แกะดำ
ผิวของปานคล้ำเข้มผิดกับคนอื่นๆ ต่างจากแม่ของเขา ผมของแม่ปานเหยียดตรง ส่วนผมของเขาฟูหยิก ตอนแม่ตายปานอายุได้ 14 ปี เขาไม่มีญาติที่ไหน ต้องหาเลี้ยงชีวิตตัวเองตามลำพัง เขาไปทำงานในไร่ของลุงเนียม หน้าที่หลักคือให้อาหารสัตว์ ซึ่งมีทั้ง ไก่ วัว และม้า หน้าที่อีกอย่างของเขาคือคอยเลี้ยงแกะ เฝ้าฝูงแกะในตอนกลางวัน
หมู่บ้านที่นั่นสงบสุข เรียบง่าย ทุกคนทำการเกษตร ไร่ของลุงเนียมอยู่ห่างจากตัวหมู่บ้าน ชิดติดกับเนินเขา ป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ปานชอบออกไปตกปลาในลำธาร ออกเดินท่องขึ้นเขอยู่บ่อยๆ เป็นที่รู้กันว่า บนภูเขามีชายแก่ผู้หนึ่งอาศัยเพียงลำพัง เพียรบำเพ็ญเจริญสมาธิ ท่ามกลางความสงัดเงียบกลางป่าเขา เขาเป็นปราชญ์ผู้รอบรู้ ทุกคนในหมู่บ้านต่างเคารพในตัวท่าน ไม่มีใครไปยุ่มย่ามกับผู้เฒ่าคนนั้น ปานเองเคยเจออยู่ไม่กี่ครั้ง เขากลัวว่าจะไปรบกวนเสียเปล่าๆ บางครั้งปานนำปลาที่ตกได้ไปให้ ผู้เฒ่าผมขาว หนวดขาว ยาวรุงรัง แต่มีความน่าเกรงขามอยู่ในตัว แววตาแฝงไว้ซึ่งเมตตา มีความดุดันเป็นส่วนประกอบ ไม่มีใครในหมู่บ้านทราบอายุที่แท้จริง คนแก่ที่มีอายุ70 ขึ้นไป รู้จักท่านผู้เฒ่ามาแต่ครั้งยังเป็นเด็ก กล่าวกันว่าท่านผู้เฒ่าเดินทางมาแล้วทุกแห่งหนบนโลก สุดท้ายเลือกมาอยู่อย่างสงบเพียงลำพังในหุบเขานี้
คืนหนึ่งปานนอนไม่หลับ อากาศอบอ้าว ปานออกมาเดินเล่นอยู่ภายนอก พระจันทร์สีเข้มส้มสด สว่างถ้วนทั่ว เดินได้สักพักเขาได้ยินเสียงแกะในเล้า ร้องกันระงม เขาเดินไปดู แกะทุกตัวเดินกระสับกระส่ายร้องรับกันไปมา มันรวมกลุ่มกันถอยห่างจากแกะตัวหนึ่ง ที่อยู่ทางสุดริมรั้ว
เจ้าแกะตัวนั้นกำลังถูกแพะตัวหนึ่งขึ้นขี่หลัง เขาของแพะนั่นยาวใหญ่ งอโง้ง รูปร่างมันต่างจากแพะทั่วไป มันยืนบนพื้นด้วยขาสองข้างได้อย่างมั่นคง ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำน่ากลัว แฝงความหื่นกระหาย แกะตัวนั้นพยายามดิ้นรนแต่ไม่เป็นผล หลังการสมสู่เสร็จสิ้น แพะนั่นวิ่งหนีหายไปอย่างรวดเร็ว มันกระโจนข้ามรั้ววิ่งไปด้วยขาหลังทั้งสองข้าง ปานยืนนิ่ง คืนนั้นเขานอนไม่หลับ
4 เดือนถัดมา ทั้งที่ไม่ใช่ฤดู แต่แกะคัวหนึ่งในไร่ ได้ตกลูกมาหนึ่งตัว มันตายทันทีหลังออกลูก ลุงเนียมรู้สึกแปลกใจและประหลาดใจยิ่งกว่าเมื่อพบว่าลูกแกะตัวนั้นมีสีดำ มันโตเร็ว กินจุ ร้องเสียงยานยาว ขนมันสาก แข็งกระด้างสีดำ เหมือนหญ้าแห้งสุมทับทั่วตัว ดวงตามันสีแดง มันชอบจ้องมองปาน อยู่ใกล้ปาน คอยวิ่งตาม
มีเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกับปานกลุ่มหนึ่ง ชอบมาเล่นน้ำที่ลำธาร ปานพบเจอเสมอ พูดคุยรู้จักกับทุกคน ปานชอบเด็กผู้หญิงที่ชื่อลูกหว้า เขาแอบมองเธอบ่อยๆ หลายคืนเขาฝันถึงเธอ ปานคิดถึงเธอทุกครั้งเวลาช่วยตัวเอง เขาหื่นอยากในตัวเธอ
ไม่มีแกะตัวไหนในฝูงกล้าเฉียดใกล้เจ้าแกะดำ ทุกตัวหลีกทางให้เสมอ ยามเจ้าแกะดำเดินใกล้ มีซากนกตัวหนึ่งอยู่บนทุ่งหญ้ามันส่งกลิ่นเหม็น เจ้าแกะดำเดินเข้าไปอย่างไม่เร่งร้อน มันก้มลงกินซากนกจนหมด ลมหายใจเหม็นคลุ้งผสมปนออกมาพร้อมเสียงร้องชวนขนลุก ปานรู้สึกแขยงแกะดำนั่น
เจ้าโบ้หมาลุงเนียมตาย ส่วนท้องของมันถูกกัดกินแหว่งหาย ไส้พุงไม่มีเหลือ กะโหลกถูกขบแตก สมองถูกแทะ ดวงตาทะลักล้น ปานรู้ว่าเป็นฝีมือเจ้าแกะนั่น แต่ลุงเนียมไม่รู้
มีสัตว์ในไร่ตายเพิ่มขึ้น ลุงเนียมต้องคอยออกมาเฝ้าอยู่ทุกคืน โดยสลับกับปาน คืนหนึ่งเสียงวัวร้องโหยหวนในคอก ลุงเนียมรีบวิ่งไปช่วย ปานตื่นขึ้นมาตามไปสมทบ ลุงเนียมยิงเจ้าสัตว์ร้ายไม่ทัน มันวิ่งหนีหายไปในความมืด วัวถูกกัดแทะบริเวณท้องไส้ทะลักไหล ปานยังไม่คิดบอกความจริง เขาไม่รู้ว่าลุงเนียมจะเชื่อเขาหรือเปล่า
ลูกหว้าหายตัวไป ไม่ได้กลับมาพร้อมกับเพื่อนที่ไปเที่ยวเล่นในตอนกลางวัน คืนนั้นปานสวดมนต์ก่อนนอน แม่สอนเขาตั้งแต่ยังเล็กให้สวดมนต์ก่อนนอนเสมอ เขาไม่ได้ทำประจำหลังแม่ตาย เขานอนไม่หลับ ลืมตาโพลงอยู่บนเตียง เหงื่อซึมชื้นทั่งร่าง ใจเต้นดัง เขานอนอย่างนั้นไม่รู้เวลาแน่ชัด
เสียงหัวเราะเย็นเยียบดังขึ้นเบาๆใกล้ตัว เขาพลิกตัวหันหน้ามอง ดวงตาแดงก่ำจ้องมองเขา มันกำลังยิ้มเห็นฟันขาวมีคราบเลือดติดทั่วปากเลือดหยดลงพื้น มันเริ่มหัวเราะดังขึ้น หัวเราะติดกันยาว เหะ เหะ เหะ ๆๆๆ หิ่ หิ่ หิ่ ๆๆๆ ฮี่ ฮี่ ฮี่ ๆๆๆ หัวของเจ้าแกะดำค่อยๆเคลื่อนหมุนวนรอบคอพร้อมกับเสียงหัวเราะเย็นๆ ปานขบฟันลุกขึ้นจ้องมองมันอย่างเคียดแค้น เขาพุ่งตรงเข้าหามัน ลงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง ทั้งชกทั้งเตะมัน จับหัวมันโขกกับพื้น ทั้งทีเลือดไหลซึมแต่เจ้าแกะยังคงหัวเราะอยู่ ปานคว้ามีด ลากตัวมันออกมานอกบ้าน เขาใช้มีดแทงมันนับครั้งไม่ถ้วน จิ้มลงไปที่ดวงตาแดงก่ำของมัน ผ่าท้องของมัน ฟันเฉือนไปทั่วทั้งตับไตไส้พุง เนื้อตัวปานเต็มไปด้วยเลือด เขาเหนื่อยหอบ น้ำตาไหลอาบแก้ม เขาลุกขึ้นมองดูสภาพของเจ้าแกะ แล้วออกวิ่งขึ้นไปบนภูเขา ดวงจันทร์สีส้มส่องแสงทั่วทั้งผิวพื้น
เขายืนหอบเหงื่อโทรมกายอยู่หน้ากระท่อมของท่านผู้เฒ่า เพียงไม่นาน ท่านผู้เฒ่าได้ออกมานั่งอยู่หน้ากระท่อม สายตาเพ่งมองที่ปาน
ความชั่วร้ายหลากรูปแบบดำรงอยู่ในที่ของมัน บางครั้งคราวมันหลุดรอดปะปนยังโลกของเรา ที่นี่บริสุทธิ์และห่างไกล ปิศาจร้ายไม่สามารถซึมแทรกลงสู่เบื้องลึกในใจคน มันปรากฏตัว รุ่มด้วยกิเลสหลากหลาย ก่อนลับหายไปยังที่ของมัน ทุกที่มีปิศาจร้ายสิงสู่เสมอ หลายแห่งบนโลกผู้คนถูกผีร้ายยึดกุมจิตใจ หากจิตใจตกต่ำใฝ่เลว อำนาจของมันยิ่งเพิ่มพูน เจ้าแพะผีตัวนั้นก็เช่นกันมันหลงเข้ามาหาที่ปลดเปลื้องระบายเมถุน เคราะห์อยู่ที่ว่าเวลานั้นตรงที่แห่งนั้น มันพบเจออะไร มันก็สมสู่กับสิ่งนั้น ไม่เลือกคนหรือสัตว์ ถ้าเธอปล่อยให้ความชั่วร้ายครอบงำลุ่มหลงมัวเมา ย่อมถูกชักนำสู่ทางเสื่อม อยู่ที่ตัวเธอเองนั่นละ จะเลือกใช้ชีวิตแบบไหน ตัวข้าได้เพียงแค่ชี้แนะไม่สามารถขจัดปัดเป่าให้หายสิ้นไป
ปานก้มลงกราบท่านผู้เฒ่า ออกเดินไปในป่าอย่างเหนื่อยล้า เดินได้สักพักเขาอาเจียนออกมา รู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงหดหาย เขานั่งพัก เขาไม่สามารถหลับลงไปได้แม้ว่าเหนื่อยเพลียเพียงใด เขานั่งอยู่จนแสงอาทิตย์เริ่มเรืองรองอยู่ริมขอบฟ้า เขานั่งมองสายตาเลื่อนลอยคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เขาได้ทำกับลูกหว้า
จากคุณ :
อุปกรณ์ประกอบฉาก
- [
28 ก.พ. 48 02:25:48
A:203.113.81.37 X:
]