" พี่โยก็ไหนว่าวันนี้จะไปลอยกระทงกับอ้อมไง"
" พี่ก็บอกอ้อมไปแล้วนะครับว่าพรุ่งนี้พี่มีเเข่งยูโด วันนี้จึงจำเป็นต้องซ้อม คงจะไปด้วยไม่ได้ "
" พี่โยใจร้าย ก็ไหนสัญญากันแล้วนะ เออ อ้อมไปคนเดียวก็ได้อ้อมจะแสดงให้เห็นว่าแม้ไม่มีพี่กระทงของอ้อมก็ลอยได้ "
" เดี๋ยวอ้อม พี่ฝากผมกับเล็บไปด้วยสิ" น้ำเสียงและแววตาของหนุ่มน้อยตรงหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยนและขอโทษแฝงไปพร้อมกับคำพูด
" ทั้งปีเลย พี่โยไม่เคยคิดจะรักษาคำพูดเลย ใช่สิ อ้อมมันไม่สำคัญ จำไว้นะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอ้อมจะไม่พูดกับพี่โยอีกเลย..."
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตริ่ง แต่วันนั้นเด็กผู้หญิงผมเปียต้องวิ่งออกไปพร้อมน้ำตาที่ไหลรินมานองหน้า
" วันลอยกระทงอีกแล้วเหรอ นี่ก็คงจะ 8 ปีแล้วสินะ " อ้อมหรือนางสาวมีนาในปัจจุบัน มองภาพถ่ายในมือ ซึ่งสีของภาพค่อนข้างจะซีดจางบ่งบอกให้รู้ถึงอายุการถ่ายของมันได้เป็นอย่างดี แต่ในความเก่าและหมองหม่นของสีภาพถ่ายนั้น ก็ยังมองคงเห็นเด็กผู้หญิงผมเปียในชุดนักเรียนคอซองหน้าตาบึ้งตึงเหมือนกับว่าโกรธใครมาหากแต่แววตาคู่นั้นกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขหรืออาจจะเป็นเพราะเหรียญทองที่ห้อยคอน้อย ๆ นั่นอยู่ก็เป็นได้ ใกล้กันนั้นก็มีเด็กผู้ชายตัดผมรองทรงยืนอยู่ด้วยเดาได้ว่าคงจะเป็นต้นเหตุของใบหน้าบึ้งตึงนั้น แม้รูปภาพจะดูหม่นหากแต่แววตาของหนุ่มน้อยยังคงบ่งบอกให้เห็นถึงความเอ็นดูอย่างชัดเจนแถมมือของเขาที่ค้างอยู่ในลักษณะท่าทางที่บ่งบอกได้ว่ากำลังลูบผมดำขลับนั้นอย่างเบามือ มันเป็นภาพแห่งความประทับใจของเธอ เมื่อไรที่มีนาหยิบมันขึ้นมาดูก็เผลอที่จะอดอมยิ้มไม่ได้เลยสักครั้ง และเธอยังคงจดจำเรื่องราวต่างๆ ก่อนหน้านี้ได้ดี
เด็กผู้ชายในภาพถ่ายเก่าๆ ใบนั้น เธอมักจะเรียกเขาว่า"พี่โย" หรือชื่อเต็ม ๆของเขาก็คือโยธิน เธอและเขาใช้เวลาของความรู้จักร่วมกันมาประมาณ5ปีเห็นจะได้ เนื่องจากพ่อของเขาเป็นอาจารย์ฝึกยูโดบ้านของเขาจึงดูเหมือนจะเป็นโรงยิมน้อย ๆ ซึ่งถัดมาก็เป็นบ้านของเธอนั่นเอง เพราะครอบครัวของเธอย้ายมาอยู่ใกล้ๆ บ้านเขา และดูเหมือนวิชายูโด ศิลปะป้องกันตัวเหล่านั้นจะถ่ายทอดมาถึงเขาผู้เป็นลูกชายคนโตด้วย เอ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขามีพรสวรรค์รึเปล่า อันนี้เธอก็ไม่แน่ใจ หากแต่ที่เธอแน่ใจที่สุดก็คือเขามักจะเป็นฮีโร่ของเธอเสมอมานับตั้งแต่ที่เธอได้ใกล้ชิดในความเป็นเขา เพราะเมื่อก่อนเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กหญิงอ้อม ที่มักจะถักเปียอันใหญ่ไว้ตรงกลางหลัง ออกจะค่อนข้างขี้อายใช้ชีวิตเหมือนเด็กผู้หญิง รุ่นเดียวกันทั่วไป และอีกหนึ่งในความทรงจำนั้นก็คือพี่โย พี่ชายที่แสนดีของเธอ
โยธินห่างจากเธอประมาณ 3-4 ปี ด้วยความที่พ่อแม่เธอและพ่อแม่ของเขาสนิทกันเพราะบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เธอจึงมักจะไป วิ่งเล่นแถวบ้านเขาอาจจะเพราะไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีก็ได้แล้วเผลอ ๆ ต้องเป็นคู่ซ้อมให้เขาอีกต่างหาก ขอใช้คำว่า ซ้อม จริง ๆนะ เพราะมีแต่เขาที่มักจะจับเธอทุ่มเป็นประจำเธอเองกลับไม่เคยชนะหรือได้แอ้มเขาเลยซักครั้งแถมบางทีกลับบ้านไปยังแถมรอยฟกช้ำดำเขียวไปทั่วทั้งตัว แต่เธอก็เต็มใจและรู้สึกมีความสุขบนความเจ็บนั่นเธอไม่เคยสนใจหาคำตอบว่าทำไม จนกระทั่งอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สมองของเธอทำการจดจำได้ดีก็คือ วันลอยกระทงของทุกปีที่ไม่เคยลอยจากความรู้สึกในหัวใจเธอได้เลยสักนาทีหากแต่กลับฝังแน่นอยู่ในนั้นจนเธอไม่อาจลืมเลือนจนกระทั่งวินาทีนี้
ปีแรกของการรู้จักเขา
" อ้าวอ้อม น้ายาแม่พี่โยเขาฝากบอกว่าพี่เขาคงไปลอยกระทงกับหนูไม่ได้นะจ๊ะ เพราะพี่เขาไม่สบาย พ่อเขาเลยไม่อยากให้ไป ถ้ายังไงอ้อมแวะไปที่บ้านน้ายาก่อนนะลูก"
" ค่ะแม่ "มีนา ร้องรับคำผู้เป็นแม่อย่างผิดหวังเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมเดินไปบ้านโยธินแต่โดยดี เพราะคิดว่าเขาคงจะฝากกระทงไปลอยด้วย แต่แล้วเมื่อถึงบ้านของเขาก็ต้องทำให้เธอประหลาดใจเพราะเขากลับฝากผมกับเล็บไปลอยด้วยทั้ง ๆ ที่น้องชายของเขาที่รุ่นเดียวกับเธอก็ไปลอยเช่นกัน แล้วเขาจะมาฝากกับเธอทำไม ประหลาดคน จำได้ว่าเธอก็ยังมิวายแซวเขากลับไปอย่างขำ ๆ
" แหม พี่โยไม่ค่อยจะงกเลยนะ ไม่ได้ไปยังมีฝาก กลัวขาดทุนรึไง"
" อ้าวก็กระทงเขาลอยกันเป็นคู่พี่ไม่ไปอ้อมก็ขาดคู่สิ พี่ไปไม่ได้ แต่พี่ฝากผมกับเล็บไปด้วยนะ ถือซะว่าเมื่อสุขเราจะรับรู้ด้วยกัน ทุกข์หรือเคราะห์ก็ขอให้มันหายไปพร้อมกันกับอ้อมไงดีไหม "
" เกี่ยวอะไรกับอ้อมด้วยหละ อยากไปก็บอกสิทำเป็นพูดซะ แต่อ๊ะก็ได้ มาอ้อมจะตัดให้เอง" เธอจำได้ว่าเธอแกล้งตัดผมให้เขาซึ่งตอนนั้นมือเธอออกจะสั่นๆ ไม่รู้เพราะว่าตื้นเต้นหรือเธอจงใจก็ไม่ทราบได้ เพราะผมที่ดูเข้าทรงของเขามันดันหายไปทั้งกระจุกเลยทีเดียว กลายเป็นว่าผมเขาแหว่งหมดหล่อไปเลยต้องโดนเพื่อนล้อไปเป็นอาทิตย์กว่าจะยาวเข้าทรงเหมือนเดิม แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอเลย นอกจากเอามือมาขยี้ผมเธอเบาๆ นั่นคือปีแรกที่เธอได้รู้จักกับความเป็นเขา
ปีที่สองที่เขาค่อย ๆ เข้ามาอยู่ในความรู้สึกของความเป็นเธอ
เธอและเขาเริ่มสนิทกันมากขึ้นอาจจะเพราะบ้านติดกันจำเป็นต้องเห็นหน้ากันอยู่ทุกวัน และปีนี้เขาก็เป็นคนชวนเธอไปลอยกระทงเอง แต่เธอดันเป็นฝ่ายไม่สบาย อาจจะเพราะเมื่อวานก่อนวันลอยกระทงมัวแต่ออกไปวิ่งเล่นน้ำฝนกับเพื่อนวัยเดียวกันจนต้องนอนซมเพราะพิษไข้ และดูเหมือนว่าเขาเองก็ไม่ได้ไปลอยกระทงเช่นกัน เธอกับเขาจึงตัดผมและเล็บ อธิฐานเล็กน้อยพอเป็นพิธีใส่กระทง และฝากพ่อกับแม่ของเธอไป แต่รู้อะไรไหมวันนั้นที่เขาไม่ได้ไปลอยกระทงก็เพราะว่าเขามาอยู่เป็นเพื่อนเธอ จนกระทั่งพ่อแม่ของเธอกลับมา อย่างนี้จะบอกว่าเขาไม่ใช่พี่ชายที่แสนดีของเธอได้อย่างไร จริงไหม
ปีที่สาม ปีแห่งการค่อยๆ เริ่มรับรู้ความเป็นเราระหว่างเธอกับเขา
เกือบจะได้ไปลอยกระทงด้วยกันแล้วเชียว หากไม่มีเรื่องซะก่อน...
" อ้อมแต่งตัวซะสวยเชียว......จะไปลอยกระทงเหรอ"
" อือ ... นัดพี่โยเอาไว้"
พูดจบเธอก็เดินตรงดิ่งไปบ้านของเขาด้วยกระทงอันสวยในมือ หากระหว่างทางกลับได้ยินเสียงโหวกเหวกดังขึ้น ใกล้ๆ บริเวณบ้านที่เธอกำลังจะเดินไป
" เป็นลูกอาจารย์สอนยูโดแล้วคิดว่าแน่รึไง ดูซิว่าจะเก่งซักแค่ไหน เอามันเลยโว้ย ผลัวะ ผละ ผลัวะ ผละ..."
เธอชะงักเท้าที่กำลังจะเดินต่อไปทันที จะไม่ให้ตกใจเลยสักนิด ถ้าคนที่กำลังถูกรุมอยู่ตรงนั้น มันไม่ใช่พีโยของเธอ เขาเป็นนักยูโดก็จริง...แต่หมาหมู่ซะขนาดนั้น จะเหลือเหรอ เท้าเล่นเร็วกว่าความคิดเธอจึงวิ่งเข้าไปช่วยให้พวกมันรุมด้วยอีกคน เลยกลายเป็นอีรุงตุงนังกันไปดีที่พ่อกับแม่โยธินกลับมาทันพอดี ไม่งั้นไม่รู้ใครกันแน่ที่จะเดี้ยง แต่อย่างจะว่าไปก็ได้กลับมาคนละหลายแผลทีเดียว ทั้งเธอและเขาเลยโดนที่บ้านทำโทษไม่ให้ไปไหน และเจ้ากระทงอันสวยที่อุตส่าห์บรรจงทำมาก็ตอนนี้ก็กลายเป็นซากไปซะแล้ว ใช่แล้ววิธีที่ดีที่สุดของการแก้ปัญหาก็คงหนีไม่พ้นการอธิฐานฝากเล็บกับผมไปเหมือนเดิม เฮ้อ ตกลงก็เป็นอันว่าปีนั้นเลยไม่ได้ลอย...อีกแล้วครับท่าน แต่มันกลับสร้างความรู้สึกดี ๆ ระหว่างเธอกลับเขามากขึ้นทั้งสองคนผลัดกันทายามีเสียงร้องเพราะความแสบของฤทธิ์ยาบ้างแต่ก็จะปนมาด้วยเสียงหัวเราะของความสุขทุกครั้ง ปีนั้นแม้เจ็บตัวแต่ก็สุขหัวใจชอบกลเห๊ะ
จากคุณ :
dokyaka
- [
28 ก.พ. 48 09:58:30
A:203.150.86.63 X:
]