CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ...มนตร์เงา...ตอนที่ ๗ มนตร์ฏังการ (เสียงเห่าหอน)

    ตอนที่ ๑ มนตร์คฤหาสน์
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3353777/W3353777.html

    ตอนที่ ๒ มนตร์อสุภ
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3357691/W3357691.html

    ตอนที่ ๓ มนตร์อำพราง
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3359684/W3359684.html

    ตอนที่ ๔ มนตร์กำเนิด
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3365497/W3365497.html

    ตอนที่ ๕ มนตร์บันดาล
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3369482/W3369482.html

    ตอนที่ ๖ มนตร์อาฆาต
    http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W3371809/W3371809.html


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    ตอนที่ 7 มนตร์ฏังการ (ฏังการ = เสียงเห่าหอน)


    มืด…มืดเหลือเกิน เขามองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น คีตามะงุมมะงาหราเดินไปข้างหน้าเรื่อย…เรื่อยไปจนไม่รู้ว่าทางที่กำลังเดินมันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน เขาต้องตามหาพ่อ…ในสำนึกของเขาตอนนี้ รับรู้ได้ว่าพ่อกำลังรอเขาอยู่…แต่ที่ไหนล่ะ? อาจเป็นสุดทางนี้ก็ได้

    ทำไมเส้นทางมันช่างแสนยาวไกล ความร้อนใจ…แปรเปลี่ยนเป็นความร้อนจริง ความร้อนกายจึงเริ่มก่อตัวกลายเป็นไฟกองใหญ่เผาไหม้ ให้ร่างผะผ่าวร้อน ทำไมมันถึงร้อนอย่างนี้นะ?

    แล้วเขาก็ได้ประจักษ์ว่าสิ่งที่ทำให้เขาร้อนคืออะไร!

    สุดทางนั้น ไฟกองใหญ่ลุกวาบขึ้น…เปลวไฟไหวระริกไปตามแรงลม ที่เขาไม่อาจรู้สึกได้ถึงความเย็นนั้น!

    .เหงื่อเหนี่ยวผุดพรายทั่วใบหน้า จนย้อยไหลลงสู่ปลายคาง แสงไฟนั้นแสบระคายตาจนเด็กหนุ่มต้องเบือนหน้า…และจะออกแรงวิ่งหนีไป มันคืออะไร…ช่างน่ากลัวอะไรเช่นนี้

    ทว่า มีเสียงหนึ่งเรียกรั้งเขาไว้ ไม่ให้ถอยกลับ…

    .“คี…ตา…”

    เสียงนั้นแหบโหยราวกับกระหายน้ำจับใจ

    .เด็กหนุ่มเงี่ยหูสดับฟังอีกคราอย่างตั้งใจ…ใครเป็นคนเรียกเรา?

    “คี…ตา…ลูก…อยู่…หนาย…”

    พ่อ…เสียงพ่อ

    .“พ่อยู่ไหน…พ่อ คีย์อยู่นี่ครับ…พ่อ”

    เด็กหนุ่มโหวกเหวก ร้องเรียกพ่อเต็มเสียง พร้อมออกวิ่งไปทางกองไฟเบื้องหน้าอย่างเต็มแรง โดยไม่สนใจกับความร้อนที่แผ่รัศมีจ้าจรัส อยู่ตรงหน้านั้นไง…ไฟฟอนกองมหิมา

    แต่แล้ว เมื่อเด็กหนุ่มพยายามจะคว้าจับแสงไฟ…โดยที่ก็ไม่รู้เองว่ามันจะร้อนแต่อย่างใด…และมันก็ไม่ร้อนจริงๆ

    .แปลก…ทำไมไม่มีความรู้สึกอะไรเลย มันเฉยๆ ว่างเปล่าอย่างไรชอบกล

    .ทันใด ฟอนไฟก็กลายร่าง เปล่งแสงเหลืองโพล่งออกจากกองไฟ แล้วโอบล้อมระรึงรัดเด็กหนุ่มไว้ จนหายใจไม่ออก…

    พ่อ…โอ้ย!

    พ่อช่วยคีย์ด้วย…ทำไมเป็นอย่างนี้นะ…

    “เอา…ของ…ข้า…คืน…มา…”

    แน่ชัดว่าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงพ่ออีกต่อไป ยิ่งสร้างความตระหนกในใจเด็กหนุ่มเหลือประมาณ

    “แก…แกเป็นใคร แล้วเอาพ่อเราไปไว้ไหน…บอกมานะไอ้ตัวประหลาด”

    แต่แทนที่ตัวประหลาดของคีตาจะเอื้อนเอ่ยเผยคำตอบออกมา กลับรัดแน่นด้วยไฟแสงไม่แสบร้อนของมัน
    อีกครา เด็กหนุ่มร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

    .“เอา…ของ…ข้า…คืน…มา…”

    “แกจะเอาอะไรก็เอาไป แต่เอาพ่อของเราคืนมา…พ่อ พ่ออยู่ไหนครับ?”

    ยิ่งดิ้น ก็ดูเหมือนว่าเชือกไฟจะกระชัดแน่นยิ่งขึ้น เปล่าประโยชน์ที่จะทำตัวให้เป็นอิสระ เด็กหนุ่มจึงปล่อยตามเลย ที่ดวงตาเริ่มร้อนผ่าว…น้ำอุ่นๆ คลอเบ้า

    “แกต้องการอะไร เอาไปให้หมดเลย…แต่ขออย่างเดียวเอาพ่อเราคืนมา”

    .“เอา…ของ…ข้า…คืน…มา…”

    “นี่แล้วแกไม่บอกแล้ว จะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าแกต้องการอะไร เอาแต่พูดแล้วจะรู้รึเปล่า?”

    .เด็กหนุ่มตะโกนตอบไปอย่างเจ็บใจ จนน้ำตาที่คลออยู่ที่คลองจักษุหยดย้อยลงข้างแก้มผสมกับเหงื่อกาฬที่ผุดออก อารมณ์เริ่มเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้ง…ไม่บอกว่าพ่ออยู่ไหนแล้วยังมาพร่ำร่ำคำบ้าๆ อะไรอยู่อีก…

    “เอา…ของ…ข้า…คืน…มา…”

    ทันใด ที่ฝ่ามือข้าขวาของเขาก็แดงเรื่อเรื่องแสงขึ้น มันพุ่งเป็นลำไปข้างบนที่มืดมิด แล้วแตกออกเป็นประกายพริบพราย แล้วก็อันตรธานไปกับอากาศธาตุที่ว่างเปล่า เด็กหนุ่มมองที่ฝ่ามือตัวเอง รอยแดงนั้นหายไปแล้ว…หรือนี่คือคำตอบ?

    ***********************************


    เด็กหนุ่มสะดุ้นตื่นอย่างตกใจ…เขาฝันไปหรือนี่?

    รอยแดงล่ะ…

    ฉุกคิดได้ดังนั้น ก็รีบมองที่มือตัวเองอย่างสงสัย…ทว่า มันยังอยู่!

    รอยแดงนั้นยังอยู่ ไม่ได้ปลาสนาการไปเช่นในความฝัน มันต้องการรอยแผลนี้คืนใช่ไหม…แล้วเราจะคืนมันได้อย่างไรล่ะ ก็ในเมื่อมันติดแนบราวกับเป็นผิวหนังของเขาเช่นนี้…

    .ข้างนอกยังคงมีแสงอยู่ ลมยามบ่ายพัดฉิว พาม่านเบาบางที่ตรงหน้าต่างพลิ้วไหวไปมา เขานอนฟุบอยู่กับโต๊ะเขียนหนังสือตัวที่ติดกับหน้าต่าง ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้…รู้แต่เพียงว่าความฝันเหมือนจะบอกใบ้อะไรบางอย่าง!

    เด็กหนุ่มถอนใจหนัก ยาว ที่จริงเขาไม่ควรถอนใจอย่างนี้นะ เพราะพ่อเคยบอกว่า

    ‘ถอนใจอะไรจะขนาดนั้นฮึ ทุกข์ใจอะไรนักหนา อย่าถอนแรงนักสิ เขาว่าไม่ดี’

    .‘แต่ถอนแล้วมันโล่งดีน่ะพ่อ’

    ‘โล่งพักเดียวล่ะสิ เดี๋ยวก็ทุกข์ต่อ ถอนอะไรแล้วถอนไม่ขึ้นอย่าไปถอนมันดีกว่า อย่างถอนหายใจนี่ ยิ่งถอนก็ยิ่งถลำ ไม่ได้ช่วยให้ทุกข์ใจมันคลายไปเลยหรอก ทางที่ทีต้องถอนที่เหตุ ว่าทำไมเราถึงต้องมานั่งถอนไอ้ลมหายใจนี่…’

    พ่อ…แล้วจะให้คีย์ทำอย่างไร…ทุกข์ที่ว่าน่ะ คีย์เจอแล้ว ก็ไอ้การที่เสียพ่อไปยังไงล่ะ แต่คีย์ไม่รู้ว่า จะแก้ทุกข์หนักใจนี้ได้อย่างไร พ่อช่วยบอกที…

    “คีย์…”

    เสียงแม่เรียกมาแต่ไกลอีกที…คงอยู่ที่ห้องข้างนอก คงกลับมาแล้วมั้ง…

    แม่เคยเป็นนักขายฝีมือดี ออกไปทำงานไม่เคยกลับก่อนหนึ่งทุ่ม พอกลับบ้านก็จะหอบหิ้วเอาก๋วยเตี๋ยวผัดไทยหรือไม่ก็หอยทอดกลับมาด้วย และจะเป็นอย่างนี้ประจำ พ่อจะเป็นคนที่อยู่กับบ้าน เพราะการที่เป็นข้าราชการทำให้กลับบ้านพร้อมๆ กันกับเขาที่เลิกโรงเรียนพ่อดี และพ่อนี่แหละที่เป็นคนทำกับข้าวเย็นให้เขาทาน จนไม่สามารถกินของที่แม่พึ่งเอากลับมาด้วยได้ จนแม่ต้องพูดด้วยความน้อยใจประจำ ว่าจะเอาไปให้หมาข้างบ้านบ้างละ จะเอาไปทิ้งใต้ต้นไม้บ้างละ ทำให้เขากับพ่อจำต้องยัดมันเข้าไปอยู่เสมอเวลาแม่ตัดพ้อเช่นนั้น

    ทว่า วันนี้ไม่เหมือนวันนั้นอีกต่อไป ไม่มีพ่อ…ไม่มีกับข้าวที่พ่อทำ ไม่มีอาหารรอบดึก ไม่มีเสียงหัวเราะของพ่อเวลาแม่บ่นน้อยใจ…มีเพียงแม่กลับบ้านแต่หัววัน เพราะเป็นห่วงเขา และยิ่งเขาโดนพักการเรียน หลังจากก่อเรื่องทำร้ายเพื่อนและอาจารย์จนต้องเข้าโรงพยาบาล แม่ก็ยิ่งเป็นห่วงเขามากขึ้นไปอีก…

    “คีย์…อยู่ไหนลูก?”

    “อยู่นี่ครับ…”

    .“เก็จมาหานะลูก”

    .เก็จ…

    ใช่สิ…เขาไม่เห็นเก็จมานานแล้ว พูดก็ไม่ได้พูดกัน เพราะต่างคนก็ต่างไม่ต้องการที่จะนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา และยิ่งพอเขาโดนพักการเรียนเขากับเธอก็ยิ่งห่างกัน จากแต่ก่อนที่คอยปะทะคารมกับตลอดเวลา

    .เขาเดินออกมาข้างนอกตรงห้องทางเข้า เก็จนั่งเหม่อมองไปข้างนอกประตูบ้าน เธออยู่ในชุดนักเรียน เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเลิกเรียน และยังไม่ได้กลับบ้านที่อยู่ในตลาดไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

    “เป็นไงบ้างเก็จ?” ถามแล้วก็ทรุดตัวนั่งลงตรงเก้าอี้นวม

    “ประโยคนั้น ฉันน่าจะเป็นฝ่ายถามแกมากกว่า”

    “เรานึกว่าจะเลิก ประคารมกันแล้วนะเนี่ย” พูดออกมาอย่างขำขัน

    “เอาเถอะ…แกไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะ ไอ้มะไฟกับอาจารย์นวลถึงต้องระเห็จไปนอนอยู่ที่โรงบาลอย่างนั้น?”

    .เด็กหนุ่มนิ่งไป เมื่อได้ยินคำถามเสียดใจดังขึ้นจากเพื่อนทั่งอยู่ข้างๆ

    เก็จคงเห็นได้ถึงปฏิกิริยาของเพื่อนกระมังจึงได้เอ่ยขึ้น

    “ขอโทษ…ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็พอจะเดาได้หรอกว่ามันก็คงจะพันเนื่องกันกับเรื่อง ‘นั้น’ น่ะ”

    “ใช่มันเกี่ยวกัน”

    เด็กสาวมองหน้าเพื่อน ราวจะแบ่งปันความทุกข์มาจากใจเพื่อนได้บ้างไม่มากก็น้อย…ช่างหน้าสงสาร พ่อตาย เพื่อนหาย แล้วยังเรื่องบ้าๆ ที่เกิดขึ้นกับเจ้าตัวอีก…

    “คีย์…” เด็กสาวเอามือจับไหล่เพื่อน หวังว่าจะถ่ายทอดความเข้าใจให้ไปได้บ้าง

    .คีตาสบตาเพื่อนด้วยแววตาแสดงความขอบคุณ แล้วก็ระบายลมหายใจอย่างแผ่วเบา

    “เมื่อกี้เราฝันอีกแล้ว…ตั้งแต่เกิดเรื่องเราฝันถึงแต่มันตลอด”

    เด็กสาวมองหน้าอย่างสงสัย

    .“เราฝันว่ามีคนมาทวงอะไรบางอย่างคืน แล้วเราก็คิดว่าสิ่งที่มันมาทวงคือไอ้นี่”

    เด็กหนุ่มยกฝ่ามือเจ้ากรรมให้เพื่อนดู…จริงๆ แล้วมันก็คือรอยดาดคล้ายบาดแผลไฟลวกธรรมดา แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มันช่างน่ากลัวเหลือล้น เด็กหนุ่มเล่าเรื่องความฝันให้เก็จฟังอย่างหมดทุกสถานการณ์ที่เขาได้เห็นในความฝัน

    “อะไรจะน่ากลัวขนาดนั้นนะ?”

    เด็กหนุ่มได้แต่เหม่อตาลอยไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเบื้องบนให้คำตอบแก่เก็จได้บ้างไหมนะ ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน และก็จะหาคำตอบให้กับเขาด้วยว่า จะทำอย่างไรต่อไป…

    ***********************************

    จากคุณ : บอยน์ ใบร่อน - [ 27 มี.ค. 48 16:30:20 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป