ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3282192/W3282192.html
ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3295743/W3295743.html
=================================
"หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ขณะนี้" เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่ภูริกดโทรศัพท์หาปิ่นแล้วไม่สามารถติดต่อได้ นี่ก็ล่วงวันที่ 2 ที่เขากลับจากมาเลเซียแล้ว หลังจากที่เขาต้องไปทำงานที่สิงคโปร์ กลับมาได้ไม่ถึงเดือน ทางบริษัทก็ให้เขาไปที่มาเลเซียต่อ งานที่มาเลเซียยุ่งมาก จนเขาแทบจะไม่ได้คุยโทรศัพท์กับใครเลย แม้แต่ปิ่น คนที่เขาอยากเจอที่สุด
"โทรหาใครว่ะไอ้ภู เห็นกดอยู่นั่นแหละ" เสียงเพื่อนคนหนึ่งของเขาทักขึ้น เมื่อเห็นเขาเอาแต่กดโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ
"คน" ภูริตอบสั้นๆ ด้วยความหงุดหงิดใจ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องหงุดหงิดขนาดนี้ เขากังวลไปสารพัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับปิ่นหรือเปล่า หรือว่าเธอปิดมือถือหนีเขา ไม่ว่าอะไรที่เขาสามารถจะคิดได้วนเวียนอยู่ในหัวเขาตลอดเวลา
"เออ รู้ว่าคน แกคงไม่ได้โทรหาหมาหรอก หมาที่ไหนจะมีโทรศัพท์ว่ะ" เสียงเพื่อนคนเดิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งๆ หมั่นไส้ แต่ภูริเองก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ตอนนี้เขาหงุดหงิดใจเกินกว่าที่จะพูดอะไรกับใคร เขาเก็บมือถือไว้ในกระเป๋า และหยิบเหล้าขึ้นมาดื่มด้วยความเบื่อหน่าย 'หายไปไหน' นี่คือคำถามเดียวในหัวของเขา นอกจามือถือแล้วเขาก็ไม่มีช่องทางอื่นๆ ที่จะติดต่อเธอได้เลย แม้ว่าเขาจะเคยไปส่งเธอที่คอนโด แต่ว่าเขาก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ห้องไหน ชั้นไหน และคอนโดห้องนั้นก็ไม่ใช่ของเธอ แต่เป็นของเพื่อนที่เป็นเจ้าของร้านบาร์บาร์บาร์
"ดูสิ เมาเหมือนหมา" เสียงเพื่อนคนหนึ่งของภูริพูดขึ้น เมื่อเห็นสภาพของเพื่อนตัวเองหลังจากที่ราตรีผ่านไปเกินครึ่งทางแล้ว ตอนนี้ภูริเมามายไม่ได้สติ นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะที่ใช้สังสรรค์กัน
"สงเคราะห์พามันไปส่งบ้านหน่อยละกัน" เสียงเพื่อนอีกคนพูดขึ้น เพื่อนแต่ละคนได้แต่ส่ายหน้าด้วยความระอา ก่อนที่จะช่วยกันหิ้วปีกพาไปที่รถ
ความจริงภูริเองก็ไม่คิดที่จะดื่มเหล้าจนเมาอย่างนี้เลย แต่พอคิดถึงปิ่นทีไร เขาเองก็อยากจะลืม ทำให้เขากระดกเหล้าเข้าปากทีละแก้วสองแก้ว เผื่อจะทำให้เขาคลายความคิดถึงนี้ไปได้ น่าแปลกเหลือเกินที่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง กลับมีอิทธิพลกับเขาได้มากมายถึงเพียงนี้ ปกติเขาไม่เคยเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งเข้าหาผู้หญิง มีแต่ผู้หญิงจะวิ่งเข้าหาเขา และถึงแม้เขาจะโทรหาผู้หญิงคนไหนไม่ติด เขาก็มักจะโทรหาคนอื่นเป็นการทดแทน แต่สำหรับปิ่น เขารู้สึกว่าไม่มีใครที่สามารถมาแทนเธอได้
"ตื่นแล้วเหรอไอ้ควาย เมาเป็นหมาเชียวนะ" เสียงคีเพื่อนของภูริพูดขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายลุกขึ้นจากที่นอน และนั่งนิ่งอยู่นาน
"ตกลงจะให้เป็นควายหรือหมา เอาสักอย่าง" ภูพูดพลางสะบัดหัวสองสามที เขารู้สึกปวดหัวเล็กน้อยจากอาการเมาค้าง "ขอยาแก้เมาค้างหน่อย" เขาพูดกับเพื่อนตัวดีของเขา ก่อนที่คีจะโยนยาให้
"เล่าได้เปล่า ว่าเป็นอะไร ไม่ต้องมาส่ายหัว คบกันมานานรู้ว่าถ้าแกไม่มีเรื่องในใจไม่มีทางกินจนเป็นหมาหรอก" คีพูดขึ้นอย่างรู้ใจ พลางลุกขึ้นไปรินน้ำเย็นใส่แก้วส่งให้เพื่อนที่คบกันมาเกือบ 10 ปี "ว่ามา"
ภูริมองหน้าคีก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟังโดยไม่ปิดบัง เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่าความรู้สึกของเขาตอนนี้มันคืออะไร เขากำลังตกหลุมรักเข้าไปเต็มเปา คีก็ได้แต่ฟังแล้วก็ส่ายหัวไปมา
"ปีนี้แกตกหลุมรักกี่ครั้งแล้ว" คีย์ถามพลางเลิกคิ้วสูงด้วยความหมั่นไส้
"คนนี้มันไม่เหมือนคนก่อนๆ มันมีอะไรที่พิเศษออกไป" เขาพยายามอธิบายให้เพื่อนของเราฟัง แต่เพื่อนของเขาก็ไม่มีแววที่จะเชื่อสักนิด
"ถ้าเป็นไอ้มินก็ว่าไปอย่าง รายนั้นรักมั่น รักจริงหวังแต่ง" คีพูดขำๆ อย่างไม่เชื่อว่าเพื่อนเขาคนนี้จะรักใครจริงได้ ก็เป็นธรรมดาที่จะไม่เชื่อ เพราะเพื่อนของเขาคนนี้ควงผู้หญิง 7 วันแทบจะไม่ซ้ำคนเลยทีเดียว
"คอยดูแล้วกันไอ้คี"
หลังจากที่โต้เถียงกับเพื่อนรักอยู่ครู่หนึง ภูก็เดินทางกลับมาที่คอนโดด้วยความเหนื่อยล้า เขาถอดเสื้อเชิ้ต และโยนมันไปอย่างไม่ใส่ใจ ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยใจที่อ่อนล้า พลางคิดทบทวนบทสนทนาเมื่อครู่ นั่นสินะ บางทีเขาอาจจะไม่ได้ชอบปิ่นจริงๆ เพียงแต่เขาไม่เคยเจอผู้หญิงอย่างปิ่นเท่าไหร่นัก หรือว่าบางทีเขาแค่อยากจะเอาชนะเท่านั้น เขาคิดอะไรอยู่ได้ไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นรบกวนโสตประสาทของเขา เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ตรงหัวเตียง มองชื่อที่โชว์ แล้วกดรับ พยายามบังคับเสียงให้ดูปกติ
"ว่าไงครับ"
"กลับมาแล้วทำไมไม่โทรหาผิงเลย" เสียงต่อว่าต่อขานดังขึ้นจากโทรศัพท์ ทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวอยู่แล้ว ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
"ก็พี่เพิ่งกลับ ผิงอย่าทำอย่างนี้น่า พี่เหนื่อย"
"พี่ภู" ผิงตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีที่จะสนใจตนแม้แต่น้อย
"ผิง อย่าทำอย่างนี้นะพี่ไม่ชอบ" คำว่าไม่ชอบและเสียงเข้มๆ ของอีกฝ่ายทำให้ผิงชะงักไปทันที และเก็บเอาความไม่พอใจเอาไว้ข้างใน
"ก็ผิงคิดถึง" คิดถึงงั้นเหรอ เขาคิดด้วยใจที่อ่อนล้า ทำไมนะคนที่คิดถึงเขาในตอนนี้ถึงไม่เป็นอีกคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่ สวรรค์ช่างแกล้งเขาเสียเหลือเกิน
"พี่ขอโทษนะผิง พอดีพี่เหนื่อยน่ะ เอางี้เป็นการไถ่โทษ วันนี้เราไปเที่ยวกันไหม" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง บางทีไปเที่ยวกับผิงอาจทำให้ความคิดถึงที่มีต่ออีกคนลดน้อยถอยลงก็เป็นได้
การไปเที่ยวของเขากับผิงก็คือการไปช็อปปิ้งในห้าง เขาไม่ลืมที่จะหยิบของฝากให้ผิงไปด้วย เพราะถ้าลืม เขาเองจะเป็นฝ่ายที่ปวดหัวเอง เขารู้ดีว่าผู้หญิงแต่ละคนของเขาต้องการอะไร ความเอาใจใส่ สิ่งของ หรือว่าเวลา แต่เขาก็ให้ได้เท่าที่เขาจะให้ได้ และที่สำคัญ เขาย้ำกับผู้หญิงของเขาทุกคนว่า เขาไม่ต้องการการผูกมัดใดๆ ถ้าทำได้ก็คบกันไปเรื่อยๆ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องเลิกรากันไป
"พี่ภูคะเข้าร้านนี้หน่อย" ผิงพูดพลางดึงเขาเข้าไปในร้านเสื้อผ้าผู้หญิงร้านนึง เขาพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ แล้วผิงก็ปล่อยเขาเอาไว้กลางร้าน แล้วเดินไปดูเสื้อผ้าตัวนู้นทีตัวนี้ที นานๆ จะหันมาถามความเห็นของเขา
"พี่ภูค่ะ สีแดงกับสีฟ้า ตัวไหนดีคะ" เสียงหญิงสาวพูด พลางเอาเสื้อผ้ามาเทียบกับตัวเอง เขายิ้มๆ ก่อนที่จะชี้สีฟ้า หญิงสาวมีท่าทีกระดี๊กระด๊าก่อนที่จะเดินไปดูตัวอื่นอีก ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนที่จ้องมองมาทางเขา ทำให้เขาหันหลังกลับไป
แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 00:50:09
จากคุณ :
mrs_ricken
- [
22 ก.พ. 48 00:43:12
]