกก่อน
เขารุนหัวเด็กชายวัยใกล้จะรุ่นให้ออกมายืนหลังบังตา เมื่อเห็นว่าเจ้าศีลทำท่าจะถอดเสื้อถอดกางเกงอาบพร้อมกัน
ทำไมต้องรอด้วยเล่า
เดี๋ยวแม่ก็ดุเอาหรอก แม่ให้มาอาบน้ำพร้อมกับพี่ชาย
ก็มันไม่มีผ้าอาบน้ำ...ต้องแก้ผ้าอาบจะอาบพร้อมกันได้ยังไง
ใครเขานุ่งผ้าอาบกันบ้างล่ะนอกจากพวกพระ
พี่ชายนี่แปลกคน
เออ
อาบก็อาบ
คบเด็กสร้างบ้านก็หยั่งงี้
เขาขี้เกียจจะต่อล้อต่อเถียงอีกต่อไป จึงค่อยๆ ถอดกางเกงพาดไว้ให้พ้นน้ำ
เจ้าศีลยังไม่พูดอะไรอีกเลยเมื่อตอนที่ใส่บาตรเณรรูปสุดท้าย แถวพระซึ่งเว้นระยะห่างกันพอสมควรทำให้พี่สาวมีเวลาพอจะหันมาถามต้นสายปลายเหตุ
เป็นอะไรไม่พูดไม่จา
หญิงสาววัยอ่อนกว่าเขาไม่มากนักถามน้องชายอย่างล้อๆ
มันเงยหน้ามองหน้าพี่สาว แล้วก็เลยไปสบตากับเขา ก่อนจะก้มหน้างุด พึมพำท่องบ่นอะไรเบาๆ
อ้อ
เช้าๆ เห็นผ้าเหลืองเข้าหน่อยละก้อ ทำเป็นท่องขานนาคอยากจะบวชข้ามขั้นจนเนื้อเต้น พอตกบ่ายหละปุเลงๆ เข้ารกเข้าพงลืมหมดหิริโอตตัปปะปาณาติปาตา
ผู้เป็นพี่สาวแม้รูปหน้าจะสวยเหมือนวาด แต่น้ำเสียงกลับไม่กังวานใสเหมือนแม่ แววตาก็เจือความหมองหม่นจนเขาจับสังเกตได้ การพูดเล่นหัวกับน้องชายก็คล้ายกำลังกลบเกลือนความรู้สึกของตนเองมากกว่าจะตั้งใจตักเตือนจริงจัง
น้องชายหน้าแดงถึงใบหู ขยับตัวออกไปชิดกับผู้เป็นแม่ ท่าทางเหมือนกลัวเกรงอะไรในตัวเขาขึ้นมาฉับพลัน สตรีสูงวัยลูบหัวลูกชายเบาๆ พร้อมเรียกขวัญ แล้วเงยหน้าขึ้นมากล่าวขอโทษชายหนุ่มผู้มาเยือนอย่างเกรงใจ
ศีลมันขาดๆ เกินๆ อย่างนี้เอง อย่าไปถือสาเลยนะ นี่ก็อยากให้เขาบวชเณรแต่เนิ่นๆ เลยเกณฑ์มาพรรษาหนึ่งแล้วก็ยังไม่ยอม ป้าหวังจะเกาะชายผ้าเหลืองเหมือนอย่างลูกชายคนอื่นเขาบ้างก็ต้องคอยง้อคอยโอ๋ แค่ไม่ได้คนโตเป็นลูกชายนี่ก็บาปนักหนา..เขายังจะมาทำท่าเหมือนจะบวชพระไม่ได้เสียอีก
ถ้อยคำที่เอ่ยทำให้ทั้งกลุ่มนิ่งเงียบลงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ผู้พูดเงียบไปราวกับกำลังปลงใจให้ยอมรับกับสิ่งที่เกิด พี่สาวยิ่งสีหน้าสลดลงคล้ายกับเชื่อว่าตนเองเป็นตัวบาปอย่างที่ผู้เป็นแม่กล่าวหาจริงๆ ส่วนน้องชายก็ไม่พูดไม่จาอะไร เสไปชะเง้อชะแง้ดูแถวพระที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาจึงยิ่งรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
ตอนแรกที่ก้าวเข้ามาสมทบ อารมณ์ครึกครื้นที่เจ้าศีลทำท่าตกอกตกใจตอนอาบน้ำด้วยกันยังไม่คลาย ความอิ่มเอิบเบิกบานยิ่งแผ่ซ่านเมื่อเห็นว่าตลอดแนวถนนนั้นเนืองแน่นพรั่งพร้อมไปด้วยผู้คน ทั้งเด็กหญิงเด็กชาย หญิงสาวและสตรีสูงวัย แต่ละคนแต่ละครัวต่างนุ่งขาวห่มขาวยืนรอพระด้วยความสงบสำรวม พูดคุยกันแต่เพียงเบาๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
แต่เมื่อกวาดสายตาไปทั่วถนนที่ทอดยาวจนลิบตานั้น กลับไม่พบกับผู้ชายคนอื่นอีกเลย นอกจากเด็กชายวัยไล่เลี่ยกับเจ้าศีลหรือไม่ก็อ่อนกว่า จะคิดไปว่านี่เป็นเมืองลับแลในตำนานก็ไม่ใช่ เพราะลูกเด็กเล็กแดงหญิงชายก็มีเพียบพร้อม ผู้หญิงที่เห็นทั้งหมดก็ไม่ได้มีใครมีท่าทีพึงใจในรูปร่างหน้าตาของเขาเลยสักคน บางคนยังเมินหนีด้วยซ้ำ
เขาได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ แค่ป้าศรีกรุณาให้ที่พักที่กินกับคนหลงป่าไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้านี่ก็บุญนักหนาอยู่แล้ว ตั้งใจไว้ว่าเมื่อสืบถามทิศทางดูให้แน่ แล้วก็จะบุกป่าฝ่าดงหาทางกลับไปที่ค่ายเอาเอง ป่านนี้พวกนั้นคงเป็นห่วง เดินสำรวจถ้ำโบราณอยู่ด้วยกันดีๆ เขาดันผลุบหายลงไปในโพรงอะไรนั่นเสียเฉยๆ กว่าจะกระเสือกกระสนมาสลบไสลที่หลังบ้านของทั้งสามคนที่กำลังตักบาตรอยู่ด้วยกันนี่ก็แทบเอาชีวิตไม่รอด
อ้าว!
.พระพรเลยไปแล้ว ทำไมแก้วไม่ใส่บาตรกับท่านล่ะลูก
แม่ไม่เห็นใครเหมาะสมไปกว่าท่านอีกแล้วนะ หรือว่าแก้วอาราธนารูปอื่นไว้แล้ว ป้าศรีถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจนัก
แก้วส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก็ยืนนิ่งในขณะที่เจ้าศีลยืนยิ้มกริ่ม จนผู้เป็นแม่คงเอะใจฉวยแผ่นกระดาษขนาดฝ่ามือในมือลูกสาวมาดู ก่อนจะหันไปทำตาเขียวใส่ลูกชาย
ทำไมทำอะไรอย่างนี้ล่ะศีล
กว่าช่างเขียนเขาจะเขียนให้เหมือน พี่เราต้องนั่งให้เขาวาดเป็นวันๆ แล้วมาต่อมาเติมอย่างนี้จะเอาไปใช้อะไรได้
.ทำไมซนไม่เข้าเรื่องอย่างนี้หือ!
หางเสียงนั้นไม่ได้ตวัดขึ้นสูงอยู่ที่คนกำลังโกรธควรเป็น ลูกชายหน้าสลดลงเพียงนิดหนึ่ง ส่วนลูกสาวก็เริ่มปั้นข้าวใส่ในบาตรพระแถวถัดไปด้วยหน้านิ่งๆ กว่าข้าวจะหมดขันเขาก็ต้องยืนรอยืนไหว้อยู่จนเกือบเมื่อย ดูเหมือนว่าบรรดาแถวของพระที่ทยอยเดินมานั้นจะไม่มีที่สิ้นสุด
ถึงร้อยแปดไหมศีล
ป้าศรีถามลูกชาย เพราะตนเองเสียสมาธิไปตั้งแต่เรื่องไม่ได้ใส่บาตรรูปวาดกับพระหนุ่มที่หมายตา
แค่ร้อยหก..พี่แก้วเค้าใส่ให้พระพรตั้งปั้นเบ้อเริ่ม เจ้าศีลทำท่าประกอบ
งั้นก็ช่างเถิด
.ตกลงว่าแก้วจะรับเป็นโยมอุปัฏฐากพระพรท่านตลอดช่วงนวกสมโภชใช่ไหม แม่จะได้ตามไปนิมนต์ท่านไว้เสียก่อน เรามันไม่ใช่คนขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดต้องติดสลาก พระพรท่านก็คงไม่ขัด
ถึงว่าเมื่อกี้ทำไมหยุดอยู่หลายอึดใจ ท่านเป็นสงฆ์จะมาเลือกนั่นเลือกนี่อะไรได้
มันไม่งาม
ฉันไม่อยากอุปัฏฐากใครเลยนะแม่ ยิ่งให้ติดบัตรหมายให้ท่านจับสลากเลือกเอานั้นยิ่งน่าขยะแขยง
ฉันว่า
. หญิงสาวนิ่งไปนิดหนึ่งเพื่อเรียบเรียงคำอธิบาย แต่ผู้เป็นแม่ก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
แก้วเอ๋ย
การที่เจ้าเกิดมาเป็นลูกคนโต มันก็เป็นบาปเป็นกรรมอยู่แล้วนะลูก ทำไมถึงยังคิดอะไรอกุศลอัปมงคลอย่างนี้อีกเล่า บุญกิริยาอะไรจะยิ่งใหญ่เท่าการได้ให้กำเนิดพุทธบุตรจากครรภ์ของเราเอง อานิสงส์นั้นยิ่งใหญ่ขนาดเราไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้วนะลูกนะ
ลูกสาวเริ่มรินน้ำตา ก้มหน้าหลบสายตาเพื่อนบ้าน ขณะป้าศรียื่นคำขาด
ไม่รู้หละ
ตอนแม่ตามไปรับศีลรับพรที่วัด แม่จะกระซิบนิมนต์ท่านไว้ แล้วจะได้ถามหาท่านที่ยึดทางธุดงค์เป็นกิจว่ามีช่องทางเลาะลัดตัดป่าไปหมู่อื่นเมืองอื่นได้บ้างไหม สายๆ แม่กลับมาก็เตรียมข้าวตูข้าวตังให้พ่อหนุ่มนี่เสียให้พร้อม หลังเพลจะได้ฝากฝังให้ติดสอยห้อยตามท่านไปด้วยเลย อย่าว่าแต่ผู้พูดเลยที่ไม่เคยรับแขกแปลกหน้า ผู้คนทั้งเมืองนี้ก็เหมือนกัน เพราะเมืองนี้เป็นเมืองปิด มีทั้งหน้าผา ป่าทึบ และธารน้ำลึกเชี่ยวกรากขวางกั้น เวลาใครแปลกหน้าเข้ามาก็ต้องหันไปปรึกษาท่านพระคุณเจ้าเจ้าวัด ว่าท่านเห็นควรจะจัดการอย่างไร
ทั้งหมดยืนสำรวมกายรอจนแถวพระทั้งหมดค่อยทยอยผ่านเข้าในกำแพงสูงใหญ่โน่นไป แล้วป้าศรีจึงค่อยเข้าขบวนกลุ่มหญิงชรากลุ่มใหญ่เดินตามไปห่างๆ
ท่านมาจากไหนกันเยอะแยะ
ตอนออกจากวัดนั่นไม่ได้ออกทางนี้หรือ
เขาถามขึ้นลอยๆ ตอนเดินกลับเข้าบ้าน แต่ก็ไม่มีใครให้คำตอบ
เมื่อกลับมาถึงบ้านจนทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดา กินข้าวกินปลาเสร็จสรรพ ผู้เป็นพี่สาวจึงเอ่ยถามเป็นครั้งแรก ที่ได้ตั้งใจพูดจากันตรงๆ
ที่ที่พี่ชายมา...ที่ว่านับถือพระพุทธศาสนาเขามีพิธีนวกสมโภชเหมือนอย่างที่นี่ไหมจ๊ะ
เธอเลียนคำเรียกขานจากน้องชาย และเลียนการลงหางเสียงมาจากแม่ได้หวานสนิท
ผมยังไม่รู้เลยว่า นะ-วะ-กะ-สม-โภช ที่ว่านี่คืออะไร ท่าทางจะเป็นพิธีสำคัญมาก
เขาทอดเสียงชื่อเรียกพิธีช้าชัดกว่าปกติ พยายามแปลให้ได้เพราะแต่ละคำมันคุ้นหู ความหมายมันติดอยู่แค่ริมฝีปากแต่ก็ยังแปลออกมาชัดๆ ไม่ได้
ผลของคำถามทำให้ใบหน้าของหญิงสาวกลับแดงซ่านขึ้นมาจนเห็นได้ชัด ผู้เป็นน้องชายเลยชิงอธิบายแทนชัดถ้อยชัดคำ คงลืมเรื่องที่เพิงอาบน้ำไปแล้ว
นวกสมโภชเป็นประเพณีสำคัญที่จะสืบทอดบวรพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่ได้ในเมืองนี้ พวกพระใหม่ไม่เกินห้าพรรษาจะไปเข้ากรรมในศาลาปิดเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนกับพวกอุปัฏฐากที่หมายนิมนต์หรือจับสลากได้ เพราะช่วงเดือนนี้เป็นเวลาสวรรค์เปิดหลังจากที่เทวดาตามมาส่งสมเด็จท่านลงจากการโปรดพุทธมารดา ก็จะยังวนเวียนอยู่ในโลกมนุษย์อีกเจ็ดวัน เลยกำหนดให้เป็นเวลาเข้ากรรมอัญเชิญเทวดาจุติมาในครรภ์เพื่อปฏิสนธิเป็นพุทธบุตร
เจ้าศีลอธิบายได้ไม่ติดขัด เหมือนกับว่าเรื่องพวกนี้เป็นปกติวิสัยของคนที่นี่ เป็นส่วนหนึ่งที่มันจะต้องเรียนรู้และเข้าใจให้ได้ แต่เขาถึงกับตื่นตะลึง ความสงสัยนานับประการคลี่คลายได้กระจ่างแจ้ง ขนลุกเกรียวไปทั้งตัวเหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องบาปสุดหยาบช้าชนิดต้องตกนรกใต้ภพอเวจี เขาเผลอยกพระเครื่องที่ห้อยคอขึ้นจบหมายให้พระท่านบันดาลให้เรื่องที่ได้ฟังนั้นไม่ใช่เรื่องจริง
แล้วศีลข้อสาม หายไปไหน
ส่วนข้อแรกของสงฆ์ เสพเมถุนก็ต้องอาบัติปาราชิกเลยเชียวนะนั่น
เขาถามกลับไปด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาพาลจะไหลออกมาเสียให้ได้
พี่ชายเอาที่ไหนมาพูด
อย่ามาตู่พระวินัยหน่อยเลย
นี่น่ะต้นฉบับตั้งแต่การสังคายนาสมัยพระมหากัสปะเป็นประธานเชียวนา เจ้าศีลยืนยัน
อ้อ
เอ็งเลยไม่รู้จักพระเครื่องพระบูชางั้นซีนะ
สงสัยในโบสถ์ใหญ่โตมโหฬารนั่น จะเป็นหินแกะรูปดอกบัวเจ็ดดอก ธรรมจักรบนพระแท่น กับมหาสถูปเจดีย์อย่างนั้นน่ะสินะ
ความรู้สึกแปลกแยกเอ่อท้นเข้ามาท่วมในหัวใจเขาอย่างช่วยไม่ได้ คำพระที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดูเหมือนจะขัดแย้งกับความเชื่อและบรรทัดฐานของคนที่นี่อย่างตรงกันข้าม เขามองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกเวทนา ใครหนอช่างบิดเบือนพระธรรมคำสอนได้เลวร้ายถึงขนาดนี้ แต่ว่ามันก็น่าหฤหรรษ์ไม่ใช่น้อยหรอกนะกับการละเล่นหมู่มากอย่างนั้น เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น พยายามสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั้นให้ห่างหายไปโดยเร็ว
ในโบสถ์มีแต่พุทธอาสน์กับธรรมจักร สถูปอยู่หลังโบสถ์ ดอกบัวสลักอยู่หน้าวิหาร
เด็กชายไม่เชิงยอมรับว่าเขาก็เป็นพุทธศาสนิกชนเช่นเดียวกับตน แม้จะแน่ใจแล้วว่าพี่ชายก็รู้จักสัญลักษณ์สำคัญของพระพุทธศาสนาเหมือนกัน คือดอกบัวแทนการประสูติ พระพุทธอาสน์แทนการตรัสรู้ พระธรรมจักรแทนพระธรรมเทศนาจากพระโอษฐ์ และพระสถูปแทนการปรินิพพาน
ฉันว่าที่คัดลอกกันมาจะต้องผิดพลาด ตรงไหนสักแห่ง
แก้วเพิ่งพูดกับเขาเป็นประโยคที่สอง
ฉันก็สงสัย ช่วยกันอ่านทวนหาเท่าไหร่ๆ ก็ไม่เห็นพิรุธอะไร คราวนี้เจ้าศีลมีน้ำเสียงขึงขังจริงจังกว่าปกติ เลยตกลงกับพี่แก้วเขาไว้ว่า จะยังไม่ยอมปวารณาเป็นโยมอุปัฏฐากหรือบวชเข้าไปอยู่ในอะไรที่เรายังไม่แน่ใจว่าเป็นคุณที่เที่ยงแท้
.จนกว่า
.จนกว่า
จนกว่าเราจะได้พระไตรปิฎกฉบับอื่นมาตรวจทานสอบเทียบกันดูก่อน
.จะอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ทำไมล่ะศีล พูดกันมาถึงขนาดนี้แล้ว พี่สาวช่วยน้องชายต่อประโยคสำคัญ แล้วหันไปค้อนให้ทีหนึ่ง
ก็
เอ่อ
พี่ชายเขาจะช่วยเราได้หรือ พี่แน่ใจหรือว่าเล่มของพี่ชายจะ
.เฮ้อ!!~
เจ้าศีลละสายตามาจับตรงพระเครื่องที่คอเขาอีกครั้ง แล้วส่ายหน้าอย่างหมดหวัง ส่วนเขาก็กระดากใจเกินไปที่จะกล้ายืนยันว่า พระพุทธศาสนาที่ตัวเองนับถือกันมาตามประเพณีนั่นเป็นทางแห่งพุทธะแท้ๆ
สองพี่น้องหันไปซุบซิบปรึกษาอะไรกันเบาๆ ก่อนจะมาพูดเกือบจะพร้อมกัน
ให้เราไปด้วยได้ไหมพี่ชาย!
เขาถึงกับสะดุ้งโหยงตีสีหน้าไม่ถูก จะเข้าตำรากินบนเรือนขี้รดบนหลังคาก็คราวนี้
มะ
มะ
ไม่
ดะ
ดะ..ได้
กระทั่งคำที่ตอบออกไปก็ยังฟังไม่เป็นภาษา ไม่รู้ว่าตอบรับหรือปฏิเสธ ใจหนึ่งก็อยากจะช่วยปลดพันธนการอันโสมมนี้ให้หลุดจากกายของหญิงสาว แต่ใจหนึ่งก็คิดไปถึงเรื่องของความถูกต้องและสมเหตุสมผล ถึงแม้ พิธีนวกสมโภช จะเป็นพิธีอันเลวร้ายในความเชื่อความเข้าใจของเขา แต่ในสังคมนี้ในบ้านเมืองนี้ ก็ด้วยเพราะขนบธรรมเนียมอย่างนี้พวกเขาจึงสืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อๆ กันมาได้ เรื่องว่าใครอยากจะอยู่ใครอยากจะไปจึงไม่น่าจะใช่เรื่องของส่วนบุคคลอีกต่อไป
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะแก้ว
ศีล
เขาพยายามรวบรวมสติเพื่อกลั่นกรองความคิด แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงที่กลางกระหม่อม
พ่อหนุ่มๆ เร็วเข้าเถิด
พระคุณเจ้าท่านไม่รอเพล ท่านแบกกลดสะพายย่ามออกไปเป็นแถวแล้ว ถ้าออกไปไม่ทันเพลนี้เธอต้องบวชนะ
.ท่านสังฆราชาบอกมาแล้วว่าถ้าไม่ไปก็ต้องบวช
บวชก่อนงานนวกสมโภช ป้าศรีผู้เป็นแม่ของสองพี่น้องที่กำลังคบคิดกันแหกขนบรีบกระหืดกระหอบเข้ามาบอกด้วยความหวังดีเต็มที่ พระใหม่
จะได้จับ
.สลากก่อนด้วยนะ..
ทั้งสามคนสบตากันวูบด้วยสีหน้าตระหนก
เขายกมือขึ้นทาบอก ขยับพระเครื่องให้แนบชิดกับหัวใจที่เต้นโครมคราม สมองหมุนติ้วเวียนถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาโดยไม่กล้าหาคำตอบ
.
.ถ้าไปตอนนี้ แล้วสองพี่น้องนี่หายไปด้วย จะรอดไปได้ถึงไหน
.
.ถ้าไม่ไปตอนนี้
เขา
เขาจะได้เข้าร่วมพิธีนวกสมโภชด้วยจริงๆ น่ะหรือ
***************
แก้ไขเมื่อ 18 ก.พ. 48 03:53:50
แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 48 09:21:48
จากคุณ :
SONG982
- [
17 ก.พ. 48 09:19:12
]