"แซม!!! อย่าไปหลงกลพวกมันนะ! พวกมันใช้เคนเป็นตัวล่อให้เธอยอมเข้าไปเป็นพวกของมัน
แซม!!" ลีตะโกนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
"เคน
จัดการพวกชาวฟ้าที่น่าหนวกหูนั่นซะ" อนุชิตพูดขึ้น เคนพยักหน้ารับแล้วหันไปมองลีและเดวิดอีกที อยู่ๆแท่นดินที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ก็ร่วนกลายเป็นเศษดินธรรมดากองอยู่กับพื้นแต่กลับมีกล่องสี่เหลี่ยมใสใบใหญ่ครอบเขาทั้งสองไว้ ลีพยายามที่จะทุบและใช้ตัวกระแทกผนังของกล่องสี่เหลี่ยมอันนั้น แต่ก็ไร้ผล ไม่มีเสียงของเขาที่ร้องออกมาด้วยความโกรธเล็ดลอดออกมาเลย
"เอาล่ะ เสียเวลากับพวกนั้นไปมากแล้ว มาดูนี่กันดีกว่า" กฤษณ์พูดพร้อมทั้งโบกมือขึ้น ทำให้เกิดจอภาพขนาดใหญ่ขึ้นมาตรงหน้าแซม และภาพก็ค่อยๆปรากฏขึ้น
"ว่าไง..แซม หนูอยู่ที่นี่เป็นเด็กดีหรือเปล่าจ๊ะ" หญิงสาววัย 38 พูดกับเด็กหญิงคนหนึ่ง ซึ่งก็คือแซมนั่นเอง
"ว่าไงล่ะจ๊ะ?" เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอีกครั้งเพราะว่าแซมนิ่งเงียบ
"พูดอยู่ได้ น่ารำคาญ"
"แซม
ทำไมพูดกับแม่ของหนูอย่างนั้นล่ะ" หญิงสาวชาวต่างชาติที่มีผมสีบลอนด์พูดขึ้น
"เค้าไม่ใช่แม่ของหนู ถ้าเค้าใช่แม่ของหนูจริงๆ ทำไมเค้าถึงไม่มารับหนูไปอยู่ด้วยล่ะ หรือว่าเค้าอายที่มีหนูเป็นลูกของเค้า!" แซมพูดด้วยความโกรธแล้ววิ่งขึ้นบันไดไป
"ขอโทษนะคะที่แกเป็นอย่างนี้ ทั้งๆที่นานๆจะได้เจอกันที ปกติแกเป็นคนอ่อนโยนมากเลยค่ะ
แล้วอาทิตย์หน้าคุณจะมางานวันเกิดของแกหรือเปล่าคะ
คุณลดา" หญิงชาวต่างชาติพูดขึ้น ซึ่งคุณลดาเองก็มีสีหน้าที่เศร้าใจ แต่ก็ฝืนยิ้มให้อย่างขมขื่น
นั่นลูกชายของพวกคุณหรอคะ คุณลดามองไปยังเด็กชายอายุไล่เลี่ยกับแซมที่กำลังเล่นของเล่นอยู่คนเดียว
ค่ะ ปกติแกจะอยู่ที่โรงเรียนประจำน่ะค่ะ พอดีปิดเทอมเลยกลับมา เคน มาสวัสดีคุณอาสิลูก เด็กชายเดินมาไหว้คุณลดาอย่างว่าง่าย
..
เมื่อแซมดูเหตุการณ์มาถึงตรงนี้เธอก็รู้สึกใจหายวาบ
"คุณลดา
คือ
แม่ของฉัน อย่านั้นหรือ?"
"ใช่
เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้เป็นที่รู้จักกันมากในวงการธุรกิจการค้าส่งออก แต่เขาเกิดไปชอบพอกับชาวต่างชาติคนหนึ่งเข้าจนเกิดเธอออกมาทั้งๆที่ยังไม่ได้แต่งงานและผู้ชายคนนี้ก็ทิ้งคุณลดาไป เพื่อไม่ไห้ความเสื่อมเสียนี้มีผลกระทบไปถึงงานของเธอ เธอจึงฝากแซมไว้กับคนรู้จัก ซึ่งก็คือพ่อแม่ของเคน จนเมื่อเกิดเรื่องนั้นขึ้น คุณลดาก็ลาขาดจากกิจการที่ทำอยู่และมาดูแลสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอกับเคนถูกส่งมา โดยที่ทุ่มทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของเธอเพื่อที่จะมาเป็นเจ้าของสถานที่รับเลี้ยงเด็กแห่งนี้" กฤษณ์อธิบาย
"ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็ไม่ใช่
"
"ไม่
เธอไม่ใช่ลูกผสมระหว่างชาวฟ้ากับชาวเวทย์ แต่เป็นเคนต่างหาก"
ฉันไม่เชื่อหรอก
เป็นไปไม่ได้
พวกนายคิดจะหลอกใช้ฉันอีกใช่ไหม
พวกนาย แซมพูดพร่ำออกมาพร้อมทั้งร้องไห้ ทั้งๆที่ปากก็บอกว่าไม่เชื่อ แต่แท้จริงแล้วเธอรู้ดีว่าสิ่งที่ชาวเวทย์พูดมาล้วนเป็นความจริงทั้งหมด
"ในเมื่อพวกนายรู้แล้วว่าฉันไม่ได้เป็นกาลกิณี แล้วทำไม
พวกนายถึงอยากจะฆ่าฉันอีกล่ะ!" ในตอนนี้เสียงของแซมสั่นเครือจนแทบจะพูดออกมาไม่เป็นภาษา
"เปล่า
ตอนแรกพวกข้าไม่รู้ และที่พวกข้าทำเช่นนั้นก็เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวฟ้านำพลังของกาลกิณีไปใช้ในทางที่ผิด ที่จริงแล้วพวกเราสงสัยมานานแล้วว่า พวกชาวฟ้ากำลังคิดไม่ซื่อนับตั้งแต่ ท่านเทพสั่งให้ชาวฟ้ามีการคุมกำเนิด"
"แล้วทำไมถึงจะต้องมีการคุมกำเนิดของชาวฟ้าด้วยล่ะ ก็พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย" แซมเถียงขึ้น
"เป็นเพราะท่านเทพเกรงว่า ถ้าหากชาวฟ้ามีมากเกินไป พวกนั้นอาจจะคิดก่อการกบฏได้ และพวกชาวฟ้าก็ทำจริงๆ แม้ว่าท่านเทพจะไม่ให้มีการคุมกำเนิดถึงยังไงชาวฟ้าก็ต้องคิดไม่ซื่อ ก็อย่างที่ท่านเทพได้เคยบอกไว้ว่า น้ำคือสภาวะที่ไม่แน่นอนที่สุด เพราะมันสามารถเปลี่ยนไปตามรูปทรงของภาชนะที่มันอยู่ได้เรื่อยๆ" แต่ก่อนที่แซมจะได้ถามอะไรต่อ ที่จอภาพก็ปรากฏภาพขึ้นอีกครั้ง
เป็นภาพของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งล้มลงกับพื้น โดยที่มีกลุ่มคนใส่ชุดผ้าคลุมสีดำยืนอยู่ตรงหน้า
ทันใดนั้นแซมก็รู้ทันทีว่านี่คือเหตุการณ์ที่เธอถูกชาวเวทย์ไล่ล่า
"เตรียมบอกลาโลกเลวๆนี้ได้เลย" ชายคนหนึ่งแสยะยิ้มพร้อมกับยกมือไปที่เด็กผู้หญิงคนนั้น
"อย่า! ไม่!" มีคลื่นพลังบางอย่างออกมาจากฝ่ามือของชายผู้นั้นแล้วพุ่งตรงไปที่ตัวของแซม ทำให้เธอล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วพลิกตัวไปมาด้วยความเจ็บปวด
"หยุดนะ! เจ้ากำลังจะฆ่าผู้บริสุทธิ์" เสียงชองชายคนหนึ่งค้านขึ้น เขาใส่ชุดผ้าคลุมสีขาวสะอาดซึ่งตัดกับท้องฟ้าสีเทา ทำให้ชาวเวทย์ลดมือลง
"พวกเจ้าอย่ามายุ่งดีกว่า" ชาวเวทย์พูดขึ้นด้วยเสียงที่เย็นชา
"ไว้ชีวิตของเธอ แล้วให้เธออยู่ในความดูแลของพวกเราเถอะ เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วย" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง แต่ชาวเวทย์กลับมองเขาด้วยสายตาที่สมเพช
"พวกเจ้าน่ะหรือจะมีความสงสารผู้อื่น
เจ้าต้องการที่จะบ่มเลี้ยงเด็กคนนี้ให้เป็นชาวฟ้าอย่างเต็มตัวแล้วใช้พลังของกาลกิณีกลับมาทำลายสวรรค์ล่ะสิ
ทางที่ดีพวกเจ้าอย่ามายุ่งดีกว่า อย่าให้มือของข้าต้องแปดเปื้อนเลือดที่เต็มไปด้วยสิ่งโสมมของพวกเจ้าเลย!"
ชาวฟ้าผู้นั้นชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะพูดออกมา
"เจ้าพูดเรื่องอะไรน่ะ?"
"ไม่ว่าพวกข้าจะเอาเรื่องนี้มาจากไหนหรือว่าพวกข้าจะแต่งขึ้นเอง แต่เรื่องนี้จะต้องถึงหูของท่านเทพแน่!!! และพวกข้าก็ไม่มีทางปล่อยเด็กคนนี้ไปด้วย!!" ชาวเวทย์คนหนึ่งพูดขึ้น ริมฝีปากที่อยู่ใต้ผ้าคลุมเม้มสนิท
"ในเมื่อเป็นเช่นนี้
พวกเราก็คงจะไม่มีทางเลือกอื่น
" พอเขาพูดจบน้ำจากสายฝนก็รวมตัวกันเป็นคนในชุดผ้าคลุมสีขาวอีกกลุ่มใหญ่แล้วยืนประจันหน้ากับชาวเวทย์
พวกเจ้าใช้มนตร์ดำหรือ?" หัวหน้ากลุ่มของชาวเวทย์พูดด้วยความตกใจ แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะได้พูดอะไรต่อก็มีพลังหลายลูกพุ่งเข้ามาหาชาวเวทย์ ทำให้ชาวเวทย์หลายคนสลายกลายเป็นดินและร่วงลงไปกองบนพื้น แต่ก่อนที่จะเกิดสงครามขนาดย่อย เสียงๆหนึ่งก็ดังกังวาลขึ้น
"หยุดนะ!!"
จากท้องฟ้าที่มืดมิด มีฝนตกกระหน่ำมาอย่างไม่ขาดสายก็กลับสว่างจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งฝนที่หยุดตกอย่างกระทันหัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายหยุดชะงักและจ้องมองไปบนท้องฟ้าอย่างเกรงกลัว พวกเขาทั้งหมดก้มลงคุกเข่ากับพื้น ถอดผ้าคลุมที่หัวออกและก้มหน้า
"พวกเจ้ากำลังทำอะไรลงไป รู้ตัวบ้างรึเปล่า!!" เสียงนั้นกล่าวอย่างดุดัน ทั้งหมดนิ่งเงียบ
"ชาวเวทย์! เจ้าจะต้องถูกขังที่คุกสวรรค์เป็นเวลาหนึ่งวัน เพื่อเป็นการลงโทษที่เจ้าลงมาก่อกวนให้มนุษย์บริเวณนี้เดือดร้อน ส่วนพวกเจ้า
ชาวฟ้า เจ้าใช้มนตร์ดำทำร้ายเหล่าเทพด้วยกัน ดังนั้น ข้าขอเนรเทศเจ้าออกจากสรวงสวรรค์และริดรอนพลังทั้งหมดที่เจ้าเคยมีมา"
"แต่ชาวเวทย์มาหาเรื่องพวกเราก่อนนะ!"
"ชาวฟ้า เจ้าก็รู้ว่าเรื่องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมนตร์ดำเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดในข้อห้ามทั้งหมด และเรื่องที่ชาวเวทย์ทำผิดทั้งหมด พวกเขาจะได้รับการลงโทษที่สาสมในคุกสวรรค์แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ ในตอนนี้เจ้าไม่ใช่เทพอีกต่อไปแล้ว
ดังนั้นระหว่างเจ้ากับข้า พวกเราไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอีกต่อไป
ไปซะ" หัวหน้ากลุ่มของชาวฟ้ารับคำแล้วลุกขึ้นเดินหันหลังไปอีกทางหนึ่ง ทำให้แซมเห็นหน้าของเขาได้ชัดเจน เขาคือ ลี
จากคุณ :
Snow falling up
- [
28 ก.พ. 48 16:27:16
]