อมยิ้ม*แก้มตุ่ย* -*dokyaka*
เคยได้ยินใคร ๆมักจะชอบพูดกันว่าอมยิ้ม เขามีไว้แค่หลอกเด็ก ๆ ...จริงรึเปล่า
" น้องเอ๋ย อย่าร้องนะครับ โอ้คนเก่งของพี่ณัฐ ล้มเเล้วก็ลุกสิครับไม่เจ็บหรอก มาเดี๋ยวพี่ณัฐเป่าให้ โอม...เพี้ยงหายแล้ว ดูสิหมดสวยเลย " เสียงที่แฝงด้วยความห่วงใยปนล้อเลียนอยู่ในทีของเด็กผู้ชายวัยสิบขวบยังคงวนเวียนไปมาอยู่อย่างนั้นพร้อมมือที่ลูบศรีษะอย่างปลอบประโลมหญิงตัวกระจ้อยวัยห้าขวบที่นั่งชันเข่าอยู่ในชุดกระโปรงสีชมพูอมส้มตัวสวยซึ่งตัดกับสีผิวขาวอมชมพูสะอาดเนียนใสดังแก้วบาง หากทว่าคงจะแตกต่างตรงที่ใบหน้าดูหมองหม่นเรียวปากบิดเบี้ยวตามจังหวะเสียงร้องสะอื้นโยนตัวที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามอารมณ์ความเจ็บปนตกใจของเด็กหญิง นัยตาทั้งสองข้างแดงฉ่ำไปด้วยคราบน้ำที่ไหลรินออกมาประดุจน้ำตกที่ล่วงหล่นมาอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากความเจ็บที่เพิ่งผ่านการล้มเมื่อสักครู่ เหตุเพราะเสียหลักตอนวิ่งไล่จับผีเสื้อตัวสวยที่บินไกลออกไปเรื่อย ๆ จนสุดจะเอื้อมมือคว้า เเม้เด็กชายเพื่อนรุ่นพี่ตัวน้อยจะยกเหตุผลต่าง ๆ นาๆมาประโลมขวัญสักเท่าไร อาการสะอึกสะอื้นนั่นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหายไป จนเด็กชายณัฐเริ่มจะอ่อนใจ
เฮ้อ งั้นต้องใช้ท่าไม้ตาย เด็กชายคิดในใจ
" น้องเอ๋ยดูสิพี่ณัฐจับผีเสื้อได้ด้วย ช่วยจับหน่อยมันจะบินไปแล้ว" อมยิ้มสีสวยถูกยื่นมาด้านหน้าเด็กหญิงขี้แย และกวัดเกว่งไปมาอย่างยั่วยุ ได้ผลเสียงร้องเริ่มหายไป ดวงตากลมใสที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำออกมาล้างตาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ น้ำเหล่านั้นก็หายไปหมดเหลือเพียงร่องรอยชื้นเกาะติดอยู่บริเวณขนตางอนๆ เจ้าของดวงตากลมโตกำลังจ้องเจ้าลูกอมมือถือกลม ๆ อย่างสนใจ หากแต่ยังไม่กล้าจะเอื้อมมือคว้าเป้าหมายตรงหน้า
" ไม่ใช่สักหน่อย อมยิ้มตะหาก "
"เจ้าผีเสื้อมันฝากให้พี่เอามาให้น้องเอ๋ย แถมบอกอีกนะว่าขี้เเงมาก ๆ เดี๋ยวจะไม่สวย "
" จริงเหรอ แต่คุณแม่ห้ามน้องเอ๋ยกินอมยิ้มเพราะเดี๋ยวฟันจะผุ " เด็กหญิงพูดขึ้นอย่างลังเล
" แสดงว่าน้องเอ๋ยไม่อยากได้ของขวัญจากผีเสื้อ หว้าน่าเสียดายจังเจ้าลูกอมองค์หญิงไม่ต้องการเจ้ารู้ไหม เพราะฉนั้นเป็นของเจ้าชายซะดีๆ "มือของเด็กชายค่อยๆแกะเปลือกลายสวยที่ห่อหุ้มลูกแก้วกลม ๆรสหวานที่ทำจากน้ำตาลออกอย่างรวดเร็วแล้วทำท่าจะใส่เข้าปากซะเอง
" เดี๋ยวพี่ณัฐ ถ้าเอ๋ยไม่กินเจ้าผีเสื้อตัวน้อยต้องเสียใจแน่เลย แต่ห้ามบอกคุณแม่นะ" พูดจบเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ก็คว้าอมยิ้มสีสวยในมือเด็กชาย มาอมอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมทั้งยิ้มออกมาทั้งสีหน้าและแววตาอย่างถูกใจในรสชาติ
หนั่นแหน่สมชื่ออมยิ้มจริง ๆ ซะด้วย ทำให้เจ้าหญิงยิ้มได้แล้ว
เด็กชายหัวเราะถูกใจอย่างรู้แกวเพราะเด็กหญิงเพื่อนรุ่นน้องของเขา มักจะเป็นแบบนี้เสมอ เขาจึงต้องแอบพกอมยิ้มไว้ทุกครั้งที่ไปเที่ยวไหนกับเธออย่างน้อยเขาก็เห็นเธอมีความสุขเสมอที่ได้ลิ้มรสเจ้าลูกใส ๆ กลม ๆ ดูสิอมแก้มตุ่ยเชียวยังมีกระจิตกระใจส่งมาให้เขาอมอีก
" แบ่งกันนะ " เด็กหญิงเอ๋ยยิ้มให้ขณะยื่นเจ้าอมยิ้มแท่งนั้นให้เจ้าของตัวจริงได้ลิ้มรสบ้างและทั้งสองคนก็วิ่งไล่จับผีเสื้อกันต่ออย่างสนุกสนานจนพ่อกับแม่ทั้งของเขาและเธอต้องมาเรียกเข้าบ้าน
และตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมาทุกครั้งที่เด็กหญิงที่ค่อยๆ เติมโตมาเป็นหญิงสาวตามระยะของเวลาเมื่อเธอร้องไห้ หรือเศร้าสร้อยเมื่อใดก็มักจะมีเสียงของใครบางคนดังแว่วมาพร้อมกับ....อมยิ้ม ที่เรียกรอยยิ้มบนแก้มเนียนใสกลับมาได้เสมอ
" เจ้าหญิงมาดูสิวันนี้ฝนตกลงมาพร้อมอมยิ้มรสช็อกโกเลตแหนะ โห ใจดีจัง แต่เจ้าชายกลัวฟันผุเลยให้เจ้าหญิงฟันเป็นรูแทนแล้วกัน เอ๊ายิ้มได้แล้วคนเก่งเดี๋ยวฝนหยุดค่อยออกไปเล่นกันก็ได้ "
" ร้องทำไมน้องเอ๋ย เอ๊ะอะไรอยู่หลังน้องเอ๋ย ดูสิ ใครมาวางอมยิ้มไว้แถวนี้รสสตอเบอรี่ซะด้วย"
"เข้าบ้านเถอะน้องเอ๋ย คุณแม่ไม่ว่าหรอกเชื่อพี่ณัฐสิ ผลการเรียนน้องเอ๋ยแค่หล่นลงมานิดเดียวเองกล้าหน่อยสิคนเก่ง ดูในสมุดพกน้องเอ๋ยสิมีอมยิ้มอยู่ด้วยใครช่างมาใส่ไว้น้า" เสียงพูดปนล้อเลียนหยดด้วยรอยยิ้มจางๆ ในขณะที่มือก็ค่อยๆ ลูบหัวเด็กสาวอย่างแผ่วเบา เหมือนต้องการเรียกกำลังใจมาให้น้องเอ๋ยของเขาซึ่งไม่กล้าเอาผลการเรียนที่ค่อนข้างตกลงมาไปให้ผู้ปกครองทั้งคนของเธอดู
" มุขเก่า ๆ อย่ามาหลอกกันเลย เอ๋ย 15แล้วนะไม่ใช่เด็กบ๋องแบ๋วเหมือนเมื่อก่อนสักหน่อย "พูดจบเธอก็มองเขาอย่างค้อนๆ และค่อยๆก้าวเข้าไปในบ้านอย่างหวั่น ๆ
" อ้าวแล้วเอาไปทำไม ไหนว่าไม่ใช่เด็กแล้วไง " ชายหนุ่มแกล้งร้องว่าน้องเอ๋ยของเขา ทั้งที่เดี๋ยวนี้เธอจะเติบโตเป็นสาวแล้วและที่สำคัญยิ่งดูน่าหยิกกว่าเดิมซะอีก สายตาของเขายังคงมองไล่หลังของเธอที่เดินถือสมุดพกเข้าบ้านพร้อมพยายามเรียกความกล้าเข้ามา มือข้างนึงถือสมุดพกส่วนอีกข้างก็กำของหลอกเด็กที่เธอเพิ่งว่ากับเขาไปเมื่อสักครู่นี้ไว้แน่นทีเดียว //มันช่วยเพิ่มความมั่นใจได้เยอะเเฮะ อาจจะเป็นกำลังใจจากเจ้าของด้วยรึเปล่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจ//
วันเวลาเดินทางไปรวดเร็วจริงๆ ในความรู้สึกของนางสาวอิณชนกหรือเด็กหญิงเอ๋ยในอดีต 3ปีแล้วสินะที่เธอกับเขาจากกัน
" น้องเอ๋ย ๆ ว่าไงวันนี้จะไปรับพี่ณัฐที่สนามบินไม่ใช่เหรอชักช้า เดี๋ยวไม่ทันนะลูก "
" คะแม่ เอ๋ยกำลังจะไปแล้ว" หญิงสาวร่างบางในชุดลูกไม้สีชมพูอ่อน ผมดำขลับปล่อยทิ้งยาวสลวยเหยียดตรงถึงกลางหลังกวัดแกร่งไปมาตามแรงเคลื่อนไหวของเจ้าของร่างอรชรที่วิ่งลงบรรไดมาอย่างรีบเร่งมือข้างหนึ่งคว้ากุญแจรถส่วนอีกข้างถือถุงสีสวยที่ใส่อะไรบางอย่างไว้
"ไปนะคะแม่ "พูดจบร่างบางก็หายไปทางประตูด้านหน้าโดยไม่ได้รอฟังคำใด ๆ ต่อจากผู้เป็นแม่ที่ตะโกนรั้งท้ายมา
" ขับรถดี ๆ นะน้องเอ๋ย ฝากสวัสดีคุณพ่อคุณแม่พี่ณัฐด้วยนะลูก "
จากคุณ :
dokyaka
- [
18 ก.พ. 48 10:05:07
A:203.150.86.165 X:
]