CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangGameRoom


    ไม่อยากให้ตะวันลับฟ้า ตอนสอง

    22.00 น. วันศุกร์ ที่ 1 เมษายน 2488
    ชัยนั่งอยู่ในห้องบนชั้นสองของบ้านไม้ร้างหลังเก่าที่ดูเหมือนว่าอาจจะพังกองลงมาได้ทุกเมื่อ แต่ด้วยที่อยู่ตรงกันข้ามกับบ้านของพลโทนากามูระ วันนี้มันจึงมีความสำคัญ ภายในห้องมีตำรวจชั้นประทวนสี่นายซึ่งก็คือทีมงานที่สันติบาลส่งมาร่วมปฏิบัติการกับเขา ทุกคนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ไม่ห่างจากชัยมากนักโดยข้างกายต่างก็มีอาวุธพร้อมทั้งปืนกลประจำกาย ลูกระเบิดมือ สายตาของทั้งห้าต่างจับจ้องไปที่ประตูบ้านหลังตรงข้าม เพื่อมองดูมันเปิดรับรถจี๊ปทหารคันหนึ่งให้แล่นเข้าไปภายใน
    ปัง! เสียงปิดประตูรถโดยทหารหนุ่มชาวญี่ปุ่น หลังจากเปิดให้นายทหารหนวดเข้ม วัยกลางคน สวมแว่นตากรอบกลมบางสีดำ รูปร่างท้วมผู้หนึ่งลงมา ชัยและพวกรู้ทันทีว่านั่นคือ พลโทนากามูระ เป้าหมายของพวกเขาในวันนี้
    “ทหารรักษาความปลอดภัยหกคน ถ้ารวมที่มากับนายพลนากามูระแล้วก็เป็นเก้าคนครับผู้กอง” นายตำรวจหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านขวาของชัยรายงาน
    “หมายความว่าวันนี้เราต้องผ่านไอ้เก้าคนนี้ไปให้ได้” ชัยกล่าวพร้อมจ้องเขม็งไปที่เป้าหมายโดยไม่คลาดสายตา เขาระลึกแผนการซึ่งได้พูดคุย ซักซ้อมกันมาอย่างถี่ถ้วนตั้งแต่เย็นวาน เมื่อเวลานัดหมายมาถึงทุกจุดจะลงมือพร้อมกัน
    ห้าทุ่มสี่สิบห้า ชัยลุกจากเก้าอี้ตัวเดิมที่เขานั่งมาตั้งแต่แรกโดยแทบไม่ขยับ เพื่อไปหยิบปืนทอมสันของตนขึ้นตรวจความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย
    “ทุกคนเตรียมตัว” ชัยออกคำสั่งเสียงเข้ม นายทหารที่เหลือต่างจัดแจงตระเตรียมอาวุธของตนเองอย่างพร้อมสรรพ
    “ชิตคุณมากับผม เราจะเข้าด้านหลัง สิน คุณนำที่เหลือดักไว้ตรงพุ่มไม้ด้านขวาของตัวบ้าน ทุกคนเข้าใจนะ” ชัยซักซ้อมแผนเป็นครั้งสุดท้าย พอสิ้นเสียง ชัยก็เดินนำหน้าพาทีมออกไปประจำจุด ณ บ้านเป้าหมายอย่างเงียบที่สุด
    ชัยถือปืนทอมสันในมือ ค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังของบ้านพร้อมกับลูกทีมอีกคนหนึ่ง เมื่อนาฬิกาบอกเวลาที่สองยามตรงอันเป็นเวลานัดหมายลงมือพร้อมกันทุกจุด ชัยก็วิ่งเข้าประชิดตัวบ้านใต้หน้าต่างบานหนึ่งซึ่งเขารู้ดีว่าหน้าต่างบานนี้มักไม่ได้ลงกลอนไว้เนื่องจากพลโทนากามูระมักเปิดมันเพื่อรับอากาศยามเช้า รวมถึงยามที่กลับมาจากกองบัญชาการ ชัยค่อยๆ แง้มหน้าต่างไม้บานหนานั้นออก ภายในมีเพียงแสงไฟจากระเบียงหน้าบ้านเท่านั้นที่ลอดผ่านเข้ามา เขาดันตัวเองผ่านเข้าไปในตัวบ้านอย่างเงียบกริบ
    “รอสัญญาณจากผม” ชัยหันมากระซิบสั่งลูกทีมซึ่งรู้ดีอยู่แล้วว่าสัญาณที่หัวหน้าพูดถึงคือเสียงกระสุนนัดแรกที่ดังขึ้น
    ชัยเห็นนายทหารญี่ปุ่นสองคนนั่งหลับอยู่ที่เก้าอี้ไม้ตัวยาวข้างประตูด้านหน้าของบ้าน เขารู้ดีว่านั่นไม่ไช่ปัญหาเพราะผนังที่แบ่งสัดส่วนของบ้านซึ่งอยู่ตรงบันไดจะบังสายตาของทหารญี่ปุ่นสองคนนั้น ไม่ให้เห็นผู้บุกรุกหากทั้งสองตื่นขึ้น แต่ความลำบากจะอยู่ที่ชั้นสองหน้าห้องนอนของพลโทนากามูระซึ่งมีนายทหารยามอยู่อีก สองที่พร้อมปกป้องแม่ทัพของเขาด้วยชีวิต ชัยมุ่งหน้าไปยังบันได และก้าวขึ้นไปอย่างรวดเร็ว เขาหยุดตรงบันไดขั้นที่สาม เมื่อแหงนมองขึ้นไปข้างบน แสงไฟสีขาวนวล ทำให้เขาเห็นทหารยามสองคนกำลังนั่งคุยกันอยู่ใกล้ๆ ประตูห้องซึ่งแน่นอนว่าเป็นห้องเป้าหมาย ชัยประทับบั้นท้ายปืนกับบ่าขวา เล็งวิถีกระสุนจากศูนย์หลังผ่านศูนย์หน้าตรงไปยังหัวใจของทหารต่างแดนที่ไม่ทราบเลยว่าชีวิตตัวเองกำลังจะถูกปลิด แต่ชั่วขณะนั้นเอง ชัยรู้สึกได้ว่ามีโลหะกลมเย็นเฉียบมาสัมผัสที่ท้ายทอย เขารู้ทันทีว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่


    หมอชิรีบเดินจากห้องพักของตนภายในโรงพยาบาลเพื่อไปยังห้องทำคลอดห้องหนึ่ง เขาหยุดอยู่หน้าห้องนั้น และเพ่งมองเข้าไปเห็นหมอกับพยาบาลอีกสองคนกำลังทำคลอดหญิงอีกคนหนึ่งซึ่งมีสีหน้าเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เขามองดูอย่างห่วงใยเพราะหญิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้นคือสุ ภรรยาของเพื่อนคนไทยที่เขารู้จักสนิทสนม
    “คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ อีกไม่นานคงเรียบร้อย และก็คงรู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” หมอชิกล่าว หลังจากที่เดินออกมาจากห้อง กับหญิงวัยห้าสิบที่เป็นผู้พาสุมาโรงพยาบาลพร้อมกับตำรวจสองนาย
    “ ดีนะที่มีเจ้าตำรวจที่พ่อชัยเขาสั่งให้มาช่วยดูแลบ้านอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงลำบาก มาเจ็บท้องตอนดึกๆ อย่างนี้แทบแย่เหมือนกัน ขอบคุณหมอมากนะจ๊ะที่ช่วยดูแลอะไรๆ ให้น่ะ” หญิงสูงวัยกล่าว
    “ไม่เป็นไรครับ”
    “ได้ลูกสาวคะ” นางพยาบาลคนไทยเดินออกมาบอกกับผู้ที่ยืนรออยู่ภายนอกห้องด้วยรอยยิ้ม
    ทุกคนต่างยินดี
    “นี่ถ้าพ่อชัยรู้เข้าคงดีใจมากเลยนะ” หญิงสูงวัยกล่าวพลางยิ้ม
    “แน่นอนครับ เขาอยากได้ลูกสาวอยู่แล้วนี่ครับ”
    “ใช่ๆ แต่ไม่รู้ตอนนี้ไปอยู่ซะที่ไหน จะได้บอกให้มาดูหน้าลูก เขาคงยังไม่รู้หรอกว่าลูกตัวเองน่ะน่าเกลียดน่าชังขนาดไหน” แม่ของชัยยังคงพูดพร้อมรอยยิ้มที่มีเต็มใบหน้าซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปง่ายๆ


    ชัยนั่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งภายในกองบัญชาการกองทัพญี่ปุ่น มีโต๊ะไม้เก่าๆ ตั้งกั้นระหว่างเขากับนายทหารหนุ่มผู้ที่เป็นคนเอาปืนจี้และจับตัวเขามา
    “คุณไม่น่าทำงานนี้เลย” นายทหารหนุ่มผู้นั้นกล่าว
    “คุณคือเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่ง ทานากะ แต่การปกป้องและรักษาชาติเป็นหน้าที่ของคนไทยอย่างผมและคนไทยทุกคน”
    “คุณรู้ใช่ไหมว่าโทษจะเป็นอย่างไร” ทานากะกล่าวเสียงแข็งและดังขึ้น
    “ตั้งแต่ผมตัดสินใจทำงานนี้ผมก็พร้อมยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว”
    “แต่คุณมีลูกแล้วนะ หมอชิเพิ่งบอกผมว่าเมื่อคืนคุณสุคลอดลูกสาว”
    ชัยเงยหน้ามองคู่สนทนาเขาอย่างตื่นเต้น แล้วจึงก้มหน้าลงเหมือนเดิมพร้อมอมยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
    “ทีมของคุณอีกสี่คนถูกจับทั้งหมด จากรายงาน ผมเดาเอาว่าจุดอื่นที่จะมีการลอบสังหารได้รับคำสั่งยกเลิกโดยไม่ทราบเหตุผล มีการส่งพลนำสารไปแจ้งตามจุดต่างๆ แทนการใช้วิทยุ ซึ่งก็ดูเหมือนจะปลอดภัยจากการถูกดักฟัง แต่พลนำสารที่จะมาแจ้งจุดของคุณน่ะถูกคนของเราจับได้” ทานากะเว้นระยะการพูดสักครู่ แล้วจึงว่าต่อ “เราทราบแผนการทั้งหมดของคุณเมื่อวานนี้จากนายตำรวจไทยคนหนึ่ง เขาบอกว่าตัวเองใกล้ชิดกับนายกฯ ของคุณมาตั้งแต่การปราบกบฏครั้งใหญ่ที่ทุ่งดอนเมือง เขาขายความลับนี้ให้กับเราด้วยราคาสูงลิบ แต่เราก็ยอม ตอนนี้คงมารับเงินไปเรียบร้อยแล้ว” ทานากะกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากประโยคก่อนหน้า
    ไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปากของชัย ความเงียบปกคลุมบรรยากาศภายในห้องชั่วระยะเวลาหนึ่ง
    “ผมไม่รู้จะช่วยคุณได้ยังไง” ทานากะกล่าวขึ้น
    “ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณคุณมากนะ”
    ทานากะลุกขึ้น หันหลังและกำลังจะเดินออกจากห้อง
    “เดี๋ยวทานากะ ผมอยากให้คุณช่วยอะไรผมหน่อย” ชัยหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อออกมา “พอมีคำตัดสินแล้ว ฝากสิ่งนี้ให้ภรรยาผมด้วย”

    จากคุณ : อนามิกา - [ 7 เม.ย. 48 18:13:25 A:202.57.181.226 X: TicketID:071897 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป