.แดดส่องฟ้า เป็นสัญญาวันใหม่ พวกเราแจ่มใส เหมือนนกที่ออกจากรัง ต่างคน รักป่า
ป่าคือความหวัง เลี้ยงชีพเรายังฝังวิญญาณ นานไป
เสียงเด็กสองสามคนที่ประสานเสียงร้องเพลง ถึงแม้จะไม่ใช่นักร้อง
แต่ฉันกลับรู้สึกว่า น่าฟังกว่านักร้องบางคนในสมัยนี้เสียอีก
น้ำเสียงนั้นบ่งถึงความร่าเริง แจ่มใส ใบหน้าของแต่ละคน แต้มด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ
เขาคงมีความสุขที่ได้ร้องเพลง วิ่งเล่น กลางทุ่งนา ท่ามกลางแสงแดด
แต่กลับไม่รู้สึกร้อนเลยซักนิด เพราะลมหนาวในช่วงเดือนธันวาคม
ทุ่งนาที่แต่ก่อนเคยเป็นสีเขียวขจี แต่ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองราวกับทอง
ใช่ มันจะเทียบกับทองยังได้ สำหรับคนที่ตรากตำหว่านไถอยู่หลายเดือน
กว่าจะได้เก็บเกี่ยว ข้าว ที่หลายคนกินทิ้งๆขว้างๆ
ฉันชอบฤดูเกี่ยวข้าวมากที่สุด เพราะมันเป็นทั้งช่วงเวลาแห่งความสุขของชาวนา
ที่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต และยังเป็นสิ่งที่เตือนให้รู้ว่า เวลาได้ผ่านไปนานเท่าไรแล้ว
ใกล้จะถึงปีใหม่แล้วนะ แต่ที่ฉันชอบและนึกถึงเสมอคือ ลมหนาว
มีเรื่องสนุกมากมายในหน้าหนาวแห่งฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าว
การฝัดข้าวเป็นสิ่งแรกที่ฉันลองทำ เหมือนจะง่ายแต่พอเอาเข้าจริง
ไม่มีข้าวเหลือในกระด้งของฉันซักเม็ด มันร่วงอยู่ที่ลานฝัดข้าวนั่นเอง
ฉันไม่รู้เหมือนกัน ว่าลานฝัดข้าวแต่ละที่ต่างกันมากน้อยแค่ไหน
แต่ที่ฉันจำได้ ที่นี่เป็นลานที่ปรับให้เรียบไม่กว้างจนเกินไปแต่ก็ไม่เล็กจนเกินไป
หรือที่เรียกว่าพอดีๆ นั่นแหละ คนสมัยก่อนบอกว่า ต้องเอามูลวัวมูลควาย
มาทำเป็นลานค่อนข้างเรียบนี้ แต่ถ้าเป็นสมัยนี้หนะเหรอ
คงทำไม่ได้หรอก มูลวัวมูลควายหายากกว่าปูนซีเมนต์เสียอีก
ฉันเผลอเดินตามเด็กกลุ่มนั้นตอนไหนไม่รู้ พอรู้ตัวอีกที
ฉันก็ยืนอยู่ตรงหน้าภูเขาสีทองขนาดย่อมเรียบร้อยแล้ว จากต้นข้าวที่ถูกเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว
ก็กลายเป็นกองฟาง ที่เล่นอีกที่หนึ่งของเด็กๆ ฉันก็เคยกระโดนๆบนกองฟางนะ
รู้สึกมันนุ่มดี แต่ไม่ได้นุ่ม เหมือนนั่งบนปุยนุ่นเท่านั้นเอง ตอนเล่นก็สนุกดีหรอก ทั้งนุ่ม
ทั้งกลิ่นฟางก็หอมดี แต่ตอนเล่นเสร็จ ที่ต้องอาบน้ำนี่สิ ทั้งแสบทั้งคัน อย่าบอกใครเชียว
จริงๆ ผู้ใหญ่ ก็ห้ามไม่ให้เล่นเหมือนกัน แต่ยังไง ความอยากเล่น
ความสนุกในตอนนั้นมันก็มีมากกว่า แล้วก็เชื่อเหลือเกินว่า ตอนที่ท่านยังเป็นเด็ก
ก็คงเคยโดนห้าม แต่ก็ยังเล่นเหมือนกัน
เด็กสามคนนี้ก็เช่นกัน เขากระโดนเล่นบนกองฟางอย่างสนุกสนาน
เสียงหัวเราะฟังดูแจ่มใสนัก แต่ตอนร้องไห้เวลาต้องอาบน้ำ
ไม่รู้จะแจ่มใสเหมือนตอนนี้รึเปล่า
ท้องนากว้างๆ แม้จะเกี่ยวข้าวแล้ว แต่กลับมีบางอย่างที่เป็นอาหารซ่อนอยู่
ทายดูสิ อะไรเอ่ย อยู่ในรู? ..
ใช่แล้ว! ปู นั่นเอง แต่กว่าจะได้มาก็ใช่เรื่องง่าย
ต้องใช้เสียมขุดอยู่นาน บางตัวก็ร้ายเหลือเกิน สร้างบ้านได้ลึกจนเราท้อใจ เลิกขุดไปซะเอง
บางตัวก็หนีบมือให้เจ็บได้เหมือนกัน เดินขุดรูปู อยู่ครึ่งค่อนวัน จึงได้เดินกลับบ้าน
พร้อมกับอาทิตย์ที่คล้อยต่ำ จวนเจียนจะลับขอบฟ้าและสายลมหนาวในตอนใกล้ค่ำ
ให้ความเย็นและความหนาวกาย แต่กลับอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก วันนี้มีอาหารกิน ทุกคนรออยู่
กลับบ้าน อาบน้ำ พักผ่อน นั่งล้อมวงกินข้าว พร้อมหน้าพร้อมตา อาหารไม่หรูหรา
อย่างบนโต๊ะอาหารในภัตตาคาร แต่กลับอร่อยได้ไม่ต่างกัน
และที่นี่ก็มีเครื่องทำความอุ่นชั้นเยี่ยม นั่นคือ กองไฟ
เศษไม้ถูกเก็บมากองไว้ และถูกจุดให้ความอบอุ่น นั่งผิงไฟและพูดคุยกัน
หรือบางทีอาจจะช่วยกันทำอาหารที่ไม่มากราคา แต่ก็ให้ความอิ่มท้อง
ข้าวจี่ เป็นอาหารในหน้าหนาวอีกอย่างที่ฉันชอบ ชอบที่จะลงมือกินและลงมือทำ
หน้าหนาวกำลังจะลาฉันไปแล้วในปีนี้ คงอีกนาน กว่าที่ฉันจะได้มีโอกาสมองสายหมอกสีขาว
ที่ลอยต่ำเหนือทุ่งนา สีขาวที่ตัดกับสีเขียวของทุ่งนา
จะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวตัดกับสีเหลืองทองของท้องทุ่ง
เวลาของหน้าหนาวใกล้หมดลงแล้ว หน้าร้อนจะมาทำหน้าที่แทน
ฉันคงต้องกลาวลาหน้าหนาว เพื่อกล่าวสวัสดีหน้าร้อนในอีกไม่ช้า
หวังว่าปีหน้าคงจะมีหน้าหนาวให้ฉันได้สัมผัสอีก
หน้าหนาวคงไม่อู้งาน คงไม่หนีเที่ยว หรือคงไม่เบื่อฉันแล้วหนีฉันไป
ฉันจะรอ
รอให้หน้าหนาวกลับมาอีกครั้ง
..........
.....
.
แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 22:47:10
แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 22:43:51
แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 48 22:40:11
จากคุณ :
ต้นอ้อสีม่วง
- [
22 ก.พ. 48 22:34:24
]