CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ~กาลกิณี * 10 # จุดจบ * ~

    ในตอนนี้แซมกำลังเดินอยู่บนทางเดินหินสีขาวสะอาดและสว่างไสวในขณะที่รอบตัวของเธอนั้นมืดสนิท แซมมองไปรอบๆตัว สงสัยว่าสถานที่นี้คือที่ใด และเธอกำลังเดินทางไป ณ แห่งใด แต่ถึงกระนั้นแซมก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆบนทางเดินอันยาวไกลจนสุดลูกตา

    แต่แล้วในขณะที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นก็ได้มีจอภาพยนตร์ขนาดใหญ่หลายจอเคลื่อนที่ผ่านเธอไปทั้งทางซ้ายและขวา ซึ่งในจอภาพยนตร์นั้นมีเรื่องราวต่างๆในอดีตของเธอฉายอยู่ แซมมองภาพเหล่านั้นไปเรื่อยๆจนกระทั่งภาพวาระสุดท้ายของชีวิตเธอ เมื่อภาพฉายจบแล้วจอต่างๆก็เริ่มเลือนหายไปและมีจออีกจอหนึ่งปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของแซม…

    ร่างที่โชกไปด้วยเลือดของแซมนอนอยู่ในเกราะที่เคนทำขึ้นมา ถึงแม้ว่าแซมจะตายไปแล้ว แต่เคนเองก็ยังคงไม่มีปฏิกริยาอะไรกับเรื่องนี้เลย

    “ชาวเวทย์ผู้น่าสงสารเอ๋ย เจ้าหมดหนทางสู้แล้ว ถึงแม้ว่าศึกครั้งนี้เจ้าจะมีกาลกิณีเป็นพวกของเจ้า แต่ก็ไร้ประโยชน์ ถึงเวลาแล้วที่ชาวเวทย์จะหายสาบสูญไปจากโลกนี้!!”

    เมื่อลีพูดจบก็มีสายฝนสาดเทลงมาพร้อมกับชาวฟ้าที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจากสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทางด้านกฤษณ์เองก็มีชาวเวทย์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่สายฝนรอบๆตัวของชาวเวทย์ได้รวมตัวกันเป็นอาวุธต่างๆ พุ่งทะลุร่างของชาวเวทย์โดยที่ชาวเวทย์ไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ชาวเวทย์ล้มตายไปอย่างรวดเร็ว

    “ดูท่าว่าพวกเจ้าจะเหิมเกริมเกินไปแล้ว  คิดหรือว่าหากเอาชนะพวกเราได้ เจ้าจะได้ครอบครองโลกนี้ ไม่ว่าอย่างไรพวกเจ้าก็ไม่มีทางสู้ท่านเทพได้หรอก!!” กฤษณ์ตะโกนฝ่าเสียงสายฝนที่ยังคงสาดเทลงมา

    “ในโลกนี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่แน่นอน พวกเจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่า พวกข้า! จะไม่ชนะ” ลียิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม

    ไม่ว่าชาวเวทย์จะพยายามฆ่าฟันชาวฟ้าไปมากมายเท่าไร แต่ชาวฟ้ากลับยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากสายฝน และถึงแม้ว่าชาวเวทย์คนอื่นๆจะล้มตายไปเป็นจำนวนมาก แต่ทั้งเคนและกฤษณ์ต่างก็ยังปลอดภัยทั้งคู่เพราะรอบตัวของพวกเขาทั้งสองเหมือนกับมีเกราะบางๆ ล้อมรอบตัวอยู่ เคนเองยังคงจ้องมองลีผ่านสงครามที่อยู่รอบๆ ตัวด้วยความนิ่งเฉย แต่ในสายตาที่ลุ่มลึกของเขาได้แฝงความรู้สึกบางอย่างที่ลุกโชนอยู่ภายใน

    “เจ้าคิดว่าเจ้าจะสู้อะไรข้าได้ มีพลังอำนาจอะไรก็ใช้มาเลย!”  ลีมองเขากลับอย่างท้าทาย เคนยังคงนิ่งเฉยไม่ขยับเขยื้อน แต่ขณะนั้นเองได้เกิดแรงระเบิดที่แขนข้างหนึ่งของลี ทำให้แขนของเขาร่วงไปที่พื้นแล้วแตกกระจายกลายเป็นน้ำ ลีตะโกนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดระคนกับตกใจ แต่ไม่นานนักเขาก็ควบคุมสติของตนเองได้และใช้น้ำสร้างเป็นแขนของเขาขึ้นมาใหม่

    “พลังไม่เลวนี่ แต่แค่เพียงเท่านี้น่ะ ทำอันตรายข้าได้ไม่มากหรอก” ลีขยับแขนใหม่ของเขา แต่ไม่ทันที่เขาจะได้พูดจาถากถางอะไรต่อก็เกิดแรงระเบิดตามร่างของเขาหลายครั้งติดต่อกันทำให้แขนทั้งสองข้างและขาข้างซ้ายของเขาขาดออกจากร่างและตามร่างกายเป็นรูโหว่อยู่หลายที่ ลีทรุดลงไปกองกับพื้น หายใจติดขัดด้วยความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่าง

    จากการบาดเจ็บของลีเป็นผลทำให้ชาวฟ้าจำนวนมากสลายตัวกลับไปเป็นสายฝนดังเดิม แต่ไม่นานนักลีก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งพร้อมทั้งใช้น้ำมารักษาตามร่างกายเช่นเดียวกับเมื่อครู่ แต่ตามบาดแผลที่เขาได้ใช้น้ำช่วยสมานนั้นกลับโปร่งใสจนสามารถมองทะลุผ่านได้

    “พลังของเขาค่อยๆ ลดลงแล้ว คงเป็นเพราะใช้พลังในการควบคุมหลายสิ่งหลายอย่างมากเกินไป ดังนั้นร่างกายจึงทำงานหนักจนเกินไป โดยเฉพาะพลังที่ใช้นั้นเป็นมนตร์ดำก็ยิ่งมีปฏิกริยาต่อร่างกายมากยิ่งขึ้น เพราะการใช้พลังของมนตร์ดำเป็นการดึงพลังที่ร่างกายเก็บสะสมไว้จากทุกส่วนรวมทั้งพลังชีวิตของร่างกายมาใช้ โดยที่พลังของมนตร์ดำจะไปหล่อเลี้ยงชีวิตแทน แต่ถ้าหากร่างกายหมดความต้านทานพลังของมนตร์ดำเมื่อไร เมื่อนั้นร่างกายที่โดนดูดพลังชีวิตไปก็จะ...”

    “หุบปาก!!! เจ้าคิดว่าถ้าพวกข้ามีทางเลือก ข้าจะเลือกทางเดินนี้หรือ คิดว่าข้าไม่รู้หรือว่าผลของการใช้มนตร์ดำเป็นเช่นไร แต่เพื่อความอยู่รอดของพวกข้า ข้าจำต้องเลือกเส้นทางนี้!!  เจ้าคิดว่าใครกันที่บังคับให้ข้าต้องทำเช่นนี้ พวกเจ้าคิดว่าพวกข้าต่ำต้อยนักใช่ไหมที่เลือกที่จะอยู่รอดมากกว่าตายไปอย่างสมศักดิ์ศรี

    ...ใช่สิ พวกเจ้ามันสูงศักดิ์ พวกเจ้าได้รับความไว้วางใจจากท่านเทพเสมอ แต่พวกข้ากลับเป็นแค่ของเล่นที่ไร้ค่าของท่านเทพ ท่านไม่เคยไว้ใจพวกเราเพียงเพราะพวกเราเกิดมาจากผืนน้ำที่ไม่มีความมั่นคง แค่เพียงเท่านั้น... ข้าอยากรู้นักว่าพวกข้าแตกต่างจากพวกเจ้าตรงไหนกัน พวกข้าไม่ได้เกิดมาจากการปั้นแต่งของท่านเทพอย่างนั้นหรือ พวกข้าไม่ได้เปรียบเสมือนกับลูกของท่านเช่นเดียวกับพวกเจ้าหรอกหรือ ท่านเทพจะเคยรู้บ้างไหมว่าสิ่งที่พวกเราทำไปทั้งหมดนั้นก็เพื่อที่จะแสดงให้ท่านเห็นว่าเราเองก็มีความสามารถที่ควรค่าแก่การอยู่ต่อ พวกข้าไม่มีสิทธิที่จะมีความคิดหรือความรู้สึกบ้างหรือไง!!! ” ลีตะโกนออกมาอย่างอ่อนแรง

    “ไม่ว่ายังไง ข้าก็จะไม่แพ้” ลียิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมก่อนที่จะบันดาลให้เกิดห่าฝนสาดไปยังเหล่าชาวเวทย์ สายฝนเหล่านั้นล้วนแหลมคมดั่งแท่งเหล็กที่ทะลุผ่านตามร่างกายของชาวเวทย์อย่างไม่ปราณี แต่กระนั้นสายฝนเหล่านี้ก็ไม่สามารถจะทำอะไรเคนและกฤษณ์ที่ยังคงอยู่ภายใต้เกราะอันแข็งแกร่งรอบๆตัวได้

    “เปล่าประโยชน์ เจ้าไม่สามารถทำอะไรเราได้มากไปกว่านี้หรอก ยิ่งเจ้าใช้พลังไปกับการต่อสู้มากเท่าไหร่ มันก็เป็นการบั่นทอนชีวิตของเจ้ามากเท่านั้น” กฤษณ์พูดอย่างเย็นชา

    ลีจ้องไปยังเคนด้วยความสงบก่อนที่จะบังคับให้สายฝนเหล่านั้นให้พุ่งเข้าหาเขาอย่างรวดเร็ว สายฝนที่แหลมคมเหล่านั้นพุ่งทะลุผ่านร่างกายของเคนอย่างง่ายดายราวกับว่าเขาไม่มีร่างกายอยู่ตรงนั้น เคนยังคงยืนนิ่งเฉยไม่ขยับเขยื้อน

    ทันใดนั้นเองเคนก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมาท่วมร่างกาย

    จากคุณ : Snow falling up - [ 8 มี.ค. 48 14:44:43 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป