CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    เจ้าชายหิมะ ตอนที่ 13

    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3299704/W3299704.html

    ตอนที่แล้ว

    ============  

    ลมริมแม่น้ำปะทะจนเสื้อผ้าเก่า ๆ สกปรกมอมแมมของเธอลู่ติดกาย  หญิงสาวยืนมองฟ้ากว้างด้วยสายตาเลื่อนลอย   เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวันหลายคืน  ร่างกายซูบผอมลงไปมาก   หน้าตาซีดเซียว  หมองคล้ำและเต็มไปด้วยความทุกข์ระทมแสนสาหัส   แววตาเศร้าหมองนั้นมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ตลอดเวลา  ดวงตาแดงช้ำและบวมเปล่ง  ผมเผ้ารุงรังที่ไม่ได้รับความใส่ใจ  ความเสียใจที่เธอได้รับจากการสูญเสียสามีที่แสนดีและลูกสาวตัวน้อย  ทำให้เธอไม่อาจทำใจยอมรับได้เลย  พยายามเที่ยวตามหา   แต่ไม่ว่าจะหาอย่างไร  ก็หาไม่พบ  เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งให้ต้องจากกันชั่วนิรันดร์

    ดวงตาเศร้า ๆ  มองกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากตรงหน้า  สายน้ำที่พัดพรากสามีและลูกสาวของเธอจากไป  จากไปอย่างไม่มีวันกลับ

    “รอด้วยนะ…ข้าจะตามไปเดี๋ยวนี้…”  เธอยกมือขึ้นป้ายน้ำตาข้างแก้มเป็นครั้งสุดท้าย

    “เราจะได้อยู่ด้วยกันอีก  ข้ายังไม่มีโอกาสตอบแทนความดีของท่านที่มีต่อข้ามาตลอดเลย  รอข้านะ”   จบประโยคนั้นเธอกำลังจะกระโดดลงแม่น้ำแห่งความพลัดพราก   แต่ทว่ามีมือน้อย ๆ  มาจับแขนของเธอไว้

    “ท่านทำอะไรอยู่หรอ”  เสียงเล็ก ๆ  ของเด็กชายถามขึ้น  พร้อมแววตาฉงนเต็มที่

    เธอหันมามอง  เห็นเด็กชายหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูยืนเอียงคอมองอยู่อย่างสงสัย

    “ท่านเห็นกระรอกน้อยวิ่งผ่านมาทางนี้บ้างหรือเปล่า”  แววตาสดใสของเด็กชายตัวน้อยจ้องมองเธอ

    “ตัวประมาณขนาดนี้นะ  สีน้ำตาล  ขนฟู ๆ”  เด็กชายอธิบายเสียงเจื้อยแจ้ว  พร้อมทำท่าทำทางประกอบ

    “ข้าตามหามันมาหลายวันแล้วล่ะ ท่านเห็นบ้างมั้ย”  

    เธอมองเจ้าหนูด้วยความงุนงง

    “ท่านว่างมั้ย  ช่วยข้าตามหากระรอกน้อยหน่อย  นะ นะ”  ฝ่ายถูกถามยังไม่ทันตอบอะไรเลย  แต่ถูกสองมือเล็กลากไปซะแล้ว

    “ข้าเป็นห่วงมันมากเลย  มันไม่สบายอยู่ด้วยนะ”

    “ข้าจะลงไปหาในแม่น้ำให้นะ”    เธอรั้งมือเด็กชายไว้  แล้วเดินกลับไปหาแม่น้ำ

    “ไม่เอา  กระรอกไม่ลงไปทำอะไรในแม่น้ำหรอก   ไปหาทางโน้นเถอะ”  เจ้าหนูดึงมือของเธอเดินเข้าไปในป่า

    “ท่านหิวมั้ย  ทานผลไม้ก่อนนะ”  เด็กชายหยิบผลไม้ลูกสีส้มออกมาจากกระเป๋าผ้าแล้วยื่นส่งให้  เดินไปตลอดทางก็ถามโน่นถามนี่ไปเรื่อย

    “ท่านเล่นเป็นเพื่อนข้าได้มั้ย  ไม่มีใครเล่นกับข้าเลย”  เด็ก ๆ วัยเดียวกันกับเขามีแต่พวกชอบเล่นชกต่อยกันรุนแรง  เขาไม่เคยรู้สึกชอบการเล่นแบบนั้นเลย

    “ข้าแก่แล้ว  เล่นไม่ไหวหรอก”  เธอปฏิเสธ

    “ไม่แก่หรอก  ข้าว่าถ้าท่านดูแลตัวเองดีดี  ท่านต้องสวยมาก ๆ นะ”  เด็กชายหันมาพิจารณาใบหน้าหมอง ๆ ของคนข้าง ๆ

    “ที่สำคัญท่านอย่าทำหน้าแก่   ทำหน้าใหม่เร็วเข้า”

    เธออดหัวเราะออกมาไม่ได้ในคำพูดคำจาของเด็กน้อย

    “ทำยังไงให้ไม่แก่ได้ล่ะ”  

    “ทำตามข้านะ”  เด็กชายฉีกยิ้มเต็มที่  จนตาหยี

    หญิงสาวยิ้มออกเป็นครั้งแรก  ความอ่อนโยน  ความสดใสน่ารักของเด็กชายตัวน้อยทำให้เธอรู้สึกดี  เหมือนมีกำลังใจขึ้นมาอย่างประหลาด  ว่าเธอต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปและไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา

    “เรามาเล่นหาสมุนไพรกันนะ”  เธอเริ่มนึกสนุกขึ้นมาบ้างแล้ว  อยากใช้ความรู้ที่พอมีอยู่ให้เป็นประโยชน์

    หลังจากนั้นชีวิตที่เงียบเหงาและหมดหวังของเธอ  ก็มีเด็กชายตัวน้อยมาสร้างความป่วนความร่าเริงและมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง  เธอได้เรียนรู้ว่า  ในโลกนี้มีสิ่งมากมายที่ต้องทำ  เธอควรมีความรักให้กับทุกสิ่งที่พบเจอไม่จำกัดว่าต้องเป็นคนที่เธอรักเท่านั้น

    มายน่ารี่จ้องมองบุตรชายของหัวหน้าโจรใหญ่  ความทรงจำดีดีเกี่ยวกับตัวเขายังฉายชัดในความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนได้เลย  บัดนี้เด็กชายตัวน้อย ๆ แสนซนที่เธอเคยเจอในวันนั้นเติบใหญ่เป็นหนุ่มหล่อ  และเต็มไปด้วยจิตใจอันงดงาม  หากวันนั้นเด็กชายตัวน้อยไม่บังเอิญมาเจอกัน  ชีวิตของเธอคงดิ่งลงแม่น้ำอย่างที่ตั้งใจอำลาจากโลกนี้ไปตั้งนานแล้ว  เพราะความน่ารักร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสน่าเอ็นดูของเด็กชายตัวน้อยในวันนั้น  ทำให้เธอมีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

    หญิงมีอายุรู้สึกใจหาย   ถึงเวลาที่ต้องจากกันแล้ว  แม้ในใจจะไม่อยากให้จากไปเลย  แต่ก็รู้ดีว่าทั้งสองต้องไป   ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสได้พบกันอีก  หรืออาจเป็นการจากกันตลอดชีวิต

    “ท่านต้องดูแลตัวเองให้มาก ๆ นะ”  ซีนิธบอกหญิงมีอายุด้วยความห่วงใย

    มายนารี่พยักหน้าช้า ๆ  สีหน้าเต็มไปด้วยความอาลัยอาวร  

    “เจ้าก็เหมือนกันนะ  ซีนิธ”  มืออันหยาบกร้านของวัยที่ล่วงเลยสัมผัสแก้มเด็กหนุ่มเบา ๆ ด้วยความรักใคร่  น้ำตาอุ่น ๆ รื้นขึ้นมาคลอดวงตาสีหม่นของเธอไว้

    บุตรชายคนเดียวของหัวหน้าโจรฝ่ายขวาโน้มตัวลงสวมกอดร่างบางของหญิงมีอายุเอาไว้

    “ข้ารักท่านนะ  รักท่านเหมือนญาติของข้าคนหนึ่ง  ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านคอยเมตตาพร่ำสอน  เอ็นดูข้ามาตลอด”

    “ข้าก็รักเจ้า..ซีนิธ”  น้ำตาที่คลออยู่นานแล้วร่วงผล็อยอาบสองแก้ม  

    “เจ้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ  อย่าใช้แต่อารมณ์รู้มั้ย”

    ซีนิธพยักหน้ารับ  พลางเช็ดน้ำตาข้างแก้มของหญิงมีอายุอย่างเบามือ

    หญิงมีอายุเดินเข้าไปจับมือเด็กสาวไว้แน่น  เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน  ก็ต้องจากกันอีกแล้ว  อดรู้สึกใจหายไม่ได้  มีความจริงบางอย่างที่อยากจะบอกเธอ  แต่กลับไม่กล้าบอกให้เด็กสาวรับรู้

    “ข้าขออวยพรให้เจ้าเดินทางปลอดภัยนะ”

    “ขอบคุณค่ะ  ถ้ายังไม่ตายคงมีโอกาสได้พบกันอีกนะคะ”  เด็กสาวโผเข้าไปกอด  อ้อมกอดของหญิงมีอายุคนนี้ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและคิดถึงพ่อแม่ที่ต้องตายจากไปด้วยน้ำมือของโจรชั่ว

    “ไปกันได้แล้วนะ”  มายน่ารี่ตัดใจรีบบอกให้ทั้งคู่ออกเดินทาง  และยืนส่งทั้งสองเดินจากไปจนลับตา

    ===============  

    สายน้ำไหลเอื่อย ๆ  เรื่อยริน  ไปตามลำธาร  ระดับน้ำไม่ลึก  มีความสูงแค่ระดับหน้าแข้งเท่านั้น   น้ำใสจนมองเห็นหินใหญ่น้อยด้านล่าง  หรือแม้แต่ตะใคร่น้ำ  ปลาน้อยตัวจิ๋วกำลังว่ายทวนน้ำอยู่ด้วยความเพียรพยายาม   ใบไม้  ดอกไม้ที่ล่วงหล่นจากต้น  ล่องลอยไปตามลำน้ำ  บรรยากาศยามบ่ายคล้อยไม่ร้อนจนเกินไปนัก  เพราะได้ร่มไม้จากป่าสองข้างทาง  และไอความเย็นของลำธารใส  ซีนิธเลือกเดินทางด้วยการลัดเลาะไปตามลำธาร  เพื่อให้รอดพ้นปลอดภัยจากสมุนโจรที่ตอนนี้คงออกตรวจตราอย่างเข้มงวด

    แดนเทียน์มองหมอหนุ่มที่เอาแต่ลุยน้ำเดินนำลิ่ว ๆ อยู่เบื้องหน้าโดยไม่หันมามอง  หรือสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย  ตั้งแต่ออกเดินทางมา  เขายังไม่พูดกับเธอซักคำ   เดินมานานจนรู้สึกทั้งเหนื่อยทั้งอ่อนเพลีย  ยิ่งเขาทำไม่สนใจใยดีอย่างนี้  ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระให้เขาเสียเหลือเกิน  คิดในใจว่าเขาคงโกรธที่โดนเธอตบหน้า แถมต่อว่าต่อขานเขามากมาย  เธอเพิ่งคิดออกว่าถ้าเขาไม่ทำอย่างนั้นเพื่อให้พลังชีวิตกับเธอ  เธอคงจะตายไปนานแล้ว  อดนึกถึงริมฝีปากอุ่น ๆ ของเขาไม่ได้  ที่สัมผัสแตะริมฝีปากของเธอตอนให้พลังชีวิตเท่านั้นเอง  ไม่มีอะไรมากกว่านั้น   เขาไม่ได้ล่วงเกินเธอกว่าที่ควรจะทำเลยแม้แต่นิดเดียว   สาวน้อยพยายามลำดับความคิด  และทบทวนสาเหตุของการกระทำของชายหนุ่ม

    หญิงสาวหยุดพักเหนื่อยนั่งบนก้อนหินใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างลำธาร  โดยไม่ได้ขออนุญาตคนที่เดินนำหน้าไปก่อนแล้ว  มองสายน้ำที่ไหลไป  เสียงน้ำเพราะเหมือนเสียงดนตรี   ปลาตัวน้อยยังคงแหวกว่ายทวนกระแสน้ำอยู่   ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวสมอง  เธอไม่อยากอยู่ใต้การดูแลของเขาอีกต่อไปแล้ว  เธอเองก็เติบโตมากับป่าเหมือนกัน  ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเขาเลย   แต่ยังคิดไม่ถึงไหน  เสียงห้วน ๆ  ก็ดังขึ้นข้างตัว

    “เจ้าหยุดเดินทำไม  แล้วทำไมไม่บอกข้าก่อน”

    “ก็เจ้าเล่นเดินลิ่ว ๆ ไปอย่างนั้น  คิดว่ามีข้าเดินมากับเจ้าอยู่หรือเปล่า”  เด็กสาวเถียงเสียงแข็ง  ความรู้สึกผิดเมื่อครู่วิ่งหนีหายกระเจิดกระเจิงไปหมดสิ้น  เมื่อได้ยินเสียงเกรี้ยวกราดจากชายหนุ่ม

    “ออกเดินทางต่อได้แล้ว  อย่ามัวนั่งโอ้เอ้  ไม่ได้ให้มานั่งชมนกชมไม้นะ  หรือว่าอยากโดนท่านริกเกอร์จับตัวไปดูดพลังอีก”  พูดจบคนพูดก็เดินนำหน้าไปทันที  ทิ้งให้เด็กสาวต้องรีบลุกขึ้นกระวีกระวาดเดินตามไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง

    เสียงน้ำแตกกระจายอย่างดัง   ทำให้ชายหนุ่มที่เดินนำหน้าต้องหันไปมองคนที่เดินตามหลัง   เห็นเธอหกล้มคะมำอยู่ในน้ำ  เข่าคงกระแทกกับหินใต้น้ำ  สีหน้านั้นบ่งบอกว่าคงเจ็บไม่น้อยเลย  ซีนิธเดินเข้าไปหา  พลางส่งมือให้เธอจับเพื่อพยุงตัวเอง   แต่กลับเจอค้อนวงใหญ่จากสายตาสาวน้อยแทน  แดนเทียน์พยายามลุกขึ้นด้วยตัวเองอย่างรวดเร็วปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา  ด้วยอาการประชดประชัน   ทำให้ขาดการระมัดระวังเท่าที่ควร  จึงเซลื่นหงายหลัง  ชายหนุ่มรีบเข้าไปประคองไว้ได้ทันก่อนที่สาวเจ้าอารมณ์จะลงไปก้นกระแทกหินเปียกโชกอีกครั้ง

    “ไม่ต้องเรียกร้องความสนใจจากข้าด้วยวิธีนี้ก็ได้น่า…”  ซีนิธยิ้มแกล้งยั่วโมโห   มองหญิงสาวซึ่งหงายหลังอยู่ในวงแขน  ก่อนประคองเธอให้ยืนตามปกติ

    “บ้า!!  หยุดพูดจาบ้า ๆ นะ”  เสียงเขียวอารมณ์เสียแว้ดใส่เขาทันที  สองมือรีบผละออกจากกายหนุ่มขี้แกล้ง  แต่ถูกเขารั้งตัวไว้ในอ้อมแขน

    “สงบสติอารมณ์ซะก่อน  แล้วข้าจะปล่อยเจ้า  ขืนปล่อยตอนนี้  เดี๋ยวก็ได้ลงไปแช่น้ำอีกหรอก”

    แดนเทียน์กัดริมฝีปากแน่น  จ้องเขาด้วยสายตาโกรธขึง  ทำอะไรเขาไม่ได้สักอย่าง  

    ตั้งแต่เธอฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง   หมอหนุ่มแห่งค่ายริกเกอร์เพิ่งมีโอกาสพิจารณาใบหน้าของหญิงสาวเต็มตาในระยะใกล้วันนี้เอง  ผิวพรรณผ่องใส  มีน้ำมีนวลกว่าที่เคยพบเธอในตอนแรก  ใบหน้าใสสะอาดขาวหมดจดสดใส  ดวงตากลม ๆ คู่นั้นแฝงความดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยวอยู่ข้างในเป็นประกายแห่งความมีชีวิต  

    “ปล่อยข้าได้รึยัง!”  

    แดนเทียน์พยายามพูดเสียงอ่อนลง  เริ่มเรียนรู้ว่า  การใช้อารมณ์มีแต่ผลเสีย  ที่สำคัญอีกฝ่ายนิ่งจ้องเอา ๆ  จนรู้สึกหน้าชาอย่างบอกไม่ถูก  เป็นครั้งแรกที่ต้องสู้สายตาคม ๆ คู่นั้นใกล้ขนาดนี้   ได้แต่ยืนตัวลีบอยู่ในอ้อมแขนของคนหนุ่ม    ตั้งแต่เขาได้รับถ่ายเทพลังชีวิต  ใบหน้าของเขากลับดูหนุ่มขึ้น  และหล่อเหลากว่าเดิม  เนื่องจากพลังชีวิตที่เธอและเขาได้รับจากท่านริกเกอร์นั้น  มีพลังชีวิตจากหญิงสาวบริสุทธิ์มากมายที่ต้องสังเวยชีวิตในพิธีเซค์รวมอยู่ด้วย   พลังชีวิตเมื่อถูกถ่ายเทอยู่ในร่างกายของผู้ใด  จะเกิดการหลอมรวมกับพลังชีวิตเดิมของร่างกายผู้นั้น  เขาและเธอจึงได้รับพลังชีวิตที่ผสมผสานพลังชีวิตของกันและกันโดยปริยาย

    เมื่อเห็นเธอสงบนิ่งลง  บุตรชายหัวหน้าโจรใหญ่จึงปล่อยให้สาวน้อยเป็นอิสระ

    “ไปกันต่อได้แล้ว”  ซีนิธพูดพลางหันตัวกลับไป  แต่คว้ามือสาวน้อยไปด้วย

    “นี่!!  ปล่อยนะ!”  มือที่เหลือพยายามทุบแขนเขาให้ปล่อยมือเธอ

    “ไม่ปล่อย!  เกิดเจ้าเดินหนีหายไปอีก  ข้าจะทำยังไง  ข้าก็เสียพลังฟรีสิ  ข้าไม่อยากให้พลังชีวิตเจ้าอีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ”  เขาดึงเธอให้เดินตามไปทันทีอย่างไม่สนใจ

    เสียงฝีเท้าม้าที่ดังอยู่ใกล้ ๆ  ทำให้ซีนิธชะงักฝีเท้า  รีบดึงเธอหลบเข้าข้างต้นไม้ใหญ่ริมธาร  และเฝ้ามองอย่างระแวดระวังภัย  มองเห็นเหล่าทหารโจรหยุดพักเหนื่อย  พากันลงมาดื่มน้ำที่ลำธารใสแห่งนี้

    จากคุณ : ริเศรษฐ์ - [ 22 มี.ค. 48 23:52:35 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป