ณ ห้องนอนบนชั้น 2 ของบ้านขนาดกลางหลังหนึ่งมีเตียงขนาดสองฟุตครึ่งหนึ่งหลังซึ่งมี
ผ้าคลุมเตียงสีเขียวเหลืองเป็นลายขวางคลุมไว้ ตั้งหัวเตียงชิดกับผนังห้องสีเขียวอ่อนจนเกือบขาวด้านหนึ่ง
ที่ผนังด้านซ้ายของเตียงมีหน้าต่างติดเหล็กดัดอยู่ 2 บานที่ถูกปิดด้วยผ้าม่านสีเขียวเข้มแบบมีโซ่ถ่วงอยู่ที่
ปรายผ้าปิดสนิทเสียจนบอกไม่ได้ว่าภายนอกเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ตู้เสื้อผ้า 2 ตู้ตั้งติดกับผนัง
ปลายเตียง ตู้ซึ่งทำจากไม้อัดประกบกันเป็นผนัง 3 ด้านและกรอบประตูตู้ส่วนตรงกลางเป็นกระจกฝ้า
ติดเข้าไปจึงสามารถเห็นของข้างในตู้ได้แบบลางๆ ส่วนที่อยู่ถัดออกไปนั้นคือประตูห้องทำจากไม้ลง
แล็กเกอร์
ขณะที่ด้านขวาของเตียงเป็นที่ตั้งเก้าอี้และโต๊ะเขียนหนังสือไม้แบบที่มีชั้นวางหนังสืออยู่ด้านบน
บนชั้นนั้นมีหนังสือวางเรียงกันอยู่หลายขนาด หลายประเภทจนไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเจ้าของห้องนี้
ทำอาชีพเกี่ยวกับอะไร บอกได้แต่เพียงว่าเจ้าของห้องคนนี้มีความสนใจในหลายเรื่อง เพราะมีทั้งหนังสือ
เกี่ยวกับการแพทย์ในเรื่องต่างๆ เป็นต้นว่าการชันสูตรศพ โรคเกี่ยวกับปอด หัวใจ ไต หรือแม้แต่ต่อม
ไร้ท่อหนังสือเรียนภาษาแบบเร่งรัดและพจนานุกรมทั้งเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปนหรือตัวหนังสือ
แบบพินอินของจีน ( พินอินออกเสียงด้วยภาษาจีน แต่เขียนด้วยด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษ มีตัวเลขกำกับ
ระดับเสียงด้านท้าย เช่น Ni3 Hao3 - ผู้เขียน ) คู่มือการถ่ายภาพ คู่มือแนะนำการท่องเที่ยวต่างประเทศ
หนังสือประวัติศาสตร์ของชาติต่างๆ คู่มือแนะนำการขาย คู่มือการทำอาหาร คู่มือนักเขียน นิตยสาร
ตกแต่งบ้านและสวน นิตยสารปืน นิตยสารพระเครื่อง หนังสือเรียนศิลปะการต่อสู่ด้วยตนเอง รวมทั้ง
หนังสืออีกหลายๆ อย่างรวมทั้งหนังสือนิยายทั้งในและต่างประเทศ
ส่วนที่บนโต๊ะเขียนหนังสือ ข้าวของถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ทั้งกองกระดาษ สมุดและ
ซองเอกสารที่ซ้อนกันอยู่ที่มุมโต๊ะด้านขวา และกรอบรูป 2 ชิ้นที่อยู่มุมโต๊ะซ้ายด้านใน รูปหนึ่งเป็น
หญิงสาวอายุราวยี่สิบกว่าๆ นั่งอยู่ในอ้อมกอดของของชายหนุ่มรุ่นราวเดียวกันซึ่งมีฉากหลังเหมือนอยู่ใน
ห้องถ่ายภาพส่วนอีกรูปหนึ่งที่วางอยู่เคียงกันมีชายหญิงอายุราว 60 ปีกับหญิงสาวอายุ 20 กว่าๆ ที่หน้าตา
คล้ายกัน 2 คนโดยที่มีทะเลเป็นฉากหลัง และหนึ่งในสองคนนั้นคือหญิงสาวที่อยู่ในอีกรูปหนึ่ง นี่คงเป็น
รูปครอบครัวและคนรักของเธอ ... เธอผู้ซึ่งน่าจะเป็นเจ้าของห้องนี้
ผนังด้านถัดโต๊ะเขียนหนังสือจะมีประตูไม้สำหรับเปิดออกสู่ระเบียงยาวราวเมตรครึ่งซึ่งถูกปิด
ไว้ด้วยผ้าม่านสีเดียวกันทำให้ทั้งห้องมืดแทบมองอะไรไม่เห็น เสียงก๊อกแก๊กข้างนอกดังขึ้น ประตูไม้
ก็ถูกเปิดออกไปจากภายนอกและผ้าม่านก็ถูกตลบออกโดยใครบางคน ทำให้เห็นทิวทัศน์ภายนอกที่มี
บ้าน 2 ชั้นห่างออกไปไม่ถึง 10 เมตรไม่มีแสงไฟลอดออกมาได้ด้วยแสงจันทร์ แล้วทิวทัศน์นั้นก็หายไป
อย่างรวดเร็วเมื่อประตูปิดกลับเข้ามาดังเดิม
ผู้ที่เข้ามาใหม่ยืนก้มหน้าลงทำอะไรสักอย่างแล้วแสงไฟจากเทียนก็สว่างขึ้น เขาถือเทียนเล่มนั้น
ไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ หยดน้ำตาเทียนลงบนโต๊ะใกล้ซองเอกสารสีน้ำตาลเพื่อจะปักเทียน เปลวเทียนที่
สว่างทำให้เห็นคำว่า ต้นฉบับ ที่เขียนด้วยลายมือที่สวยงามและอ่านง่ายบนซองเอกสารนั้น จากนั้น
เขาจุดเทียนที่เตรียมมาอีกหลายเล่ม นำไปวางไว้ให้ทั่วห้อง ทำให้ห้องสว่างไสวขึ้นมาทันทีและนั้นทำให้
มองเห็นผู้มาใหม่คนนี้ได้อย่างชัดเจนขึ้นอีกด้วย
คนผู้นี้แต่งกายด้วยกางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้มที่เก่าและมีรอยขาดเป็นรูหลายที่ เสื้อยืดแขนสั้น
สีขาวขะมุกขะมอมและเท้าที่ปราศจากสิ่งห่อหุ้ม นอกจากนั้นที่ครอบทั้งหัวของเขาคือหมวกไหมพรมสีดำ
เจาะรูที่บริเวณตาและจมูก และยามใบเก่าคร่ำคราสีตุ่นอีกใบ
วันนี้โชคดีจริงโว้ย จะมาขโมยของบ้านนี้ ไฟก็ยังดับให้ซะอีกด้วย ... แต่จะมีผีไหมวะ รีบหา
แล้วรีบแผ่นดีกว่าวะ เขาคิดอย่างหวาดเสียวแล้วมองไปรอบห้อง
เมื่อวานนี้เขาเห็นหนังสือพิมพ์ที่มีข่าวลงเกี่ยวกับคนบ้านนี้ หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งพาดหัวข่าว
อุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วยตัวหนังสือที่ใหญ่ที่สุด มีภาพรถยนต์ที่มีสภาพถูกชนยับเยิน บางส่วนของภาพ
นั้นถูกทำให้เบลอเพื่อผิดภาพที่ไม่น่าดูของศพผู้ที่อยู่ในรถ ที่มุมด้านซ้ายบนของภาพมีรูปหญิงสาวซึ่งเป็น
ใบหน้าเดียวกันกับผู้ที่อยู่ในรูปที่ตั้งไว้บนโต๊ะพร้อมกับลงรายละเอียด
เมื่อแรกเห็นรูปเขาไม่แน่ใจนักหรอกว่าใช่คนเดียวกัน เพราะใบหน้าจากรูปที่มุมภาพนั้นไม่ค่อย
เหมือนตัวจริงสักเท่าไร คงจะเป็นเพราะภาพถ่ายจากบัตรประชาชนหรือไม่เช่นนั้นคงจะมาจากใบขับขี่
หากเมื่อเขาพลิกหน้ากระดาษมาอ่านรายละเอียดด้านในก็พบว่าที่อยู่นี้เป็นที่อยู่เดียวกับผู้หญิงคนที่เขา
เห็นเธอเดินผ่านหน้าบ้านที่เขามารับจ้างเป็นช่างปูนบ่อยๆ
ถ้าตายวันนี้ ก็ต้องมีงานสวดล่ะวะ บ้านก็ดูท่าจะไม่จนเท่าคงจะสวดหลายคืน พรุ่งลองเข้าไป
ดูดีกว่า เขาวางแผนอยู่ในใจ
เขาลงมือค้นห้องโดยเริ่มจากตู้เสื้อผ้าแต่ไม่พบของมาค่าอะไรมากไปกว่าสร้อยทอง 1 เส้นและ
ต่างหูทอง 1 คู่ จากนั้นจึงเดินหลับไปค้นที่ลิ้นชักที่โต๊ะเขียนหนังสือซึ่งไม่มีของอะไรเลยนอกจาก
อุปกรณ์เครื่องเขียนและสมุดบันทึก 3 เล่มที่จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
อะไรวะ ไม่ซื้ออะไรเก็บไว้มั่งเลยหรือไงวะ เขาทุบโต๊ะโดยแรงอย่างไม่กลัวชาวบ้านจะได้ยิน
ทำให้เทียนที่ถูกปักไว้อย่างลวกๆ ต้องล้มลงด้วยแรงสั่นสะเทือน
เปลวไฟจากเทียนแตะลงสู่ซองเกสารสีน้ำตาลที่วางอยู่บนสุดของกอง แล้วเริ่มลามกัดกิน
เนื้อกระดาษหนาทีละเล็กละน้อยจนมากขึ้นเรื่อยๆ หัวขโมยผู้นั้นพยายามที่จะดับไฟแต่กลับกลายเป็นว่า
มันยิ่งลามเร็วขึ้น ทำให้ต้องทิ้งมันลงกับพื้นอย่างทำอะไรไม่ถูก
ขณะที่เขากำลังสับสนทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีไฟลุกพรึบขึ้นที่มุมห้องด้านหัวเตียงแล้วลาม
ขึ้นบนผ้าม่านและผ้าคลุมเตียง เปลวไฟนั้นลามเร็วเท่าๆ กับที่ลามอยู่บนซองเอกสารทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่ใกล้
กับซองนั่นเลย ทันทีที่เขาเหลือบไปเห็นมันเข้า ความตกใจ ความกลัว ความหวั่นเกรงก็เข้ามารุมเขา
ผะ ผะ ผะ ผิ ผิ ผิ ผี!! เขาพูดติดๆ ขัดๆ อย่างตกใจสุดขีด ทิ้งทุกอย่างที่ถือไว้ลงกับพื้น แล้วรีบ
วิ่งแจ้นไปทางที่ขึ้นมา ปัดผ้าม่านออกไปให้พ้นทาง ผลักประตูออก กระโดดลงจากระเบียงชั้น 2 อย่าง
ไม่กลัวบาดเจ็บแล้วรีบปีนรั้วบ้านหนีออกไป
เมื่อเขาเห็นว่าวิ่งมาไกลพอสมควรแล้วจึงหยุดยืนหอบหายใจด้วยความเหน็ดเหนื่อยแล้วหัน
กลับไปดู หากภาพที่เห็นยิ่งทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าเดิม เขาเห็นไฟกำลังไฟไหม้บ้านหลายหลัง รวมทั้ง
ต้นไม้และถนนราวกับอยู่ในกองเพลิงกัลป์ ( เพลิงกัลป์คือไฟบรรลัยที่ล้างโลก - ผู้เขียน ) แล้วไฟก็ลาม
ขึ้นมาติดบนเสื้อผ้าเขา เขาพยายามปัดมันออก เมื่อไม่สำเร็จ เขาก็ถอดมันทิ้งพลางวิ่งหนีต่อไป ... เขาคง
ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำมันเปล่าประโยชน์ เพราะไฟมันลุกขึ้นมาบนตัวเขา
ร้อนๆๆ ช่วยด้วยๆๆ เขาครางเสียงดังด้วยความเจ็บปวดแล้วกลิ้งตัวไปมาบนพื้น แต่ดูเหมือน
จะไม่มีใครได้ยินเสียงเขา
เปลวไฟท่วมไปทุกหนทุกแห่ง ไม่มีที่ไหนหรือสิ่งใดเลยเลยที่ไม่มีเปลวไฟสีส้มแดงสดสวย
ครอบอยู่ แล้วจู่ๆสิ่งเหล่านั้นก็หลายวับไปทันที ทั้งบ้าน ถนน ต้นไม้ สิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมทั้ง
หัวขโมยผู้นี้ ไม่มีอะไรเหลือนอกจากความว่างเปล่า เมื่อซองเอกสารที่นอนอยู่กลางพื้นห้องไหม้ไฟ
จนหมดเหลือเพียงเศษขี้เถ้าที่กองอยู่ ... เท่านั้น
จากคุณ :
i_tua_yung
- [
10 มี.ค. 48 15:47:18
]