CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    =[+] ฉิกจับอิด [+]= นิยายจีนร่วมแต่งแนวทดลอง : ตอนที่ 75 พิชิตโดยไร้ผู้ต่อต้าน

    เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว พลังกดดันรุนแรง ต่อเนื่องยาวนาน ราวกับว่าสำนักใหญ่ฉิกจับอิดได้กลายเป็นนรกโลกันต์ไปแล้ว ปรากฏกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นโดยรอบ บดบังสายตาของทุกผู้คน ต้นเหตุของกลุ่มควันและระเบิดที่รุนแรงกลับมาจาก......ชามบะหมี่ของซาเสี่ยว!!!!!!!!!!!

    เป็นชามบะหมี่เปล่าที่วางอยู่โดยถ้วนทั่วทุกโต๊ะ ที่แท้ชามบะหมี่เหล่านี้กลับเล่นลวดลาย และยังเป็นลวดลายอันร้ายกาจ ผู้คนนับพันพากันแตกฮือหนีเตลิดเปิดเปิงราวกับน้ำที่เดือดพล่านอยู่ในกะทะ ชั่วเวลาเพียงมินานนัก ก็เกิดเหตุการชุลมุนราวกับฟ้าถล่มผืนดินทลาย เหล่าสำนักใหญ่น้อยที่หวังประจบประแจงพรรคฉิก พากันหลบหนีโดยมิคิดชีวิต เมื่อความตายใกล้มาเยือน ยังมีผู้ใดห่วงการประจบเอาใจผู้อื่นอีก คนพวกนี้เวลามานับว่ารวดเร็วยิ่ง แต่จากไปกลับรวดเร็วกว่ามากมาย

    ท่ามกลางเสียงร่ำร้อง เสียงผู้คนโอดโอย หลายคนล้มลงก็พลันโดนเหยียบย่ำจนบาดเจ็บหลั่งโลหิต ทว่าพวกมันล้วนแต่ยังกระเสือกกระสนดิ้นรนคลานไปกับพื้น ในที่สุดผู้คนเรือนพันก็แทบจะหายไปหมดสิ้น จะมีก็เพียงบุคคลไม่กี่คนที่ยังมิยินยอมหลบหนี และมีอยู่สามคนกลับนั่งนิ่งแฝงกายอยู่ในกลุ่มควันอันหนาทึบนั้นอย่างเร้นลับ เป็น โจวเอินผิง หูจิ่นเช็ค และคุณชายหอแดงเจียงไคเซ็น

    พวกมันที่แท้มีขวัญกล้าบังอาจ คิดอยู่ชมดูความสนุกสนานในที่แห่งนี้ได้!? หรือเพียงเพราะพวกมันดื่นกินจนจุกเสียดมิสามารถลุกขึ้นหลบหนีกันแน่!?

    .............
    ..................................

    กลุ่มควันหลากหลายสีสันปกคลุมบดบังวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของหลี่เฉินเชียงจนหมดสิ้น ขณะนั้นมันพลันได้ยินเสียงคนผู้หนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงของสตรี และเป็นเจ้าสาวของมัน! ....เหวินเหม่ยชิงเอง!

    "พวกท่านเป็นใครกัน?"

    "เจ้าสำนักเหวินรีบติดตามเราไป เวลานี้เจ้าโกยได้เข้าไปช่วยเหลือน้องรองแล้ว" เสียงบุรุษผู้หนึ่งดังขึ้น

    จากนั้นได้ยินเสียงเจ้าสาวอุทานดัง อา! หลี่เฉินเชียงกลับรู้สึกว่าเสียงอุทานของเหวินเหม่ยชิงครานี้มิใช่เพราะตระหนก หรือกลัวเกรง แต่เป็นผลจากความยินดีปรีดาจนมิอาจสะกดกั้นไว้ได้

    ใบหูของหลี่เฉินเชียงสั่นระริกถี่รัว มันมีโทสะแล้ว! แต่ที่ใบหูของมันสั่นไหวกลับมิใช่เพราะความโกรธ แต่เป็นเพราะมันกำลังจับทิศทางของผู้บุกรุกนั่นเอง!!!

    "เฟี้ยวววว! พลั่ก พลั่ก" หลี่เฉินเชียงเหวี่ยงสะบัดซัดฟาดฝ่ามือออกสองฝ่ามือ สองฝ่ามือนี้มีความสำเร็จถึงระดับขั้นที่เรียกได้ว่ารวดเร็วกว่าเสียงทีเดียว ฝ่ามือทั้งคู่พุ่งปราดประดุจอสรพิษร้ายเข้าใส่ทิศทางด้านที่ชายผู้นั้นส่งเสียงพูดคุยกับเหวินเหม่ยชิง!

    "พลั่ก พลั่ก" เสียงฝ่ามือปะทะเข้ากับบางอย่างเสียงดังสนั่น

    ทว่าสองฝ่ามือของมันกลับมิได้สัมผัสถูกร่างของผู้ใดเลยแม้เพียงครึ่งคน ที่เผชิญกลับเป็นฝ่ามือ!!!!!!

    ฝ่ามืออันแข็งแกร่ง แฝงไปด้วยพลังตอบโต้อันหนักหน่วงรุนแรง หนึ่งนั้นเข้มแข็งมั่นคง และเป็นพลังที่มันรู้สึกว่าคุ้นเคยอยู่มิใช่น้อย ส่วนอีกหนึ่งเป็นพลังที่มันมิเคยสัมผัส กลับมีแนวทางเดียวกับฝ่ามืออีกข้าง ทว่าแฝงความหยุ่นเหนียวอยู่หลายส่วน! พลังฝ่ามือทั้งสองดุจมังกรคะนองท่องนภา ประดุจน้ำป่าไหลนองทะลักล้น กลับสามารถผลักดันจนยอดฝีมืออันดับหนึ่งเช่นมันต้องถอยหลังไปครึ่งก้าวอย่างมิอาจหยุดยั้ง!!!! ที่สำคัญเป็นฝ่ามือคู่นี้เป็นฝ่ามือขวาสองข้าง แสดงว่าเป็นของบุคคลสองคน เป็นยอดฝีมือสุดสูงสองคน!!!!!!!!!!!!

    หมอกควันค่อยจางลง ผู้คนหลงเหลือบางตา ร่างของคนสองคนค่อยปรากฏเด่นชัดขึ้น เป็นหนึ่งชรา หนึ่งเยาว์วัย ทั้งสองต่างพันผ้าอยู่บนใบหน้า ซึ่งเวลานี้เศษผ้าที่พันอยู่ค่อยๆ เลื่อนหลุดลงอย่างช้าๆ เพราะผลจากการปะทะฝ่ามือเมื่อสักครู่

    เผยให้เห็นใบหน้าคมสันแฝงความสัตย์ซื่อถือมั่น และอีกหนึ่งก็คือใบหน้าเหี่ยวย่นแฝงเค้าเมตตาโอบอ้อม หนวดเครา คิ้ว ขาวโพลน เป็น ....เสี่ยวซา!!!! และ หัวหลินไต้ซือเอง!!!!!!!!

    ที่แท้พ่อครัวนิรนามซาเสี่ยวอันร้ายกาจซึ่งปรุงบะหมี่เปล่าจนผู้ยิ่งใหญ่เช่นหลี่เฉินเชียงแทบร่ำไห้ออกมาต่อหน้าธารกำนัล ก็คือ ...มันนั่นเอง!!! ส่วนผู้ช่วยของมันก็มิใช่ใคร ท่านคือเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเทียนซาน หลวงจีนกระต่ายน้อยอันลือชื่อ....ไต้ซือหัวหลิน!!!!!

    "เจ้าสองคนกลับกล้าเข้ามาก่อกวนในงานมงคลของเรา!!!! ฮึ่มมม" หลี่เฉินเชียงคำรามออกมาหลังจากพบว่าผู้ลงมือก่อกวน และขัดขวางมันคือเจ้าเด็กยากไร้นาม เสี่ยวซา และหลวงจีนชราที่บาดเจ็บ....บาดเจ็บ?! หัวหลินไต้ซือได้รับบาดเจ็บจนสาหัสมิใช่หรือ? เหตุใดเวลานี้กลับฟื้นฟูกำลังฝีมือได้ภายในมิกี่วัน!!!!

    หลี่เฉินเชียงรู้สึกฉงนฉงายอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยนึกได้ เมื่อครู่ขณะปะทะกับทั้งสองมันรู้สึกว่าพลังฝ่ามือของทั้งคู่มีพลังสูสีก้ำกึ่ง ที่สำคัญมาจากรากฐานอันเดียวกัน!!!! คงเป็นเจ้าเด็กหนุ่มนี่ช่วยถ่ายเทลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บแก่หลวงจีนเฒ่า นึกมิถึงมันมีอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปี กลับมีพลังฝีมือสูงส่งลึกล้ำถึงเพียงนี้ นับว่ามิเคยมีปรากฏมาก่อนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    ในขณะนั้น แวบหนึ่งของความคิดหลี่เฉินเชียงรู้สึกว่ามันได้พบคู่มือที่อาจจะก้าวขึ้นมาทัดเทียมกับตัวมันได้แล้ว!!!!!!

    ฉับพลัน เสี่ยวซาที่เบื้องหน้าของมันพลันเคลื่อนไหว เด็กหนุ่มในเวลานี้กลับคล้ายเมฆหมอกม่านควันที่โดนลมแรงสะบัดพัด ยากนักที่จะคำนวณการเคลื่อนไหว เสี่ยวซาพลันเยื้องย่างเท้าไปข้างหน้า แล้วสืบเท้าถอยหลัง จากนั้นจึงโยกเท้าไปทางซ้ายแลขวา สุดท้ายกลับมาตั้งมั่นตรงกลาง รวมทั้งสิ้นห้าท่วงท่า ในขณะเดียวกัน ร่างกายท่อนบนกลับใช้ออกด้วยการเคลื่อนไหวอีกแปดประการ ทั้ง ผลัก ฉุด กด ปัด ใช้ศอก แยกออก ดึงลง พุ่งไหล่ เคลื่อนไหวในแนวของทิศทั้งแปด ดูอ่อนช้อยงดงาม กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม ทั่วทั้งร่างแม้นเต็มไปด้วยช่องโหว่ ทว่าทุกช่องโหว่ที่ปรากฏคลับคล้ายจะเปลี่ยนแปรเป็นเข้มแข็งได้ทุกเมื่อ!

    ม่านควัน และอากาศโดยรอบคล้ายเคลื่อนไหวติดตามสรีระร่างกายของเสี่ยวซาโดยมิหยุดยั้ง มือของมันโบกสะบัดราวกับผืนธงสัมผัสพายุร้าย โบกวาดไปโดยรอบอย่างว่องไวทั้งหนักหน่วงและพลัดพริ้ว ทุกคราที่ฝ่ามือทั้งสองข้างมันโบกสะบัดไป คลื่นอากาศโดยรอบก็พลันปั่นป่น บรรยากาศในห้องโถงใหญ่พลันบิดเบี้นวหมุนวน ที่สำคัญ!!!! มันหมุนวนติดตามไปกับการเคลื่อนคล้อยของมือเสี่ยวซา และมือของเด็กหนุ่มก็หมุนเวียนไปมามิรู้จบสิ้น พลังกดดันค่อยเพิ่มจากน้อย เป็นมาก จากมาก เป็นเหลือคณานับ เวลานี้คลื่นอากาศอันอ่อนหยุ่นทว่าหนาแน่นบิดพันเข้าสู่ร่างของประมุขพรรคฉิกจับอิดราวกับใยแมงมุมทีมัดพันร่างของแมลงน้อยที่หลงทิศทางเข้ามาติดยู่บนใยอันเหนียวแน่ของมัน หากเป็นแมลงน้อยดังที่ว่า เมื่อติดบนใยของเพชฌฆาตร้ายผู้ดูดเลือดสิ่งแปลกปลอมบนใยอันโปร่งใส มันย่อมมิอาจรอดชีวิต!!!!!!

    ทว่าหลี่เฉินเชียงก็คือ หลี่เฉินเชียง ผู้ยิ่งใหญ่ผู้เป็นสุดยอดฝีมือ ย่อมมิใช่แมลงเล็กน้อยดังกล่าว หลี่เฉินเชียงตวาดคำหนึ่ง

    พลังเร้นลับมิอาจเห็นชัดตาพลันแตกระเบิดออกโดยรอบ เป็น....พลังของ เกราะกั้นไร้สภาพ!!!!

    เพียงชั่วเวลาพริบตาหลี่เฉินเชียงกลับสามารถงัดเอากระบวนท่าตั้งรับประจำตัวออกมาใช้ได้อย่างทันการ เสี่ยวซารู้สึกว่าบรรยากาศโดยรอบคล้ายถูกตัดขาด พลังอันหมุนวนที่มันควบคุมเอาไว้กลับถูกพลังของหลี่เฉินเชียงตัดขาดโดยสิ้น!!!!

    "อมิตพุทธ! ประสกหลี่อันร้ายกาจ!"

    พร้อมๆ กับเสียงสรรเสริญพุทธคุณ พลังฝ่ามือนับร้อยนับพันก็พุ่งทะยานรายล้อมเข้าใส่หลี่เฉินเชียง พลังดังกล่าวมิได้มุ่งจู่โจมอย่างพร้อมเพรียง ทว่ามีแบ่งหน้าแบ่งหลัง เพียงแต่การแบ่งของพลังฝ่ามือยังน่ากลัวกว่าการจู่โจมโดยพร้อมเพรียงร้อยเท่าพันทวี เนื่องเพราะเป็นพลังฝ่ามือที่หนักหน่วงต่อเนื่องราวกับมิมีที่สิ้นสุด เพียงหลี่เฉินเชียงพึ่งรับฝ่ามือแรกยังมิทันจะจบสิ้น ฝ่ามือที่สอง สาม และสี่ก็ฮือโหมเข้ามาดุจภูตร้าย พอปัดป่ายฝ่ามือที่สอง สาม และสี่ออกไป ก็พลันพบว่ามีพลังฝ่ามืออีกหลายสิบฝ่ามือจู่โจมติดตามเข้ามาเป็นลำดับ

    นี่คือวิชาของผู้บำเพ็ญศีลจริงๆ หรือ? เหตุใดมันจึงรวดเร็ว และรุนแรง หนักหน่วงไร้ที่เปรียบถึงเพียงนี้!!!! วูบหนึ่งของความคิด หลี่เฉินเชียงอดที่จะวิตกมิได้

    "รับมือ!!!" หลี่เฉินเชียงยังรับกระบวนท่าของหลวงจีนกระต่ายน้อยมิทันจบสิ้นก็พลันรู้สึกถึงพลังคุกคามที่ด้านข้าง!!!!

    เสี่ยวซาหลังจากมิสามารถใช้พลังกดดันสะกดอีกฝ่ายเอาไว้ได้ ก็พลันเคลื่อนไหว กระบวนท่าที่จู่โจมถึงกับเป็นสุดยอดกระบวนท่าที่เด็กหนุ่มเชี่ยวชาญที่สุด เป็นกระบวนท่า....พุ่งไหล่!!!!!

    หลี่เฉินเชียงรู้สึกราวกับพะเนินเหล็กโถมทับ น้ำป่าไหลหลากเข้าใส่ พลังที่กดดันรุนแรงจนยากต้านรับ ในที่สุดตัดสินใจซัดฟาดฝ่ามือออกอย่างสุดกำลัง เข้าใส่ฝ่ามือของหลวงจีนชรา

    "พลั่ก!!!!"

    หลี่เฉินเชียงรู้สึกพลังที่สะท้อนสะเทือนกลับมาทั้งมั่นคง และหนักหน่วง ในที่สุดอาศัยหยิบฉวยพลังกดดันรุนแรงอันนั้นดีดกายพุ่งหลบพลังจู่โจมของเสี่ยวซาที่คุกคามเข้ามาจากด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด

    จากคุณ : ทีมแต่งนิยาย - [ 23 ก.พ. 48 23:26:11 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป