ศึกเทพอสูรมหาสงคราม
ตอนที่ ๓๕ พลังพิสดาร เทวะแผลงฤทธิ์
นิลสาร ไม่รอให้ พิณตะลาสูร ตั้งหลักได้ ชิงเป็นฝ่ายบุกก่อนเป็นคนแรก
บาทาวานรแปดทิศ สามทิศไร้เหลี่ยม
ลูกเตะของ นิลสาร เล็งเป้าหมายทั่วร่าง เตะสลับออกเป็นรูปสี่เหลี่ยมบ้าง สามเหลี่ยมบ้าง ดูแปลกตาแต่แฝงความรุนแรงไว้ทุกจุด
บ้าชะมัด ทำไมข้าถึงดูกระบวนท่าล่วงหน้าของมันไม่ออก
พิณตะลาสูร ไม่อาจรั้งรอได้นานจึงคิดใช้รุกสู้รุก
เอาของหลอกเด็กนี้ไปใช้ในนรกเถอะ
กรงเล็บอสูรแปรปรวน ท่าที่ ๒ วสันต์กระหน่ำโถม สู้ บาทาวานรแปดทิศ สามทิศไร้เหลี่ยม พลังจากกรงเล็บสาดเหมือนลมฝนเข้าหา นิลสาร สกัดกระบวนท่าเตะเอาไว้ได้
นึกไม่ถึงเลยว่าไอ้บ้านี้จะฝีมือร้ายกาจขึ้นขนาดนี้ อนันตวาโย เคยเจอกับกระบวนท่านี้มาก่อน คิดไม่ถึงว่าจากกันไม่นานฝีมือของ พิณตะลาสูร จะก้าวหน้าขึ้นมาก แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมั่นใจว่า นิลสาร ยังคงได้เปรียบกว่า
ย๊ากกกกกกก นิลสารร้องลั่น เร่งพลังใกล้ถึงขีดสุด
บาทาวานรแปดทิศ เจ็ดทิศระกำ กระบวนท่าเตะเปลี่ยนแปลงจากเดิมเตะสลับไขว้ไปมาทั้งหน้าและหลัง ฝ่าย พิณตะลาสูร มั่วแต่ปิดป้องและระวังไม่ทันได้นึกถึงอีกกระบวนที่จะตามมา
แปดทิศชอกช้ำฤดี กระบวนเตะที่รุนแรงที่สุดใน บาทาวานรแปดทิศ ถูกใช้ออกมาแล้ว เงาเท้าจำนวนนับไม่ถ้วนประเคนคลุมทั่วร่างของอสูรร้าย พิณตะลาสูร เหมือนกับโดนค้อนขนาดใหญ่ฟาดเข้าเต็มแรงพริบตาเดียว ถูกเตะไม่ต่ำกว่า ๒๓๐๐ เท้าในเวลาเดียวกัน
อ๊ากกกกๆๆๆ พิณตะลาสูร ส่งเสียงร้องอย่างโหยหวน เขาเจ็ดปวดเกินกว่าที่จะบรรยายได้ นิลสาร เองก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเวลา ชักอาวุธออกจากหน้าอกของตัวเอง เป็นพระขรรค์ยาว สองเล่ม ปักแทงถูก พิณตะลาสูร จนมิดด้าม
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก เสียงร้องของ พิณตะลาสูร ทั้งดังและไม่ขาดตอน ส่งผลให้ บาลมารอสูร ต้องหันมาเหลียวมอง
พิณตะลาสูร!!!!!!!!!!! ภาพที่ บาลมารอสูร เห็นก็คือ พิณตะลาสูร นั้นพลาดท่าให้กับ นิลสาร ถูกพระขรรค์ แทงจนทะลุถึงหลัง เลือดไหลนองเต็มพื้น ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายแล้ว ส่วน รังมานุ อาศัยจังหวะที่ บาลมารอสูร ตกตะลึงเสียสมาธิ สลัดหลุดออกจาก โซ่อสูรสังหาร ทั้งสองได้
ปีหน้าของวันนี้จะวันครบวันตายของเจ้า นิลสาร เร่งพลังเข้าที่อาวุธของตัวเองหมายระเบิดร่างที่อยู่ตรงหน้าให้สิ้น แต่ทว่า
..
..
ข้าไม่ยอมตายคนเดียวหรอกน่า พิณตะลาสูร ใช้สองมือตะปบเข้าที่อกของ นิลสาร สุดแรง ความเจ็ดปวดแล่นเข้ามาในทันที กรงเล็บทั้งสองข้างเปล่งพลังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอานุภาพรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
กรงเล็บอสูรแปรปรวน ๘ ท่ารวมหนึ่ง สมิงทรลักษณ์ม้วนปัญจคีรี
ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมม เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ภูเขาทั้งลูกเหมือนจะทลายลง เศษไม้ เศษดิน และเศษหญ้า ปลิวว่อน บ่งบอกถึงอานุภาพการระเบิดที่รุนแรง
นิลสาร!!!!! รังมานุ ร้องสุดเสียง พยายามฝ่าดงพายุฝุ่นเข้าไปหาแต่มิอาจทำได้
ภายในพายุฝุ่นทั้งหมดมองเห็นภาพของใครสองคนลอยละลิ่วกระเด็นปลิวออกมาคนละทิศ ก่อนกระเด็นกระแทกถูกกิ่งไม้หักลงสามสี่อันและร่วงหล่นลงสู่พื้น พอมองออกว่าใครเป็นใครต่างฝ่ายต่างรีบเข้าไปประคองพวกพ้องของตน
เจ้าเป็นไงบ้างนิลสาร? รังมานุ ละลักถามด้วยความเป็นห่วงตอนนี้ทั่วร่างของ นิลสาร เต็มไปด้วยบาดแผล
อัคคค นิลสาร อ้วกเลือดออกมาคำโต
ข้า
ประมาทไปหน่อย
ไม่คิดว่ามันจะมีแบบตายแบบนี้อยู่ด้วย นิลสาร พยายามฝืนความเจ็ดปวดพูดออกมา
.ข้า
ข้า
.ขอโทษ
.พวกเจ้า
ในที่สุดเขาก็ทนความเจ็ดปวดไม่ไหว สลบไป
นิลสารๆๆ อนันตวาโย เขย่าตัว นิลสารไปมา อาการของเขาน่าเป็นห่วงจริงๆ แต่ใช่ว่า ทาง พิณตะลาสูร จะดีกว่าพวกเขามากนัก
พิณตะลาสูร เจ้าไหวหรือเปล่า? บาลมารอสูร ประคอง พิณตะลาสูร ขึ้นมาและสำรวจดูร่างกายพบว่ามีบาดแผลอยู่หลายแห่งแต่ที่ดูจะหนักหนาที่สุดก็คือ บาดแผลจากคมอาวุธที่ปักฝังลึก ส่วน พิณตะลาสูร เองก็พยายามกัดฟันพูดอย่างยากลำบาก
เอามันออกไปที บาลมารอสูร พยายามถอนพระขรรค์ทั้งสองด้ามที่ปักอยู่บนตัวของ พิณตะลาสูร ออก อาวุธทั้งสองค่อยๆ ถูกถอนออกทีละนิดท่ามกลางเสียงร้องอย่างเจ็ดปวดของ พิณตะลาสูร
อ๊ากกกกกกกก
เคร้งงงงง เสียงคมอาวุธ สองอันกระทบกันหลังตกถึงพื้น
สุดท้าย บาลมารอสูร ก็ถอนอาวุธที่ปักอยู่บนตัวของ พิณตะลาสูร สำเร็จ
เจ็บใจชะมัด ข้า
กะใช้ท่านี้จัดการกับเจ้านั่นแท้ๆ
ดันเอาออกมาใช้กับไอ้บ้านี้แทน
ถึงแม้ว่า นิลสาร และ พิณตะลาสูร ต่างฝ่ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ทหารของทั้งสองฝ่าย ยังคงสู้รับกันต่อไป จะมีก็แต่ รังมานุ อนันตวาโย และ บาลมารอสูร เท่านั้นที่ยังคงตั้งท่าหยั่งเชิงกันอยู่
อนันตวาโย เจ้าพา นิลสาร ออกไปก่อน ข้าจะจัดการกับมันเอง รังมานุ คิดขยับหมายสังหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้าเพื่อแก้แค้นให้กับ นิลสาร
ได้
อนันตวาโย รีบพยุงร่างของ นิลสาร ขึ้นมา ส่วน รังมานุ ก้าวเดินเข้าหาศัตรู เพื่อหมายชำระหนี้แค้นให้กับเพื่อนรัก บาลมารอสูร ไม่กล้าประมาท บังคับโซ่อสูรสังหาร เตรียมจู่โจมอีกฝ่ายเช่นกัน หากเข้ามาในรัศมี ๒๐ ก้าว ต่างฝ่ายต่างจ้องมองหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย จนกระทั่ง
ตูมมมมมมมมมม อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
คลื่นพลังลูกโตพุ่งมาจากทางด้านหลังของกองทัพผสมนครเตมินทร์ กวาดเหล่าทหารและวานรล้มตายลงหลายร้อย และแทบจะทันทีทันใดนั้น ทหารอสูรจำนวนอีกนับแสนก็กรูกันเข้ามาสู้รบและโอบล้อม ในเวลานี้ ทั้งวานรและทหารจากนครเตมินทร์ อยู่ภายใต้การโอบล้อมของเหล่าอสูรทุกด้าน
นี้มันเรื่องอะไรกัน!!!
อนันตวาโย ตกใจยิ่งนัก เขาไม่คิดมาก่อนว่า ภายในนครเตมินทร์ จะมีเหล่าอสูร หลบซ่อนมากมายขนาดนี้ แม้เวลานี้อยากจะพา นิลสาร ออกไปก็ทำไม่ได้แล้ว
หึๆๆๆๆ บาลมารอสูร หัวเราะอยู่ในลำคอ แผนการที่พวกเขาวางไว้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่า พิณตะลาสูร จะบาดเจ็บสาหัสก็ตาม แต่ก็นับว่าคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม
พวกมันมาได้อย่างไร? รังมานุ รู้สึกตึงเครียด ในเวลานี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มองเห็นแต่เหล่าอสูรล้อมพวกเขาไว้ทุกด้าน
เหล่าอสูรที่ล้อมพวกเขาไว้ ค่อยๆ หลีกทางให้ใครคนหนึ่งซึ่งอยู่ทางด้านหลัง เดินขึ้นมาข้างหน้า คนๆนั้นเป็นหญิงสาวน่าตาดี อยู่ในชุดทำศึกสีดำ นางก็คือ
ขุนพลหญิงเทวิณา ๑ ใน ๓ ขุนพลมารของกองทัพประตูสวรรค์
เทวิณา เจ้าทำได้ดีมาก บาลมารอสูร กล่าว
เทวิณา ยิ้มรับเล็กน้อยเมื่อได้รับคำชม
พวกเจ้าบุกเข้ามาภายในนครเตมินทร์ได้อย่างไร? อนันตวาโย พยายามถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งพยายามคิดหาหนทางรอด
ถ้าอยากรู้จริงๆ ข้าจะบอกให้ก็ได้
นางยิ้มเยือกเย็นดวงตาเป็นประกาย
ก็ทางแม่น้ำยังไงล่ะ
พอได้ฟังคำตอบ อนันตวาโย ก็สวนกลับในทันที
โกหก ถึงทางแม่น้ำ เป็นเส้นทางสายหลักที่มุงสู่นครเตมินทร์และใช้เคลื่อนทัพได้ก็จริง แต่กองกำลังของพวกข้าตั้งรับอยู่นั้นต่อให้เจ้าเก่งแค่ไหนก็ยังต้องเสียเวลาไม่ต่ำกว่า ๑ วันถึงจะฝ่าเข้าไปได้ อีกอย่างพวกข้าก็ยังไม่เคยได้รับรายงานด้วยว่า มีกองกำลังอสูรกลุ่มไหนบุกเข้าประชิดค่ายตั้งรับที่ริมแม่น้ำเลย ยังจะมาโกหกพวกข้าได้หน้าด้านๆอีก
คิกๆๆ ฮะๆๆๆ เทวิณา หัวเราะออกมาเสียงดัง นางรู้สึกขบขันความคิดของหนุ่มรูปงามที่ช่างดูตื้นเขินเสียจริง
หน้าตาเจ้าก็ดี ไม่น่าโง่ ถึงขนาดนี้ ข้าแค่บอกว่าบุกมาทางแม่น้ำ แต่ไม่ได้บอกว่าจะฝ่าเข้ามานี้น่า
ไม่บุกฝ่าด่านเข้ามา แล้วนางใช้วิธีไหนถึงพากำลังทหารอสูรนับแสนเข้ามาได้?
จะบอกข้าว่าเหาะข้ามมาทั้งกองทัพหรือไง ไม่ตลกไปหน่อยหรือ?
หากทำเช่นนั้น มีหรือ เทพพิทักษ์นครเตมินทร์ จะปล่อยให้นางเข้ามาได้ถึงขนาดนี้
ไม่ใช่เหาะข้ามมาแต่มาแบบนี้ต่างหากล่ะ เทวิณา ยิ้มยั่วก่อนเอานิ้วชี้ลงบนพื้นดิน
อนันตวาโย และ รังมานุ แทบไม่อยากจะเชื่อ
นี้พวกเจ้า
.
จากคุณ :
อำนาจ
- [
11 มี.ค. 48 12:17:07
A:192.168.1.115 X:61.19.33.6
]