CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    คำสารภาพของคนตกงาน บทที่หนึ่ง

    เรามันก็คนทำงานกินเงินเดือน อายุก็พอสมควร โชคชะตาต้องมาเป็นคนตกงาน ยอมทิ้งเงินเดือนกว่า 5 หมื่นบาท เพราะพ่อไม่สบาย บางคนก็บอกว่าเราคิดโง่ๆ ก็ช่างเถิด ไม่เครียดหรอก ชีวิตยังมีอะไรอีกเยอะ ก่อนที่เราจะตายไป



    นี่เพิ่งกินข้าวไป ทำแกงจืดวุ้นเส้นผักกาดขาว อร่อยมากกกกกกกกก เฮ้อมาคิดแล้ว ชักจะเป็นแม่บ้านเข้าทุกวัน เริ่มกลายพันธ์มั๊ง สงสัยต้องมีนมงอกออกมาแน่ๆ หรือไม่ก็ต้องใช้ผ้าอนามัยแหงๆ แต่เอ...แล้วไอ้นั่นจะไปเก็บไว้ที่ไหนดีเนี่ย เฮ้อ



    ตกงานนี่ก็ดีนะ (ถ้าคิดในแง่ดี) ทำให้รู้จักชีวิตมากขึ้น รู้จักโลกมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น (สำคัญ อันนี้)

    อ้อ รู้คุณค่าเงินมากขึ้นด้วย แต่ก่อนใช้เงินไม่ยั้ง เต็มที่ เดี๋ยวนี้ จ่าย 20 บาทซื้อพะโล้ แม่ค้าถามว่า



    " เอาหมูสามชั้นด้วยไหม " เราบอกว่า



    " ไม่เอาแล้วไงเหรอ "



    " ไม่เอาก็ได้ไข่ 3 ลูก "



    อ้อ งั้นเราเลยบอกไม่เอา ได้มา 3 ลูก อิอิ คุ้มกว่า ตอนเช้ากิน 1 ใบ ก็ทิ้งเอาไว้ พอตอนเที่ยง กินอีกใบ

    ตอนบ่ายแก่ๆ ก็กินเล่นอีกใบ เออดีเนอะ 20 บาท อยู่ได้ทั้งวัน แต่คงกินไม่ทุกวัน เพราะเดี๋ยวหน้าเป็นไข่พะโล้แน่ๆ เคยมีอยู่ครั้ง ซื้อมา 3 ใบ เหมือนเดิม กินได้ 2 ใบ เลยเอาไปให้สุนัขแถวบ้าน จรจัดน่ะ เรารึอุตส่าห์ ผ่าให้อย่างดี มันมาดมๆแล้วมองหน้า เราก็ว่า



    " ทำไมล่ะ ไม่ได้ของเหลือนะ ไข่เต็มๆใบเลย "



    มันก็ดมๆต่อ แล้วไม่กิน แน๊ หยิ่งซะ

    เอ เอาไงดี เลยไปเอาน้ำพะโล้ มาราดที่ไข่ให้หน่อยนึง แล้วบอกว่า



    " เอ้า คราวนี้รสชาตกลมกล่อมแน่นอน ถ้าไม่กินจะทิ้งแล้ว"



    คราวนี้มันดมๆ แล้วก็กินจนหมด เออดีเนอะ สุนัขก็มีหัวใจเหมือนกัน นี่ถ้าเอาปลาทูไปให้มันกิน สงสัยต้องเตรียม น้ำพริกผักต้มด้วย พูดถึงสุนัข แล้วนึกถึง เจ้าเบ๊นซ์ที่ตายไปจัง มันหยิ่งแบบนี้เลย ตอนมันยังหนุ่มๆ นะ มันเป็นนักเห่าระดับอาชีพเลย เห่าไปหมด เคยมีอยู่ที มันเห่าตอนสักสี่ทุ่มได้ ไอ้เราก็ปล่อยมันเห่า เอ ทำไมเห่าไม่หยุด เลยออกไปดู ปรากฎว่า มันแหงนหน้าดูข้างบน เราเลยมองตาม นึกว่าอะไร มันเป็นก่งต้นไม้ข้างบ้าน พอดีลมพัดแรงพอดู ทำให้กิ่งมันไหว เจ้าเบ๊นซ์ก็เห่าซะ ไม่มี เลยได้ฉายา นักเห่าใบไม้ไหว มันก็น่ารักดี ตายตอนมันอายุได้ 15 ปี แก่หง่อมเลยละ



    อ้อ เคยมีอยู่หนหนึ่ง หมั่นไส้มันมาก ถีบซะกระเด็นเลย อย่าหาว่าโหดนะ เรื่องมีอยู่ว่า วันนั้นไปทำงาน แล้วปรากฏว่าลืมแผ่น DISKETTEงานไว้ที่บ้าน ซึ่งมันสำคัญมาก เลยขับรถกลับมาบ้าน พอถึงบ้าน เราก็จอดรถหน้าบ้าน เห็นแล้วละว่ามันกำลังหลับอยู่ นอนตรงประตูเข้าบ้าน เราก็ไม่ว่าอะไร นึกในใจ แหม ขนาดเสียงรถมาจอดหน้าบ้านยังไม่ตื่น แล้วกลางคืนมันจะเฝ้าบ้านได้ไงเนี่ย เราก็เลยเอากุญแจมาไขประตูเปิดเข้าไป แน๊ะ ยังหลับเฉย ไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วหรือไง เราก็เลยเดินไปที่ประตูที่มันนอนอยู่หลับปุ๋ยเลยละครับท่านผู้ชม จากนั้นเราก็ท้าวสะเอว แล้วก็พูดเบาๆว่า



    " ไอ้ เ .ว. ร. เดินมาจนถึงตัวจนแทบจะเหยียบอยู่แล้ว ยังไม่รู้เรื่องอีก ดีจังนะ เจริญละ "



    ขณะกำลังว่านั้น มันก็เผยอตาขึ้น เอ่อต้องขอเรียนให้ทราบว่า มันเผยอตาอย่างเดียวนะ ส่วนอื่นไม่ขยับเลย

    มันเผยอตามามองเรานิดนึง แล้วก็หลับตาต่อ อีกประมาณ 1-2 วินาที มันก็เผยอตาอีก คราวนี้นานขึ้นหน่อย

    แล้วก็หลับตาอีก พอครั้งที่ 3 คราวนี้เผยอตาแล้วลุกขึ้นทันที ขอย้ำ ทันที ผลึงขึ้นมาเลยละ แล้วมันก็วิ่งไปที่ประตูรั้ว เดินวนไปมาซ้ายขวา แบบตรวจการณ์ทำนองนั้น แล้วก็วิ่งมาหาเรา แล้วนั่ง แลบลิ้น พร้อมส่งเสียงแฮ่กๆ เลย เข้าใจว่า มันคงจะบอกทำนองว่า



    " เรียบร้อยครับเจ้านาย ปลอดภัยดีครับพ๊ม "



    " ตูม " มันกระเด็นออกไปตามแรงของมวลสาร (เท้า) และอัตราเร่ง (แรงถีบ) ตามหลัก F = MA เปี๊ยบ

    ใช่แล้ว เราถีบมันซะ แหม ประจบประแจงตลบตแลง สุดๆ แต่ก็ไม่แรงมากนะครับท่าน มันลุกขึ้นมายังทำท่างงๆว่าเกิดอะไรขึ้น



    เฮ้อ เห็นไหม โลกเรา ขนาดหมายังขนาดนี้ ดังนั้นไม่ต้องไปคาดหวังอะไรกับมนุษย์หรอก จริงไหม



    จบคำสารภาพ บทที่หนึ่ง



    MARKETER

    นักการตลาดผู้ตกงาน

    จากคุณ : MARKETER - [ 24 ก.พ. 48 06:07:48 A:61.90.55.128 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป