รีบเอาลงมาให้อ่านกันต่อเลยครับ
ตอนที่ ๑ มนตร์คฤหาสน์
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3353777/W3353777.html
ตอนที่ ๒ มนตร์อสุภ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3357691/W3357691.html
ตอนที่ ๓ มนตร์อำพราง
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3359684/W3359684.html
ตอนที่ ๔ มนตร์กำเนิด
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3365497/W3365497.html
ตอนที่ ๕ มนตร์บันดาล
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3369482/W3369482.html
----------------------------------------------------
ตอนที่ ๖ มนตร์อาฆาต
ร่างของเด็กหนุ่มร้าวระบมไปทั่วไม่สามารถจะขยับเขยือนได้เลยแม้น้อยนิด ศีรษะปวดตุบ ใบหน้าร้อนผะผ่าวราวอังไฟ ไม่ได้ยินสรรพสำเนียงใด ๆ เลย ทั้งหมดเงียบงันราวป่าช้า ทว่า เขามั่นใจว่าที่นี่คือใต้ถ้ำที่เขาตกลงมา กลิ่นสาบสางอย่างไม่อาจทนไหว ลอยวนอยู่รอบกาย ฉุนจัดจนต้องเอามือปิดจมูก ความมืดตีวงล้อมเด็กหนุ่ม เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยภายใต้เงาสลัวที่ส่องเป็นแสงบางๆ เป็นลำมาจากปากถ้ำ
เขาต้องตกมาจากรูนั้นเป็นแน่!
แล้วพ่ออยู่ไหน
พ่อ พ่ออยู่ไหนครับ
คีตาร่ำเรียกพ่อ เรียกแล้วเรียกอีก เรียกอย่างสุดเสียง จนคอแหบแห้งเหมือนกับว่ามีทรายกรอกลงมาที่ลำคอ แต่ก็ไม่มีวี่แวว หรือแม้แต่เสียงคนตอบรับมา
ทันใด เขาก็ได้ยินเสียงโหยหวน หวีดร้องอย่างหวาดกลัว ราวกับว่าจะขาดใจตายให้ได้เดี๋ยวนั้น
เสียงอะไร
เขาหันไปทางต้นเสียง ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในความอนธการเบื้องหลัง ว่างเปล่าไม่มีอะไร ไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหวให้เขาเห็น
หรือมี แต่ความดำมืดปกปิดไว้!
แล้วมันคืออะไรล่ะ
ใครเลยจะกล้าเดินเข้าไป ในเมื่อมันไม่น่าเสี่ยงต่อชีวิตอันลิ่มแหลมต่อความตายของเขาอย่างนี้ แขนขาร่างกายของเขาเริ่มคลายอาการชา แต่ก็ต้องรีบสะบัดปัดเนื้อตัวแขนขา เมื่อมีบางอย่างมาเกาะติดและกัดต่อย
อะไรกัน
ขนลุกทั่วตัวด้วยความขยะแขยง มันไต่ไล่ตามแขน แม้มองไม่เห็น แต่ก็รู้ได้ว่ามันมาไม่น้อย เขาปัดเปะไปทั่วตัวพลางวิ่งวนเพื่อไม่ให้ตัวเก่าที่เพิ่งสลัดหลุดมาเกาะกุมได้ใหม่
แล้วจู่ๆ พวกตัวอุบาทว์ก็สลายหายไปราวกับมนตร์คลาย หรือเหมือนกับว่าเขาอุปาทานไป จึงได้รู้สึกเป็นเช่นนั้น
ฉับพลัน เสียงโหยหวนนั้นก็ตามมาอีก
พ่ออยู่ไหน?
แล้วแสงและเสียงของอะไรบางอย่างกระทบก็ส่องวาบและดังแว่วมาทางเขา
ต้นกำเนิดนั้นอยู่ในตัวถ้ำ
และเสียงร้องของพ่อก็ตามมา...ไม่ใช่สิมันคือเสียงนั้นนั่นเอง เสียงที่โหยหวน บัดนี้มันคือเสียงของพ่อ เสียงที่เขาคุ้นเคยมาเป็นเวลานาน ไม่มีวันที่จะจำไม่ได้
เขาออกแรงเท่าที่มีวิ่งไปทางต้นเสียงทันที
ปุ๊ก!...
เขาชนกับอะไรบ่างอย่างที่นุ่มและนิ่ม สูงใหญ่ แม้ไม่เห็นก็สัมผัสได้
พ่อ
พ่ออยู่ไหน เหมือนกับว่าเสียงเรียก มันไม่ได้ไปไหนไกล กลับลอยวนอึงอลอยู่ข้างหูเขานี่เอง
แล้วเสียงกัมปนาทระเบิดก้องก็ดังขึ้นจากสิ่งที่เขาจับต้องเมื่อครู่ ทำให้ร่างของเขากระเด็นมาถูกผนังถ้ำที่รู้สึกได้ว่าเป็นเถาไม้พันเกี่ยวสานเป็นเบาะรองรับได้อย่างดี หลังจากเสียงนั้นก็ตามมาด้วยแสงขาววาววาม และอาการปวดเจ็บที่ฝ่ามือขวา!
มันปวดมากขึ้นเรื่อยๆ
มันปวดมากขึ้นอีกแล้ว
พร้อมๆ กับแสงนั้นก็ตรงมา แทงทะลุความมืดให้หลีกหาย
ปวดเหลือเกิด
ไม่ไหวแล้ว
แสงนั้นวาบเข้ามาครอบคลุมเด็กหนุ่มในที่สุด เขาตะโกนร้องอย่างหวาดกลัว!
......................................................................................................................................................
แล้วเขาก็มานอนอยู่ที่โรงพยาบาลได้อย่างไรก็ไม่รู้ ทุกคนต่างร่ำไห้กับการจากไปของพ่อ
อย่างไม่มีวันหวนกลับ แม้แต่คำล่ำลาครั้งสุดท้ายก็ไม่มี และคงไม่มีวันได้ยินเป็นแน่แท้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขา ความกล้าบ้าบิ่นไม่รู้จักคิด เขามันโง่ที่ต้องทำให้พ่อตาย เขาจะต้องตกนรกหมกไหม้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด หรือถ้าเกิดมาชาติหน้าก็คงเป็นเดรัจฉานไม่อาจมีหน้าเกิดมาเป็นมนุษย์อย่างนี้ได้อีก
พ่อครับ คีย์คิดถึงพ่อ
อาการปวดที่ฝ่ามือขวาเริ่มรุมเร้าเขาอีกครา ปวดจนยาแก้ปวดที่หมอสรรหามาให้ก็ไม่อาจบรรเทา ราวกับว่าความเจ็บปวดผนึกตรึงอยู่อย่างไม่มีวันจาง
ทว่า จู่ ๆ เมื่อเขาสะดุ้นตื่นจากฝันร้าย
ฝันเรื่องที่พ่อจากพราก มันทำให้รอยแผลที่ฝ่ามือทุเลาเบาลงเป็นเพียงรอยดาดแดง ไม่แสดงอาการของมันอีกเลยนับแต่นั้นมา
จนเมื่อคืนนี้นั่นแหละเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้อาการปวดกระตุ้นเตือนเขาว่ายังมีสิ่งหนึ่งที่เขาเคยทำไว้ในอดีต ราวกับว่าเขาจะเลือนลืม ทั้ง ๆ ที่เขาไม่สามารถลืมเลือนมันได้ต่างหรอก
คีย์ แม่ไม้รู้ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้นกับเรา
คีตามองหน้าแม่ หน้าแม่ซีด
หน้าซีดแก้มตอบของแม่นั้นเป็นผลมาจากการสูญเสียพ่อ ทำให้แม่ไม่ค่อยกินข้าว เอาแต่บนว่ากินไม่ลง และเขาเองก็กินไม่ลงเช่นกัน เป็นอันว่า บ้านนี้ผ่ายผอมกันทั้งบ้าน
คีย์ก็ไม่รู้เหมือนกันแม่
แต่
แม่หันมามองด้วยดวงหน้าเศร้า ๆ ราวกับว่าไม่อาจแบกรับเรื่องราวที่ถาโถมมาใหม่ได้อีกแล้ว หลังจากเสาหนักค้ำจุนทุกคนในบ้านหาชีวิตไม่
แต่อะไรลูก
แม่ก็รู้
คีย์คิดอย่างที่แม่สังหรณ์
ทั้งสองแม่ลูกได้แต่มองตากันไม่อาจพูดเอ่ยคำได้ออกมาได้อีก การสวมกอดเท่านั้นกระมังที่ทำให้เขากับแม่ทำได้ในเวลานี้แล้วไม่ปวดใจ เพราะจะทำอะไรมันก็เหนื่อยใจไปหมด แม้แต่การขยับ
........................................................................................................................................................
กาลเวลาไม่เคยเกียจคร้านการทำงานของมัน เข็มนาฬิกายังเดินอยู่ ปฏิทินก็พลิกแผ่น ดวงตะวันขึ้นแล้วก็ตก แล้วก็ขึ้นแล้วก็ตกไปตามธรรมชาติ แต่ยิ่งผ่านไป คีตาก็ยิ่งท้อใจ เพราะอาการของเพื่อนไม่อาจดีขึ้นตามเวลาที่หมุนผ่าน คะน้ายังคงนอนไร้สติเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังจากการรักษาเลือดไม่หยุดไหลไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต
นั่นเป็นคำที่หมอบอก รวมถึงอาการบ้าคลั่งอย่างควบคุมไม่ได้ของเทวะด้วย
ทำไมหนอ
เรื่องราวทั้งหมดมันต้องเกิดขึ้นด้วย?
คีตาได้แต่นั่งเหม่อมองไปเบื้องหน้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก เด็กหนุ่มแอบหนีความจอแจและความสับสนวุ่นวายของช่วงพักกลางวัน มานั่งอยู่คนเดียวที่หลังอาคารเรียนที่อยู่สุดแนวอาคารอื่น แถบเรือนไม้ของ
ภารโรง ซึ่งเป็นที่ปลอดจากเสียงจอกแจกจอแจ และที่แน่นอนที่สุด ปลอดจากการตามรังควานของเพื่อนๆ ที่เฝ้าแต่ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน จนบางครั้งอาจารย์ถึงกับมาไล่ให้ไปอ่านหนังสือ เพราะฤดูของการสอบเอ็นสะท้าน
ตามคำเรียกของเพื่อนๆ นั้นงวดเข้ามาทุกที แต่พอเพื่อนแยกตัวออกไปแล้ว ก็อย่างเคยนั้นแหละ อาจารย์เองเป็นฝ่ายจู้จี้ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่คฤหาสน์ และทำไมถึงรอดมาได้ และทำไมช่ำชองหายไป และทำไมคณนา
คะน้า นอนหลับไม่ตื่นอย่างนั้น และทำไมเทวะถึงได้
และทำไม
และ
จนเขาต้องเดินหนีออกมา ทำให้อาจารย์ผู้หวังจะเอาข่าวไปซุบซิบกับเพื่อนอาจารย์ก็เป็นอันไม่ได้ไป
เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ นั่งหลังค้อมลงอย่างหมดท่าทีผึงผายของเจ้าพ่อโรงเรียนอีกต่อไป
ทำไมเราถึงอยากเป็นนักนะไอ้คำว่าเจ้าพ่อนี่ มันทำให้เกิดเรื่องแท้ๆ
.เพื่อนก๊วนเล่นบาสเกตบอลมาชวนให้ไปเล่นอย่างเคยก็ไม่มีอารมณ์ ข้าวกลางวันก็ไม่นึกอยาก เพราะเห็นคนมากมายที่โรงอาหารแล้วก็ให้เหนื่อยใจ และลำบากใจที่จะเผชิญหน้ากับคนอื่น แม้แต่คนที่ไม่รู้จักก็ยังละอาย รู้สึกเหมือนว่าใบหน้างุงงงสงสัยที่มองมานั้นมีแววตำหนิส่งผ่านมาด้วย
เก็จก็ไม่เป็นเหมือนเคย ไม่อวดเบ่งคับฟ้า คับโรงเรียน แข่งกับเขาเหมือนก่อน คงปล่อยให้เหลือเพียง
ไอ้มะไฟ หนึ่งในเจ้าพ่อเจ้าแม่อภินิหารประจำโรงเรียนอวดเบ่งศักดาอย่างพอใจ จนมันเองก็เอยขึ้นอย่างงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าสองตัวนั้นนะ
มีเสียงคนเดินมาข้างหลัง คีตาไม่อยากจะหันไปมอง
ก็คงเป็นพวกเพื่อนๆ ที่คอยเซ้าซี้ถามเรื่องอะไรต่อมิอะไรอยู่นั่นเอง ทว่า พอได้ยินเสียงที่ดังออกมาทางด้านหลังก็รู้ได้ทันทีว่าที่แท้คือคู่อริตน
ไอ้คีย์
ได้ข่าวว่าแกเป็นต้นเหตุเรื่องทั้งหมดใช่มั้ย?
หุบปากซะ ไอ้หมามะไฟ คีตาไม่มีอารมณ์จะพูดคุยอะไรทั้งนั้น แม้แต่ตั้งแง่เล่นคำสำนวนอย่างเคยก็ไม่อยาก
เฮ้ย
พูดดี ๆ ด้วยนะเว้ย
อย่ามายุ่งได้มั้ย
ออกไปห่าง ๆ เลยไป๊
ตัวซวยอย่างนี้ ไม่อยากยุ่งด้วยหรอกโว้ย มะไฟคู่อริทำหน้าน่าทางเหยเกใส่ ตั้งใจจะล้อเลียนให้สาแก่ใจเล่น
ไอ้ตัวซวยอย่างเอ็ง ไม่มีใครเขาอยากเข้าใกล้ร้อก
ใช่มั้ยวะ ไอ้ก้อง ไอ้ก้าง คนล้อเรียกลูกคู่ที่อยู่ข้างๆ สมทบ
เสียงล้อนั้นอึงอลอยู่ข้างหู รบกวนประสาทของเขาให้เครียดเขม็งขึ้นมาจนได้ ที่ใบหน้า เหงื่อเค็มไหลย้อยลงปลายคาง ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ
ไอ้ตัวซวย
ฮะ..ฮะ ไอ้ตัวซวย
.ทันใด ที่ฝ่ามือเขาเขาก็ปวดขึ้นอีกแล้ว มันปวดขึ้นๆ อย่างไม่อาจทนได้ แล้วสายตาของเขาก็พร่ามัว จนกลายเป็นสีแดงเรื่อ และก็ไม่รับรู้ต่อไปว่า หลังจากนั้นเขาได้ซัดเจ้ามะไฟตัวโตให้ลอยกระเด็นไปถูกแท๊งค์น้ำที่อยู่ด้านข้างให้บุบบิ่นไปทีเดียว พวกลูกคู่ที่เคยอ้อล้อ บัดนี้โกยแนบไม่เห็นฝุ่น
แล้วร่างหมดเรียวแรงก็ฟุบลง
........................................................................................................................................................
เธอทำอะไรลงไปแล้วทำไมไม่ยอมรับฮะ
คีตา
ก็ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ
คีตากำลังยืนกอดอกรอคำพิพากษาจากอาจารย์ฝ่ายปกครองอยู่ที่ห้องพักครู อาจารย์ผู้หญิงวัยกลางคนเดินถือไม้เรียวไปมาอย่างหงุดหงิดกับการไม่ยอมจำนนของเด็กหนุ่มเสียที
.ก็ผมไม่รู้ตัวจริงๆ นี่ครับ
ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วก็เกิดขึ้นได้อย่างไร
มันเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างมาทำให้ผมเป็นเช่นนั้นน่ะครับ
ไม่เชื่ออาจารย์ลองดูที่ฝ่ามือผมซิ นี่มันเป็นรอยอะไรก็ไม่รู้ แต่ผมว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกินขึ้นแน่นอนเลยครับ เด็กหนุ่มยืนมือข้างขวาให้อาจารย์ดู
เหลวไหล
ทำไมถึงถึงแต่งเรื่องได้น่าด้านๆ อย่างนี้นะคีตา ประวัติของเธอน่ะอยู่ในแฟ้มครูหมดแล้วนะ หลายครั้งที่ผ่านมาก็พอทน แต่ครั้งนี้ไม่อาจให้อภัยได้ เธอทำให้เพื่อนถึงกับกระดูกซี่โครงหัก แล้วอย่างนี้จะให้ครูทำอย่างไรฮึ
ผมไม่ได้ทำอะไรนี่ครับ
ยังมาปากแข็งอีก อาจารย์ตวาดใส่อย่างไม่อาจควบคุมได้ ออกอาการเกรี้ยวกราดผิดปกติวิสัยที่เขาเคยรอดพ้นโทษแต่ละครั้งมาได้
เธอต้องยอมรับในสิ่งที่เธอ
ทาม..ปาย
ราวกับว่าร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่เป็นร่างของมนุษย์อีกต่อไป สายตาของเด็กหนุ่มเริ่มพร่าเลือนเป็นสีแดง แล้วมองใบหน้าของครูแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
ผีดิบ...
.คีตาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหตุใดอาจารย์ถึงได้แปลงร่างเป็นเจ้าผีดิบไปได้
ลมแรงพัดมาวูบใหญ่ พาให้เอกสารกระดาษปลิวว่อนร่อนเป็นวงกลมราวพายุหมุด แสงตาของอาจารย์ขาวโพลน
ปากบิดเบี้ยวตะโกนคำรามอย่างน่ากลัว
.เธอ
ต้อง
ราบ
ผิด
ชอบ..บ
.แล้วร่างผิดเพี้ยนก็พุ่งมาทางเด็กหนุ่มผู้ยื่นเซ่อทำอะไรไม่ถูก เจ้าผีร้ายยังตามมารังควานอีกหรือ
เอาล่ะแก เราจะแก้แค้นให้เพื่อน
นึกได้อย่างนั้น คีตาก็พุ่งกระโจนเจ้าหาร่างบอบบางของอาจารย์ที่ไม่ได้เป็นอะไร
ไม่ได้กลายเป็นอะไร ได้แต่ยืนงงกับท่าทางของลูกศิษย์ที่โถมเข้าใส่สุดตัว
******************************************
จากคุณ :
บอยน์ ใบร่อน
- [
24 มี.ค. 48 13:32:11
]