CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    นกกระดาษขี้เหร่

    นกกระดาษขี้เหร่

    กาลครั้งหนึ่ง มีนกกระดาษสีขาวกระดำกระด่างตัวหนึ่งถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวบนพื้นห้องที่แสนจะรกและเลอะเทอะ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่ามันเป็นนกกระดาษที่ยับย่น ยู่ยี่ ไม่มีความสวยงามเอาเสียเลย มันจึงถูกเรียกว่า นกกระดาษขี้เหร่
    ในขณะที่พี่ๆ น้องๆ ของมันกลับได้อยู่ในขวดโหลแก้วแสนสวยที่วางอยู่บนโต๊ะ นกกระดาษขี้เหร่รู้สึกน้อยใจเหลือเกินแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าคอยขยับปีกไหวๆ ให้เด็กน้อยผู้พับมันได้เห็นมันบ้าง มันอาจจะได้ขึ้นไปอยู่ในขวดโหลแก้วนั้น ‘มันเป็นความใฝ่ฝันของนกระดาษทุกตัวที่จะได้เข้าไปอยู่ในขวดโหลแก้วแสนสวย’
    อยู่มาวันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมาพับนกกระดาษต่อ พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน เด็กน้อยยกขวดโหลแก้วอวดให้เพื่อนๆ ดูว่าเธอพับได้เกือบเต็มขวดแล้ว นกกระดาษพยายามที่จะกระพือปีกอย่างเอาจริงเอาจังเพื่อให้เด็กน้อยเห็น แต่นอกจากเด็กน้อยจะไม่สนใจแล้ว ปีกของมันก็แทบฉีกขาด มันรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว จึงได้แต่หมอบอยู่ข้างๆ ฟังเด็กน้อยกับเพื่อนคุยกันอย่างสนุกสนาน มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ทำให้นกกระดาษขี้เหร่ถึงกับตกใจสุดขีด
    “ถ้าฉันพับนกเต็มขวดโหลเมื่อไหร่ ฉันจะปิดขวดด้วยฝาไม้อันนี้” เด็กน้อยบอกกับเพื่อน
    ‘ตายแล้ว...’ นกระดาษขี้เหร่อุทาน ‘ขวดโหลแก้วกำลังจะถูกปิดด้วยแผ่นไม้กลมๆ อันนั้น พวกเขาจะถูกขังอยู่ในขวดโหลแก้วแสนสวยหรือนี่’
    นกกระดาษขี้เหร่เพิ่งตระหนักได้ว่า ความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาถึงเรื่องขวดโหลแก้วแสนสวยนั้น ไม่มีนกกระดาษตัวใดสามารถยืนยันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เพราะไม่เคยมีนกกระดาษตัวใดกลับมาได้อีกเลย
    ขวดโหลแก้วแสนสวยคือกับดักอันตราย
    นกกระดาษขี้เหร่รอให้เด็กน้อยกับเพื่อนๆ ออกจากห้อง จากนั้นมันพยายามที่จะบินอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ได้บินเพื่อเรียกร้องความสนใจจากใครแต่เพื่อช่วยเหลือพี่ๆ น้องๆ ของมันให้รอดพ้นจากการถูกกักขัง
    มันค่อยๆ บินสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปีกของมันก็อ่อนล้าเต็มที มันหยุดพักเหนื่อยอยู่ตรงลิ้นชักที่เด็กน้อยปิดค้างไว้ ซึ่งมันก็ใกล้พอที่จะตะโกนบอกพี่ๆ น้องๆ ของมันได้
    ‘รีบหนีออกมาจากขวดโหลเร็วเข้า’
    เหล่านกกระดาษในขวดโหลได้ยินดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาแล้วตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า...
    ‘เจ้าขี้เหร่ เจ้ายังไม่ยอมรับหรือว่าเจ้าน่ะไม่คู่ควรกับการได้มาอยู่ในขวดโหลแก้วแสนสวยอย่างพวกเรา อย่ามาอิจฉาพวกเราหน่อยเลย’
    ‘ข้าไม่ได้อิจฉา ข้ามาเตือนพวกเจ้า ให้รู้ว่าอีกไม่นาน ขวดโหลแก้วจะถูกปิด แล้วพวกเจ้าก็จะถูกขังอยู่ในนี้’
    ‘โกหก’
    ‘ข้าพูดความจริง ข้าได้ยินเด็กน้อยบอกกับเพื่อนของเธอ’ นกกระดาษขี้เหร่พยายามอธิบายให้นกกระดาษทุกตัวเข้าใจแต่ไม่มีใครยอมเชื่อมันเลย แถมยังไล่มันไปไกลๆ อีกด้วย มันจึงทิ้งตัวลงมาจากลิ้นชักอย่างสิ้นหวัง
    จนกระทั่งมาถึงวันที่ขวดโหลแก้วเต็มไปด้วยนกกระดาษที่สวยงาม มีทั้งสีแดง เหลือง เขียว ฟ้า ชมพู ส้ม ส่วนที่คอขวดผูกด้วยริบบิ้นสีเงินระยิบระยับ นกกระดาษทุกตัวต่างพากันยิ้มแย้มมีความสุขกับความงดงามที่เห็น โดยที่ไม่รู้ตัวว่าฝาไม้ขนาดใหญ่กำลังจะปิดปากขวด
    ตึ๊ง...
    เสียงดังสนั่นหวั่นไหวนั้นทำให้นกกระดาษทุกตัวเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเอง พยายามดิ้นรนที่จะหนีออกมาอย่างทุรนทุราย
    ‘ช่วยด้วย’
    นกกระดาษขี้เหร่ได้ยินเสียงเรียกให้ช่วย ด้วยความที่รักพี่ๆ น้องๆ มันจึงตัดสินใจที่จะบินขึ้นไปช่วย ขณะนั้นเองมีนางฟ้าบินผ่านมาพอดี นกกระดาษขี้เหร่จึงขอร้องให้นางฟ้าช่วย ด้วยการขอยืมปีกของนางฟ้า แต่นางฟ้าให้ไม่ได้ เพราะไม่อาจฝืนกฎของสวรรค์ นางฟ้าได้แต่เตือนให้นกกระดาษขี้เหร่ว่า...
    ‘การทำเช่นนั้นจะทำให้เจ้าบาดเจ็บ’
    นกกระดาษขี้เหร่ไม่ฟัง มันมุ่งมั่นที่จะไปช่วยพี่ๆ น้องๆ ของมันให้ได้ แม้ว่าปีกของมันจะขาด เรี่ยวแรงจะอ่อนล้าและลมหายใจกำลังจะหมด
    ‘โอ๊ย...’
    นกกระดาษขี้เหร่ไม่อาจฝืนต่อไปได มันจบชีวิตลงอยู่ข้างๆ ขวดโหลแก้วแสนสวย
    นางฟ้าซาบซึ้งในความดีของนกระดาษขี้เหร่ จึงเสกให้มันกลายเป็นเหยี่ยวรุ้ง ผู้สง่างาม เวลาที่มันบินจะเห็นแถบสีดำขนาดใหญ่สองแถบ สลับกับสีขาวตรงขอบปีก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ปีกของมันเคยขาดมาก่อนนั่นเอง

    ..........................................................................

    จากคุณ : แมงกิ๊กุ - [ 25 ก.พ. 48 11:44:32 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป