ติชิลา ตอนที่ 20
ความร้อนเผาใจอีกแล้ว.........
หลังจากที่ไม่ได้ รู้สึกมาแบบนี้มานาน แรกก็คิดว่าจะถูกปลดปล่อยจากวงวนประหลาด แต่เช้านี้ตื่นขึ้นมาก็พบกับความเจ็บปวด ความรู้สึกว่าหัวใจนั้นมันเต้นเร็วผิดปกติ อาจเพราะความตื่นเต้น ความเหนื่อยอ่อน หรือ อาจจะเพราะความ กลัว อสมาค่อย ๆ ลุก ขึ้นจากที่นอน เดินตรงไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง ตลับไม้แกะสลักสวยงามที่วางอยู่บนนั้นพอเปิดออกมา พบสร้อยคอ ลวดลายวิจิตร อันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องหนักใจทั้งหมด ของเก่าแก่มีอายุมานานนับร้อยปี แต่วันนี้กลับเปล่งสีสุกใส ของวัตถุล้ำค่า อันเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สร้างขึ้นมาเป็นตัวเรือน ของมัน อวดความสวยงามราวกลับเพิ่งออกมาจากห้องช่าง
เมื่อคืนอสมาฝัน อีกแล้วฝันเหมือนเดิม เธอวิ่งอย่างสุดแรงเกิดคบไฟที่อยู่เบื้องหลังมากมาย เสียงกลองดังระรัวประหนึ่งว่าอยู่ยามศึกสงคราม ชายฉกรรจ์ กว่าครึ่งร้อย วิ่งกันให้โกลาหล เพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ห่อผ้าและเงินทองหยิบมือที่พอจะถือออกมาได้ หลุดล่วงตามความเร่งรีบ จนกระทั่งเหลือตัวเปล่า แม้จะเร่งฝีเท้า อย่างสุดชีวิต เพียงใด
ในที่สุด หญิงสาวก็โดนล้อมไว้ด้วยจำนวนชายฉกรรจ์ 4 คน ทั้งหมดค่อย ๆ เยื้องกายเข้ามา เพราะมั่นใจว่าเธอจะไม่มีทางหนีได้อีกแล้ว แต่ผิดไป เมื่อมีคมดาบฟันฉับ ลงเบื้องหลัง คนเหล่านั้นค่อย ๆ ล้มลงทีละคน อย่างรวดเร็วจนไม่มีใครเหลือ
ข้อมือของหญิงสาวถูกฉุดกระชาก ให้ก้าวเท้าวิ่งตามบุรุษปริศนาที่ปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท การกระทำ เหล่านี้ทำให้หญิงสาวประหวั่นอยู่ไม่น้อย จนเกือบจะสะบัดมือหนี ทันทีที่เสียงเอะอะโวยวาย เริ่มแว่วไกลออกไปทางเบื้องหลังทุกที มันหมายถึง ระยะทางห่างไกลจากผู้ตามล่ามามากแล้ว ถ้าไม่เพียงแต่ ชายหนุ่มผู้นั้น หยุดอยู่ข้างลำคลอง เล็ก ๆ ที่หญิงสาวจำได้ว่ามันเป็นทางเชื่อมต่อ ระบายน้ำออกมาจากบารายที่ล้อมรอบ ปราสาทขนาดใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
ลำน้ำนี้เชื่อมต่อไปจนถึง แม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนในผืนแผ่นดินอันยิ่งใหญ่นี้ เรือลำน้อยที่ถูกพลางไว้ด้วยพงหญ้า ถูกลากลงน้ำด้วยลำแขนแข็งแกร่ง เธอไม่รู้จะทำอย่างไร เพียงแต่ก้าวขาไม่ออก ด้วยความตกใจแล้วเหนื่อยอ่อน ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน ท่ามกลางความกังขามากมายภายในใจ ข้อสงสัยทั้งหมดของหญิงสาวก็สิ้นไป เพียงเพราะน้ำเสียงที่เธอคุ้นเคย
ติชิลาเร็ว แม้เขาจะไม่เปิดหน้า เพียงแค่เอ่ยวาจาออกมาเพียงเท่านี้ หญิงสาวก็รีบวิ่งเข้าไปจับใบหน้า แล้วสบตากับแววตานั้น ใช่แล้ว เป็นเจ้าจริง ๆ
อคิราห์ หญิงสาวพร่ำเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา อยู่หลายคำ จนกระทั่งทั้งสองได้นั่งอยู่บนเรือที่ลอยล่องออกมาไกลพอควร
ใบหน้าที่แข็งคมสัน ผิวเกรียมแดดสมชายชาตินักรบ นั้นปรากฏ หลังจากที่ผ้าคลุมนั่นถูกกระชากออก ทั้งคู่สบตากันนิ่งงัน ความรู้สึกต่าง ๆ ถาโถมเข้ามา ความกลัวระคนดีใจ ทำให้ไม่มีสิ่งใดเล็ดรอดออกจากริมฝีปาก ของทั้งคู่
มันน่าจะดีสิน่าหญิงสาวคิด เราหนีรอดออกมาแล้ว แม้เมื่อหันกลับย้อนมองไปเบื้องหลัง เสียงกลองกับคบไฟที่ร้อนระอุจะยังไม่จากหายไป ทั้ง ๆที่อยากจะพบเขาเหลือเกิน กลับตัวเองถูกกักขังเอาไว้ ดั่งนกในกรงใหญ่ แม้จะ มีอาหารความสุขสบายมากมาย บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจว่า ทำไม ถึงเลือกที่จะลำบากกับเธอ
มือหยาบกร้าน แต่ทว่าอบอุ่นลูบไล้ไปตามโครงหน้าสวยนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไม ถึงต้องทำเรื่องที่ผิดมหันต์ได้ขนาดนี้ วินาทีแรกในสวนดอกไม้ หญิงสาวที่นั่งอยู่บนแคร่ ราชนิกูลจากแดนไกลถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการ ว่าด้วยความตามการเมืองเกี่ยวดองกันไว้ใช้ความสัมพันธ์ทางสายเลือดแผ่นดินจะได้มั่นคง ไม่ต้องระแวงเขา ระแวงเรายังไงก็เครือญาติกัน
หญิงสาวปรายตาลงมองมา ราชองค์รักษ์หนุ่มอนาคตไกลถวายอารักขาอยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาท องค์สมมุติเทพที่เกรียงไกร องค์เหนือหัวที่เขารักและเทิดทูนที่สุดในชีวิต แต่เพียงดวงตากลมดำขลับที่ เหมือนมีแววน้ำใส ๆ คลอ อยู่ตลอด ผ่านพบมาเพียงวูบเดียวของความรู้สึก เขากลับทรยศผู้เป็นนายเนื่องจากความรู้สึกบอบบางที่ชุ่มชื่นภายในจิตใจของเขา
นาม ติชิลา หมายถึง ดวงจันทร์ ส่วนนามของ เขา อคิราห์ หมายถึงดวงตะวัน เคยมีเรื่องเล่าว่า แต่เดิม ราชินีแห่งพระจันทร์ และ พระราชาแห่งดวงอาทิตย์ เคยเป็นคู่รักกัน ทั้งคู่รักกันมาก จนบางครั้ง ก็แอบไปหากันทำให้บางวัน เกิดสุริยคลาส หรือ จันทราคลาส เพราะทั้งคู่ก็แอบหนีไปพรอดรักกัน หรือพบปะกันอยู่บ่อย ๆ ทำให้บางเวลา บางสถานที่ในโลกใบนี้ ดวงจันทร์ ดวงตะวัน จึงหายไปเป็นช่วง ๆ แต่แล้วกลับมี พระราหู ที่เคียดแค้นทั้งคู่ เพราะต่างเป็นเทพยดา อันเป็นที่รักของ เหล่าทวยเทพทั้งหลาย มายุยงให้ผิดใจกัน พระอาทิตย์กับพระจันทร์จึงเข้าหน้ากันไม่ติด ไม่ยอมพบหน้ากันอีกเลย
!!!! servey ค่ะ วันพุธเจอกัน ตอนนี้ยังไม่จบ ยังไง ๆ ฮิ้ววว ขอเสียงผู้อ่านหน่อยค่ะ ^^"
แก้ไขเมื่อ 03 เม.ย. 48 21:21:39
จากคุณ :
ทะเลกับความมืด
- [
3 เม.ย. 48 21:19:46
]