CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    รักนาย...คุณชายมาเฟีย : ตอนที่ 5

    ตอนที่ 5

    เฮ้อ...เสร็จงานสักทีนี่ก็ 2 ทุ่มกว่าแล้วสิ  ฉันต้องรีบเดินทางไปเตรียมตัวเป็นเด็กเสิร์ฟให้กับคลับ & คาราโอเกะ  “XXX” คลับชื่อดังแห่งหนึ่งแถบชิบูย่าได้แล้ว
    คลับ & คาราโอเกะ  ที่ว่านี่เป็นตึกทรงสี่เหลี่ยมสูง 3 ชั้น ทาสีตัวตึกแค่สองสี คือสีดำและสีขาว  

    โดยด้านล่างเป็นคลับ ตกแต่งแบบสไตล์ฮิปฮ็อปซึ่งเป็นที่นิยมในขณะนี้เพื่อให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ วัยรุ่นมาเต้นหยองแหยง ๆ แบบไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวกได้ค่ะ  แต่ด้านบนชั้นสองของที่นี่จะค่อนข้างแตกต่าง เพราะตกแต่งในแบบสไตล์บ้านญี่ปุ่นที่มีไม้ไผ่เป็นส่วนประกอบหลัก  เพราะเป็นที่ที่ให้พวกตาพวกเฒ่าลามก หรือพวกหนุ่มสาวชาวออฟฟิศมาร้องสังสรรค์คาราโอเกะ โดยที่ทางเข้านั้นก็จุดเดียวกัน แต่จะมาแยกกันเข้าคนละด้าน คือเลี้ยวซ้ายมุ่งไปคลับ แต่เดินขึ้นบันไดวนทางขวาคาราโอเกะค่ะ จึงทำให้ผู้ที่ไม่เคยมาต้องแปลกใจที่ คนหนุ่มสาวที่แต่งตัวแบบเด็กแนว (ตะเข็บชายแดน)กันหลุดโลก  และพวกตาเฒ่าหัวงู หรือพวกป้า ๆ แม่บ้าน และพวกพนักงานออฟฟิศก็เดินเข้าด้วยอีกเช่นกัน  เป็นความแปลกที่ลงตัวแบบทูโทนดีจริงๆ ส่วนตัวออฟฟิศอยู่ชั้น 3 ค่ะ  และแน่นอนว่าฉันทำงานอยู่ที่ที่สำคัญมาก คือด้านหลังร้านค่ะ  เป็นเด็กเสิร์ฟแบบทูอินวัน  ทั้งคลับ และคาราโอเกะในเวลาเดียวกัน

    “ฮ้าว.....เสร็จสักทีนะพีม  นี่จะไปทำงานต่อที่คลับน้าฉันหรือเปล่าล่ะ”  อ๋อ..ลืมบอกไปว่าที่ได้ทำที่คลับนั่นทั้ง ๆ ที่อายุไม่ถึงก็เพราะใช้เส้นยัยนี่นี่แหละ  

    “ถูกต้องนะครับ   แล้วชิโอริล่ะกลับบ้านเลยหรือเปล่า  ท่าทางจะง่วงแล้วนี่นา”

    “ก็กะว่าจะไปด้วยกันนั่นแหละ  ฮ้า...ไม่ได้ออกมายืดแข็งยืดขาตั้งนานแล้ว” ว่าแล้วยัยชิโอระก็เต้นท่าแทงปลาไหลดึ๊ก ๆ  ชะดึ๊บ ๆ โย่ว ๆ

    [ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก  กรุณาดูโฆษณาน้ำดื่มยูตีฟ ไอฝอย ที่ผู้หญิงขอเลิกผู้ชาย แต่พอดื่มน้ำเข้าไปก็เต้นกันไม่หยุด  ลักษณะท่าคือยืนแยกขาทั้งสองออก (อ้าว...กรุณาทำตามสิคะ จะได้ feeling ไปด้วย) แล้วชูแขนทั้งสองขึ้นแนบหู  นิ้วทั้งสี่ยกเว้นนิ้วโป้งของแต่ละข้างเรียงชิดติดกัน จากนั้นแทงแขนทั้งสองลงมาข้างหน้าระหว่างขาทั้งสองข้างในลักษณะตัววี  พร้อมทั้งย่อเข่าตามไปด้วย  เมื่อเราได้ท่าเตรียมพร้อมและทราบวิธีการแล้ว มาสิคะมาร่วมแทงปลาไหลด้วยกันค่ะ /ชิโอริจัง]

    “-_-‘….ทำอะไรน่ะชิโอริ”  

    ฉันรู้ว่าเธอคือพวกสาวมั่น  แต่นี่มัน...เกินพิกัดไปนี๊ดส์หนึ่งนะ  คือว่าฉันอายเขาน่ะนี่มันหน้าร้านสะดวกซื้อ แถมอยู่ในตัวเมืองด้วยนะยะ

    “ก็เรียกความฟิตให้แข้งขาไง  เวลาวาดลวดลายจะได้ไม่สะดุด  นี่ฉันกะว่าจะขมิบจมูกไปด้วยนะ  เป็นท่าบริหารหน้าเด้งชนิดใหม่ที่กำลังดัง  มาจากเมืองไทยบ้านเกิดแม่เธอด้วยนะ  จะลองด้วยไหมล่ะ”  

    “ไม่ล่ะฉัน ขอบาย  ขอซอมซ่อ และไม่สวยแบบนี้น่ะดีแล้ว” ดีกว่าบ้าบอแบบเธอน่ะ

    “เชอะ..แนะนำความสวยความงามให้  ไม่อยากได้ก็ตามใจ”  แล้วยัยนี่ก็เดินงอนตุปัดปุเป๋  ตู-ดะบิดตู-ดะเบี้ยวนำหน้าฉันไป (ตู-ดะก็คือก้นน่ะค่ะ  ไม่ต้องแปลกใจ  พยายามจะเรียกให้มันดูกิ๊บเก๋แบบญี่ปุ่นค่ะ...กิ๊บเก๋ตรงไหนของแกฟะ )

    …………………

    เราเดินมาเงียบ ๆ กันได้สักพัก  ยัยชิโอริก็เริ่มอดรดทนไม่ไหว    ในที่สุดเธอก็เริ่มชวนฉันคุยอีก

    “แหมคืนนี้หนาวนะพีม  หิมะยังไม่ตกสักกะหน่อยอ่ะ.....นี่ ๆ ดูสิ..พู่..ลมหายใจฉันออกมาเป็นไอเลยนะ  คิก ๆ ”  แหม...นังฟอร์มจัด จะแกล้งงอนทั้งทีก็ทำให้มันตลอดรอดฝั่งหน่อยเด้...นี่ยังไม่ถึง 10 นาทีเลยกระสับกระส่ายเสียละ  

    “ฮะ....อ๋อ  นั่นสินะ  ฉันก็ว่าปีนี้มันจะหนาวกว่าปีก่อน ๆ แน่เลย  นี่ก็พึ่งจะเดือนพฤศจิกาเองนะเนียะ…ฉันยังไม่ได้เตรียมตัวฝ่าลมหนาวเลย”  ชุดกันหนาวต้องซื้อใหม่เสียแล้วล่ะ  รู้สึกว่าเจ้าแก่ที่ใส่อยู่นี่จะขาดเป็นรูซะแล้ว

    “ใช่...ฉันก็ต้องรีบเตรียมตัว  คริสต์มาสอีฟปีนี้จะต้องเผด็จศึกหนุ่ม ๆ มาเป็นอาหารให้ได้สักคน ฮี่ ๆ ๆ”  

    “เฮ้ย....นอกจากกิน  นอน  เที่ยว แล้วก็ผู้ชาย  ในหัวเธอมีอะไรอยู่มั่งเนียะ  ยัยชิโอริ  ที่ฉันบอกว่ายังไม่ได้เตรียมตัวหมายถึงเรื่องการเอาตัวรอดในช่วงหน้าหนาวย่ะ”

    “อ้าวเหรอ....แหมยัยซอมซ่อ  ฉันลืมไปว่าความรักสำหรับเธอนี่มันเรื่องรองจากปากจากท้องน่ะ...ชิส์  แต่ยังไงนะปีนี้กลยุทธ์ อ.ช.ห.ด.ผ. จะต้องไม่เสียเปล่าอีกต่อไป”

    “กลยุทธ ออ ฉอ อะไรของแกน่ะ”

    “ก็กลยุทธ์  อ่อยชายให้ได้ผล ไงล่ะ  แหม...สมัยนี้จะให้มาทำตัวเป็นธรรมชาติแล้ว  หวังว่าชายจะแลหางตามองนี่  ฝันไปเถอะย่ะ  มันต้องนี่”   แล้วยัยชิโอริก็หยิบสมุดโรงเรียนเล่มสีชมแปร๋นแหลนออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอ  หน้าปกมีลายมือ(อันแสนอุบาทว์) ที่พอจะอ่านได้ใจความว่า  “กลยุทธ์พิชิตใจชาย : อ.ช.ด.ผ.”

    “-_-‘….”  ค่ำคืนอันมืดมิดเธอคือชีวิตที่โหดร้ายยยย  เฮ้อ..ขอเพื่อนปกติกับเขามั่งได้ไหมเนียะ

    เม้าท์แตกกันจนเพลินในที่สุด  เราทั้งสองตัวก็เดินมาถึงหัวมุมถนนหน้าคลับ XXX ของน้ายัยนี่จนได้

    “อ๊ะ...ถึงละ  ฉันแยกเข้าไปหลังร้านก่อนนะ   เดี๋ยวสายน่ะ  อ๊ะ..ชิโอริ  เธอรู้ไหมว่าทำไมรุ่นพี่เรียวโซถึงซ้ำชั้นน่ะ”  คำถามคาใจจากเมื่อกลางวัน  ถามยัยนี่แหละ เผื่อจะรู้

    “ไม่รู้ดิ  แต่ไว้จะสืบให้นะ  อ๊ะ...แต่ตอนนี้มีหนุ่มเหล่ที่ 12 นาฬิกาแหละ   หล่อด้วย  ไปก่อนนะพีม  ไว้ค่อยคุยกันวันหลัง  คิก ๆ ชะดึ๊บ ๆ ”  แล้วยังชิโอริก็ระริกระรี้หายตามหลังกลุ่มชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งหน้าคลับไป  

    ตามบทบัญญัตในหนังสือ “กลยุทธ์พิชิตใจชาย : อ.ช.ด.ผ.” - -  เพื่อนมีความหมายเสมอในชีวิตของเรา  แต่ผู้ชายมีความหมายมากกว่า....by Shiori

    หลังจากแยกกันกับเธอเรียบร้อย  ฉันก็เข้าไปเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของทางคลับ  ซึ่งเป็นเสื้อยืดคับติ้วพอดีตัว (ก็น้าชายยัยนี่บอกว่ามันพอดีตัว ไม่คับไปน่ะ) สีส้มสดใสที่มีลายตรงกลางเสื้อพิมพ์ไว้ว่า “You’ve got me…babe” และกางเกงขาสามส่วนสีดำรัดตึงเปี๊ยะที่มีระบายลูกไม้เล็ก ๆ ที่ตะเข็บด้านข้าง  อาผู้ชายยัยนี่รสนิยม[^_^]สุด ๆ  อ้อ..และแน่นอนว่าคราวนี้ฉันก็ต้องเอาแว่นตาพลางตัวออก แต่ยังคงติดไฝเม็ดเป้งไว้ที่มุมปากเช่นเดิม  และงานอันแสนโหดก็เริ่มขึ้น

    “อ้าว มาแล้วหรือจ๊ะ พีมจัง   นี่เอาไปที่โต๊ะสิบสี่ด้วยนะ.....อ้อ  แล้วที่ห้องคาราโอเกะที่เจ็ด ด้วยนะจ๊ะ”

    “ค่า..โต๊ะสิบสี่.....ห้องคาราโอเกะที่เจ็ด”  งึมงำ ๆ

    “นี่เอาไปโต๊ะเก้า  สิบสอง และยี่สิบ  และนี่ห้อง .............”

    และแล้วเวลาก็ผ่านไปเหมือนโกหกหมดเวลาทำงานของฉันแล้ว  จะได้พักสักที  ^-^   แต่ว่าตอนนี้ฉันรู้สึกว่ากล้ามเนื้อแขน กับขาของฉันกำลังจะค่อย ๆ ปูดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ  อีกไม่นานฉันคงเข้าประกวดเพาะกายได้แล้วล่ะ

    “พีมจังเลิกงานแล้วใช่ไหม...แต่ช่วยเอาอาหารชุดสุดท้ายไปส่งห้องคาราโอเกะที่สิบเอ็ดหน่อยได้ไหมจ๊ะ”  
    ว้าว...พี่อุซุยที่น่ารัก  เขาเป็นรองผู้จัดการของที่นี่  ตอนนี้เรียนอยู่ที่ ม.  H ปี 4 ด้านวิศวะ คอมพิวเตอร์  อนาคตอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ผู้มีชื่อเสียง สูงกำลังดี 170 ซม.หน้าตาน่าหยิกแบบผู้หญิง อืม....น่ารักได้ใจจริง ๆ คิก ๆ

    “ได้ค่ะ  แค่นี้ช่วยเหลือกันได้” เพื่อพี่หนูทำได้ทุกอย่าง

    “น่ารักแล้วยังมีน้ำใจอีกนะ พีมจังนี่”  อ๊า   อย่ายิ้มแบบนั้นซี่  หนูหวั่นไหวน้า

    แต่เมื่อฉันเห็นบรรดาอาหารที่ต้องเอาไปให้ก็ลมแทบใส่  มันกินอะไรกันนักกันหนาฟะ  เยอะกว่าที่ใช้เลี้ยงลิงที่ศาลพระกาฬเสียอีก  คุณคิดดูแล้วกันอาหารมันมากมายถึงขนาดต้องใช้รถเข็นมาช่วย  ดีนะที่มีลิฟท์  ไม่งั้นตูเดินอานแน่นเลย ....เอาล่ะนะ  ฮึ้บส์

    ก๊อก ๆ ๆ “อาหารที่สั่งมาส่งแล้วค่า”

    “โอ้แนะ  นกเขากรู  จุ๊กกรู  นกมันก็.....” ร้องผิดคีย์ไม่  พอยังค่อมจังหวะอีก  เสียงก็ใหญ่ ๆ อุบาว์  ชิส์  รีบเสิร์ฟรีบไปดีกว่า

    ก๊อก ๆ ๆ “อาหารที่สั่งมาส่งแล้วค่า”

    “อะไรวะ” เสียงคำรามแบบฟ้าผ่าดังก้องออกมาใส่หน้าฉัน  อึ๊ยส์  ถอยดีกว่าไหมเนียะ  เสียงน่ากลัวชะมัด  แต่ว่ามันคุ้น ๆ นะ

    แต่เมื่อประตูเปิดออกฉันก็แทบจะสะดุดเชือกรองเท้าผ้าใบตัวเองล้มหัวแตก  นี่มัน...คุณหมีควาย MIB (และสมุนอีกครึ่งโหล) กำลังตีเกราะเคาะไม้  ร้องเพลงสไตล์แม่บ้านญี่ปุ่นกันอย่างเมามันส์  ก็ว่าแล้วว่าทำไมสั่งเยอะขนาดนี้  

    “อ้าว...สวัสดีครับคุณหนูแมวเหมียว”  ไม่พูดเปล่าแถมลงไปคุกเข่าก้มหัวทำความเคารพเสียอย่างนั้น  ทำให้ไอ้พวกลูกกระจ๊อกปล่อยไมค์ แล้วรีบทำตามลูกพี่กันแทบไม่ทันแหนะ

    “สะ..สวัสดีค่ะ   โยชิสุซัง...-_-‘….เป็นยังไงมั่งคะ”  ทำไมยังไม่ฮาลาคีลีตัวเองไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวล่ะคะ

    “สบายดีขอรับ  แต่ว่า  เอ่อ...ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้ไหมขอรับ  เกี่ยวกับคุณชายน่ะครับ”  แน่นอนว่าฉันไม่ควรปฏิเสธ  ถึงแม้เขาจะมีท่าทีนอบน้อม  แต่แววตาของเขามันบอกว่าปฏิเสธล่ะก็.....และเพื่อยืนยันในการอ่านอวัจนะภาษาอันดีเลิศของฉัน  นายหมีควาย MIB ก็เดินนำฉันออกไปจากห้อง  พร้อมทั้งหันไปสั่งลูกสมุนให้เคลียร์บิล และไปรอที่รถ

    เราทั้งสองคนเดินออกมาที่ระเบียงพักสูบบุหรี่  ด้านหลังห้องคาราโอเกะ  แล้วนายตัวโตนี่ก็หยิบซิก้า แหมรสนิยมขัดกับหน้าตาจริงนะ ออกมาจุดสูบ  หลังจากอัดลมเข้าปอด และพ่นควันออกอย่างกับปล่องไฟโรงงาน 2 ที นายนี่ก็เอ่ยกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ติดความกังวล

    “คุณหนูครับ  ผมมีเรื่องจะขอร้องอย่างหนึ่งได้ไหมขอรับ”  ถ้าฉันปฏิเสธ จะกลับถึงบ้านไหมวันนี้น่ะ

    “ได้ค่ะ  ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงจนเกินไป”  

    “ช่วยขอร้องคุณชายเรียวโซ  ให้เขามาเยี่ยมคุณผู้หญิงด้วยเถอะขอรับ”

    “อ้าว...ทำไมน้า..เอ่อ  โยชิสุซังไม่คุยเองล่ะคะ  ดูท่าทางคุณเป็นคนสนิทของเขาไม่ใช่หรือคะ”

    “ใช่ครับ  แต่เรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนเกินไป  ผมคิดว่าคุณหนูน่าจะทำได้ดีกว่า”  พร้อมส่งสายตาวิงวอน  ที่มองยังไงก็เหมือนข่มขู่มาให้

    “เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ   แต่ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ  ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับแม่ของเขา  เพื่อเป็นประโยชน์แก่รูปคดี เอ๊ย..แก่การโน้มน้าวใจน่ะค่ะ”

    “คงจะไม่ได้หรอกขอรับ  ถึงแม้คุณหนูจะมาเป็นสะใภ้ที่นี่ก็ตาม”  เฮ้ย...ฉันยังไม่ได้ตกลงเลยนะแก

    “ผมว่าสักวันหนึ่งถ้าคุณชายพร้อม  ก็คงจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง ขอรับ”  แล้วพี่หมีความ MIB ก็เดินหันหลังจากไปทันที    

    ขึ้นชื่อว่าได้เป็นสมาชิกลำดับชั้นต้น ๆ ในแก๊งค์ยากูซ่าแล้ว  การที่เราจะล้วงความลับอะไรให้ได้นั้น  ยากส์พอ ๆ กับงัดปากจระเข้ให้เปิดด้วยไม้จิ้มฟันนั่นแหละ   แต่ก็ช่างเถอะ  ฉันจะทำตามคำขอร้องของนายก็แล้วกัน  แม้นายจะไม่ยอมบอกแนวทางอะไรเลยก็ตาม ....แต่เรื่องที่จะให้เป็นสะใภ้น่ะ  ขอบาย  (แม้จะเสียดายก็ตามที)  เพราะฉันเป็นพวกยึดติดกับความเป็นจริง  ฉันไม่มีทางฝันลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะได้เข้าไปอยู่ในตระกูลสูงศักดิ์อะไรแบบนี้หรอก.....เฮ้อ  นี่ก็ดึกมาแล้ว  คงต้องรีบกลับสักที กลับไปพบกับภาระต่าง ๆ ที่ต้องรับผิดชอบต่อไป ^-^

    จากคุณ : bon_bonkatz - [ 26 ก.พ. 48 21:51:54 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป