CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ++ร้ายดีนัก..รักซะเลย++(ตอนที่ 2)

    ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่ะ อ่ะ เจ้าอม มาทำหน้าม้า กลับไปเขียนนิยายเธอเลย ดองซะล้นแล้ว

    ส่วนคนที่ถามถึง "ขอโทษครับผมเป็นมาเฟีย" ซึ่งเป็นภาคแรกของเรื่อง ร้ายดีนักฯ ก็ขอมาตอบนะคะว่าวางแผงเมษา 48นี้แน่นอนค่ะ

    ******
    ตอนที่ 2

    ภายในห้องนอนอันโอ่โถงของเรือนใหญ่ปีกขวาของไร ธาร-ตะวัน ม่านสีขาวปลิวไสวยามต้องลม กลิ่นหญ้าอ่อนๆ หอมสดชื่น ส่งกลิ่นมาจากนอกหน้าต่าง ในห้องมีเตียงสี่เสาอยู่ตรงกลาง ตัวเสาเตียงผูกด้วยผ้าม่านโปรงสีขาวเข้ากับห้อง เครื่องเรือนภายในห้องตกแต่งสไตล์ทางเหนือ เน้นโทนขาวเข้ากับเนื้อไม้เป็นหลัก

    ร่างสูงโปร่งในชุดแจ๊กเกตยีนส์สีดำที่ถูกถอดออกจนเหลือแต่เสื้อยืดแขนกุดด้านในที่เจ้าตัวใส่อยู่ก่อน กำลังนอนทอดร่างอยู่บนเตียง ใบหน้าสวยคิ้วคางรับกันหมดจด จมูกรั้นๆนั้นส่อแววถึงความดื้อดึงของเจ้าตัว

    ครั้นแล้วร่างที่นอนอยู่บนเตียงก็ค่อยๆขยับตัวอย่างช้าๆ ดวงตาข้างหนึ่งหรี่ปรือขึ้นมองรอบกาย
    ก่อนจะเบิกตาโพลงทั้งสองข้างแล้วยันกายลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับเสียงใสๆที่เอ่ยออกมา

    “ โอ้ย! เจ็บจริงวุ้ย…” คนร้องโอย ร้องแล้วก็บิดเนื้อบิดตัวทดสอบกระดูกกระเดี้ยวของตัวเอง กระดูกน่ะยังไม่หักหรอก แต่ไอ้แผลฟกช้ำดำเขียวที่เต็มไปหมดนี่ สงสัยจะตอนที่ช๊อปเปอร์ล้มแน่เลย

    หญิงสาวขยับกายสักพักให้รู้ว่าเธอยังปกติดี แล้วเจ้าตัวก็ยิ้มหรา ก็ใครบอกละว่าเธอสลบ เปล่าสักหน่อย…เรื่องช๊อปเปอร์ล้มน่ะ มันเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ ตอนอยู่อเมริกา เธอทำช๊อปเปอร์ล้มตั้งหลายครั้ง เธอจึงรู้ว่าเวลารถล้มหรือเกิดอุบัติเหตุ ควรจะกลิ้งตัวยังไงให้บาดเจ็บน้อยที่สุด แต่ตอนนี้ที่เธอกลัวที่สุด น่าจะเป็นรถเจ้ากรรมนะซิ ก็มันเป็นช๊อปเปอร์ของพ่อที่ทิ้งไว้ที่เมืองไทย คันเดียวที่พ่อรักมาก พอๆกับรถที่อยู่อเมริกา นี่ถ้ารู้ว่าลูกสาวสุดที่รัก ขับช๊อปเปอร์คันสวยของพ่อไปคว่ำข้างทางเพราะแกล้งชาวบ้านเขาก่อน มีหวังกลับไปแด๊ดดี้ต้องล่นงานเธอยับแน่ๆ คิดแล้วยังสยองแทน

    แต่แล้วคนที่ร้องโอดโอยนั่งคิดมากอยู่เมื่อครู่ก็ต้องเงียบเสียงร้อง เมื่อหันมองบรรยากาศรอบกายเต็มตา

    “ ห้องสวยจังแฮะ ” เจ้าตัวคนชมห้องสวย ชมแล้วก็ไม่ชมเปล่า พลางกระเถิบตัวลงจากเตียงสี่เสา ก้าวยาวๆไปยืนชิดอยู่ริมหน้าต่างกระจกใสที่มองออกไปเบื้องนอกคืออาณาเขตของไร่ ดวงตาคู่สวยมองออกไปเบื้องนอกแล้วก็อมยิ้มกับตัวเอง

    ..ที่นี่ช่างสวยอะไรแบบนี้ ทุ้งหญ้าเขียวขจี ถัดจากทุ่งหญ้าไปก็มีไร่องุ่นปลูกเป็นเถาๆ แล้วยังมีสวนดอกไม้อีก ถ้าจะเรียกว่าสวรรค์บนดินก็ไม่ผิดนักหรอก สำหรับความสวยงามเช่นนี้

    สริตาชะโงกหน้าต่างมัวแต่ชะโงกหน้าต่างมองออกไปข้างนอก เลยไม่ทันตั้งตัว เมื่ออยู่ๆประตูห้องก็ถูกเปิดพลั้วเข้ามาแบบไม่บอกไม่กล่าว พร้อมกับเสียงร้องแกมตกใจของคนที่เปิดเข้ามา

    “ อ้าว! คุณ ฟื้นแล้วเหรอครับ? ”

    หญิงสาวย่นคิ้วเข้าหากันพลางคิด …ถ้าไม่ฟื้น แล้วที่ยืนอยู่นี่ตัวอะไรละ? แต่ก็นั้นแหละพูดไปก็เท่านั้น ยังไงซะการพบเจอใครสักคนเป็นครั้งแรก ก็ควรพูดจาให้มันดีอยู่แล้ว

    “..ค่ะ..เอ่อ” เหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง “..ที่นี่ที่ไหนคะ? ”

    “ที่นี่ไร่ธาร-ตะวันครับ ” เสียงทุ้มๆเอ่ยตอบพลางส่งยิ้มเป็นมิตรให้ ทำให้สริตายิ้มตอบเขาพลางลอบพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้า เขาเป็นคนที่มีใบหน้าหล่อเหลาค่อนไปทาง “ตี๋” ใส่แว่นตาใสแจ๋ว ภายใต้แว่นตานั้น คือดวงตาดำขลับ ที่พอจะเดาได้ว่า ถ้ายิ้มเมื่อไหร่ดวงตาคงเกือบเป็นเส้นตรงแน่ๆ จมูกเขาก็โด่ง รับกับใบหน้าได้เหมาะเจาะ ริมฝีปากแย้มเยือนดูเป็นคนใจดีน่าคบหา

    ต่างกับคนที่เพิ่งเดินตามเข้ามายืนอยู่เบื้องหลังเขาราวฟ้ากับดิน เพราะคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังนั้นมีใบหน้าหล่อเหลาก็จริง แต่เป็นใบหน้าที่ครึ่งยิ้มครึ่งบึ้ง ดูไม่เต็มใจที่จะยิ้มสักเท่าไหร่ คิ้วหนาดวงตาดำขลับดุดันแถมจ้องเอาๆอีกต่างหาก จมูกโด่งเป็นสัน ดวงหน้าคร้ามเข้มบ่งบอกอารมณ์ไม่พอใจได้อย่างชัดเจน

    “ หึ..ยังดีที่ยังลุกได้ไม่พิการ..”

    เซียร่าถึงกับทำตาปริบๆกับคำทักทายแรกที่เขาเอ่ยออกมา นี่เรียกว่าทักทายหรือหาเรื่องกันแน่? แต่ทว่าพอมองหน้าคนพูดดีๆ ถึงได้รู้ว่า นั้นน่าจะเรียกว่าหาเรื่องมากกว่าทักทาย… อารามเลือดร้อนก็เริ่มถามหาตามสไตล์ลูกสาวมาเฟียใหญ่ที่ถูกตามใจจนชิน

    “ คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง จะหาเรื่องกันเหรอ?”

    คนถูกว่าหาเรื่อง ถึงกับเหยียดยิ้มมุมปากก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอ “ใครกันแน่ที่หาเรื่อง คนที่ขับรถช๊อปเปอร์ปาดหน้ารถคนอื่น แล้วยังสร้างความลำบากให้คนเขาพากลับมารักษาจนฟื้นเนี้ย อยากรู้นักเชียวว่าใครกันที่เรียกว่าหาเรื่องตาย แล้วยังหาเรื่องปากเสียกับคนที่ทำคุณให้ ”

    หญิงสาวฟังแล้วถึงกับสะอึกไปโดยปริยาย ไอ้ที่เขาพูดมาไม่มีข้อความไหนเป็นเท็จเลยแม้แต่นิดเดียว มันจริงทุกประการ เธอหาเรื่องโดยแท้ แถมนี้เขาคงช่วยมาแน่ๆ แต่เหอะ..ใครจะยอมเสียหน้าง่ายๆละ ในเมื่อหาเรื่องแล้ว มันก็ต้องหาเรื่องไถให้มันตลอดรอดฝั่ง

    “ แล้วคุณจะเอายังไง จะให้ฉันชดใช้ค่าเสียหาย รวมถึงค่าที่คุณอุตส่าห์ลากมาจากข้างทางด้วยไหม?”

    “ ทำได้ก็ดี จะได้ไม่มีหนี้ค้างคากัน ” ชายหนุ่มปากเสียพูดแล้วก็จ้องหน้าเซียร่าเขม็ง ส่วนลูกสาวมาเฟียใหญ่เองก็ไม่ยอมแพ้ จ้องตอบเขาเหมือนกัน ไม่มีใครยอมใคร จนคนที่ยืนเงียบอยู่นานอดรนทนไม่ไหว

    “ เอ่อ..นายภวินทร์..พอก่อนเถอะ” หันไปทางเซียร่า “คุณเองก็เพิ่งฟื้น อย่าเพิ่งมีปากมีเสียงกันเลยครับ”

    เซียร่าฟังแล้วก็ปรายตามองไปยังคนปากเสียนั้นก่อนจะแจกค้อนวงใหญ่พลางเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่าง เพราะคิดว่ามันคงดีกว่าหันไปมองหน้าคนหาเรื่องนั้น ครั้นแล้วก็เพิ่งจะเรียบเรียงคำพูดในหัวสมองได้ สงสัยว่าตอนรถล้มหัวฟาดพื้นสมองเลยทำงานช้า

    …เมื่อกี้พ่อสุดหล่อหน้าตี๋นี่บอกว่า ที่นี่ที่ไหนนะ? ไร่ธาร-ตะวัน เหรอ?

    หญิงสาวทวนชื่อไร่ในใจ แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าหากัน ชื่อคุ้นๆ เหมือนชื่อรีสอร์ทของลุงชนาธิปกับอาระวันดา เพื่อนของแด๊ดดี้กับม๊ามี้เลย…หรือว่า….

    “ เอ่อ.. เมื่อกี้ว่า ที่นี่คือไร่ธาร-ตะวัน แล้ว แถวนี้มีรีสอร์ทธาร-ตะวัน ไหมคะ? ”

    คำถามของเธอ ทำให้สุดหล่อหน้าตี๋ยิ้มออกมาพลางเหลือบมองคนที่ทำหน้ายักษ์ว่าจะตอบออกมาไหม แต่ปรากฏว่าอีกฝ่ายไม่ยอมตอบ เขาจึงต้องรับหน้าที่เป็นทูตสันถวไมตรีตอบแทน

    “ ก็ที่นี่แหละครับ เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทธาร-ตะวัน..” พูดยิ้มๆ “ แต่ผมว่า ถ้าคุณชื่อ สริตา อัล มาเวล จริงอย่างบัตรประชาชนในกระเป๋าคุณว่าไว้ คุณต้องรู้จักคนที่นี่ดีพอสมควร จริงไหมครับ? ”

    เซียร่าฟังแล้วก็กลืนน้ำลายเอือก …ใช่..รู้จักดี ดีทีเดียวละ ทั้งคุณลุงชนาธิปกับอาระวันดา แถมเข้าด้วยพี่หมีวินนี่เดอะพูห์ คนที่เธอชอบเอาแต่ใจแกล้งเขาเอาไว้เยอะ วีรกรรมนั้นแสนจะสุดแสบ

    ..แย่งม้าพี่วินเอย แกล้งขาเจ็บให้พี่วินแบกกลับไร่เอย สารพัดจะหาเรื่องให้คนอื่นเขาลำบาก

    แต่ที่แน่ๆ ถ้าขืนเธอยังอยู่ในไร่นี้อีกนานกว่านี้ มีหวังโดนส่งกลับอเมริกาแน่นอน จากความตั้งใจเดิมที่ว่าจะขับช๊อปเปอร์มาแอบเยี่ยมเยียนที่รีสอร์ทเฉยๆ จะกลายเป็นถูกกักกันตัวเพื่อเตรียมส่งกลับอเมริกา

    ..งั้นไอ้ที่อุตส่าห์หนีมาก็ศูนย์เปล่า ไม่เอาด้วยหรอก…

    เซียร่าส่งยิ้มแห้งๆให้สองหนุ่ม พลางเอ่ย “ เอ่อ..ค่าเสียหายเรื่องขับรถปาดหน้ารถคุณแล้วค่ายาค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด พวกคุณจะคิดเท่าไหร่ก็ตามสะดวกนะคะ แต่เร็วหน่อยได้ยิ่งดี ฉันอยากออกไปจากที่นี่แล้วค่ะ ”

    เท่านั้นแหละ พ่อคนหล่อหน้าบึ้งก็สวนขึ้นทันควัน

    “ จะให้ปล่อยให้ออกไปขับรถปาดหน้าคนอื่นแล้วตายข้างถนนนะเหรอ คิดว่าดีกว่าตายในโลงศพหรือไงน่ะ สริตา อัล มาเวล ...” ยิ้มมุมปาก “หรืออยากทำตัวหาเรื่องแบบเมื่อก่อน แย่งม้าคนอื่น แล้วยังโกหกให้คนอื่นแบกตัวเองกลับมาบ้าน อืม…ท่าทางมารยาร้อยเล่มเกวียนยังทำงานดีอยู่นะ ”

    ถ้อยคำเผ็ดร้อนที่เขาขนมาว่าเธอนั้นทำให้คนฟังถึงกับกลืนน้ำลายไม่ลง เริ่มได้สำนึกจากสติที่มีอยู่ และหัวสมองที่เริ่มกลับมาทำงานเหมือนเดิม ทำให้ได้เค้าลางๆแล้วว่า โครงหน้าแบบนี้เหมือนกับคนที่เคยรู้จัก แถมพฤติกรรมความดีเด่นทางด้านหาเรื่องพวกนี้ ไม่มีใครรู้นอกจากคุณอาชนาธิป อาระวันดาและ พี่ภวินทร์ !!!

    เซียร่าเผลอก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งเสมือนหาหลักยึด ริมฝีปากบางขยับเอื้อนเอ่ยถามแทบเป็นกระซิบ

    “ เอ่อ..ค..คุณ..คือ พี่ภวินทร์เหรอคะ? ”

    จากคุณ : ฟองฟาง - [ 4 มี.ค. 48 16:21:26 A:202.133.172.197 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป