ยา
Waasuthep
ทุก ๆ วันฉันจะมาที่นี่.. ในเวลานี้ ก็คือตอนนี้ ฉันมีความสุขที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ สิ่งหนึ่งซึ่งใครหลายคนไม่รู้จัก แต่คนเหล่านั้น ไม่ใช่ฉัน แน่นอน.. ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าจะมีใครบ้างนอกจากฉันและคนที่นี่ รู้ว่า ในหมู่บ้านที่ยากต่อการค้นพบแห่งนี้ จะเป็นที่ตั้งของต้นไม้ใหญ่.. เป็นที่ซึ่งควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้
ให้งดงาม
และเป็นไปตามครรลองของมัน
จะมีใครเชื่อบ้างไหมว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเองในโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ อากาศ ฯลฯ ต่างถูกบงการด้วยสิ่ง ๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกัน สิ่งนั้นมีหน้าที่ควบคุมทุกอย่างบนโลก ให้สมดุล ยั่งยืน และเป็นไปตามกฎ และสิ่งนั้นก็คือต้นไม้ใหญ่ต้นนี้.. ใช่.. ฉันกำลังบอกว่า ธรรมชาติทุกอย่างบนโลก ต่างถูกควบคุมด้วยต้นไม้ใหญ่ต้นนี้
แน่นอน
ฉันถูกสอนมาอย่างนั้น
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของฉันก็คือ ต้นไม่ใหญ่ที่เจริญเติบโต แผ่กิ่งก้านสาขา งดงามสมบูรณ์ อันเป็นสิ่งซึ่งบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ทั้งปวงของโลกที่สวยงามใบนี้
มันถูกจารึกไว้หลายศตวรรษแล้ว
แต่ถึงอย่างไร เวลาที่ผ่านมานั้น มันถือว่าเป็นอดีต
มิใช่ปัจจุบันและอนาคต
.
หัวหน้าหมู่บ้าน ยืนพูดกับคนนับยี่สิบคน ที่ยืนออกันอยู่ที่ด้านหน้าต้นไม้ใหญ่ ซึ่งมีฉันรวมอยู่ในกลุ่มคนพวกนั้นด้วย
ภัยพิบัติกำลังจะเกิดขึ้น
เป็นคำพูดประโยคหนึ่งของท่านหัวหน้าหมู่บ้าน หลังจากที่พบว่า ต้นไม่ใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์มาตลอดร้อยศตวรรษ ได้เริ่มร่วงโรยรา คำพูดนั้น เป็นชนวนที่ก่อให้เกิดอะไรหลาย ๆ อย่าง ความหวาดกลัว ความกริ่งเกรง ได้ก่อตัวขึ้นในจิตใจของคนหลาย ๆ คน พอ ๆ กับความหวาดวิตกที่กำลังครอบคลุมไปทั่วบริเวณ จิตใจของหลาย ๆ คนที่ได้ฟังเรื่องราว กำลังเรียกร้อง เรียกร้องในบางสิ่งบางอย่าง บ้างก็ต้องการคำชี้แจง บ้างก็ตื้อตึงในหัวสมองจนไม่สามารถที่จะคิดอะไรได้
แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ที่เรียกร้องหา ทางแก้ไข
และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องออกเดินทางในวันนี้
ยา
สิ่งที่เราต้องการคือยา
เป็นคำตอบที่ออกมาจากปากของหัวหน้าหมู่บ้าน เป็นเหตุทำให้ต้องมีอาสาสมัครหนึ่งคนที่จะต้องเดินทางออกจากกะลาแคบ ๆ ที่เรียกตัวเองว่าหมู่บ้านในป่าใหญ่ ไปเผชิญกับปัญหาทุกสิ่งที่กำลังรออยู่เบื้องนอก
ทุก ๆ คนค่อย ๆ ถอยกรูดออกไปด้านหลัง ทิ้งให้ฉันยืนอยู่ด้านหน้าเพียงคนเดียว ราวกับต้องการให้ฉันเป็นอาสาสมัคร
คุณกำลังสงสัยหรือเปล่าคะ ว่าทำไม อาสาสมัครคนนั้น จะต้องเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แทบจะไม่มีเรี่ยวมีแรงอย่างอย่างฉัน
ฮึ.. ฉันคิดว่ามันคงไม่น่าจะเป็นเรื่องที่แปลกนักหรอกในสังคมปัจจุบัน !
.
จำเอาไว้ เดินทางไปยังทิศอุดร แล้วเจ้าจะพบยาที่รักษาต้นไม้ของเราได้
ฉันจำประโยคสั้น ๆ ที่ท่านหัวหน้าหมู่บ้านบอกได้อย่างแม่นยำ แหงล่ะ.. ประโยคสั้นออกจะแค่นั้น ความจริงเบาะแสแค่นี้ มันยังทำให้ฉันมืดแปดด้านไม่หายเลย แต่ก็อย่างว่า
หลายครั้งที่ฉันหมดทางไป ไร้เรี่ยวแรงและไร้หนทางที่จะเดินต่อ ในเวลานั้น ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากที่จะหยุดเดิน แต่ในเมื่อเวลานี้ ชีวิตของฉันมี หน้าที่ ซึ่งเป็นตัวบังคับให้ฉันหยุดเดินไม่ได้ ฉันก็เต็มใจที่จะขอฝากความหวังให้กับโชคชะตาซึ่งจะพาฉันก้าวต่อไป
ดูเหมือนว่า สถานที่แรกที่โชคชะตาพาให้ฉันได้มาพานพบก็คือสวนดอกไม้ ฉันสาบานได้ว่ามันคือสวนดอกไม้ ! ถึงแม้สภาพของมันดูแล้วยากที่จะเชื่อก็ตาม ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมดอกไม้ในโลกภายนอกถึงเป็นเช่นนี้ ไม่สวยงามเหมือนในหมู่บ้านของฉัน บางดอกแห้งกรังและเหี่ยวเฉา บางดอกก็มีกลีบช้ำ แต่สิ่ง ๆ เดียวภายในสวนดอกไม้แห่งนี้ที่สะดุดตาฉันก็คือ
ดอกหญ้าดอกหนึ่ง ซึ่งชูก้านของมันขึ้นอย่างสง่าผ่าเผย มันเป็นดอกไม้เพียงดอกเดียวที่ไม่ได้โรยราไปตามดอกไม้ดอกอื่น ๆ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันสวยงามมากในเวลานี้ ดอกหญ้าที่เมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นค่า แต่ในเวลานี้ ดอกหญ้าแสดงให้ฉันประจักษ์แล้วว่า มันเป็นดอกไม้เพียงดอกเดียว ที่ยืนหยัดและคงทน มากที่สุด มันสามารถแสดงความสวยงามของมันได้ตลอดเวลา ไม่สนใจว่าสภาพแวดล้อมในตอนนั้นจะเป็นอย่างไร
ฉันก้มลงไปเด็ดดอกหญ้าดอกนั้น แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน ฉันเงยหน้าขึ้น จึงพบแมลงตัวหนึ่ง ยืนอยู่ด้านหน้า
หยุดนะ.. ห้ามแตะต้องดอกไม้ เป็นอันขาด
เป็นเสียงแรกที่ฉันได้ยิน ตั้งแต่ที่เดินทาง จากหมู่บ้านมาได้สามวัน
ฉันละมืออกจากดอกหญ้าดอกนั้น แล้วพูดตอบแก้ตัว
ก็แค่ดอกหญ้าดอกเดียวเอง
ในเวลาที่อดอยากหิวโซ เศษอาหารเล็กน้อยที่เคยกินทิ้งกินขว้างเมื่อก่อน ก็สามารถมีค่ามีความหมายขึ้นมาได้ แมลงตัวนั้นตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ เดินเข้ามาหา มองสำรวจตัวฉัน แล้วถามขึ้นเธอไม่ใช่คนที่นี่แน่นอนเลย เธอมาจากไหนเหรอ
ฉันมาจากหมู่บ้านในป่า
แมลงตัวนั้นขมวดคิ้ว ราวกับเห็นว่าเรื่องที่ฉันพูดเป็นเรื่องไร้สาระเหลือกำลัง อะไรนะ.. หมู่บ้านในป่า ? โอ.. สาบานสิ ว่ามันมีอยู่จริง
พูดอย่างนี้หมายความว่าไง ฉันเองก็อดพิศวงกับท่าทางของแมลงตัวนี้ไม่ได้
เปล่า ๆ แมลงตัวนั้นรีบปัด อ่อ.. แล้วเธอออกมาทำไมหรือ ฉันคิดว่ามันไม่ใช่วิสัยของพวกเธอที่จะออกมาจากกะลา อุ๊บส์ ! ออกมาจากที่พักพิงไม่ใช่เหรอ
แน่นอน ถ้าไม่มีเหตุจำเป็น ฉันก็ไม่ออกมาหรอก ฉันยักไหล่ก่อนที่จะหันไปพูดเสียงอ้อนวอน แต่.. นี่.. ฉันกระหายน้ำจังเลย มีน้ำให้ฉันกินบ้างไหม
มี.. แต่ต้องเข้าไปกินในบ้านฉันอ่ะนะ แมลงตัวนั้นพูดก่อนที่เดินนำออกไปช้า ๆ
ฉันเดินตาม พร้อมกับนัยน์ตากวาดสำรวจบริเวณโดยรอบ เมื่อกวาดสายตาไปมาเสร็จแล้ว ก็ถามออกไป เออ.. ฉันถามอะไรหน่อยสิ ทำไมดอกไม้ที่นี่ถึงดูแปลก ๆ ไม่สวยงามสดใสเหมือนในหมู่บ้านฉันเลยสักนิด
ไม่รู้สิ แมลงตัวนั้นตอบอย่างไม่เห็นสำคัญ แต่ก่อนมันก็ไม่เป็นอย่างนี้หรอก ฉันจำได้ว่าฉันเกิดมาบนความสวยงามของพวกมัน ฉันใช้มันอย่างมีความสุข.. หลายครั้งที่พ่อของฉันเคยบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีวันคงอยู่ถาวร ไม่รู้ว่าพ่อของฉันจะสื่ออะไร หรือต้องการอะไรที่พูดออกมาแบบนั้น ฉันเองก็ไม่เข้าใจอ่ะนะ เฮ้อ
จนในเวลานี้นี่แหละ ฉันถึงได้เข้าใจมันอย่างถ่องแท้เลยทีเดียว
เข้าใจว่าอะไร ฉันถาม
แมลงตัวนั้นหยุดเดิน แล้วหันหลังมาพูดจับฉันอย่างจริงจัง ในเมื่อเวลาเปลี่ยน อะไรต่ออะไรก็เปลี่ยน
พ่อเธอสอนง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันพูดอย่างไม่เห็นด้วย ฉันว่าที่สวนดอกไม้ของเธอเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เพราะ เวลาหรอก
ดูเหมือนว่า คำพูดของฉันจะสร้างความสนใจให้กับเจ้าแมลงอย่างมากเลยทีเดียว มันวิ่งเข้ามาหาฉัน แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
อะไรนะ.. เธอบอกว่า มันไม่เป็นเพราะเวลา.. แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ
มันมีสาเหตุมาจากต้นไม้ใหญ่ของฉัน ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเป็นต่อ ต้นไม้ใหญ่ของฉันกำลังโรยรา เฮ้อ.. มันคงจะยากอ่ะนะ ที่จะพยายามอธิบายให้แมลงสมองน้อยนิดอย่างเธอเข้าใจว่า ต้นไม้ใหญ่ของฉัน เชื่อมโยงกับทุก ๆ สิ่งในโลกใบนี้ ทันทีที่ต้นไม้ใหญ่ของฉัน มีอันเป็นไป มันก็เลยส่งผลกระทบมายังสวนดอกไม้ของเธอด้วย
สมมติว่าฉันเข้าใจ เจ้าแมลงเอ่ย สีหน้าพะอืดพะอม
แต่.. นี่.. ฉันว่าฉันช่วยเธอได้นะ ฉันยื่นข้อเสนอ ถ้าหากว่าฉันได้ยา ที่นำมาใช้รักษาต้นไม้ของฉัน แน่นอน สวนดอกไม้ของเธอจะดีขึ้นตามไปด้วย เพราะมันเกี่ยวโยงกัน เชื่อฉันสิ
จริงเหรอ เจ้าแมลงพูด แล้วเธอจะให้ฉันช่วยยังไงล่ะ
ไม่ยาก.. แค่เดินทางไปกับฉัน
จากคุณ :
Waasuthep
- [
26 ก.พ. 48 23:44:06
]