CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ปิ๊วปิ้ว..ใช้โลยิ่นของ

    ย้อนหลังไปไม่นานนัก แม้จะหลายปีพอสมควร ที่ผมว่าไม่นาน ก็เพราะว่าผมยังจำเหตุการณ์นั้นได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี่ ผมจึงว่าไม่นานนักไงครับ

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเศร้า ไม่ใช่เรื่องผี และไม่ใช่เรื่องแต่ง เพราะเป็นเรื่องสนุก(อิอิ)

    ปีนั้น งานรับน้องของคณะที่ผมเรียนอยู่ ผมเป็นโต้โผใหญ่ คล้าย ๆ ตัวแทนรุ่นพี่ กำหนดจัดขึ้นที่ริมทะเล  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นบ้านพักเอกชน ที่บังเอิญผมติดต่อได้

    บังเอิญอย่างไรนั้นก็ชักจะเลือน ๆ เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้

    รู้แต่ว่า เหตุที่เลือกสถานที่นั้น ก็เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะมาก สำหรับการรับน้อง

    มีสถานที่สร้างซุ้มมากมาย ทั้งชายหาด บนภูเขา สนามหญ้า และริมทางเดิน

    ++++

    รุ่นพี่รุ่นน้องเกือบร้อยคน นั่งรสบัสติดแอร์ชนิดพัดลมหมุนหน้า คันหนึ่งมีสามตัว แต่ละตัวส่งเสียงดังกว่าเครื่องยนต์

    ด้านหลังถูกยึดไว้โดยรุ่นพี่ขี้เมา และรุ่นน้องชอบเมาตามรุ่นพี่ กลองคู่หนึ่ง ฉิ่งฉาบอย่างละคู่ และก็ขวดกับเศษไม้ที่หลายคนใช้เป็นอาวุธ  แหกปากร้องเพลงเคาะจังหวะไปตลอดทาง

    ตอนกลางของรถ ถูกยึดไว้ด้วยพวกที่ชอบคุย เกาะกลุ่มคุยกันเสียงดังเกือบเท่าพัดลม ไล่เรี่อยกับเสียงดังของเครื่องยนต์

    ส่วนตอนหน้า ส่วนใหญ่เป็นสตรีที่ชอบสุภาพ คือชอบนอนอย่างสุภาพ เหม่อมองโน่นนี่ได้แป๊บเดียว ก็หลับหัวหงุบ

    น้องคนหนึ่ง เป็นสตรี ที่ไม่รู้สุภาพหรือเปล่า แต่สวย สวยแบบไทยแท้

    เธอยึดที่นั่งระหว่างกลางค่อนไปตอนหน้า หรือระหว่างหน้าค่อนไปตอนกลาง

    เธอคุยบ้าง และเธอก็หลับบ้าง

    ตาเธอสวย คิ้วเธองาม ตัวเธอขาว ปากเธอแดง ผมเธอยาว และไม่ใส่สี

    เธองามเหมือนภาพวาด หากเอามาใส่ชุดไทย ชนิดห่มผ่าบาง ๆ (แฮ่..) คงจะถูกมองว่าเป็นนางเอกกำลังแสดงเรื่องย้อนมิติอะไรสักเรื่องหนึ่งที่หมู่นี้ละครหลังข่าวมักจะเอามาทำเป็นพล๊อตขายให้สปอนเซอร์หลอกคนดู

    ความงามของเธอเป็นที่ติดใจของบรรดารุ่นพี่ โดยเฉพาะผม

    แม้ตอนนั้นจะไม่แก่เฒ่า แต่ก็รู้จักเลี้ยงงูไว้บนหัวหลายตัว

    ทางเดินระหว่างเธอกับกลองคู่นั้น จึงถูกสำรวจจากผมประมาณห้านาทีต่อครั้ง

    สำรวจว่ามีประชากรสองฝั่งทางนั้นเท่าใด ใครหลับบ้าง ใครขี้โม้บ้าง ใครควรจะถูกแกล้งจากรุ่นพี่หนัก ๆ บ้าง และใครน่ารักน่าทะนุถนอมบ้าง

    น้องคนที่งามนั้น ควรเป็นน้องที่น่าทะนุบำรุงเป็นที่สุด

    บำรุงให้เธอมีความสุข จากผมที่ตกหลุมรักเธอเข้าแล้วชนิดหัวทิ่มลงไปก่อนเท้า ถอนตัวอย่างไรก็ไม่ขึ้น

    ดีที่เพื่อนเพื่อนเกรงใจ ในฐานะหัวโจก  และน้องน้องค่อนข้างกลัว ในฐานะมีพื้นฐานใบหน้าเลียนแบบโจรมาได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์  แม้จะหมั่นไส้อย่างไร ก็ไม่มีใครกล้ามาขัดขวาง

    ที่นั่งของน้องคนนั้น จึงมีที่ว่างสำหรับผมที่จะผลุดลุกผลุดนั่งเสมอ

    เธอมักจะยิ้มต้อนรับผม และพูดคุยด้วยเสียงหวานหวาน หวานปานจะกลืนกินเข้าไปได้

    เวลาคุยดวงตาเธอเย็นฉ่ำ ที่ใครถูกมองแล้วก็ต้องรู้สึกเย็นจนถึงหัวใจ

    "ไอ้ณัติ เอ็งจะเดินหาสวรรค์วิมานชั้นดาวดึงส์หรือชั้นดุสิตธานีวะ จะทำอะไรก็ทำสักอย่าง จะแ..กเหล้าหรือจะจีบสาว ข้าเวียนหัวกะเอ็งเหลือเกินแล้ว"

    เพื่อนคนนี้ไม่ยอมเกรงใจเหมือนคนอื่น  หน้าตามันเหมือนโจรมากกว่าผมประมาณเปอร์เซ็นต์ครึ่ง สนิทชิดเชื้อกันชนิดรู้ใจเมื่ออ้าปาก แตะหน้าผากก็รู้ว่าหิวข้าว

    "เกรงใจคนอื่นมั่งสิวะ เดินไปเดินมา อย่างกะทางเดินในเขาดิน ทางแคบออกอย่างงี้ อีกไม่นานก็ถึงแล้ว ตอนนั้นเอ็งจะเดินเล่นวิบากอย่างไรข้าก็ไม่ว่าหรอกวะ"

    จึงจำเป็นต้องเดินน้อยลง กินเหล้ามากขึ้น ร้องเพลงมากขึ้นจนเสียงแหบแห้ง

    ++++++

    เมื่อถึงที่หมาย บทบาทหน้าที่ที่ต้องทำก็เข้ามาทำให้ผมต้องเสียเวลาไม่ได้ฟังเสียงหวานไม่ได้มองตาฉ่ำไปหลายชั่วโมง

    ใจจึงเร่งให้ถึงตอนที่เธอพร้อมกับเพื่อน ๆ จะมายังซุ้มที่ผมดูแลอยู่เร็ว ๆ

    ซุ้มนั้นก่อสร้างขึ้นด้วยความสามารถจากสถาปนิกชั้นยอดของเมืองไทย

    ก้านมะพร้าวที่ร่วงหล่นอยู่เยอะแยะ ถูกนำมาเป็นหลังคา ค้ำด้วยเสาที่หาจากเศษไม้จากแถวนั้น

    พื้นปูด้วยต้นหญ้า ที่บังเอิญมีอยู่แล้ว เป็นหญ้าญี่ปุ่นใบใหญ่ซะด้วย นุ่มนิ่มน่านอน

    ผมกะเพื่อนนอนรออยู่ในนั้น เหตุที่นอนเพราะรู้สึกมึน เหตุที่มึนเพราะรู้สึกเหล้าจะพร่องลงไปเยอะ ซื้อตุนไว้เกือบสองลังเหลือไม่ถึงสิบขวดซะแล้วในตอนนั้น

    ซุ้มนี้เป็นซุ้มที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้น้องน้องกล้าแสดงออกต่อหน้าสารธารณะชน

    ให้น้องน้องเข้ามาสารภาพความในใจกับผม ซึ่งนอนตาตี่หรี่แทบปิดฟังอยู่

    โดยมีเพื่อนคนที่อยู่กับผมนั้นแอบบันทึกเทปเอาไว้

    จะเอาไปเปิดในงานเลี้ยงคืนนี้

    +++++

    น้องคนหนึ่ง เป็นน้องผู้ชาย ท่าทางซื่อเซื่องและสุภาพ ยิ้มง่ายจนเห็นฟันขาว หน้าตาหัวหูถูกปะแป้งลงสีจนจำไม่ได้ว่าเป็นใคร เว้นแต่ป้ายชื่อที่แขวนคอไว้

    ผมสั่งให้เขาบอกชื่อด้วยเสียงที่ดังลั่น เล่าประวัติความเป็นมา ความชอบส่วนตัว และรายละเอียดของผู้หญิงคนที่เขาหลงรัก

    "เรารู้จักกันมาสามปีแล้วครับ เรียนมัธยมปลายมาด้วยกัน" เขาเล่า

    "ผมชอบเธอตรงที่เธอสวยครับ"

    "สวยตรงลูกตาครับ ปากก็สวย"

    "ก็ใหญ่พอประมาณครับ..แหมพี่ ผมไม่ลามกขนาดนั้น"

    "ไม่เคยครับ แค่จับมือกันเท่านั้น จริงจริงครับ"

    "ก็อยากสิครับ..ผมก็ผู้ชายเหมือนกัน แต่ไม่กล้าขอเธอ.."

    "กลัวเธอตบเอาน่ะครับ..แม้จะแค่หอมแก้มก็เถอะ"

    "ก็นั่งจับมือกันเฉย ๆ คุยกัน ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กันสองต่อสองหรอกครับ"

    "ก็บอกเธอว่าผมรักเธอ ตอนไปเที่ยวทะเลด้วยกัน...ไปกันหลายคนครับ ผมพาเธอเดินเล่น แล้วผมก็บอกเธอ"

    "เธอก็อายครับ แต่ไม่เห็นว่าอะไร ผมก็ถามว่าเธอรักผมหรือเปล่า เธอยิ้มครับ หน้าแดงหรือเปล่าไม่รู้ครับ..ตอนนั้นมันมืดแล้ว..อ้าว..ไหงพี่คิดอย่างงั้นละครับ ข้างโขดหินจะทำอะไรได้ล่ะครับ พี่นี่ก็..."

    "ถ้าเธอมาอยู่ตอนนี้ ผมก็จะบอกเธอว่า ผมรักเธอครับ"

    "ไม่มีครับ เธอเป็นคนดี ยกเว้นอย่างเดียวขี้บ่นครับ"

    "ให้ด่าเธอเหรอครับ ผมจะด่าเธอทำไมล่ะครับ ก็เธอไม่มีทางได้ยิน ก็ได้ครับ ยายปากปลาปักเป้า..ฮะฮะ แหมสะใจ..เวลาเธอบ่น ปากเธอเหมือนปลาปักเป้าครับ บานหุบบานหุบต่อเนื่องดีแท้.."

    "มีครับ เสียดายที่ผมมีแฟนซะแร้ว ไม่งั้นผมจีบแน่ เอ แต่เห็นพี่จองไว้แล้วไม่ใช่เหรอครับ..อะไรนะครับ ไปได้แล้วหรือครับ ซุ้มนี้ไม่แกล้งอะไรเลยหรือครับ ครับ ดีครับ..พี่ครับ ไมพี่ขี้หลีจังครับ?"

    ประโยคสุดท้ายของเขา ทำให้ผมผลุดลุกขึ้น แต่หมอนั่นเผ่นแน่บออกไปแล้ว

    ชิชะ มาชมคนที่ผมหลงรักต่อหน้าผมได้งัย ไม่เตะให้ก็บุญแล้ว ยังจะมาหาว่าผมขี้หลีซะอีก

    +++++

    คนต่อไปเป็นเธอคนนั้น คนที่ผมกำลังหลงไหลได้ปลื้ม

    เธอมีชื่อว่ารัตน์สุดา ชื่อเล่นเรียกว่า "รัตน์"

    มอมแมมเหมือนทุกคน เห็นแต่ดวงตาคมหวานนั้น จ้องผมด้วยสายตาหวาดระแวง

    "พี่ณัติ อย่าแกล้งรัตน์แรง ๆ นะ รัตน์ไม่ค่อยสบาย"

    "โถ..ใครจะไปแกล้งน้องรัตน์ได้ลงคอ ซุ้มนี้เป็นซุ้มที่ใจดีที่สุด ไม่แกล้งอะไรเลย นอกจากจะพูดคุยกันธรรมดาเท่านั้น"

    ผมคงใช้เสียงผิดปกติไปหน่อย จนเพื่อนคนนั้นกระแอม

    "อ้วก.."

    การสอบถามประวัติก็เกิดขึ้นตามระเบียบ ทำให้รู้ว่าเธอมีแฟนแล้ว

    อกหักสิครับ งานนี้

    "ฮะฮะ 55555" ไอ้เพื่อนหัวเราะ

    "ต้องช่วยไหม ไอ้เวง จะเอาค้อนหรือสิ่วไปด้วยหรือเปล่า จะได้แก้พ่อที่เสียให้หายดี" ผมด่าเข้าให้

    ++++++

    "คบกันมานานหรือยังครับ?" ผมกัดฟันถาม อย่างน้อย จะได้รู้ตื้นลึกหนาบาง เวลาทำศึกชิงนางจะได้มีภาษีด่ากว่าหน่อย

    "ปีเดียวค่ะ..เขาเป็นรุ่นพี่..ตอนนี้อยู่มหาลัย(ชื่อดังลั่น) คณะรัฐศาสตร์ค่ะ..อ๋อ..ไม่กลัวหรอกค่ะ ดีสิคะ จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนอย่างไร ถ้าเขาไปมีแฟนใหม่ ก็จะได้รีบตัดใจ...เขาไม่หล่อหรอกค่ะ แต่เขาดีกับรัตน์มาก..คะ?..พี่ณัติน่ะหรือคะ..ง่า...หล่อค่ะ..หล่อที่สุดค่ะ..(ยิ้มแห้ง).."

    "พี่ณัติเป็นคนตลกดี..ไม่รู้ค่ะ พี่ว่าพี่นิสัยดีมั๊ยล่ะคะ?..(ปิดปากหัวเราะ)..เชื่อแล้วค่ะ..เชื่อแล้ว"

    "หวา..ต้องตอบด้วยเหรอคะเรื่องแบบนี้..อือม..เคยค่ะ..ในงานวันเกิดของรัตน์..เขาซื้อเค้กมาให้ แล้วเขาก็ร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ แล้วบอกว่า "พี่รักรัตน์ครับ"..ก็รู้สึก..บอกไม่ถูกค่ะ แต่ก็รู้มานานแล้วค่ะ ว่าเขารักรัตน์..รัตน์ไม่ตอบค่ะ บอกขอบคุณเฉย ๆ .."

    "ก็ไม่รู้จะตอบว่าอย่างไง ก็..รักมังคะ..เขาเป็นคนดี..เขาดีกับรัตน์จริง ๆ "

    "อยากจะบอกกับเขาว่า...ขอบคุณในสิ่งดีดีที่พี่เขาให้รัตน์มาตลอด..ไม่ค่ะ ไม่มีอะไรต้องด่านี่คะ (หัวเราะอีก)"

    "งั้นพี่ด่าให้เอาไหม?" ผมถามเป็นคำถามสุดท้าย

    เธอทำหน้าฉงน..ส่วนเพื่อนผมหัวเราะอีกครั้ง ไอ้เพื่อนคนนี้มันชอบหัวเราะเยาะซ้ำเติมคนอื่น โดยเฉพาะผม

    เฮ้อ..งานกร่อยเลยครับ

    **********

    จากคุณ : แทน*-* - [ 22 ก.พ. 48 15:34:40 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป