เสียงตะโกนโหวกแหวกดังไปทั่วมหาวิทยาลัย เนื่องจากวันนี้เป็นวันรับน้องใหญ่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งตอนเช้าได้มีการพารุ่นน้องปีหนึ่งไปขอพร รับขวัญกับพระธาตุดอยสุเทพกันแต่เช้ามืด กว่ากิจกรรมของมหาวิทยาลัยจะเสร็จก็เลยมาเกือบเที่ยง หลังจากนั้นเหล่าบรรดาอาจารย์ก็ส่งต่อให้เป็นหน้าที่ของรุ่นพี่แต่ละคณะทำหน้าที่รังแก ไม่ใช่สิต้องดูแลรุ่นน้องต่อไป
วันนี้เป็นวันที่รุ่นพี่ส่วนใหญ่ถึงกับนับวันตั้งตารอกันทีเดียวเชียว ต่างคนต่างสรรหาพร้อมงัดกลยุทธ์วิธีรับน้องแสบสันต่างๆ นานา มาประเคนใส่รุ่นน้องตามถนัดเท่าที่จะหากันมาได้ โดยที่ทางด้านอาจารย์ก็พยายามประกาศเตือนอยู่ตลอดเวลาว่าให้รับน้องอย่างสร้างสรรค์ บรรยากาศยามนี้จึงค่อนข้างครึกครื้นสนุกสนาน เฮฮา ยิ่งรุ่นน้องคนไหนเป็นที่ถูกใจพี่ๆ ละก็รับรอง เดินกันขาลากไม่ต้องนั่งกันเลยทีเดียว
โพะ ออ แค เหราะ มา ฝะ หยะ ฮะ เธอ ด๊ะ กิ
ผะ มี วิ ตะ มี ม่าย ต้อ กิ เคาะ แพ
โพะ ออ แค เหราะ มา ฝะ..........................
" ร้องดังๆ หน่อย หางเครื่องก็เต้นให้มีชีวิตชีวาได้ไหม เต้นอย่างกับผีตายซากซะอย่างนั้น "
" โอเคๆ กลับไปนั่งได้" รุ่นพี่ซึ่งรูปร่างกับปรอทเสียงไม่ค่อยจะผิด กันเท่าไรนักตะโกนบอกน้องๆ ในฐานของตน
" ส่วนน้องปุ๋ยคนสวยอย่าเพิ่งนั่ง นะคะคุณน้องมีคนเรียกร้องกันมาเยอะ เดินร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ "
" แวะถามทุกโต๊ะเลยนะ และอย่าลืมยกมือไหว้รุ่นพี่ด้วยหละ อย่าทำเป็นมือไม้หนัก"
" อ้อ เอาหางเครื่องไปซักสองคนแล้วกัน อ้อม ยายน้อยหน่า ตามก้นนางงามปุ๋ยไปเลยเร็ว ๆ ชักช้าอืดอาด เดี๋ยวแม่ก็ให้เดินซะรอบทั้งมหาลัยหรอก"
โต๊ะที่รุ่นพี่ของตัณติมาบอกก็คือ รุ่นพี่คนอื่นๆ ในคณะ ส่วนใหญ่นะเป็นพี่ปี 3 ปี 4ที่ไม่ได้ลงมาว๊ากแค่มาสังเกตการปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปี 2 ไป
" เอ้าเดินร้องไปสิ หางเครื่องตามไปสิ"
โพะ ออ แค เหราะ มา ฝะ
หยะ ฮะ เธอ ด๊ะ กิ
ผะ มี วิ ตะ มี
ม่าย ต้อ กิ เคาะ แพ
โพะ ออ......
" น้องเเวะทางนี้หน่อยพี่อยากกินแคเราะ "อันนี้พวกรุ่นพี่รายทาง
" เฮ้ยจะไปไหนน้องซื้อแครอทหน่อยสิครับ คนขายสวยซะด้วย " นี่โต๊ะพวกรุ่นพี่หน้าหม้อ
" ฟรีรึเปล่าน้อง ไอแครอทของอีฮ๋อง ฟรีบ่" นี่ก็พวกชอบของฟรี
เสียงรุ่นพี่ตลอดแนวโต๊ะต่างเรียกให้ตัณติมา และพักพวกหางเครื่องหยุดทักทายสนทนากันเป็นะระยะๆเพื่อที่จะหยอกเย้าต่างๆ นาๆตามชอบใจ แบบประมาณว่าสั่งได้ แต่ดูเหมือนทั้งตัณติมา มีนา และน้อยหน่ายังคงมีสีหน้ายิ้มแย้มค่อนข้างที่จะอารมณ์ดีอาจเป็นเพราะเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ถูกแกล้งเช่นกันแถมได้ข่าวมาจากเพื่อนว่าแถบวิศวะ หรือคณะอื่นๆ เล่นกันหนักกว่านี้หลายเท่าโดยอาจารย์ก็ยังทำอะไรไม่ได้ ยิ่งทำให้พวกเธอมีกำลังใจมากขึ้น ต่างคิดว่าโชคดีที่ตนอยู่คณะบริหารธุรกิจ โดนแค่นี้ยังพอทนได้ พวกรุ่นพี่สั่งอะไรพวกเธอก็ทำทุกอย่าง ยิ่งน้อยหน่าดูท่าทางจะระริกระรี้กว่าคนอื่นจนเห็นได้ชัด
"ชื่อไรน้อง"
" พี่ถามได้ยินรึเปล่า"
" รายงานตัวหน่อย"
" อู้คำเมืองนะอีน๊อง"
" จื้อคำชาย มานเมือง กะเจ้าหรือฮ๋องน้อยหน่ากะเจ้า อีฮ๋องมาจั๊กโรงเรียน................. ฝากตั๋วไว้ในอ้อมใจ๋ปี๋ ๆ ด้วยนะก้า"
" เฮ้ย เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่วะเนี๊ยะ .... " เสียงรุ่นพี่ผู้ชายในโต๊ะเริ่มแตกตื่น เมื่อนายน้อยหน่าแนะนำตัวจบและยังสวนกลับไปทันทีว่า
" ปู๋ชิ๋งเจ้า..."
" อะไรวะ ผู้ชิ๋ง "
" อ้าวก็ ชาย+หญิง ไงฮะภาษาปะกิตเขาเรียกทูอินไงฮะ "
" ส่วนภาษาไทยก็ ยิงทีเดียวได้นกสองตัว ถ้าพี่สนใจ
น้อยหน่าก็พร้อมจะให้พวกพี่ ๆ สุดหล่อทั้งหลายยิงเสมอนะฮ้า ไม่สงวนลิขสิทธิ์ค้า"
เสียงหัวเราะตามมาหลังจากน้อยหน่าตอบคำถามพี่ๆ จบลงกลับเป็นที่ถูกใจพี่ๆ กันเป็นอย่างมากทำให้ยิ่งถูกแกล้วไปใหญ่ ขนาดตัณติมากับมีนาเองยังแอบขำบ่อยๆ เมื่อน้อยหน่าตอบคำถามได้โดนใจงานนี้น้อยหน่าเลยกลายเป็นขวัญใจพี่ๆ ไปเลยทีเดียว
" เฮ้ย ไอณะเขารับน้องกันแกไม่ไปดูเหรอวะนั่งเครียดทำหน้าเป็นหมาขี้ไม่ออกอยู่ได้ "
เสียงวินัยนักศึกษาปี 4 ดังขึ้น
" ช่างสรรหาคำมาเปรียบเทียบจริงเลยนะไอนัย ขี้เกียจหวะ เบื่อระบบนี้แกก็รู้ บอกตรง ๆยิ่งบางคณะ ใช้ความรุนแรงทั้งถ้อยคำและการกระทำเห็นแล้วเซ็งหวะ ดูเหมือนยังไม่พัฒนายังไงไม่รู้ "
" เออ พ่อประธานชมรมอาสาพัฒนา แหม กลัวเขาจะไม่รู้รึไงจ๊ะ" เสียงยายปุยฝ้ายแปร๋นออกมาอย่างหมั่นไส้ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก เพราะรู้ว่าพณะไม่ใช่คนแอนตี้เรื่องนี้ซะทีเดียวหากรู้จักรับฟังอย่างมีเหตุผล
" ว่าแต่ฟอยว่าพวกเราคงไม่ต้องไปแล้วมั้ง ณะ นัย ฝ้าย ดูนู่นมาให้เชือดถึงที่แล้ว"
เสียงปองฟอย เพื่อนนักศึกษาชาวเหนือในกลุ่มปี 4 ด้วยกัน พูดขึ้นเมื่อเห็นรุ่นน้องกำลังเดินร้องเพลงมาทางด้านนี้พอดี ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงจะถูกรุ่นปี 2 ใช้ให้มา อันที่จริงแล้วอาจเป็นเพราะปี 2 คงอยากให้น้องๆได้รู้จักรุ่นพี่ปี 3 ปี 4 กันให้ทั่วถึง เพราะบางคน ขนาดเดินจะชนกกันแล้วยังไม่รู้เลยว่าเป็นรุ่นพี่อยู่คณะเดียวกัน โดยส่วนตัวของปองฟอยเองเธอกลับคิดว่า บางครั้งการรับน้องก็มีอะไรมากกว่าการใช้อำนาจ หากแต่รุ่นพี่นักศึกษาจะรู้จักใช้กันให้เป็น
" อ้าวน้องคนสวยเเวะทางนี้หน่อย"
ตัณติมาไม่ทันได้ฟังต้นเสียงเพราะมัวแต่หันไปสนใจกับข้อเท้าของมีนาเพื่อนรักที่ดูเหมือนจะเพลงจากการเดินเต้นผิดจังหวังทำให้ข้อเท้าพลิกเมื่อสักครู่
" ว่าไงน้องไม่ได้ยินที่พี่เรียกรึไง" วินัยแกล้งส่งเสียงเข้มใส่รุ่นน้อง
" รึว่าเห็นพวกพี่เป็นเพียงแค่หัวหลักหัวตอ"
" ใครจะเห็นหัวพี่เป็นหลักเป็นตอไปได้ละคะ พวกหนูตาปกติดี เพียงแต่พวกพี่ต่างหากที่ตาคงจะบอดมองไม่เห็นว่าเพื่อนหนูเขาแทบจะเดินไม่ไหวแล้ว"
ตัณติมาพูดด้วยท่าทีเหลืออดเพราะความเป็นห่วงเพื่อน ขณะที่มีนาพยายามบังคับทางสายตาไม่ให้เพื่อนพูดอะไรมากไปกว่านี้
" อ้าวน้องทำไมพูดอย่างนั้นฟังไม่สวยเหมือนหน้าเลยนะ ว่าแต่น้องผมซอยชื่ออะไร แล้วเป็นอะไร มีอะไรทำไมไม่บอกเดี๋ยวก็ให้วิ่งซะรอบดีไหม" เสียงปุยฝ้ายร้องขัดขึ้นอย่างหมั่นไส้แต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร
" ชื่อ มีนา ทันอาทิตย์ คะ ชื่อเล่นชื่ออ้อมค่ะ พอดีเดินมาแล้วเท้าพลิกคะ สงสัยขาจะเเพลง ขอโทษพี่ๆ เเทนเพื่อนด้วยนะคะ "
" ดูท่าทางคนผมยาวจะรักเพื่อนดีนะ ถ้าอย่างนั้นวิ่งแทนเพื่อนสัก 10 รอบจะเป็นไรไป จริงไหม "
" เสียงคุ้น ๆ เเฮะ " ตัณติมาคิดในใจ
" บ่นพึมพำอะไร ไม่ได้ยินที่พี่พูดรึไง คุณรุ่นน้องตัณติมา "
เสียงดังเมื่อสักครู่คน ๆ ก้าวออกมา จากด้านหลังและ เลื่อนตัวมาทางด้านหน้าให้เห็นถนัดชัดเจนขึ้น ทำเอาตัณติมาอ้าปากค้างทันทีเมื่อพบว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร
" เฮ้ยไอณะวันนี้มาแปลกหวะ " วินัยหันไปซุบซิบกับปองฟอยอย่าว่าแต่ตัณติมาเลยเเม้แต่เพื่อน ๆ ยังมองหน้ากันอย่างงงๆ ที่พณะเพื่อนของพวกเขาออกมารับน้องได้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่ชอบอยู่เลย
มีนามองหน้า ตัณติมาและหันไปมองหน้าพณะ ได้แต่คิดในใจว่าขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรเลยเพราะรู้ถึงความที่ไม่ชอบกินเส้นเกาเหลาไม่ค่อยจะกินกันของทั้งสองคนเป็นอย่างดี
" เอ่อไม่เป็นไรคะ เมื่ออ้อมไม่ดีเองคะ เอาเป็นว่าอ้อมจะเป็นคนวิ่งเองคะ "
" ก็ดี ชื่อน้องอ้อมใช่ไหม มีสปิริตดีมาก "ปองฟอยแกล้งแหย่เสริมทัพ
" ไม่ได้นะคะ พวกพี่ก็เห็นว่าอ้อมเขาขาเจ็บออกขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้น ปุ๋ยจะไปวิ่งแทนเอง 10 รอบใช่ไหมคะ น้อยหน่าดูแลอ้อมด้วยนะ "
" ดี ดีมากคุณตัณติมา ผมหวังว่าคงจะครบ 10 ไม่ล้มพับไปซะก่อนให้ขายขี้หน้าเขานะ "
ตัณติมาหันไปเผชิญหน้ากับพณะพร้อมวิ่งออกไปทันที ตรงบริเวณหน้าลานรอบอาคารเรียน ที่รุ่นพี่พณะสั่งธอเพิ่งจะทราบไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เองว่า
เขาเป็นรุ่นพี่คณะเดียวกับเธอ ซวยจริงๆ
" เฮ้ย น้อง ดะเดี๋ยว " ปองฟอย และปุยฝ้ายอุทานเรียกตัณติมาไว้แต่ดูเหมือนจะไม่ทันสซะแล้ว พวกเธอไม่คิดว่าจะให้ทำกันจริง ๆหรอกแต่ดูเหมือนตัณติมาจะวิ่งออกไปพร้อมฐิฑิก้อนใหญ่ที่แบกไว้บนบ่าด้วย
" เอาจริงรึวะ " เสียงวินัยพูดขึ้นมาอย่างงงๆพร้อมเกาหัวเเกร๊ก ๆ อันที่จริงเขาแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง
" ช่างเถอะเขาเก่ง สงเคราะห์ให้เขาหน่อยเหอะ" พณะมองตาม หากแต่น้ำเสียงยังไม่วายประชดประชันออกมา
" เอ่อ อ้อมเจ็บขาใช่ไหมนั่งก่อนสิ"
" ค่ะ "
" เเล้วเราหละ จะยืนอยู่อย่างงั้นเหรอ" พณะแกล้งถามน้อยหน่ายิ้ม ๆ
" เอ่อ ไม่เป็นไร หน่ายืนได้ฮะ "
" ชอบยืนค้ำหัวว่างั้นเหอะ "เสียงปุยฝ้ายพูดแข็ง ๆ หากแต่แอบยิ้มให้มีนาอย่างเปิดเผย
" งั้นน้อยหน่านั่งตรงนี้แล้วกันนะฮะ " นายคำชาย หรือน้อยหน่าของเพื่อน ๆ นั่งลงใกล้ๆ วินัยและค่อยกระเเซะเข้าหาจนเขาต้องเขยิบถอยเกือบตกเก้าอี้ น้อยหน่าหันมายักคิ้วทำตาปิ้ง ๆ ให้อีกที เท่านั้นแหละ นายวินัยลุกผุง กระโดดไปนั่งใกล้ๆ ปองฟอยทันที
" เเนะนำตัวหน่อยน้อง "
" ชื่ออ้อมค่ะ"
" รุ่นเดียวกันเหรอ " วินัยสวนกลับไปทันที
" เอ่อชื่อน้องอ้อมค่ะ และนี่ก็..."
" น้องน้อยหน่าฮะ"
" และอีกคนที่วิ่งอยู่นั่น ชื่อน้องปุ๋ยค่ะ พวกเราอยู่บริหารธุรกิจปีหนึ่งค่ะ "
" อ้อมเท้าเป็นยังไงบ้าง ฟอยมียาไหม เอ่อ นั่นพี่ปุยฝ้าย ส่วนอีกคน พี่ปองฟอยส่วนสุดหล่อคนสุดท้ายนั่น พี่วินัย ไม่มีใครดุหรอกใจดีทุกคน "
" โดยเฉพาะพี่นัย กับน้องสาว ๆ ปีหนึ่ง ยิ่งใจดีเป็นพิเศษ" ปองฟอยแขวะเพื่อนด้วยสีหน้ายิ้ม ๆ
" แกก็เกินไปยายฟอย ไม่ถึงขนาดนั้นซักหน่อย เรียกพี่นัยก็ได้ ครับ " วินัยพูดยิ้ม ๆ
" หน้าหม้อหุงข้าวอีกแล้วแก" เสียงปุยฝ้ายร้องขึ้นขัดคอเพื่อนทีรู้ดีว่าบ้าน้อง ๆ ปีหนึ่งขนาดไหน และหลังจากนั้นเสียงหัวเราะ สลับกับเสียงผลัดกันกัดกันก็ทำลายความเก็งออกไปได้และช่วยเพิ่มบรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้น
" เอ่อ พี่ณะคะ ถือว่าอ้อมขอร้องนะคะ ช่วยสั่งให้ปุ๋ยหยุดวิ่งได้ไหมค่ะ "
มีนาพูดพร้อมกับมองเพื่อนที่วิ่งท่ามกลางเปลวแดดร้อน อย่างเป็นห่วง
" เออนั่นสิลืมอีกคนไปเลยชื่อน้องปุ๋ยใช่ไหม ดูรักเพื่อนดีจังนะ"
" ค่ะ ปุ๋ยก็เป็นคนปากไวไปอย่างนั้นเอง แต่จริงๆแล้วปุ๋ยเป็นคนรักเพื่อนมากค่ะ"
" น้อยหน่าไปบอกใหตัณติเพื่อนเธอมาหยุดวิ่งได้แล้ว เดี๋ยวจะได้ถ้วย" พณะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ไม่วายประชดประชันแถมท้าย
" อันที่จริงพวกพี่ไม่ได้จะให้ทำจริงๆ หรอก แค่แกล้งพูดเล่นๆ ไหงกลายเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาได้ก็ไม่รู้ "
ปุยฝ้ายพูดขึ้น ยิ้ม ๆ และหันไปมองหน้าพณะ อย่างรู้ทัน
" เอ่อพี่ฮะ ปุ๋ยเขาบอกว่า เขาพูดคำไหนก็ต้องคำนั้นฮะ หน่าบอกให้หยุดมันก็ไม่ยอมหยุด มันบอกจะวิ่งให้ครบฮะ "
" ดี อวดดีนัก งั้นน้อยหน่าช่วยไปแถมให้อีก 10 รอบไป "
" เฮ้ยไอณะ พี่ณะ" ทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
" ไปสิ ยืนอยู่ทำไม ไม่ได้ยินที่สั่งรึไง " เสียงพณะพูดขึ้นอย่างมีอารมณ์เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้อารมณ์โกรธมันถึงได้พุ่งพ่านจนหยุดไม่อยู่ ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่เคยเป็นเเบบนี้มาก่อน
" อะ เอ่อ ฮะ " น้อยหน่ารีบวิ่งออกไปทันที
" เฮ้ย ณะ อย่ามาแก้แค้นส่วนตัวสิวะ " ปุยฝ้ายร้องว่าพณะเพราะรู้ความไม่กินเส้นระหว่าง พณะกับตัณติมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างดีแต่เพียงเพิ่งจะได้เห็นหน้าวันนี้เท่านั้นเองดูไปแล้วก็ไม่ใช่เด็กเลวร้ายอะไร ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่รู้เรื่องนี้ เพื่อนในกลุ่มก็รู้กันทุกคน แต่ไม่มีใครพูดอะไรเท่านั้นเอง
้ระหว่างที่พณะยังมิทันได้พูดอะไร เสียงตะโกนโหวกแหวกของน้อยหน่าก็ดังขึ้นซะก่อน
" ช่วยด้วยฮะ ปุ๋ยเป็นลมไปแล้ว"
" เฮ้ย น้องปี 1 เป็นลมโว๊ย ไปดูกันหน่อย "
จากคุณ :
dokyaka
- [
22 ก.พ. 48 16:48:18
A:203.150.86.166 X:
]