CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    The Secret Of War : บทที่ 2 โอโทร์เนียร์ซิตี้ในอดีต

    บทที่ 2 โอโทร์เนียร์ซิตี้ในอดีต

    แว้บ!!!

    แสงสว่างดับวูบลง ภาพสถานที่กระจ่างชัดเข้าสู่นัยน์ตา ผนังแคบๆสีขาว กับโถสุขภัณฑ์ ปรากฏเด่นหราอยู่เบื้องหน้า รอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนดวงหน้าแฉล่มของสาวน้อยเซย่า

    เสียงจอแจจากเหล่าบรรดาสาวๆที่เข้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดสายเล็ดลอดผ่านประตูบานเล็ก ทำให้ต้องเหลียวมองรอบตัว แล้วยกมือจับลูกบิดผลักประตูออกเบาๆ

    สาวน้อยผู้มีความมั่นใจในตัวเองสูงก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างมาดมั่น เสียงที่ดังอยู่ก็พลันเงียบลง สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องเธอด้วยความตะลึง อย่างที่คนถูกมองคิดไม่ตกว่าเกิดอะไรขึ้น ความมั่นใจเริ่มหดหายเสียงเรียกในใจมันบอกให้มือต้องลูบๆคลำๆหาสิ่งผิดปกติ แล้วอดคิดไม่ได้ว่ามันมีอะไรผิดพลาด ทั้งๆที่ก็ตรวจเช็คอย่างดีก่อนจะมา

    สายตาอย่างนี้................เคยเห็นที่ไหนมาก่อน...........

    ไม่ได้รูดซิบตอนออกจากห้องน้ำ!!

    ความคิดแรกฉายวับขึ้นมาในหัว เนื่องจากความอับอายที่เพิ่งก่อไว้เมื่อปลายสัปดาห์ เร่งให้ต้องรีบก้มมองดูซิบกางเกงทันที แต่ทว่า........

    เมื่อกี้เราไม่ได้ใช้ห้องน้ำ

    คิ้วเรียวบางเริ่มมุ่นขึ้น คนรอบตัวยังคงฉายแววขำขันออกมาทีละน้อย อย่างที่ทำให้สาวน้อยต้องไหวตัว ก่อนจะสะดุ้งเฮือกกับเสียงที่ตามมา

    แอ๊ด..........ปึก

    เสียงประตูห้องน้ำที่เธอออกค่อยๆปิดลงเบาๆ แต่เป็นเสียงที่คนกำลังใจเหือดหายต้องเหลียวกับไปมองทันที แล้วสายตาก็ต้องเบิกกว้าง กับป้ายขนาดใหญ่พอๆกับประตูที่แขวน

    “ขออภัย งดใช้บริการ ห้องน้ำชำรุด”

    สีหน้างุนงงเมื่อครู่ถูกแทนที่ด้วยความอายแทบซุกแผ่นดินหนี ใบหน้าขาวระเรื่อถูกฉีดพลุ่งพล่าน เร่งให้สมองต้องสั่งการกลบเกลื่อน ฉีกยิ้มกว้างให้เหล่าบรรดาสายตาทุกคู่ แล้วบ่นออกมาดังๆแก้เก้อ

    “อ๊ะ อะไรกัน ห้องนี้เสียเหรอ คราวหลังถ้ามันเสียก็น่าจะปิดล็อกไปเลย เปิดไว้อย่างนี้มันไม่ดี ”คนอายเริ่มแก้ตัว ก่อนกลืนน้ำลายเอื้อก แล้วฉีกยิ้มกว้าง“จริงมั้ยคะ”

    เงียบ...............

    ไม่มีเสียงตอบรับจากสิ่งมีชีวิตใดๆ มีแต่สีหน้าของสาวๆที่เริ่มเก็บอารมณ์ขันไม่อยู่ นี่ถ้าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินออกไปเลยมันคงไม่แย่ขนาดนี้

    เท่านั้นคนรู้ตัวต้องรีบโกย ชิ่งออกจากห้องน้ำทันที อย่างไม่คิดเหลียวกับมามองเสียงซุบซิบกัน กับเสียงหัวเราะเบาๆ ที่ดังขึ้น ความอายมันฉีดเลือดให้ขึ้นหน้า จนเปลี่ยนเป็นความโมโห

    “ไอ้เครื่องบ้าเอ้ย จะฉายให้ดูก็ไม่ฉายด้านข้าง ไอ้เราก็นึกว่าห้องน้ำมันว่าง ใครจะไปรู้ว่าไอ้ที่มันว่างน่ะ เพราะมันพัง สงสัยต้องบอกปู่ให้ปรับปรุงเครื่องงี่เง่านี่ซักหน่อยแล้ว” เสียงบ่นขรม พาลไพล่ไปโทษเครื่องไทม์แมชชีนทั้งที่รู้อยู่ว่าตัวเองซะเพร่าเอง แต่ก็อดไม่ได้ ที่จะโบ้ยความผิดไปให้ชาวบ้าน มันเป็นนิสัยที่ติดตัวมาแต่เกิดอย่างแก้ไม่ได้

    ลางไม่ดีตั้งแต่เริ่ม.....................

    ความคิดที่อดเสียวไม่ได้กับดวงที่ไม่ดีมาตั้งแต่เช้า ผุดขึ้นให้ใจแป้วๆ

    คนดวงไม่ดีสาวเท้าด้วยความเร็วบนทางเดินแคบๆ ความเหนื่อยหน่ายเข้าแทนที่ ก่อนจะเลี้ยวตามช่องที่กำหนด แล้วนัยน์ตาคู่โตก็ฉายประกายระริกอย่างเห็นได้ชัด กลบเกลื่อนความเหนื่อยหน่ายเมื่อครู่ไปอย่างหมดจด

    Nigh club 2005…

    แสงไฟหลากสีสันสลับกันส่องแสง ท่ามกลางแสงไฟสลัว เสียงเพลงที่ดังอย่างเมามันกระตุ้นต่อมแดนซ์ให้ฉีดพล่าน จนต้องขยับร่างกายตามจังหวะเพลง

    สองขาก้าวช้าลงแล้วหยุดในซอกแคบๆพ้นสายตาคน มือขยับขึ้นกดปุ่มพลอยสีแดงบนหัวแหวน หน้าจอสีฟ้าฉายขึ้นเช่นเคย เซย่าใช้นิ้วกดลงบน “โปรแกรมบันทึกข้อมูล” ก่อนจะกดอัตโนมัติ แล้วหน้าจอสีฟ้าก็หายเข้าไปในแหวน พลอยสีแดงกระพริบถี่ๆและกลับเป็นปกติอีกครั้ง

    นัยน์ตาคู่โตกวาดมองรอบตัวอย่างระมัดระวัง ก่อนจะก้าวเท้าเดินฉับๆไปเบื้องหน้า เสียงเพลงยังคงความดังและหนักแน่น เด็กวัยรุ่นหลายคนกำลังเต้นกันอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางแสงสีต่างๆที่ส่องวูบวาบ เสียงเพลงที่ดังเข้าหู มันชวนให้ไปร่วมวงด้วยเสียจริงๆ

    เพลงเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว ก็มันส์ใช่ย่อย.......

    ได้เข้าไปร่วมแจมซักเพลงสองเพลงคงจะสนุกพิลึก ถ้าไม่ติดไอ้รายงานหินนรก ของอาจารย์สเตรเกอร์ เทคเนียส

    ห้วงคิดที่เซย่าส่ายหัวช้าๆอย่างปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา กับความบากบั่นที่อุตส่าห์พยายามถ่อมาโผล่ในไนท์คลับด้วยความใคร่รู้ แต่กลับได้แต่มองดูเฉยๆ มันเป็นอะไรที่เซ็งจิตสุดๆสำหรับสาวน้อยอย่างเธอ


    ประตูทางออกอยู่อีกเพียงไม่กี่ก้าว มือน้อยๆยกขึ้นผลักประตู้กระจก แต่ก็ต้องหยุดกึกกับมือใหญ่ๆที่เข้ามากันไว้ เซย่าสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะกระโดดถอยห่างจากประตู แล้วเหลือบมองบุคคลตรงหน้า

    ชายในเครื่องแบบตำรวจร่างใหญ่กว่าเธอเกือบฟุต ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนล้า แต่นัยน์ตายังคงฉายแววมุ่งมั่นทำงานในหน้าที่ ยืนคู่กับนายตำรวจร่างท้วม วัยกลางคน ขวางประตูทางออกมิด

    ความประหม่าเล็กๆดูเหมือนจะพุ่งเข้าหาเธออย่างไม่ทันตั้งตัว เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับตำรวจในยุคสมัยที่ไม่เหมือนเดิม เซย่าฉุดความคิดให้กลับมาสงบ ก่อนจะส่งใบหน้าซื่อๆ แล้วเอ่ยถามอย่างปกติ

    “มีอะไรเหรอคะ”

    สายตาของนายตำรวจทั้งสองจ้องมองมาที่เธอ ทุกกระเบียดนิ้ว เล่นเอาเธอหมดความมั่นใจไปเลย แต่โชคยังเข้าข้างเธออยู่บ้าง เมื่อคำถามถูกส่งมา ก่อนที่เซย่าจะฉายแววพิรุธ

    “อายุเท่าไหร่”นายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่ถามขึ้น

    “17 ค่ะ”คำตอบที่นายตำรวจสองคนหันมามองหน้ากัน ก่อนจะจับข้อมือขาว ลากตัวสาวน้อยออกมาข้างนอก

    “รู้มั้ย สถานที่นี้เข้าห้ามเด็กอายุกว่า 18 เข้า”ตำรวจอีกคน รูปร่างท้วมเอ่ยตักเตือน ก่อนจะปล่อยมือออกแล้วหันกลับมาประกบจำเลยไว้

    “ก็ของเรามันอายุ 15 ก็เข้าได้แล้วนี่หว่า ใครจะไปรู้ฟระ”คนเป็นเด็กพึมพำเบาๆ แต่มันก็เป็นเสียงแว่วๆไปเข้าหูของนายตำรวจทั้งสอง ให้เธอต้องฉีกยิ้มใสซื่ออย่างยอมรับความผิด

    “เอาล่ะ คราวนี้จะอนุโลมให้”นายตำรวจร่างท้วมเอ่ยขึ้น “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับข่าวเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับเธอที่หายไปบ้าง”

    “ใครหาย? หายอะไร?”

    “ก็ที่ข่าวประกาศกันโครมๆ ว่าเด็กนักเรียนหลายคนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยน่ะ เธอไม่รู้เรื่องรึไง”

    เซย่านิ่งเงียบ ทำสายตาบ้องแบ้ว ไม่รู้เรื่องรู้ราว จนคนถามชักเก็บอารมณ์ไม่อยู่เริ่มขึ้นเสียง

    “นี่ตกลงเธอไม่รู้เรื่องเลยใช่มั้ย!! ถ้าไม่รู้ก็ตอบมา ไม่ต้องทำหน้าปัญญาอ่อนขัดกับหน้าตาขนาดนั้นก็ได้”

    “หึ...ไม่รู้” เซ่ย่าเอ่ยอย่างงงๆ สายหัวเนิบๆ แล้วยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ ทำหน้าอินโนเซนต์เต็มที่ อย่างที่คนถามต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    ยัยนี่มันคงไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ

    ความคิดเห็นในใจที่ตรงกัน ทำให้ตำรวจทั้งสองหันมามองหน้ากันอีกรอบ ก่อนจะเดินผละจากจำเลยไป ตำรวจร่างท้วมหยุดกึก เหมือนนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะหันมากล่าวกับเซย่าอย่างห่วงใย

    “เธอไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ระวังตัวเอาไว้ดีๆแล้วกัน พักนี้นักเรียนไฮสคูลหลายคนหายตัวไป ที่เจอตัวแล้วก็จำอะไรไม่ได้เลย ส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนดีเด่นแทบทั้งนั้น ทางเราก็ยังมืดแปดด้าน ไร้เบาะแสใดๆทั้งสิ้น ถ้าเธอได้เบาะแสอะไรขึ้นมาก็แจ้งทางเราด่วนที่สุดนะ”สีหน้าวิตกกังวลฉายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับความเหนื่อยล้าที่ปรากฏขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนปั้นสีหน้าเคร่ง “อ้อ แล้วคราวหน้าคราวหลัง อย่ามาให้เห็นที่นี่อีกล่ะ ไม่งั้นจับไม่เว้นแน่”

    “เอ่อ.....ค่ะ รับรองจะหายวับไปเลยค่ะ”เซย่าตอบรับเป็นมั่นเป็นเหมาะ

    ใครจะสะเออะไปให้เจอเป็นครั้งที่สองก็โง่ดักดานแล้ว

    ให้มันรู้ซะบ้าง ว่า เซเฟียมีย่า เวย์เมียส คนนี้ ไม่มีทางที่จะพลาดเป็นครั้งที่สอง

    ความคิดที่คนผิดยังทำสีหน้าระรื่น ยกยอตัวเองตามวิสัย แต่ก็ต้องสบถโพล่งขึ้นมาเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก

    เฮ้ย แล้วเราจะกลับเข้าไปยังไงล่ะทีเนี้ย
    ซวย...........
    คนเก่งหน้าจ๋อยไปสนิท ดันลืมนึกถึงเวลากลับ ที่ต้องใช้สถานที่เดิม ตามกำหนดเวลา ปากก็ขมุบขมิบบ่นหงุงหงิงถึงกระนั้นสีหน้าเจ้าหล่อนก็แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มระรื่นได้อีกครั้ง เพราะความคิดที่ว่า อย่าคิดอะไรที่รกสมอง จนกว่าเวลานั้นจะมาถึง

    มันเป็นนิสัยที่ทำให้เจ้าตัวหัวปั่นตาลีตาเหลือกกับเรื่องบ้าๆหลายอย่าง จนแทบจะเป็นชีวิตประจำวันของเธอเสียแล้ว

    +++++++++++++++++++

    จากคุณ : Underhand - [ 31 มี.ค. 48 01:41:23 A:202.133.143.34 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป